เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
YOUNG MASTER #MINNOninezexsky
10








  • "นายจะรับผิดชอบแผลที่หน้าฉันยังไงดีล่ะแอชเชอร์



    เจ้าของผมสีสว่างที่ถูกบีบข้อแขนอยู่นั้นทำเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมาจ้องดวงตาสีอ่อนของไทเลอร์ด้วยดวงตาถือดี  ความเจ็บปวดที่ข้อมือมันแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำในเมื่อทุกอย่างมันชาไปเสียหมด หากไทเลอร์อีกนิดใครจะไปรู้ว่าข้อมือของคนอวดดีอย่างเลสลีย์อาจจะหักขึ้นมาก็ได้ 


    แม้จะรู้ว่าไม่ควรไปยั่วโมโหทรูอัลฟ่าแค่ไหน สุดท้ายอัลฟ่าแดนเหนือก็เลือกที่จะมองข้ามมันและทำในสิ่งที่ตัวเองคิด 


    มันคงเป็นปกติของคนทั่วไปที่จะเกลียดคนโกหก ซึ่งเลสลีย์ก็คือหนึ่งในนั้นเช่นกัน... 


    "ทำไมฉันต้องรับผิดชอบ" เสียงนุ่มว่าอย่างท้าทาย  "มันก็สมควรแล้วไม่ใช่หรือ?"  ต่อให้จะรู้สึกถึงแรงกดดันที่มาจากทรูอัลฟ่าตรงหน้า กลิ่นไม้สนซีดาร์ที่เคยหอมนั้นกลับกลายเป็นตัวที่ทำให้คนตัวขาวอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก แต่ถึงอย่างนั้นคนอวดดีก็ยังคงเชิดหน้าขึ้นเหมือนเดิมราวกับไม่รู้สึกอะไร 


    "อะไรที่นายว่าสมควร?"


    น้ำเสียงเย็นเยียบของไทเลอร์นั้นยิ่งสร้างความรู้สึกอึดอัดให้ทวีคูณเข้าไปอีก มิหนำซ้ำมือที่เคยบีบข้อมือขาวจนขึ้นรอยแดงชัดก็เลื่อนขึ้นมาบีบโครงหน้าหล่อของอัลฟ่าแดนเหนือ จนแอชเชอร์ไม่สามารถหันหน้าหนีไปทางไหนได้ 


    ดวงตาที่เย็นชายิ่งกว่าอากาศในแดนเหนือค่อยๆ กัดกร่อนความรู้สึกของอัลฟ่าอวดดีทีละน้อย ในสถานการ์ณเช่นนี้หากไม่มีใครยอมใครสักคนคงจะเป็นเรื่องที่แย่อยู่น่าดู เพราะเชส ไทเลอร์ เองก็กำลังโกรธอยูุ่
    ไม่น้อยทั้งที่โดยปกติแล้วเจ้าของรอยยิ้มเจ้าเล่ห์มักจะเมินเฉยต่อทุกอย่างที่ไม่สำคัญ


    "สิ่งที่นายทำ นั่นเรียกว่าสมควรงั้นหรือ?" 


    "น้อยไปด้วยซ้ำ.." 


    คนดื้อด้านแบบแอชเชอร์ เลสลีย์ กำลังทำให้ความอดทนที่มีขีดจำกัดของเชส ไทเลอร์ลดต่ำเรื่อยๆ อัลฟ่าแดนเหนือนี่อยู่เหนือการควบคุมของไทเลอร์เกินไป 


    จนบางที.. ก็คงจะต้องดัดนิสัยจองหองพวกนี้เสียบ้าง 


    "ฉันจะไว้ใจคนอย่างนายได้ยังไงไทเลอร์" 


    "นายไม่จำเป็นต้องไว้ใจฉัน.. เพราะฉันเองก็ไม่ได้ต้องการให้นายมาไว้ใจ" 


    "...."


    "และที่สำคัญ นายควรเลิกอวดดีกับฉันสักที..." 


    "ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้ล่ะไทเลอร์ มันไม่มีอะไรมาเปลี่ยนฉันได้" 


    ดวงตาสีอ่อนของเชสไล่มองใบหน้าของแอชเชอร์ ก่อนกระตุกยิ้มที่อัลฟ่าแดนเหนือเกลียดนักเกลียดหนา 
    อันตรายที่รู้สึกได้กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ในขณะที่เหยื่อยังคงทำใจกล้าสู้ ทั้งที่รู้ว่าให้ตายยังไงก็ไม่มีทางจะสู้ได้ 


    "อยากลองให้ฉันช่วยเปลี่ยนดูไหมล่ะ..." 


    "นายไม่มีสิทธิ์มาควบคุมชีวิตฉัน!"


    "เผื่อนายจะได้รู้ว่ารสชาติของการถูกครอบครองมันเป็นยังไง" 


    คำพูดที่ส่อถึงความหมายในเชิงลบนั้นทำให้อัลฟ่าแดนเหนือฉุนจัด ทั้งสายตา ทั้งคำพูด และการกระทำของเชส ไทเลอร์ มันชี้ไปในทางที่ไม่ควรเลยสักนิด 


    ครอบครอง นั่นคือคำที่อัลฟ่าอย่างแอชเชอร์ควรได้รับงั้นหรือ? 


    สุดท้ายแล้วคนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารก็ไม่อัลฟ่า.. หากยังมีทรูอัลฟ่าพวกนี้อยู่ ความพิเศษทั้งหลายทำให้มันไม่ยากเลยสักนิดที่จะกดหัวคนที่ต่ำกว่าจนแทบจมดิน 


    "ไปตายซะ!" 


