"นายจะรับผิดชอบแผลที่หน้าฉันยังไงดีล่ะแอชเชอร์"
เจ้าของผมสีสว่างที่ถูกบีบข้อแขนอยู่นั้นทำเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมาจ้องดวงตาสีอ่อนของไทเลอร์ด้วยดวงตาถือดี ความเจ็บปวดที่ข้อมือมันแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำในเมื่อทุกอย่างมันชาไปเสียหมด หากไทเลอร์อีกนิดใครจะไปรู้ว่าข้อมือของคนอวดดีอย่างเลสลีย์อาจจะหักขึ้นมาก็ได้
แม้จะรู้ว่าไม่ควรไปยั่วโมโหทรูอัลฟ่าแค่ไหน สุดท้ายอัลฟ่าแดนเหนือก็เลือกที่จะมองข้ามมันและทำในสิ่งที่ตัวเองคิด
มันคงเป็นปกติของคนทั่วไปที่จะเกลียดคนโกหก ซึ่งเลสลีย์ก็คือหนึ่งในนั้นเช่นกัน...
"ทำไมฉันต้องรับผิดชอบ" เสียงนุ่มว่าอย่างท้าทาย "มันก็สมควรแล้วไม่ใช่หรือ?" ต่อให้จะรู้สึกถึงแรงกดดันที่มาจากทรูอัลฟ่าตรงหน้า กลิ่นไม้สนซีดาร์ที่เคยหอมนั้นกลับกลายเป็นตัวที่ทำให้คนตัวขาวอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก แต่ถึงอย่างนั้นคนอวดดีก็ยังคงเชิดหน้าขึ้นเหมือนเดิมราวกับไม่รู้สึกอะไร
"อะไรที่นายว่าสมควร?"
น้ำเสียงเย็นเยียบของไทเลอร์นั้นยิ่งสร้างความรู้สึกอึดอัดให้ทวีคูณเข้าไปอีก มิหนำซ้ำมือที่เคยบีบข้อมือขาวจนขึ้นรอยแดงชัดก็เลื่อนขึ้นมาบีบโครงหน้าหล่อของอัลฟ่าแดนเหนือ จนแอชเชอร์ไม่สามารถหันหน้าหนีไปทางไหนได้
ดวงตาที่เย็นชายิ่งกว่าอากาศในแดนเหนือค่อยๆ กัดกร่อนความรู้สึกของอัลฟ่าอวดดีทีละน้อย ในสถานการ์ณเช่นนี้หากไม่มีใครยอมใครสักคนคงจะเป็นเรื่องที่แย่อยู่น่าดู เพราะเชส ไทเลอร์ เองก็กำลังโกรธอยูุ่
ไม่น้อยทั้งที่โดยปกติแล้วเจ้าของรอยยิ้มเจ้าเล่ห์มักจะเมินเฉยต่อทุกอย่างที่ไม่สำคัญ
"สิ่งที่นายทำ นั่นเรียกว่าสมควรงั้นหรือ?"
"น้อยไปด้วยซ้ำ.."
คนดื้อด้านแบบแอชเชอร์ เลสลีย์ กำลังทำให้ความอดทนที่มีขีดจำกัดของเชส ไทเลอร์ลดต่ำเรื่อยๆ อัลฟ่าแดนเหนือนี่อยู่เหนือการควบคุมของไทเลอร์เกินไป
จนบางที.. ก็คงจะต้องดัดนิสัยจองหองพวกนี้เสียบ้าง
"ฉันจะไว้ใจคนอย่างนายได้ยังไงไทเลอร์"
"นายไม่จำเป็นต้องไว้ใจฉัน.. เพราะฉันเองก็ไม่ได้ต้องการให้นายมาไว้ใจ"
"...."
"และที่สำคัญ นายควรเลิกอวดดีกับฉันสักที..."
"ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้ล่ะไทเลอร์ มันไม่มีอะไรมาเปลี่ยนฉันได้"
ดวงตาสีอ่อนของเชสไล่มองใบหน้าของแอชเชอร์ ก่อนกระตุกยิ้มที่อัลฟ่าแดนเหนือเกลียดนักเกลียดหนา
อันตรายที่รู้สึกได้กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ในขณะที่เหยื่อยังคงทำใจกล้าสู้ ทั้งที่รู้ว่าให้ตายยังไงก็ไม่มีทางจะสู้ได้
"อยากลองให้ฉันช่วยเปลี่ยนดูไหมล่ะ..."
"นายไม่มีสิทธิ์มาควบคุมชีวิตฉัน!"
"เผื่อนายจะได้รู้ว่ารสชาติของการถูกครอบครองมันเป็นยังไง"
คำพูดที่ส่อถึงความหมายในเชิงลบนั้นทำให้อัลฟ่าแดนเหนือฉุนจัด ทั้งสายตา ทั้งคำพูด และการกระทำของเชส ไทเลอร์ มันชี้ไปในทางที่ไม่ควรเลยสักนิด
ครอบครอง นั่นคือคำที่อัลฟ่าอย่างแอชเชอร์ควรได้รับงั้นหรือ?
