เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ยืนงงในดงหนังสือchisanucha sr.
สวนสนุกแห่งการลงทัณฑ์รักในฝันของฝางซือฉี
  • *มีการเปิดเผยเนื้อหา*


    สวนสนุกแห่งการลงทัณฑ์รักในฝันของฝางซือฉี

    อาชญากรรมรักต่างวัยที่ถูกมองเป็นเรื่องโรแมนติก

     

    Pedophilia หรือ โรคใคร่เด็กคือชื่อเรียกอาการของผู้ใหญ่ที่ชอบมีความสัมพันธ์ทางเพศกับเด็กไม่ว่าจะเพศเดียวกันหรือเพศตรงข้ามโดยที่เด็กเหล่านั้นเป็นเด็กที่อายุต่ำกว่าสิบแปดปีผู้ป่วยมักหาวิธีล่อลวงเด็กโดยอาศัยความอยากรู้อยากเห็นเรื่องเพศของเด็กมาชักจูงซึ่งเด็กหลาย ๆ คนมักจะหลงเชื่อและคิดว่ามันคือความรัก หรือในเด็กบางคนก็ถูกข่มขืนเนื่องจากไม่กล้าปฏิเสธซึ่งส่วนมากผู้ที่ลงมือก็มักจะเป็นคนใกล้ตัว หรืออยู่ในสังคมเดียวกันกับเหยื่อนั่นเอง

    หนังสือของหลิวอี้หาน เรื่องสวนสนุกแห่งการลงทัณฑ์รักในฝันของฝางซือฉี เป็นงานเขียนที่บอกเล่ามุมมืดของสังคมอย่างการข่มขืนและโรคใคร่เด็กออกมาได้อย่างน่าสะเทือนใจและเจ็บปวดผ่านมุมมองของตัวละครที่เป็นเด็กผู้หญิงอายุเพียงสิบสามปีชื่อฝางซือฉี กับหลี่กั๋วหัวอาจารย์สอนวรรณกรรมวัยห้าสิบปีที่อาศัยอยู่ภายในตึกเดียวกับเธอครอบครัวของเธอไว้ใจให้ไปเรียนพิเศษด้วยโดยที่ไม่รู้เลยว่าอาจารย์หลี่กั๋วหัวได้ใช้คำพูดหลอกล่อคุกคามทางเพศ และชักจูงให้เธอร่วมหลับนอนด้วยแม้ว่าเขาจะมีภรรยาอยู่แล้วก็ตาม ซึ่งคำพูดที่หลี่กั๋วหัวใช้หลอกล่อเด็กสาวนั้นล้วนเป็นคำหวานที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์

     

    เธอเคยถามอาจารย์ว่า หนูเป็นใครสำหรับอาจารย์คะ ชู้รักหรอ”

    ไม่ใช่อยู่แล้วเธอเป็นที่รักของฉัน เป็นคนรู้ใจของฉัน เป็นผู้หญิงของฉันเป็นคนที่ฉันรักที่สุดในชีวิตนี้ประโยคเดียวก็ทำให้เธอแตกสลายไปทั้งตัว

    (สวนสนุกแห่งการลงทัณฑ์รักในฝันของฝางซือฉี, หน้า 141-142)

     

     

    หลี่กั๋วหัว ใช้คำพูดที่หวานราวกับดอกไม้มาล่อลวงเด็กสาวให้หลงเชื่อว่าการกระทำของเขานั้นเกิดจากความรักนอกจากนี้ยังพบคำพูดที่อาจารย์ใช้พูดกับเด็กสาวในเชิงล่อลวงก่อนมีเพศสัมพันธ์อยู่หลายครั้งไม่ว่าจะเป็นการบอกรัก พูดให้เด็กสาวเชื่อว่าเขามีเพียงเธอและรักเธอมากที่สุดฝางซือฉี เด็กสาวในเรื่องเชื่อว่านั่นคือความรัก เธอถึงขนาดตั้งคำถามว่า ความสัมพันธ์แบบไหนที่เป็นความสัมพันธ์ที่เหมาะสม?’ เธอไม่ได้คิดถึงเรื่องที่ตัวเองกำลังถูกชักจูงโดยผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าเธอคิดเพียงแค่ว่าตัวเองกำลังทำผิดต่อภรรยาและลูกของอาจารย์เจ็บปวดและทรมานเมื่อความรักของเธอต้องถูกเก็บเป็นความลับนอกจากนี้หลี่กั๋วหัวยังใช้คำพูดที่ส่อไปในทางหึงหวงเมื่อเห็นฝางซือฉีอยู่กับเด็กชายวัยเดียวกันแต่เมื่อเขาได้เสพสมจากร่างกายอันเยาว์วัยของเธอแล้วเขาก็มักจะใช้คำพูดสั่งสอนเธอถึงความสัมพันธ์ในครั้งนี้เป็นเชิงบอกให้เธอทำใจหากว่าวันหนึ่งเรื่องของพวกเขาจะต้องจบลง นั่นหมายความว่าสำหรับหลี่กั๋วหัวแล้วเด็กสาวไม่ได้เป็นความรักดังที่เคยว่าไว้