    แผ่นหลังของแอชเชอร์กระแทกเข้ากับผนังภายในบ้านที่ถูกสร้างมาจากไม้แข็งแรง ซึ่งนั่นก็ทำให้คนที่รับแรงกระแทกเต็มๆ นั้นรู้สึกเจ็บร้าวไปทั่วทั้งแผ่นหลัง แรงมากมายมหาศาลอย่างแท้จริงของทรูอัลฟ่าให้ตั้งหลักรับยังไงก็เจ็บตัวอยู่ดี 


    "อึก.."


    "พูดอีกทีสิแอชเชอร์" ไทเลอร์ยังคงยกยิ้มประดับมุมปากทั้งที่การกระทำของตัวเองนั้น กำลังคุกคามคนผมสีสว่างอย่างชัดเจน 


    "ไป ตาย ซะ" 


    เจ้าของผิวขาวซีดจงใจพูดทีละคำชัดๆ ให้คนตรงหน้าได้ฟังในขณะที่ข้อมือขาวยังคงพยายามจะยื้อแขนตัวเองให้หลุดออกจากมือใหญ่ 


    "งั้นก่อนตาย เชื่อเถอะว่าฉันคงได้ขย้ำนายสักรอบแน่แอชเชอร์" 


    "ไท.. อื้อ" 


    ริมฝีปากบางสีระเรื่อถูกบังคับให้รับจูบดุดันของทรูอัลฟ่าหนุ่มจนได้รสเลือดที่คละคลุ้งภายในริมฝีปาก จูบหนักๆที่เหมือนจะกลืนกินริมฝีปากบางๆนั้น ทั้งตอกย้ำ ทั้งบดขยี้ไม่ต่างจากสัตว์ป่าที่กำลังจัดการเหยื่อในอุ้งเท้าให้สิ้นใจตายให้ได้ ร่างทั้งร่างของอัลฟ่าตัวขาวถูกดันชิดกับผนังด้านหลังจนกลายเป็นว่าร่างกายแข็งแรงของไทเลอร์นั้นแทรกเข้ามาเป็นที่รองรับน้ำหนักตัวของเลสลีย์ จนทำให้ขาเรียวยาวแยกออกเกี่ยวเข้ากับเอวสอบของทรูอัลฟ่าอย่างช่วยไม่ได้โดยที่ยังคงมีแขนแข็งแรงคอยประคองช่วยเอวคอดได้รูปไม่ห่าง 



    ไทเลอร์ยังคงป้อนจูบรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนน้ำสีใสไหลล้นจากมุมปากลงมาเลอะที่คางได้รูป บริเวณแก้มขาวนั้นถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงจากเลือดจากบาดแผลของไทเลอร์ จนสีเข้มพวกนั้นตัดกันกับผิวขาวซีด กว่าที่ไทเลอร์จะยอมถอนจูบออกจากแอชเชอร์ ปากบางที่เคยมีสีระเรื่อนั้นก็กลับแดงฉ่ำเพราะแรงดูดดึงที่กระทำอย่างหนักหน่วง 



    ความรู้สึกเห่อร้อนและเจ็บจนชาทำให้เลสลีย์ตัวขาวถึงกับพูดอะไรไม่ออก ทั้งๆที่ในใจนั้นสบถด่าคนที่กักขังตัวเองจนแทบบ้า 


    จูบที่ไม่ได้เต็มใจตอบรับแต่ก็ยากที่จะปฏิเสธเมื่อถูกไล่ต้อนจนจนมุม...


    "พูดออกมาว่าขอโทษ.." 


    น้ำเสียงเย็นเยียบของไทเลอร์เอ่ยบอกอัลฟ่าแดนเหนือที่ยังคงไม่ลดความก้าวร้าวในตัวเองลง 


    "....."


    "ถ้านายไม่พูด ก็อยู่มันแบบนี้" 


    หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ไม่ได้พูดเปล่า เพราะลิ้นร้อนของอีกฝ่ายนั้นจงใจไล่สัมผัสไปตามแก้มขาวซีดที่เลอะคราบเลือดของตัวเองช้าๆ พร้อมกับมือสากที่บีบล็อกคางได้รูปไม่ให้หนีพ้น


    ฝ่ามือขาวซีดกำเข้าหากันแน่นจนเล็บที่ยาวออกมาเล็กน้อยนั้นจิกเข้ากับฝ่ามือจนได้เลือด แอชเชอร์ไม่อยากแพ้ให้กับคนตรงหน้า เขาไม่อยากยอมเลยสักนิด 


    ถ้ายอมแล้วครั้งนึง ครั้งต่อไปเขาก็ต้องยอมอีก ซึ่งนั่นมันไม่ใช่แอชเชอร์ เลสลีย์... 


    "จะขอโทษฉันไหมแอชเชอร์" 


    เชสถามย้ำอีกครั้งโดยที่ริมฝีปากร้อนนั้นยังคงคลอเคลียไม่ห่างจากใบหน้ารูปสลักที่ยังคงบึ้งตึงของแอชเชอร์ กลีบปากฉ่ำน้ำและดวงตาที่มีน้ำสีใสหล่อเลี้ยงจนแทบเอ่อล้นนั่นยิ่งทำให้เชสยิ่งคาดคั้นอีกฝ่ายมากขึ้น


    คนดื้อรั้นแบบนี้ถ้าไม่ดัดนิสัยเสียตั้งแต่ตอนนี้ มีหวังคราวหน้าคงได้คว้ามีดมาแทงเชสเข้าสักวัน 


    "ฉันไม่ผิด"


    "นายพูดถูกว่านายไม่ได้ผิด แต่สิ่งที่นายทำมันคือความวู่วาม จากการไม่ควบคุมอารมณ์ของนาย" 


    "ฉันอดทนกับนายมามากแล้วไทเลอร์ กี่ครั้งที่นายเอาแต่ปิดบัง กี่ครั้งที่นายทำให้ฉันดูเป็นคนโง่.."