สุดท้ายแล้วคนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารก็ไม่อัลฟ่า.. หากยังมีทรูอัลฟ่าพวกนี้อยู่ ความพิเศษทั้งหลายทำให้มันไม่ยากเลยสักนิดที่จะกดหัวคนที่ต่ำกว่าจนแทบจมดิน
"ไปตายซะ!"
แผ่นหลังของแอชเชอร์กระแทกเข้ากับผนังภายในบ้านที่ถูกสร้างมาจากไม้แข็งแรง ซึ่งนั่นก็ทำให้คนที่รับแรงกระแทกเต็มๆ นั้นรู้สึกเจ็บร้าวไปทั่วทั้งแผ่นหลัง แรงมากมายมหาศาลอย่างแท้จริงของทรูอัลฟ่าให้ตั้งหลักรับยังไงก็เจ็บตัวอยู่ดี
"อึก.."
"พูดอีกทีสิแอชเชอร์" ไทเลอร์ยังคงยกยิ้มประดับมุมปากทั้งที่การกระทำของตัวเองนั้น กำลังคุกคามคนผมสีสว่างอย่างชัดเจน
"ไป ตาย ซะ"
เจ้าของผิวขาวซีดจงใจพูดทีละคำชัดๆ ให้คนตรงหน้าได้ฟังในขณะที่ข้อมือขาวยังคงพยายามจะยื้อแขนตัวเองให้หลุดออกจากมือใหญ่
"งั้นก่อนตาย เชื่อเถอะว่าฉันคงได้ขย้ำนายสักรอบแน่แอชเชอร์"
"ไท.. อื้อ"
ริมฝีปากบางสีระเรื่อถูกบังคับให้รับจูบดุดันของทรูอัลฟ่าหนุ่มจนได้รสเลือดที่คละคลุ้งภายในริมฝีปาก จูบหนักๆที่เหมือนจะกลืนกินริมฝีปากบางๆนั้น ทั้งตอกย้ำ ทั้งบดขยี้ไม่ต่างจากสัตว์ป่าที่กำลังจัดการเหยื่อในอุ้งเท้าให้สิ้นใจตายให้ได้ ร่างทั้งร่างของอัลฟ่าตัวขาวถูกดันชิดกับผนังด้านหลังจนกลายเป็นว่าร่างกายแข็งแรงของไทเลอร์นั้นแทรกเข้ามาเป็นที่รองรับน้ำหนักตัวของเลสลีย์ จนทำให้ขาเรียวยาวแยกออกเกี่ยวเข้ากับเอวสอบของทรูอัลฟ่าอย่างช่วยไม่ได้โดยที่ยังคงมีแขนแข็งแรงคอยประคองช่วยเอวคอดได้รูปไม่ห่าง
ไทเลอร์ยังคงป้อนจูบรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนน้ำสีใสไหลล้นจากมุมปากลงมาเลอะที่คางได้รูป บริเวณแก้มขาวนั้นถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงจากเลือดจากบาดแผลของไทเลอร์ จนสีเข้มพวกนั้นตัดกันกับผิวขาวซีด กว่าที่ไทเลอร์จะยอมถอนจูบออกจากแอชเชอร์ ปากบางที่เคยมีสีระเรื่อนั้นก็กลับแดงฉ่ำเพราะแรงดูดดึงที่กระทำอย่างหนักหน่วง
ความรู้สึกเห่อร้อนและเจ็บจนชาทำให้เลสลีย์ตัวขาวถึงกับพูดอะไรไม่ออก ทั้งๆที่ในใจนั้นสบถด่าคนที่กักขังตัวเองจนแทบบ้า
จูบที่ไม่ได้เต็มใจตอบรับแต่ก็ยากที่จะปฏิเสธเมื่อถูกไล่ต้อนจนจนมุม...
"พูดออกมาว่าขอโทษ.."
น้ำเสียงเย็นเยียบของไทเลอร์เอ่ยบอกอัลฟ่าแดนเหนือที่ยังคงไม่ลดความก้าวร้าวในตัวเองลง
"....."
"ถ้านายไม่พูด ก็อยู่มันแบบนี้"
หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ไม่ได้พูดเปล่า เพราะลิ้นร้อนของอีกฝ่ายนั้นจงใจไล่สัมผัสไปตามแก้มขาวซีดที่เลอะคราบเลือดของตัวเองช้าๆ พร้อมกับมือสากที่บีบล็อกคางได้รูปไม่ให้หนีพ้น
ฝ่ามือขาวซีดกำเข้าหากันแน่นจนเล็บที่ยาวออกมาเล็กน้อยนั้นจิกเข้ากับฝ่ามือจนได้เลือด แอชเชอร์ไม่อยากแพ้ให้กับคนตรงหน้า เขาไม่อยากยอมเลยสักนิด
ถ้ายอมแล้วครั้งนึง ครั้งต่อไปเขาก็ต้องยอมอีก ซึ่งนั่นมันไม่ใช่แอชเชอร์ เลสลีย์...