     

    เขาพูดอยู่เสมอว่าตอนจบของเราไม่ใช่โศกนาฏกรรมหรอก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่แฮปปี้เอนดิ้งแน่นอน หวังแค่ว่าเมื่อเธอนึกย้อนกลับมาจะมีความสุขต่อไปได้เจอกับผู้ชายดี ๆ ก็ไปกับเขาเถอะทุกครั้งที่ซือฉีได้ยินจะรู้สึกประหลาดใจมาก มโนเอาเองชัด ๆ ว่านี่คือเมตตาธรรมคุณทำกับร่างกายของหนูเช่นนี้ จะให้หนูเชื่อว่าบนโลกนี้ยังมีความรักอีกหรือคุณจะให้หนูแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าบนโลกนี้ยังมีเด็กผู้หญิงบางคนถูกทำลายแล้วมาจับมือกับคนอื่นวิ่งเล่นบนสนามหญ้าในโรงเรียนอย่างนั้นหรือคุณจะสั่งให้สมองของหนูไม่ฝันถึงคุณทุกคืนฝันจนกระทั่งหนูกลัวการนอนหลับอย่างนั้นหรือ คุณจะให้ผู้ชายดี ๆ ยอมรับเด็กผู้หญิงแบบหนูที่แม้กระทั่งตัวหนูเองก็ยังยอมรับไม่ได้อย่างนั้นหรือคุณจะให้หนูเรียนรู้ความรักแบบอื่นนอกเหนือจากความรักที่มีให้คุณหรือ

    (สวนสนุกแห่งการลงทัณฑ์รักในฝันของฝางซือฉี, หน้า 143)

     

    หลี่กั๋วหัวเข้าข่ายผู้ที่มีอาการเป็นโรคใคร่เด็กอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่กับฝางซือฉีเท่านั้นแต่ยังมีเด็กอีกหลายคนที่อยู่รอบตัวของเขาตกเป็นเหยื่อกามอารมณ์ เด็กบางคนต้องตกเป็นเหยื่ออยู่นานหลายปีเมื่อพวกเธอเติบโตขึ้น เรียนจบชั้นมัธยมปลายและเข้ามหาวิทยาลัยเขาก็จะหาทางเลิกกับพวกเธอ ฝางซือฉีเองก็เป็นหนึ่งในเหยื่อที่ถูกล่อลวงให้ร่วมหลับนอนกับเขามาตลอดห้าปีมีหลายครั้งที่อาจารย์มักจะใช้กำลังบังคับให้เธอมีเพศสัมพันธ์ด้วยแม้ว่าเธอจะไม่สมยอมซือฉีเปรียบเทียบตัวเองเป็นปูที่ถูกพันธนาการในตอนที่ถูกอาจารย์ข่มขืนเพื่อสื่อถึงว่าเธอขัดขืนเขาไม่ได้ไร้ทางสู้ จึงต้องอยู่ภายใต้อำนาจของหลี่กั๋วหัว

    จุดเปลี่ยนในชีวิตของฝางซือฉีเกิดขึ้นในตอนที่อาจารย์ส่งภาพเปลือยเธอมาข่มขู่เวลาในสวนสนุกของเธอหมดลงนับตั้งแต่วินาทีนั้นแม้ผู้เขียนจะไม่ได้เขียนเรื่องราวจากนั้นต่อและตัดตอนจบของเรื่องไปที่ฉากในโรงพยาบาลจิตเวชเป็นตอนที่เพื่อนและคนรู้จักของฝางซือฉีมาเยี่ยมเธอที่นั่น แค่เพียงเท่านั้นก็ทำให้คนอ่านรู้ได้ทันทีว่าฝางซือฉีมีความบอบช้ำทางจิตใจหลังพบเจอกับเหตุการณ์นั้นตลอดการเล่าเรื่องเกินครึ่งเล่ม เราได้เห็นถึงความเจ็บปวดของฝางซือฉีดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดชีวิตเธอจึงมีบทสรุปที่น่าเศร้าเช่นนั้น