    "ถ้ารู้แล้วไม่ได้ช่วยอะไร นายคิดว่าตัวเองยังสมควรที่จะรู้อีกหรือ" 


    "...."


    "บางทีคนฉลาดก็ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องเสมอไปหรอกนะแอชเชอร์"


    "...."


    "นายควรฉลาดในสิ่งที่ควรรู้ แล้วเอาตัวเองให้รอดก็พอ.." 


    "นาย.." คนตัวขาวกัดฟันเรียกคนตรงหน้าอย่างพูดไม่ออก 


    "ถ้านายไม่ได้โง่ ก็ควรจะรู้ว่าตอนนี้นายควรทำยังไง" 


    กายแกร่งของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์เบียดชิดเข้ามาใกล้อัลฟ่าแดนเหนือ จนแอชเชอร์แทบจะหลอมรวมไปกับผนังด้านหลังเสียให้ได้ จากมือที่เคยบีบคางของไทเลอร์นั้นก็เริ่มเบาแรงลงจนกลับกลายว่าฝ่ามือสากคู่นั้นกำลังกอบกุมใบหน้าของแอชเชอร์ และลูบผิวแก้มนุ่มเชิงเย้าหยอกให้เจ้าของแก้มได้ประสาทเสียเล่นๆ  


    "ไม่" 



    "อยากอยู่แบบนี้ก็ตามใจ เพราะฉันเองก็ไม่ได้เสียประโยชน์อะไรเลยสักนิด" 


    "...."


    "ต่อให้จูบของนายจะชดใช้กับแผลที่หน้าฉันไม่ได้ก็เถอะ" 


    คำพูดเย้าหยอกของเชส ไทเลอร์ ในตอนนี้แตกต่างกับทุกครั้งโดยสิ้นเชิง คำพูดซึ่งสวนทางกับดวงตาคม
    ที่ไร้แววหยอกเล่นนั้นแทบจะฆ่าคนที่ถูกโดนมองให้ตายช้าๆ เสียด้วยซ้ำ 


    "...."


    "ยิ่งนายถูกฉันกดดันคนที่จะแย่ก็คงจะมีแต่นาย" 


    "...."


    "หรือนายอยากรู้ว่าอิทธิพลของทรูอัลฟ่า มันทำให้อัลฟ่าแบบนายทำอะไรได้บ้าง" 


    "ปล่อย!" 


    เหงื่อเม็ดโตเริ่มผุดตามขมับขาวอย่างห้ามไม่ได้ เมื่อแรงกดดันจากทรูอัลฟ่ากำลังทำให้แอชเชอร์ไม่สามารถควบคุมความหวาดหวั่นที่เกิดขึ้นได้ของตนเอง กลีบปากบวมช้ำเม้มแน่นอย่างสุดจะทน ความรู้สึกในร่างกายนั้นตีรวนจนแทบบ้า 


    "พูดมา.." เชสยังคงเอ่ยประโยคซ้ำเดิม "พูดว่าขอโทษแล้วฉันจะปล่อยนาย" 


    มือขาวที่เคยกำแน่นอยู่ก่อนหน้านี้เริ่มคลายลงด้วยแรงของร่างกายที่น้อยลง จนต้องคว้าเสื้อตัวหนาของทรูอัลฟ่าไว้อย่างไม่มีทางเลือก 


    นับว่าเป็นครั้งแรกที่แอชเชอร์ต้องเผชิญหน้ากับทรูอัลฟ่าที่กำลังโกรธจัดแบบนี้ เขาไม่คิดเลยด้วยซ้ำว่าอิทธิพลของทรูอัลฟ่าจะส่งผลต่อร่างกายของตัวเองได้มากมายขนาดนี้ 


    ข้อบกพร่องของอัลฟ่าย่อมเป็นจุดอ่อนแอให้ทรูอัลฟ่าเหนือกว่าอย่างไร้ข้อแม้ 


    "เกียรติของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ มันมีไว้สำหรับคนที่ให้เกียรติฉัน.." 


    "...."


    "แต่ถ้าเมื่อนายไม่ให้เกียรติฉัน  มันก็คงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรักษาคำสัตย์ที่เคยพูดไว้เหมือนกัน"


    "ข ขอโทษ.."  


    เหงื่อเม็ดโตไหลลงมาตามกรอบหน้างดงามจนเลอะมือใหญ่ของคนที่ยังคงกอบกุมใบหน้าขาว เสียงนุ่มของอัลฟ่าแดนเหนือเองก็สั่นไม่น้อยเมื่อต้องยอมให้กับทรูอัลฟ่าตรงหน้า มือเรียวสวยที่ไม่ได้นุ่มจนเกินไปนั้นเลื่อนมาประคองใบหน้าคมเข้มของคนตาดุด้วยความสั่นเทา


    เขาไม่น่าท้าทายทรูอัลฟ่าอย่างไทเลอร์เลยจริงๆ... เพราะสุดท้ายแล้วคนที่พ่ายแพ้อย่างหมดรูปก็คือตัวแอชเชอร์เอง 


    "อย่าทำแบบนั้น.." 