"จะขอโทษฉันไหมแอชเชอร์"
เชสถามย้ำอีกครั้งโดยที่ริมฝีปากร้อนนั้นยังคงคลอเคลียไม่ห่างจากใบหน้ารูปสลักที่ยังคงบึ้งตึงของแอชเชอร์ กลีบปากฉ่ำน้ำและดวงตาที่มีน้ำสีใสหล่อเลี้ยงจนแทบเอ่อล้นนั่นยิ่งทำให้เชสยิ่งคาดคั้นอีกฝ่ายมากขึ้น
คนดื้อรั้นแบบนี้ถ้าไม่ดัดนิสัยเสียตั้งแต่ตอนนี้ มีหวังคราวหน้าคงได้คว้ามีดมาแทงเชสเข้าสักวัน
"ฉันไม่ผิด"
"นายพูดถูกว่านายไม่ได้ผิด แต่สิ่งที่นายทำมันคือความวู่วาม จากการไม่ควบคุมอารมณ์ของนาย"
"ฉันอดทนกับนายมามากแล้วไทเลอร์ กี่ครั้งที่นายเอาแต่ปิดบัง กี่ครั้งที่นายทำให้ฉันดูเป็นคนโง่.."
"ถ้ารู้แล้วไม่ได้ช่วยอะไร นายคิดว่าตัวเองยังสมควรที่จะรู้อีกหรือ"
"...."
"บางทีคนฉลาดก็ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องเสมอไปหรอกนะแอชเชอร์"
"...."
"นายควรฉลาดในสิ่งที่ควรรู้ แล้วเอาตัวเองให้รอดก็พอ.."
"นาย.." คนตัวขาวกัดฟันเรียกคนตรงหน้าอย่างพูดไม่ออก
"ถ้านายไม่ได้โง่ ก็ควรจะรู้ว่าตอนนี้นายควรทำยังไง"
กายแกร่งของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์เบียดชิดเข้ามาใกล้อัลฟ่าแดนเหนือ จนแอชเชอร์แทบจะหลอมรวมไปกับผนังด้านหลังเสียให้ได้ จากมือที่เคยบีบคางของไทเลอร์นั้นก็เริ่มเบาแรงลงจนกลับกลายว่าฝ่ามือสากคู่นั้นกำลังกอบกุมใบหน้าของแอชเชอร์ และลูบผิวแก้มนุ่มเชิงเย้าหยอกให้เจ้าของแก้มได้ประสาทเสียเล่นๆ
"ไม่"
"อยากอยู่แบบนี้ก็ตามใจ เพราะฉันเองก็ไม่ได้เสียประโยชน์อะไรเลยสักนิด"
"...."
"ต่อให้จูบของนายจะชดใช้กับแผลที่หน้าฉันไม่ได้ก็เถอะ"
คำพูดเย้าหยอกของเชส ไทเลอร์ ในตอนนี้แตกต่างกับทุกครั้งโดยสิ้นเชิง คำพูดซึ่งสวนทางกับดวงตาคม
ที่ไร้แววหยอกเล่นนั้นแทบจะฆ่าคนที่ถูกโดนมองให้ตายช้าๆ เสียด้วยซ้ำ
"...."
"ยิ่งนายถูกฉันกดดันคนที่จะแย่ก็คงจะมีแต่นาย"
"...."
"หรือนายอยากรู้ว่าอิทธิพลของทรูอัลฟ่า มันทำให้อัลฟ่าแบบนายทำอะไรได้บ้าง"
"ปล่อย!"
เหงื่อเม็ดโตเริ่มผุดตามขมับขาวอย่างห้ามไม่ได้ เมื่อแรงกดดันจากทรูอัลฟ่ากำลังทำให้แอชเชอร์ไม่สามารถควบคุมความหวาดหวั่นที่เกิดขึ้นได้ของตนเอง กลีบปากบวมช้ำเม้มแน่นอย่างสุดจะทน ความรู้สึกในร่างกายนั้นตีรวนจนแทบบ้า
"พูดมา.." เชสยังคงเอ่ยประโยคซ้ำเดิม "พูดว่าขอโทษแล้วฉันจะปล่อยนาย"
มือขาวที่เคยกำแน่นอยู่ก่อนหน้านี้เริ่มคลายลงด้วยแรงของร่างกายที่น้อยลง จนต้องคว้าเสื้อตัวหนาของทรูอัลฟ่าไว้อย่างไม่มีทางเลือก
นับว่าเป็นครั้งแรกที่แอชเชอร์ต้องเผชิญหน้ากับทรูอัลฟ่าที่กำลังโกรธจัดแบบนี้ เขาไม่คิดเลยด้วยซ้ำว่าอิทธิพลของทรูอัลฟ่าจะส่งผลต่อร่างกายของตัวเองได้มากมายขนาดนี้
ข้อบกพร่องของอัลฟ่าย่อมเป็นจุดอ่อนแอให้ทรูอัลฟ่าเหนือกว่าอย่างไร้ข้อแม้
"เกียรติของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ มันมีไว้สำหรับคนที่ให้เกียรติฉัน.."