    การข่มขืนเป็นการฆาตกรรมทางสังคมประโยคดังกล่าวเป็นคำพูดของวินเกลอร์นักวิชาการชาวอเมริกันที่เล่าถึงตัวเองหลังถูกล่วงละเมิดทางเพศในเรื่องนี้จะเห็นได้ว่าการที่เด็กผู้หญิงถูกล่อลวงไปการข่มขืนสังคมจะมองว่าคนผิดคือผู้ที่ถูกข่มขืน ตัวฝางซือฉีเอง ขณะที่เธอถูกอาจารย์ข่มขืนก็ได้บรรยายความรู้สึกไว้ว่าเธอรู้สึกผิดซึ่งมันขัดแย้งกับความจริงมากว่าทำไมคนที่ถูกกระทำอย่างเธอถึงต้องรู้สึกผิด

    ไม่ใช่เหยื่อทุกคนที่จะได้รับความเห็นใจผู้หญิงที่ถูกข่มขืนมักถูกมองในด้านลบ ยิ่งคนที่ข่มขืนเป็นคนใกล้ตัวหรือคนในครอบครัวเองด้วยแล้วบางครอบครัวจะไม่ฟังความจริงและโทษเหยื่อ หาว่าเหยื่อสมยอมหรือไม่ก็แต่งตัวยั่วยวน ดังนั้นคงไม่ผิดนักหากจะมองว่าการข่มขืนมีความเกี่ยวข้องกับสังคมเพราะบางครั้งสังคมที่ควรจะปลอบโยนก็เป็นฝ่ายทำร้ายเหยื่อเสียเอง

    อนึ่งโรคใคร่เด็กมักถูกบิดเบือนไปในทางบวก ถูกมองเป็นรักต่างวัย คำว่ารักถูกหยิบยกขึ้นมาใช้เพื่อเปลี่ยนอาชญากรรมเป็นเรื่องโรแมนติกมีงานเขียนที่ส่งเสริมโรคใคร่เด็กให้ดูเป็นเรื่องโรแมนติกไม่น้อยและยังมีหลายคนที่มองว่าการทำให้โรคใคร่เด็กในวรรณกรรมเป็นเรื่องโรแมนติกนั้น ไม่ผิด’ มองเป็นเรื่องแฟนตาซี คนอ่านสามารถแยกแยะได้นอกจากนี้ยังมีความเห็นที่มองเรื่องนี้ในเชิง Humanism หรือ มนุษยนิยมการวางเงื่อนไขไว้ให้มีการค้นหาความจริงและศีลธรรมในวิธีการที่มนุษย์จะนำมาใช้สนองความต้องการของมนุษย์ด้วยกันมนุษยนิยมจะไม่รับการชั่งใจและตัดสินใจโดยสิ่งที่อยู่เหนือความเข้าใจเช่นการตัดสินใจที่ขึ้นอยู่กับความเชื่อที่ปราศจากเหตุผล โรคใคร่เด็กจึงถูกมองว่าเป็นความรักที่ไม่มีเหตุผลศีลธรรมเป็นสิ่งที่คนกำหนดขึ้นมาเอง ความรักควรอยู่เหนือกฎเกณฑ์และมองว่าไม่มีความรู้สึกดีหรือรักแบบใดที่ควรถูกตัดสินด้านศีลธรรมหรือกฎหมายของคนนอก

    จะเห็นได้ว่างานเขียนมีผลต่อระบบความคิดของคนเป็นsoftpower ที่ส่งผลหรือทำให้คนมองเรื่องผิดเป็นเรื่องถูกได้โดยง่ายเช่นเดียวกับฝางซือฉี ที่ถูกอาจารย์ล่อลวง ขณะที่เธอหลงอยู่ในสวนสนุกนั้นก็มักจะหางานวรรณกรรมหรือบทกวีมาปลอบใจตัวเองมองว่ามีหลายคนที่ต้องเจอกับความรักที่แสนจะทรมานอย่างเธอบทกวีทั้งหลายแหล่มีขึ้นมาเพื่อปลอบประโลมให้กับผู้ที่หลงในรักและหาทางออกไม่ได้กว่าเธอจะรู้ว่าตัวเองคิดผิด ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว

    แต่หากจะบอกว่าห้ามวรรณกรรมและสื่อทุกแขนงมีเนื้อหาเกี่ยวกับโรคใคร่เด็กหรือการข่มขืนก็ดูจะเป็นความคิดที่เอียงไปด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป ปัญหาจริง ๆมันอยู่ที่การนำเสนอออกมาในเชิงบวกแทนที่จะตีแผ่สังคมจริง ๆ ซึ่งในวรรณกรรมเองก็ได้มีการพูดถึงปัญหานี้ไว้เช่นกัน

    เธอเขียนทุกสิ่งลงในกระดาษได้แต่ไม่ใช่เขียนเพื่อไถ่ถอน ไม่ใช่เพื่อยกระดับให้สูงขึ้น ไม่ใช่เพื่อทำให้บริสุทธิ์ถึงเธอจะอายุแค่สิบแปด ถึงเธอจะมีตัวเลือก แต่ถ้าเธอยังรู้สึกโกรธเช่นนี้ตลอดไปก็ไม่ได้หมายความว่าเธอมีความเมตตาไม่พอ มีจิตใจดีไม่พอ หรือเอาใจใส่ไม่มากพอทุกคนล้วนมีเหตุผลเป็นของตัวเองแม้แต่คนที่ข่มขืนคนอื่นก็ยังมีเหตุผลทางจิตวิทยาและสังคมวิทยาบนโลกนี้มีเพียงคนที่ถูกข่มขืนเท่านั้นที่ไม่ต้องการเหตุผล เธอเลือกได้เหมือนคำกริยาเหล่านั้นที่ผู้คนชอบพูดกัน เธอสามารถปล่อยวางมัน ก้าวข้ามออกมาแต่เธอจงจำไว้ว่าไม่ใช่เพราะเธอใจแคบแต่ไม่มีใครบนโลกใบนี้สมควรรับการปฏิบัติเช่นนี้ ซือฉีเคยมีความรักรักของเธอเป็นการกลั้นไม่อยู่ ความอดทนไม่ใช่คุณธรรมอันดีงามเป็นแค่วิธีรักษากฎระเบียบที่บิดเบี้ยวของโลกที่เสแสร้งทำเป็นใจดีเท่านั้นความโกรธต่างหากคือคุณธรรมอันดีงามเธอสามารถเขียนหนังสือแห่งความโกรธออกมาเล่มหนึ่งเธอลองคิดดูสิว่าคนที่ได้อ่านหนังสือของเธอจะโชคดีขนาดไหนพวกเขาไม่ต้องลงไปสัมผัสเองก็มองเห็นมุมมืดของโลกใบนี้ได้

    (สวนสนุกแห่งการลงทัณฑ์รักในฝันของฝางซือฉี, หน้า 290-291)

     

    สวนสนุกแห่งการลงทัณฑ์รักในฝันของฝางซือฉี คือตัวอย่างของงานวรรณกรรมตีแผ่สังคม ไม่ทำให้อาชญากรรมกลายเป็นเรื่องโรแมนติกโรคใคร่เด็กหรือการข่มขืน ไม่ใช่เรื่องต้องห้ามที่คนในสังคมห้ามพูดถึงแต่ก็ไม่ควรเอาไปทำให้เป็นเรื่องรักโรแมนติก ในสังคมต้องมีคนตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมนี้นับไม่ถ้วนในทุก ๆ บรรทัดเราจะเห็นแต่ความหดหู่ที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างงดงามผ่านการใช้ภาษาที่สวยงามดำดิ่งไปกับทุก ตัวอักษรในแต่ละหน้าราวกับเป็นตัวละครหนึ่งในเรื่องไม่เพียงแต่ในแง่การใช้ภาษาเท่านั้น ผู้เขียนทำให้เรามองเห็นการฆาตกรรมทางสังคมผ่านตัวหนังสือความโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีโอกาสได้เติบโตไปเป็นดอกไม้ที่สวยงามอย่างที่เธอควรจะเป็นฝางซือฉีกลายเป็นดอกไม้เหี่ยวเฉา สวมชุดของโรงพยาบาลอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยมห้องที่พาเธอหลบหนีไปจากสังคมที่ฆ่าเธอทั้งเป็น

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in