    สัมผัสบางเบาจากริมฝีปากสีช้ำประทับลงบนสันกรามคม ก่อนจะละออกมาช้าๆ ซึ่งการกระทำทั้งหมดนั้นเองก็ตกอยู่ภายใต้กรอบสายตาของทรูอัลฟ่าหนุ่มอย่างไทเลอร์  จูบที่ไม่ได้ลึกซึ้งเหมือนก่อนหน้าแต่กลับทำให้คนที่กำลังเดือดอย่างเชสสงบลงอย่างน่าประหลาด


    "ถ้าไม่ติดว่าก่อนหน้านี้นายทำแสบเอาไว้ ฉันคงคิดว่านายกำลังเชื้อเชิญฉันด้วยซ้ำ"


    ไทเลอร์ยอมผละตัวออกจากอัลฟ่าแดนเหนือเมื่อเค้นปากให้แอชเชอร์พูดได้  ทันทีที่ขายาวของแอชเชอร์ได้แตะพื้นมันก็พาลสั่นไปเสียหมด ช่วงขาที่ต้องรับน้ำหนักของร่างกายมันสั่นจนแทบยืนไม่อยู่พอๆกับก้อนเนื้อในอกที่บีบรัดจนเจ็บปวด 


    "อย่าคิดมากเรื่องที่ฉันจะครอบครองนายเสียล่ะแอชเชอร์"


    ทรูอัลฟ่าหนุ่มพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องของตัวเอง และปล่อยให้อัลฟ่าแดนเหนือได้ยืนตบตีกับความคิดของตัวเอง  น้อยครั้งนักที่เชส ไทเลอร์ จะใช้ความพิเศษของตัวเองบีบคั้นให้อีกฝ่ายจนมุม หากไม่เหลืออดจริงๆ เชสเองก็ไม่อยากใช้วิธีนี้สักเท่าไหร่นัก 


    เป็นใครจะไม่หงุดหงิดกัน.. ทั้งวันนี้ที่กลับมาถึงเดอะฮิลล์ ไทเลอร์เองก็เจอแต่เรื่องน่าปวดหัว และยิ่งกลับมาเจอกับเลสลีย์เล่นอะไรงี่เง่าแบบนี้มันก็อดไม่ได้จริงๆ ที่จะหัวเสีย


    แผลที่หน้าแค่นี้มันไม่ได้ทำให้ไทเลอร์เจ็บปวดเท่าไหร่นัก เรียกได้ว่าเป็นบาดแผลที่เล็กน้อยมากก็คงจะ
    ถูก ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าเลสลีย์รู้สึกอย่างไร แต่เพราะไทเลอร์เรียนรู้มาเยอะเกินกว่าที่จะต้องเอาเรื่องพวกนี้มาใส่ใจ อีกอย่างไทเลอร์เองก็ไม่ใช่คนวางแผนเรื่องนี้ด้วย 


    หากจะให้หาคนที่ผิดจริงๆแล้วล่ะก็ ท่าทางเลสลีย์คนเล็กคงต้องไปถามหาเอาคำตอบจากพี่ชายตัวเองก็คงจะดีที่สุด 






    'เมื่อไหร่นายจะเลิกแหกกฎเสียที  แอบหนีออกมาแดนใต้แบบนี้ ฉันคิดว่าพ่อของนายคงไม่พอใจสักเท่าไหร่'


    'อย่าบ่นสิเชส ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้' อัลฟ่าแดนเหนือที่ไทเลอร์รู้จักคุ้นเคยไม่น้อยตอบ ก่อนจะถือวิสาสะเดินเข้ามาชะโงกดูงานที่ไทเลอร์กำลังนั่งทำอยู่ตรงหน้า 'หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์นี่ขยันจังนะ มิน่าถึงได้...'


    'พูดให้ดีนะอาเธอร์' คนที่ถูกกวนก่อนเอ่ยบอกทันที จนเจ้าของผิวขาวอมชมพูนั้นแอบกลอกตาไปมา 


    'จริงจังอะไรขนาดนั้น'


    'ถ้ารู้ว่านายจะเข้ามากวนประสาทฉันแบบนี้ ฉันคงปล่อยให้นายนั่งเล่นเป็นเพื่อนชาลีอยู่ข้างล่าง'


    'ฉันรู้น่าว่านายไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น'


    'แล้วคิดยังไงถึงโผล่มาที่นี่  ครั้งที่แล้วได้ข่าวว่าโดนขังจนแทบลืมไม่ใช่หรือ'


    'ขังลืมอะไรเล่า แค่โดนสั่งห้ามไม่ให้ออกไปไหนก็แค่นั้น'


    'ฉันล่ะไม่เข้าใจนายจริงๆ คุณชายเลสลีย์' มองปราดเดียวไทเลอร์ก็พอจะรู้แล้วว่าคุณชายเลสลีย์น่าจะมีปัญหาบางอย่างแน่ๆ ถึงได้โผล่มาที่นี่ 'นายเป็นอะไรกันแน่?'


    'ฉันแสดงออกชัดเจนขนาดนั้นเชียวหรือ?'


    'แววตานายมันฟ้อง มีเรื่องอะไรที่ต้องกังวลล่ะคราวนี้'


    'มันก็ไม่เชิงกังวลหรอก ฉันแค่กำลังรู้สึกว่าบางทีที่ๆฉันอยู่มันอาจจะไม่เหมาะกับฉัน'


    'ความคิดพวกนี้ไม่น่ามีอยู่ในตัวนายเลยอาเธอร์'  


    'คนเราเมื่อถึงจุดๆหนึ่งมันก็จะรู้สึกได้เอง...' ร่างสูงโปร่งในชุดสีเข้มที่ตัดกับผิวขาวเดินไปหยุดที่ริมหน้าต่างภายในห้องทำงานของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์  แผ่นหลังที่สะท้อนในดวงตาของเชส ไทเลอร์ มันดูโดดเดี่ยวกว่าทุกครั้งจนน่าตกใจ


    '....'