"...."
"แต่ถ้าเมื่อนายไม่ให้เกียรติฉัน มันก็คงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรักษาคำสัตย์ที่เคยพูดไว้เหมือนกัน"
"ข ขอโทษ.."
เหงื่อเม็ดโตไหลลงมาตามกรอบหน้างดงามจนเลอะมือใหญ่ของคนที่ยังคงกอบกุมใบหน้าขาว เสียงนุ่มของอัลฟ่าแดนเหนือเองก็สั่นไม่น้อยเมื่อต้องยอมให้กับทรูอัลฟ่าตรงหน้า มือเรียวสวยที่ไม่ได้นุ่มจนเกินไปนั้นเลื่อนมาประคองใบหน้าคมเข้มของคนตาดุด้วยความสั่นเทา
เขาไม่น่าท้าทายทรูอัลฟ่าอย่างไทเลอร์เลยจริงๆ... เพราะสุดท้ายแล้วคนที่พ่ายแพ้อย่างหมดรูปก็คือตัวแอชเชอร์เอง
"อย่าทำแบบนั้น.."
สัมผัสบางเบาจากริมฝีปากสีช้ำประทับลงบนสันกรามคม ก่อนจะละออกมาช้าๆ ซึ่งการกระทำทั้งหมดนั้นเองก็ตกอยู่ภายใต้กรอบสายตาของทรูอัลฟ่าหนุ่มอย่างไทเลอร์ จูบที่ไม่ได้ลึกซึ้งเหมือนก่อนหน้าแต่กลับทำให้คนที่กำลังเดือดอย่างเชสสงบลงอย่างน่าประหลาด
"ถ้าไม่ติดว่าก่อนหน้านี้นายทำแสบเอาไว้ ฉันคงคิดว่านายกำลังเชื้อเชิญฉันด้วยซ้ำ"
ไทเลอร์ยอมผละตัวออกจากอัลฟ่าแดนเหนือเมื่อเค้นปากให้แอชเชอร์พูดได้ ทันทีที่ขายาวของแอชเชอร์ได้แตะพื้นมันก็พาลสั่นไปเสียหมด ช่วงขาที่ต้องรับน้ำหนักของร่างกายมันสั่นจนแทบยืนไม่อยู่พอๆกับก้อนเนื้อในอกที่บีบรัดจนเจ็บปวด
"อย่าคิดมากเรื่องที่ฉันจะครอบครองนายเสียล่ะแอชเชอร์"
ทรูอัลฟ่าหนุ่มพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องของตัวเอง และปล่อยให้อัลฟ่าแดนเหนือได้ยืนตบตีกับความคิดของตัวเอง น้อยครั้งนักที่เชส ไทเลอร์ จะใช้ความพิเศษของตัวเองบีบคั้นให้อีกฝ่ายจนมุม หากไม่เหลืออดจริงๆ เชสเองก็ไม่อยากใช้วิธีนี้สักเท่าไหร่นัก
เป็นใครจะไม่หงุดหงิดกัน.. ทั้งวันนี้ที่กลับมาถึงเดอะฮิลล์ ไทเลอร์เองก็เจอแต่เรื่องน่าปวดหัว และยิ่งกลับมาเจอกับเลสลีย์เล่นอะไรงี่เง่าแบบนี้มันก็อดไม่ได้จริงๆ ที่จะหัวเสีย
แผลที่หน้าแค่นี้มันไม่ได้ทำให้ไทเลอร์เจ็บปวดเท่าไหร่นัก เรียกได้ว่าเป็นบาดแผลที่เล็กน้อยมากก็คงจะ
ถูก ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าเลสลีย์รู้สึกอย่างไร แต่เพราะไทเลอร์เรียนรู้มาเยอะเกินกว่าที่จะต้องเอาเรื่องพวกนี้มาใส่ใจ อีกอย่างไทเลอร์เองก็ไม่ใช่คนวางแผนเรื่องนี้ด้วย
หากจะให้หาคนที่ผิดจริงๆแล้วล่ะก็ ท่าทางเลสลีย์คนเล็กคงต้องไปถามหาเอาคำตอบจากพี่ชายตัวเองก็คงจะดีที่สุด
'เมื่อไหร่นายจะเลิกแหกกฎเสียที แอบหนีออกมาแดนใต้แบบนี้ ฉันคิดว่าพ่อของนายคงไม่พอใจสักเท่าไหร่'
'อย่าบ่นสิเชส ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้' อัลฟ่าแดนเหนือที่ไทเลอร์รู้จักคุ้นเคยไม่น้อยตอบ ก่อนจะถือวิสาสะเดินเข้ามาชะโงกดูงานที่ไทเลอร์กำลังนั่งทำอยู่ตรงหน้า 'หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์นี่ขยันจังนะ มิน่าถึงได้...'
