เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่าPaan Nalinchat
Almost There 90%: อีกนิดเดียว อดทนไว้นะวานร
  • เหลือเวลาทำอีกนิดเดียว แต่งานยังไม่ถึงไหน...

    ต่อจากนี้จะมีแต่การเย็บและเย็บเท่านั้น 

    ก่อนอื่นเราต้องเริ่มหากระเป๋าที่จะใช้ทำฉากได้แล้ว แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่ถูกใจ อุตส่าห์ไปเดินตามแหล่งขายกระเป๋าแล้วก็ไม่มี จะทำเองก็ไม่น่ารอด เราก็เลยคิดเล่น ๆ ว่าทำเป็นผืนผ้าเลยดีไหม ไหน ๆ ก็หา
    กระเป๋าไม่ได้แล้ว เลยออกมาเป็นผืนผ้าที่มีฉากตั้งขึ้นมา เป็นฉากป่าตอนกลางวันที่มีทั้งป่าดงดิบและป่าเต็งรัง ส่วนตอนกลางคืนก็เป็นฉากดูดาว มีแม่น้ำสายเล็ก ๆ ไว้เล่น ก็เหมือนเอาแบบที่ทำกระเป๋ามาปรับเป็นผืนผ้าแทน ครูที่ปรึกษาก็โอเค ถ้าหากระเป๋าไม่ได้ก็ทำแบบนี้แทนก็ได้

    สรุปได้ทำจริง เย่! 

    พอมั่นใจว่วาจะทำแบบไหนแล้ว ก็ได้เวลาหาผู้ช่วย นั่นก็คือ "แม่"  ทีแรกที่เราเย็บสัตว์เราเย็บตัวเล็ก
    มาก ๆ แม่ก็เลยช่วยไม่ได้ แต่พอมีผืนผ้าชิ้นใหญ่ ขนาด 55 x 70 เซนติเมตรแล้ว ก็ได้เวลางัดสกิลเย็บผ้าของแม่ออกมาใช้ ถือว่าได้ใช้เวลาร่วมกับคนในครอบครัว

    ในส่วนของต้นไม้สำหรับเราค่อนข้างยากในการออกแบบ เพราะเราแทบไม่มีแบบต้นไม้จากผ้าสักหลาดที่เป็นต้นไม้ไทยเลย มีแค่ภาพจริงให้เรามาจินตนาการต่อเอง ซึ่งกว่าจะออกมาดูใกล้เคียงกับต้นไม้ไทย ก็ยากอยู่ ตอนนี้เราทำต้นไม้เสร็จแค่ 2 ต้น คือ ต้นไทร จากป่าดิบ และต้นเต็งจากป่าเต็งรัง

    ส่วนสัตว์ตัวอื่น ๆ ที่เราทำเพิ่มมา คือ นกเงือก กวางป่า ชะนี หมีควาย ช้าง จากป่าดิบ ส่วนป่าเต็งรังมีนกแซงแซวหางบ่วงใหญ่กับนกหัวขวานเขียวตะโพกแดง ส่วนที่ยากของการทำสัตว์คือ การพยายามทำให้สีขนของพวกมันสมจริงมากที่สุด โดยเฉพาะพวกสัตว์บนต้นไม้ที่เราใช้เทคนิคจิ้มขนเฟลต์ เพิ่มสีสันลงบนผ้าสักหลาด แรก ๆ สนุกนะ แต่จิ้มไปก็เริ่มท้อ เพราะขนไม่ติดกับผ้าสักที เพราะเราต้องการให้ของเล่นทุกชิ้นของเราแข็งแรงที่สุด ต่อให้เด็กกระชากมันก็ห้ามหลุด ก็เลยเสียเวลาไปเยอะหน่อยกับการเย็บสัตว์แต่ละตัวให้แข็งแรง 

    สุดท้ายเราก็ทำได้เท่านี้ก่อนนำสื่อผ้าไปทดลองกับเด็ก


    ได้เวลาทดลองสื่อผ้า

    ตอนแรกเรากังวลว่าของจะชิ้นเล็กไปสำหรับเด็กรึเปล่า แต่ครูปรึกษาที่น่ารักของเราก็บอกว่า มาตรฐานของเล่นสำหรับเด็กเล็ก ต้องมีขนาดอย่างน้อย 3 เซนติมเตร ซึ่งของเล่นเราอย่างนาก หรือนก ขนาดใหญ่กว่านั้นนิดเดียว เราก็ยังกลัวว่าถ้าเด็กเล็กมาเล่น เขาจะจับไม่อยู่ หรือทำของเราหล่นง่าย โชคดีที่มีโอกาสได้ทดลองกับเด็ก 2-3 ขวบ ซึ่งน้องถือได้ไม่มีปัญหา มีน้องคนหนึ่งชอบนกเงือกมาก พอเอาลิงมาโชว์น้องก็พูดขึ้นมาเลยว่า "Monkey" เพราะแม่ชอบพาน้องไปสวนสัตว์ น้องเลยสนใจตุ๊กตาสัตว์

    พอได้เอางานมาทดลองกับเด็กแล้วเราดีใจมาก ๆ ที่น้องเล่นของเล่นเราอย่างทะนุถนอม ค่อย ๆ หยิบ จับเบา ๆ แล้วก็ดีใจมาก ๆ ที่น้องและคุณแม่ให้ความสนใจของเล่นเรา

    ต่อมาเราได้ทดลองกับเด็ก 5-7 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก กลุ่มแรกเป็นเด็กโตหน่อย อายุ 7-10 ปี น้องก็สนใจและเล่นของเล่นเรา ซึ่งจะเล่นบทบาทสมมติเป็นสัตว์ต่าง ๆ หลังจากเล่นมาสักพัก เราก็ลองให้ข้อมูลเกี่ยวกับป่าและที่อยู่อาศัยของสัตว์ดู ปรากฏว่าน้องเข้าใจและแยกประเภทสัตว์ได้ถูกตามที่เราบอกเลย แล้วน้องก็แนะนำว่าน่าจะมีแมลงด้วย อย่างจั๊กจัน เพราะพ่อเขาเลี้ยงจั๊กจั่น


    ส่วนอีกกลุ่มมีน้อง 5 ขวบ กับ 10 ขวบ (น้องคนเดิมที่เล่นรอบแรกเลย) น้องเล่นนานมาก เราดีใจที่น้องชอบ เรานั่งเล่นกับน้องอยู่เกือบ 2 ชั่วโมง ถึงเขาจะโตแล้วแต่ก็ยังสนุกกับของเล่นของเรา เป็นจุดที่ทำให้เราดีใจมาก ๆ เลย

    หลังจากนี้ยังเหลืองานอีกหลายอย่างที่ต้องทำ ทำฉาก เย็บสัตว์ ถักตุ๊กตา เย็บชุด ทำเต็นท์ ทำถุงนอน คณาจารย์ยังถามเราเลยว่าจะทำทันไหม เราก็ถามตัวเองอยู่ทุกวันเหมือนกันว่าจะทำทันไหม

    สู้ ๆ นะเจ้าวานรนอนเช้า...

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in