    'ฉันไม่ได้อยากเรียนรู้เพื่อเอาชนะใคร ทั้งชีวิตที่ฉันปรารถนาก็คืออิสระเพียงอย่างเดียว' 


    'นายรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้'


    'มันก็แค่ความหวังเท่านั้นล่ะเชส ฉันรู้.. รู้อยู่แก่ใจทุกอย่างว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้' แผ่นหลังของอาเธอร์ยิ่งอ้างว้างมากขึ้นเมื่อเจ้าตัวเอ่ยประโยคแสนเศร้านั้นออกมา 'ที่ฉันมาที่นี่ ก็เพราะแค่อยากจะหลบมาอยู่เงียบๆ สักพักหนึ่ง'


    'อยากเล่าให้ฉันฟังไหม..' ในฐานะของคนที่สนิทกัน เชสเองก็ไม่ลังเลจะเอ่ยถาม 'นายก็รู้ว่าฉันเป็นพวกฟังเก่ง'


    'กวนประสาทก็เก่งด้วยเหมือนกัน' อาเธอร์ตอบติดตลก ทั้งที่ใบหน้าของเจ้าตัวยังคงเรียบนิ่งจนยากจะคาดเดา 


    'อย่ามาตลกทั้งที่นายไม่ได้ตลกเลยดีกว่าอาเธอร์' เชสตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ 'ยิ่งนายทำแบบนี้ มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกว่านายกำลังแบกรับทุกอย่างไว้' 


    'มันเป็นหน้าที่ของฉัน ก็ถูกแล้ว..' 


    'อาร์ธ..'


    'ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นายสัญญาได้ไหมเชส..'


    'ทำไมนายถึงพูดแบบนี้'


    'สัญญากับฉันว่าจะคอยดูแลน้องชายของฉัน'


    'ฉันจะไม่สัญญา ถ้าหากนายยังไม่เล่าอะไรให้ฉันฟัง'


    เจ้าของใบหน้ารูปสลักชั้นเลิศหันกลับมามองใบหน้าของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ ก่อนจะตัดสินใจอยู่ชั่วครู่หนึ่งที่จะเอ่ยออกมาท่ามกลางความเงียบที่ปกคลุมภายในห้อง 


    'ริโอรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว  ฉันช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้แล้วจริงๆ' 


    'มันก็ไม่ผิดจากที่ฉันคาดเดาเสียเท่าไหร่ สักวันหมอนั่นก็ต้องรู้อยู่ดี  นายไม่คิดบ้างหรือว่ายิ่งนายพยายามจะปิดบัง ทุกอย่างมันจะยิ่งชัดเจน'


    'แต่ฉันเลือกไม่ได้ ฉันไม่อยากทรยศครอบครัวตัวเอง ไม่อยากทรยศเขา..'


    'นายทรยศครอบครัวตัวเอง ตั้งแต่ที่ยอมเปิดโอกาสให้สเปนเซอร์เข้ามาในชีวิตนายแล้วอาเธอร์' แม้จะไม่อยากเอ่ยอะไรให้ทำร้ายจิตใจ แต่เชสเองก็ต้องพูดอย่างเลี่ยงไม่ได้  'ทั้งที่รู้ว่าทุกอย่างมันผิด แต่นายก็เลือกที่จะทำ' 


    'มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเชส.. สุดท้ายมันก็เป็นฉันเองที่ทำให้ทุกอย่างพัง'


    'บางทีการที่ต้องเลือกระหว่างครอบครัวกับคนรักมันก็เป็นเรื่องที่นายต้องยอมรับ...'


    'ฉันไม่ได้เลือกริโอ'


    ' แต่ริโอเลือกนาย..' 


    'เพราะอย่างนั้นฉันถึงอยากให้นายสัญญา' 


    'แลกกับอะไรล่ะ...'


    'การมีชีวิตของฉัน มันมากพอที่จะแลกกับสัญญานี้ไหมเชส'




    เมื่อนึกย้อนถึงครั้งที่อาเธอร์มาพบตัวเองแล้ว มันก็ทำให้ไทเลอร์เสยผมตัวเองขึ้นด้วยความรู้สึกงุ่นง่าน อันที่จริงเชสเองก็โกหกเลสลีย์คนเล็กตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ที่เคยบอกว่าไม่เจออาเธอร์มาเป็นปีๆ แท้จริงแล้วมันกลับไม่ใช่ การไม่เจอกันของทั้งคู่ที่ว่ามันแค่เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นก่อนที่เชสจะได้พบกับแอชเชอร์ เลสลีย์ตัวจริง 


    เลสลีย์ที่หยิ่งผยองคล้ายกัน แต่กลับให้ความรู้สึกแตกต่างยามเมื่อพูดคุย เลสลีย์คนพี่นั้นเต็มไปด้วยความยากจะคาดเดาในความคิด แต่เลสลีย์คนน้องกลับมองออกง่ายทุกการกระทำ ทั้งที่ในความจริงคนที่ชอบแหกกฎอย่างอาเธอร์นั้นสมควรจะเดาทางได้ง่ายกว่าแต่กลับไม่เลย.. 


    ไหนจะเลสลีย์คนน้องที่ยากจะควบคุมเพราะความดื้อรั้น... 