'พูดให้ดีนะอาเธอร์' คนที่ถูกกวนก่อนเอ่ยบอกทันที จนเจ้าของผิวขาวอมชมพูนั้นแอบกลอกตาไปมา
'จริงจังอะไรขนาดนั้น'
'ถ้ารู้ว่านายจะเข้ามากวนประสาทฉันแบบนี้ ฉันคงปล่อยให้นายนั่งเล่นเป็นเพื่อนชาลีอยู่ข้างล่าง'
'ฉันรู้น่าว่านายไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น'
'แล้วคิดยังไงถึงโผล่มาที่นี่ ครั้งที่แล้วได้ข่าวว่าโดนขังจนแทบลืมไม่ใช่หรือ'
'ขังลืมอะไรเล่า แค่โดนสั่งห้ามไม่ให้ออกไปไหนก็แค่นั้น'
'ฉันล่ะไม่เข้าใจนายจริงๆ คุณชายเลสลีย์' มองปราดเดียวไทเลอร์ก็พอจะรู้แล้วว่าคุณชายเลสลีย์น่าจะมีปัญหาบางอย่างแน่ๆ ถึงได้โผล่มาที่นี่ 'นายเป็นอะไรกันแน่?'
'ฉันแสดงออกชัดเจนขนาดนั้นเชียวหรือ?'
'แววตานายมันฟ้อง มีเรื่องอะไรที่ต้องกังวลล่ะคราวนี้'
'มันก็ไม่เชิงกังวลหรอก ฉันแค่กำลังรู้สึกว่าบางทีที่ๆฉันอยู่มันอาจจะไม่เหมาะกับฉัน'
'ความคิดพวกนี้ไม่น่ามีอยู่ในตัวนายเลยอาเธอร์'
'คนเราเมื่อถึงจุดๆหนึ่งมันก็จะรู้สึกได้เอง...' ร่างสูงโปร่งในชุดสีเข้มที่ตัดกับผิวขาวเดินไปหยุดที่ริมหน้าต่างภายในห้องทำงานของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ แผ่นหลังที่สะท้อนในดวงตาของเชส ไทเลอร์ มันดูโดดเดี่ยวกว่าทุกครั้งจนน่าตกใจ
'....'
'ฉันไม่ได้อยากเรียนรู้เพื่อเอาชนะใคร ทั้งชีวิตที่ฉันปรารถนาก็คืออิสระเพียงอย่างเดียว'
'นายรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้'
'มันก็แค่ความหวังเท่านั้นล่ะเชส ฉันรู้.. รู้อยู่แก่ใจทุกอย่างว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้' แผ่นหลังของอาเธอร์ยิ่งอ้างว้างมากขึ้นเมื่อเจ้าตัวเอ่ยประโยคแสนเศร้านั้นออกมา 'ที่ฉันมาที่นี่ ก็เพราะแค่อยากจะหลบมาอยู่เงียบๆ สักพักหนึ่ง'
'อยากเล่าให้ฉันฟังไหม..' ในฐานะของคนที่สนิทกัน เชสเองก็ไม่ลังเลจะเอ่ยถาม 'นายก็รู้ว่าฉันเป็นพวกฟังเก่ง'
'กวนประสาทก็เก่งด้วยเหมือนกัน' อาเธอร์ตอบติดตลก ทั้งที่ใบหน้าของเจ้าตัวยังคงเรียบนิ่งจนยากจะคาดเดา
'อย่ามาตลกทั้งที่นายไม่ได้ตลกเลยดีกว่าอาเธอร์' เชสตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ 'ยิ่งนายทำแบบนี้ มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกว่านายกำลังแบกรับทุกอย่างไว้'
'มันเป็นหน้าที่ของฉัน ก็ถูกแล้ว..'
'อาร์ธ..'
'ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นายสัญญาได้ไหมเชส..'
'ทำไมนายถึงพูดแบบนี้'
'สัญญากับฉันว่าจะคอยดูแลน้องชายของฉัน'
'ฉันจะไม่สัญญา ถ้าหากนายยังไม่เล่าอะไรให้ฉันฟัง'
เจ้าของใบหน้ารูปสลักชั้นเลิศหันกลับมามองใบหน้าของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ ก่อนจะตัดสินใจอยู่ชั่วครู่หนึ่งที่จะเอ่ยออกมาท่ามกลางความเงียบที่ปกคลุมภายในห้อง
'ริโอรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว ฉันช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้แล้วจริงๆ'
'มันก็ไม่ผิดจากที่ฉันคาดเดาเสียเท่าไหร่ สักวันหมอนั่นก็ต้องรู้อยู่ดี นายไม่คิดบ้างหรือว่ายิ่งนายพยายามจะปิดบัง ทุกอย่างมันจะยิ่งชัดเจน'
'แต่ฉันเลือกไม่ได้ ฉันไม่อยากทรยศครอบครัวตัวเอง ไม่อยากทรยศเขา..'
'นายทรยศครอบครัวตัวเอง ตั้งแต่ที่ยอมเปิดโอกาสให้สเปนเซอร์เข้ามาในชีวิตนายแล้วอาเธอร์' แม้จะไม่อยากเอ่ยอะไรให้ทำร้ายจิตใจ แต่เชสเองก็ต้องพูดอย่างเลี่ยงไม่ได้ 'ทั้งที่รู้ว่าทุกอย่างมันผิด แต่นายก็เลือกที่จะทำ'
'มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเชส.. สุดท้ายมันก็เป็นฉันเองที่ทำให้ทุกอย่างพัง'
'บางทีการที่ต้องเลือกระหว่างครอบครัวกับคนรักมันก็เป็นเรื่องที่นายต้องยอมรับ...'
'ฉันไม่ได้เลือกริโอ'
' แต่ริโอเลือกนาย..'
'เพราะอย่างนั้นฉันถึงอยากให้นายสัญญา'
'แลกกับอะไรล่ะ...'
'การมีชีวิตของฉัน มันมากพอที่จะแลกกับสัญญานี้ไหมเชส'
เมื่อนึกย้อนถึงครั้งที่อาเธอร์มาพบตัวเองแล้ว มันก็ทำให้ไทเลอร์เสยผมตัวเองขึ้นด้วยความรู้สึกงุ่นง่าน อันที่จริงเชสเองก็โกหกเลสลีย์คนเล็กตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ที่เคยบอกว่าไม่เจออาเธอร์มาเป็นปีๆ แท้จริงแล้วมันกลับไม่ใช่ การไม่เจอกันของทั้งคู่ที่ว่ามันแค่เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นก่อนที่เชสจะได้พบกับแอชเชอร์ เลสลีย์ตัวจริง
เลสลีย์ที่หยิ่งผยองคล้ายกัน แต่กลับให้ความรู้สึกแตกต่างยามเมื่อพูดคุย เลสลีย์คนพี่นั้นเต็มไปด้วยความยากจะคาดเดาในความคิด แต่เลสลีย์คนน้องกลับมองออกง่ายทุกการกระทำ ทั้งที่ในความจริงคนที่ชอบแหกกฎอย่างอาเธอร์นั้นสมควรจะเดาทางได้ง่ายกว่าแต่กลับไม่เลย..
ไหนจะเลสลีย์คนน้องที่ยากจะควบคุมเพราะความดื้อรั้น...
จนในตอนนี้เชส ไทเลอร์ ก็พอจะเข้าใจความลำบากใจของอาเธอร์เข้าแล้วว่าการที่ต้องเลือกมันยากแค่ไหน ในฐานะของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์เขายังมีคนอีกมากมายที่ต้องรับผิดชอบ แต่ชีวิตของใครอีกคนที่ยังอยู่ในแดนเหนือนั่นก็สำคัญไม่แพ้กัน
หากอาเธอร์สามารถเกลี้ยกล่อมริโอได้มันก็คงจะดีกว่านี้ อย่างน้อยมันก็น่าจะทำให้แอชเชอร์ใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติมากกว่าที่จะต้องคอยระวังตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นเชสเองก็มั่นใจว่าคนอย่างแอชเชอร์คงไม่มีทางปล่อยริโอไปง่ายๆ เช่นกันในเมื่อเจ้าตัวยังคงฝังใจว่าทุกอย่างเป็นผลมาจากริโอ
"ฉันจะทำยังไงกับนายดีเลสลีย์"
/////
ใช้เวลาพักใหญ่ที่กว่าเลสลีย์จะตั้งสติและปรับสภาพร่างกายของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติ ร่างขาวที่นั่งทรุดพิงผนังบ้านยังคงเหม่อมองที่ปลายเท้าของตัวเองอย่างเลื่อนลอย ทุกอย่างมันผิดแปลกไปเสียหมด สิ่งที่ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะต้องเป็นมันก็กลับเกิดขึ้น ทั้งที่ทั้งชีวิตเขาถูกสอนให้หลบเลี่ยงจากพวกทรูอัลฟ่าพวกนี้แทบตาย
แต่สุดท้ายก็กลับกลายเป็นตัวของแอชเชอร์เองที่พาตัวเองมาอยู่ใกล้กับคนอันตราย..
'นายเห็นใช่ไหม?'
มือขาวที่กำลังจับพู่กันแต่งแต้มภาพวาดบนผืนผ้าถึงกับหยุดชะงักลงก่อนจะหันไปหาผู้เป็นพี่ชาย ใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกันของอาเธอร์นั้นไม่ต่างจากกระจกเงาที่สะท้อนภาพของกันและกัน
'ถ้ารู้แบบนี้แล้ว นายจะเกลียดฉันไหมแอช..'