    จนในตอนนี้เชส ไทเลอร์ ก็พอจะเข้าใจความลำบากใจของอาเธอร์เข้าแล้วว่าการที่ต้องเลือกมันยากแค่ไหน ในฐานะของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์เขายังมีคนอีกมากมายที่ต้องรับผิดชอบ แต่ชีวิตของใครอีกคนที่ยังอยู่ในแดนเหนือนั่นก็สำคัญไม่แพ้กัน 


    หากอาเธอร์สามารถเกลี้ยกล่อมริโอได้มันก็คงจะดีกว่านี้ อย่างน้อยมันก็น่าจะทำให้แอชเชอร์ใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติมากกว่าที่จะต้องคอยระวังตัวเอง  แต่ถึงอย่างนั้นเชสเองก็มั่นใจว่าคนอย่างแอชเชอร์คงไม่มีทางปล่อยริโอไปง่ายๆ เช่นกันในเมื่อเจ้าตัวยังคงฝังใจว่าทุกอย่างเป็นผลมาจากริโอ


    "ฉันจะทำยังไงกับนายดีเลสลีย์"  











    /////














    ใช้เวลาพักใหญ่ที่กว่าเลสลีย์จะตั้งสติและปรับสภาพร่างกายของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติ ร่างขาวที่นั่งทรุดพิงผนังบ้านยังคงเหม่อมองที่ปลายเท้าของตัวเองอย่างเลื่อนลอย ทุกอย่างมันผิดแปลกไปเสียหมด สิ่งที่ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะต้องเป็นมันก็กลับเกิดขึ้น ทั้งที่ทั้งชีวิตเขาถูกสอนให้หลบเลี่ยงจากพวกทรูอัลฟ่าพวกนี้แทบตาย 


    แต่สุดท้ายก็กลับกลายเป็นตัวของแอชเชอร์เองที่พาตัวเองมาอยู่ใกล้กับคนอันตราย.. 


    'นายเห็นใช่ไหม?'  


    มือขาวที่กำลังจับพู่กันแต่งแต้มภาพวาดบนผืนผ้าถึงกับหยุดชะงักลงก่อนจะหันไปหาผู้เป็นพี่ชาย  ใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกันของอาเธอร์นั้นไม่ต่างจากกระจกเงาที่สะท้อนภาพของกันและกัน



    'ถ้ารู้แบบนี้แล้ว นายจะเกลียดฉันไหมแอช..'  


    'อย่ามาล้อกันเล่นดีกว่าอาร์ธ ฉันไม่ตลกกับนายด้วยหรอกนะ'


    'ฉันดูเหมือนคนที่กำลังล้อเล่นมากหรือแอช' 


    'นายก็รู้ดีว่าฉันเกลียดคนทรยศ..' นายน้อยของตระกูลเลสลีย์ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปหาที่ชายที่ยังคงยืนนิ่ง 'ฉันหวังว่ารอยพวกนี้มันคงจะทำให้นายฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้บ้างนะอาเธอร์' 


    ปลายนิ้วเรียวไล่สัมผัสแก้มขาวของคนพี่ที่มีรอยแดงประทับอยู่บนใบหน้าช้าๆ ก่อนจะสวมกอดพี่ชายของตัวเองเพื่อปลอบประโลมความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายได้รับ 


    'อย่าเอาตัวเองไปเจ็บปวดเพราะความรักงี่เง่านั้นเลย' 


    'ถ้านายมีความรัก นายจะเข้าใจแอช..'  น้ำเสียงที่ตอบกลับของพี่ชายนั้นฟังดูเจ็บปวดเสียจนแอชเชอร์เองอดที่จะลูบแผ่นหลังของอีกคนไม่ได้ 'ถึงฉันจะรู้สึกแบบนั้น แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะหันหลัง
    ให้ครอบครัวตัวเอง' 


    'ทั้งที่นายก็รู้อยู่แก่ใจว่าเราไม่ควรยุ่งกับพวกนั้นน่ะหรือ สิ่งที่พ่อคอยสอนนายมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
    งั้นสิ'


    'ฉันไม่เคยเชื่อเพราะเพียงแค่คำบอกเล่า นายเองก็ควรออกจากโลกที่เขาสร้างไว้ให้เราเสียที..'


    'เขาที่นายว่าก็คือพ่อของเรานะอาเธอร์  ทำไมนายถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้..'


    'ไม่มีใครเปลี่ยนฉันได้ทั้งนั้นล่ะแอช'




    "คนทรยศที่ไหนจะยอมช่วยเหลือฉันมากขนาดนี้กัน" ใบหน้าขาวซบลงบนเข่าของตัวเองในทันทีที่เริ่มฉุกคิดเรื่องทุกอย่างขึ้นมา หากอาเธอร์เป็นอย่างที่ไทเลอร์พูดจริงๆ แล้วตัวของแอชเชอร์ควรทำอย่างไร 


    คำว่าคนของสเปนเซอร์ มันก็ไม่ต่างจากคมมีดที่กรีดลงมาบนผิวหนังช้าๆ ให้ได้เจ็บปวด แอชเชอร์ยอมรับไม่ได้จริงๆ กับการที่พี่ชายตัวเองจะต้องเป็นแบบนั้น ในเมื่อทั้งที่เราเองต่างก็รู้ว่าใครคือคนที่
    ทำให้เราต้องสูญเสียทุกอย่าง


    ความรักที่เห็นแก่ตัวพวกนั้น มันยังเรียกว่าเป็นความรักได้อีกหรือ?  




    "ทำไมยังไม่ไปพักผ่อนอีก.."  


    หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์คนเก่งที่ขึ้นห้องไปเมื่อครู่เอ่ยทักคนที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม บนใบหน้าของไทเลอร์ยังคงไม่ได้ถูกทำแผลแต่อย่างใดทั้งสิ้นจนสุดท้าย เจ้าตัวถึงต้องเลือกที่จะลงมาด้านล่างเพื่อหาอะไรสักอย่างในการทำแผล 


    "...." เจ้าของใบหน้าขาวทำเพียงแค่เงยหน้ามองไทเลอร์ ก่อนจะเสหน้าหนีในทันที 


    "ถ้าว่างนักก็ช่วยหาอะไรมาทำแผลให้ฉัน" 


    "แล้วทำไมนายไม่ไปหาเมอเรย์ล่ะ" แอชเชอร์ตอบก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นยืน หมายจะเดินเลี่ยงขึ้นไปบนห้องของตัวเองแทนที่จะสนทนากับไทเลอร์ 


    "ใกล้ค่ำแล้ว หมอนั่นคงกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ยังจะให้ฉันไปรบกวนอีกหรือไง" ไทเลอร์ว่า "อีกอย่างแผลนี่เกิดเพราะนาย ก็ควรจะรับผิดชอบ" 


    "เมื่อกี้มันยังไม่พอหรือ?" 


    "ถ้าอย่างนั้นมันก็คงอยู่ที่ความคิดของนาย" เชสว่าก่อนจะส่งเสื้อผ้าที่อยู่ในมือไปให้แอชเชอร์ "เสื้อผ้าของนาย รับไปสิ" 


    "?"


    "ฉันเห็นเสื้อผ้าที่นายใส่แล้วรำคาญตา ที่นี่ไม่ใช่แดนเหนือ ไม่จำเป็นต้องใส่หนาขนาดนั้นหรอก"


    "ฉันเคยชินกับมันไปแล้ว" 


    "อีกไม่นานก็ใกล้จะเปลี่ยนฤดู ฉันว่านายคงทนกับอากาศที่นี่ไม่ได้"


    "มันจะสักเท่าไหร่กันเชียว" 


    "ก็คงมากพอที่จะทำให้นายเห็นคนในเดอะฮิลล์เดินถอดเสื้อกันให้ทั่ว..." 


    เมื่อได้ยินไทเลอร์พูดแบบนั้นคนตัวขาวก็ต้องจำใจรับเสื้อผ้าในมือของอีกฝ่ายมาอย่างช่วยไม่ได้ เสื้อผ้าเนื้อบางพวกนี้ส่วนใหญ่แล้วแอชเชอร์เองจะสวมใส่เพียงแค่ยามเข้านอนเท่านั้น 


    "งั้นนายก็ไปนั่งรอตรงนั้นก่อน เดี๋ยวฉันจะเอาเสื้อผ้าขึ้นไปเก็บข้างบนห้อง" 


    แอชเชอร์ว่าแล้วเดินขึ้นไปด้านบน โดยที่ไทเลอร์เองได้แต่มองตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายไปจนลับสายตา คำพูดพวกนั้นมันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าอย่างไรเสีย อัลฟ่าแดนเหนือก็ต้องเป็นฝ่ายทำแผลให้กับไทเลอร์ 


    เพียงครู่เดียวเจ้าของผิวขาวก็เดินลงมาจากด้านบนพร้อมๆกับอุปกรณ์ทำแผลสองสามที่พอจะใช้ได้ในมือ  


    "ถ้าเจ็บก็บอก.." 


    หลังจากที่หย่อนตัวลงนั่งหันหน้าของหาไทเลอร์แล้ว มือขาวก็จัดการใช้ผ้าที่ชุบน้ำอุ่นมาเช็ดคราบเลือดที่ติดอยู่บนใบหน้าของเชสออกช้าๆ  ซึ่งตัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์เองก็ยังคงนั่งนิ่งไม่แสดงทีท่าเจ็บปวดอะไรเลยสักนิด 


    "มือหนักใช้ได้นะเลสลีย์" 


    "ก็ไม่เห็นนายจะร้องโอดโอย"  เลสลีย์ย้อนก่อนจะขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายอีกนิดด้วยความไม่ถนัด 


    "ฉันร้องอยู่ในใจ นายเลยไม่ได้ยินต่างหาก"


    "ไร้สาระน่าไทเลอร์" 


    คำพูดคำจาที่กวนประสาทของไทเลอร์เริ่มที่จะกลับมาสร้างความปวดหัวให้กับอัลฟ่าแดนเหนือในทันที  ไม่เชื่อก็คงต้องเชื่อว่าเชส ไทเลอร์ เมื่อพักใหญ่นั่นกับเชส ไทเลอร์ ที่อยู่ตรงหน้าของแอชเชอร์จะเป็นคนๆเดียวกัน 


    "ถ้าไม่ถนัดก็ขยับเข้ามา ฉันไม่ว่าอะไรนายหรอก" เชสอดไม่ได้ที่จะต้องพูด 


    "ถ้าใกล้กว่านี้ฉันคงต้องนั่งตักนายแล้วไทเลอร์" แอชเชอร์ประชดเข้าให้ เมื่อถูกทรูอัลฟ่าติ ทั้งๆที่ตอนนี้ตัวของตัวเองใกล้กับไทเลอร์มากขนาดนี้แล้ว 


    "ย่อมได้.." 


    แต่ใครจะคิดว่าไทเลอร์จะดึงตัวของแอชเชอร์ให้ขึ้นไปนั่งทับบนหน้าตักของอีกฝ่ายจริงๆ...


    "ทำบ้าอะไรของนายอีก!" 


    "ก็แค่ทำตามที่นายพูด" เจ้าของใบหน้าคมยังคงลอยหน้าลอยตาตอบ ก่อนจะคว้ามือขาวที่ทำแผลให้ตัวเองอยู่ไว้ในทันที "ฉันผิดตรงไหน?"


    "ฉันชักจะเชื่อที่เชอร์ชิลพูดขึ้นมาแล้วจริงๆ.." 