'อย่ามาล้อกันเล่นดีกว่าอาร์ธ ฉันไม่ตลกกับนายด้วยหรอกนะ'
'ฉันดูเหมือนคนที่กำลังล้อเล่นมากหรือแอช'
'นายก็รู้ดีว่าฉันเกลียดคนทรยศ..' นายน้อยของตระกูลเลสลีย์ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปหาที่ชายที่ยังคงยืนนิ่ง 'ฉันหวังว่ารอยพวกนี้มันคงจะทำให้นายฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้บ้างนะอาเธอร์'
ปลายนิ้วเรียวไล่สัมผัสแก้มขาวของคนพี่ที่มีรอยแดงประทับอยู่บนใบหน้าช้าๆ ก่อนจะสวมกอดพี่ชายของตัวเองเพื่อปลอบประโลมความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายได้รับ
'อย่าเอาตัวเองไปเจ็บปวดเพราะความรักงี่เง่านั้นเลย'
'ถ้านายมีความรัก นายจะเข้าใจแอช..' น้ำเสียงที่ตอบกลับของพี่ชายนั้นฟังดูเจ็บปวดเสียจนแอชเชอร์เองอดที่จะลูบแผ่นหลังของอีกคนไม่ได้ 'ถึงฉันจะรู้สึกแบบนั้น แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะหันหลัง
ให้ครอบครัวตัวเอง'
'ทั้งที่นายก็รู้อยู่แก่ใจว่าเราไม่ควรยุ่งกับพวกนั้นน่ะหรือ สิ่งที่พ่อคอยสอนนายมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
งั้นสิ'
'ฉันไม่เคยเชื่อเพราะเพียงแค่คำบอกเล่า นายเองก็ควรออกจากโลกที่เขาสร้างไว้ให้เราเสียที..'
'เขาที่นายว่าก็คือพ่อของเรานะอาเธอร์ ทำไมนายถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้..'
'ไม่มีใครเปลี่ยนฉันได้ทั้งนั้นล่ะแอช'
"คนทรยศที่ไหนจะยอมช่วยเหลือฉันมากขนาดนี้กัน" ใบหน้าขาวซบลงบนเข่าของตัวเองในทันทีที่เริ่มฉุกคิดเรื่องทุกอย่างขึ้นมา หากอาเธอร์เป็นอย่างที่ไทเลอร์พูดจริงๆ แล้วตัวของแอชเชอร์ควรทำอย่างไร
คำว่าคนของสเปนเซอร์ มันก็ไม่ต่างจากคมมีดที่กรีดลงมาบนผิวหนังช้าๆ ให้ได้เจ็บปวด แอชเชอร์ยอมรับไม่ได้จริงๆ กับการที่พี่ชายตัวเองจะต้องเป็นแบบนั้น ในเมื่อทั้งที่เราเองต่างก็รู้ว่าใครคือคนที่
ทำให้เราต้องสูญเสียทุกอย่าง
ความรักที่เห็นแก่ตัวพวกนั้น มันยังเรียกว่าเป็นความรักได้อีกหรือ?
"ทำไมยังไม่ไปพักผ่อนอีก.."
หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์คนเก่งที่ขึ้นห้องไปเมื่อครู่เอ่ยทักคนที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม บนใบหน้าของไทเลอร์ยังคงไม่ได้ถูกทำแผลแต่อย่างใดทั้งสิ้นจนสุดท้าย เจ้าตัวถึงต้องเลือกที่จะลงมาด้านล่างเพื่อหาอะไรสักอย่างในการทำแผล
"...." เจ้าของใบหน้าขาวทำเพียงแค่เงยหน้ามองไทเลอร์ ก่อนจะเสหน้าหนีในทันที
"ถ้าว่างนักก็ช่วยหาอะไรมาทำแผลให้ฉัน"
"แล้วทำไมนายไม่ไปหาเมอเรย์ล่ะ" แอชเชอร์ตอบก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นยืน หมายจะเดินเลี่ยงขึ้นไปบนห้องของตัวเองแทนที่จะสนทนากับไทเลอร์
"ใกล้ค่ำแล้ว หมอนั่นคงกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ยังจะให้ฉันไปรบกวนอีกหรือไง" ไทเลอร์ว่า "อีกอย่างแผลนี่เกิดเพราะนาย ก็ควรจะรับผิดชอบ"
"เมื่อกี้มันยังไม่พอหรือ?"
"ถ้าอย่างนั้นมันก็คงอยู่ที่ความคิดของนาย" เชสว่าก่อนจะส่งเสื้อผ้าที่อยู่ในมือไปให้แอชเชอร์ "เสื้อผ้าของนาย รับไปสิ"
"?"
"ฉันเห็นเสื้อผ้าที่นายใส่แล้วรำคาญตา ที่นี่ไม่ใช่แดนเหนือ ไม่จำเป็นต้องใส่หนาขนาดนั้นหรอก"
"ฉันเคยชินกับมันไปแล้ว"
"อีกไม่นานก็ใกล้จะเปลี่ยนฤดู ฉันว่านายคงทนกับอากาศที่นี่ไม่ได้"
"มันจะสักเท่าไหร่กันเชียว"
"ก็คงมากพอที่จะทำให้นายเห็นคนในเดอะฮิลล์เดินถอดเสื้อกันให้ทั่ว..."