    "ลูฟบอกอะไรนายอีก" ไทเลอร์ถึงกับขมวดคิ้วในทันที เมื่อเพื่อนตัวเองถูกดึงเข้ามาในบทสนทนา เดาได้ว่าคงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่แน่ๆ 


    "เชอร์ชิลบอกกับฉันว่านายไม่สนใจโอเมก้า.." 


    "ปากมากจริงๆ ให้ตายเถอะ" ไทเลอร์ถึงกับสบถคำหยาบออกมาเบาๆ ก่อนจะจ้องใบหน้าของอัลฟ่าแดนเหนือที่เอาแต่มองหน้าตัวเอง "แล้วนายเชื่อไหม?" 


    "ตอนแรกฉันก็ไม่เชื่อ.. แต่พอลองคิดดูดีๆ สิ่งที่นายทำกับฉันมันก็ทำให้อดคิดไม่ได้" 


    "...."


    "คนอย่างนายไม่น่า..."


    "ฉันโตมากับสังคมที่ไร้โอเมก้า การหลีกเลี่ยงพวกโอเมก้าคือการตัดปัญหาที่ดีที่สุดในชีวิต"


    "มันผิดวิสัยของอัลฟ่า"


    "ถ้างั้นนายก็คงต้องไปถามพี่ชายตัวเองดูแล้วล่ะว่าเรื่องผิดๆ พวกนี้มันเกิดจากอะไร" 


    "เกี่ยวอะไรกับอาเธอร์"


    "ยังไม่ยอมรับอีกหรือว่าพี่ชายนายกับริโอเป็นอะไรกัน" 


    "ฉันไม่เชื่อ จนกว่าจะได้ด้วยตา" 


    "ถ้างั้นนายก็คงได้เจ็บปวดน่าดู.."


    "นายกำลังทำให้ฉันหมดอารมณ์จะทำแผลให้นายนะไทเลอร์" แอชเชอร์ว่าก่อนจะกดเข้าไปที่แผลของอีกฝ่ายแรงๆ อย่างตั้งใจ จนไทเลอร์ทำตาดุใส่ 


    "ทำตัวดีๆเถอะเลสลีย์" 


    "พอฉันจะเลิกคิดเรื่องนี้นายก็กลับพูุดมันขึ้นมา แล้วจะให้ฉันทำยังไง" 


    "โอเค ฉันผิดเองก็ได้" ไทเลอร์ยอมแต่โดยดี ก่อนจะพยักเพยิดให้เลสลีย์ทำแผลให้ตัวเองต่อเสียที 


    "เลิกทำให้ฉันอยากรู้เรื่องความสัมพันธ์ของนายกับอาเธอร์เสียที.." 


    "นายไม่จำเป็นต้องรู้หรอกเลสลีย์ มันไม่ได้มีอะไรมากมายให้นายต้องกังวล" 


    "ถ้าไม่อยากให้ฉันถาม ก็เลิกพูดเรื่องนี้สักที!"


    "แล้วจะให้ฉันหุบปากเงียบ นั่งมองหน้านายทำแผลแบบนี้น่ะหรือ" 


    มันไม่มีสักทางที่เป็นทางเลือกที่ดีต่อตัวแอชเชอร์


    "จะทำอะไรมันก็เรื่องของนาย ฉันมีหน้าที่แค่ทำแผลให้ก็เท่านั้น"


    "มั่นใจ?" ไทเลอร์ถามย้ำ ในขณะที่มุมปากหยักเริ่มจะยกยิ้มขึ้นมา 


    ตาคู่สวยของแอชเชอร์ไล่มองตามมือของไทเลอร์ที่ขยับมาโอบรอบเอวตัวเองในทันทีอย่างไม่ไว้ใจ 


    "นายรู้ไหม ว่าความแตกต่างที่ทำให้อัลฟ่าน่าสนใจกว่าโอเมก้าอยู่ตรงไหน"


    "...."


    "เสน่ห์ที่เข้มแข็งของอัลฟ่าคือสิ่งที่ฉันชอบที่สุด"


    "...."


    "แต่ตอนนี้ ฉันโคตรอยากจูบนายเลสลีย์" 







    HASTAG #youngmastermn 














    TALK : มาช้าแต่มานะคะ T-T ขอบคุณผมสีบลอนด์ของน้องที่ตอบโจทย์คาร์แอชเชอร์ในเรื่องนี้จริงๆค่ะ กรี๊ดลั่นเลยจริงๆตอนที่เห็นครั้งแรก ฮื้ออออออ  พอจะเดาออกกันบ้างหรือยังเอ่ยคะ ถ้ายังเดาไม่ออกก็ไม่เป็นไรเน้อ เพราะว่าเดี๋ยวเราจะค่อยๆเฉลยแต่ละปมไปเรื่อยๆ เอาแบบชัวร์ๆให้ชัดๆกันไปเลย ʢᵕᴗᵕʡ หากมีตรงไหนผิดพลาดหรือสงสัยยังไงก็ถามกันมาได้นะคะ เผื่อบางทีเราอาจจะหลุดตรงไหนไปบ้าง 
    ถ้าคุณเชสไม่ชอบแอช แล้วทำไมถึงชอบขอเค้าจูบกันจังน้ออออ เอ๊ะ สงสัยจัง ;-; 
    ปล. ขอบคุณทุกคนมากๆที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้กัน หวังว่าจะชอบกันนะคะ แล้วก็ต้องขอบคุณไปถึงคอมเมนต์และหลายๆ คนที่แนะนำฟิคเรื่องนี้ให้ในแท็กด้วยนะงับ แง้ **อยากกราบงามๆ** อาจจะไม่ได้อัพบ่อยๆ แต่จะพยายามอัพอย่างสม่ำเสมอนะคะ   




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in