เมื่อได้ยินไทเลอร์พูดแบบนั้นคนตัวขาวก็ต้องจำใจรับเสื้อผ้าในมือของอีกฝ่ายมาอย่างช่วยไม่ได้ เสื้อผ้าเนื้อบางพวกนี้ส่วนใหญ่แล้วแอชเชอร์เองจะสวมใส่เพียงแค่ยามเข้านอนเท่านั้น
"งั้นนายก็ไปนั่งรอตรงนั้นก่อน เดี๋ยวฉันจะเอาเสื้อผ้าขึ้นไปเก็บข้างบนห้อง"
แอชเชอร์ว่าแล้วเดินขึ้นไปด้านบน โดยที่ไทเลอร์เองได้แต่มองตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายไปจนลับสายตา คำพูดพวกนั้นมันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าอย่างไรเสีย อัลฟ่าแดนเหนือก็ต้องเป็นฝ่ายทำแผลให้กับไทเลอร์
เพียงครู่เดียวเจ้าของผิวขาวก็เดินลงมาจากด้านบนพร้อมๆกับอุปกรณ์ทำแผลสองสามที่พอจะใช้ได้ในมือ
"ถ้าเจ็บก็บอก.."
หลังจากที่หย่อนตัวลงนั่งหันหน้าของหาไทเลอร์แล้ว มือขาวก็จัดการใช้ผ้าที่ชุบน้ำอุ่นมาเช็ดคราบเลือดที่ติดอยู่บนใบหน้าของเชสออกช้าๆ ซึ่งตัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์เองก็ยังคงนั่งนิ่งไม่แสดงทีท่าเจ็บปวดอะไรเลยสักนิด
"มือหนักใช้ได้นะเลสลีย์"
"ก็ไม่เห็นนายจะร้องโอดโอย" เลสลีย์ย้อนก่อนจะขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายอีกนิดด้วยความไม่ถนัด
"ฉันร้องอยู่ในใจ นายเลยไม่ได้ยินต่างหาก"
"ไร้สาระน่าไทเลอร์"
คำพูดคำจาที่กวนประสาทของไทเลอร์เริ่มที่จะกลับมาสร้างความปวดหัวให้กับอัลฟ่าแดนเหนือในทันที ไม่เชื่อก็คงต้องเชื่อว่าเชส ไทเลอร์ เมื่อพักใหญ่นั่นกับเชส ไทเลอร์ ที่อยู่ตรงหน้าของแอชเชอร์จะเป็นคนๆเดียวกัน
"ถ้าไม่ถนัดก็ขยับเข้ามา ฉันไม่ว่าอะไรนายหรอก" เชสอดไม่ได้ที่จะต้องพูด
"ถ้าใกล้กว่านี้ฉันคงต้องนั่งตักนายแล้วไทเลอร์" แอชเชอร์ประชดเข้าให้ เมื่อถูกทรูอัลฟ่าติ ทั้งๆที่ตอนนี้ตัวของตัวเองใกล้กับไทเลอร์มากขนาดนี้แล้ว
"ย่อมได้.."
แต่ใครจะคิดว่าไทเลอร์จะดึงตัวของแอชเชอร์ให้ขึ้นไปนั่งทับบนหน้าตักของอีกฝ่ายจริงๆ...
"ทำบ้าอะไรของนายอีก!"
"ก็แค่ทำตามที่นายพูด" เจ้าของใบหน้าคมยังคงลอยหน้าลอยตาตอบ ก่อนจะคว้ามือขาวที่ทำแผลให้ตัวเองอยู่ไว้ในทันที "ฉันผิดตรงไหน?"
"ฉันชักจะเชื่อที่เชอร์ชิลพูดขึ้นมาแล้วจริงๆ.."
"ลูฟบอกอะไรนายอีก" ไทเลอร์ถึงกับขมวดคิ้วในทันที เมื่อเพื่อนตัวเองถูกดึงเข้ามาในบทสนทนา เดาได้ว่าคงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่แน่ๆ
"เชอร์ชิลบอกกับฉันว่านายไม่สนใจโอเมก้า.."
"ปากมากจริงๆ ให้ตายเถอะ" ไทเลอร์ถึงกับสบถคำหยาบออกมาเบาๆ ก่อนจะจ้องใบหน้าของอัลฟ่าแดนเหนือที่เอาแต่มองหน้าตัวเอง "แล้วนายเชื่อไหม?"
"ตอนแรกฉันก็ไม่เชื่อ.. แต่พอลองคิดดูดีๆ สิ่งที่นายทำกับฉันมันก็ทำให้อดคิดไม่ได้"
"...."
"คนอย่างนายไม่น่า..."
"ฉันโตมากับสังคมที่ไร้โอเมก้า การหลีกเลี่ยงพวกโอเมก้าคือการตัดปัญหาที่ดีที่สุดในชีวิต"
"มันผิดวิสัยของอัลฟ่า"
"ถ้างั้นนายก็คงต้องไปถามพี่ชายตัวเองดูแล้วล่ะว่าเรื่องผิดๆ พวกนี้มันเกิดจากอะไร"
"เกี่ยวอะไรกับอาเธอร์"
"ยังไม่ยอมรับอีกหรือว่าพี่ชายนายกับริโอเป็นอะไรกัน"
"ฉันไม่เชื่อ จนกว่าจะได้ด้วยตา"
"ถ้างั้นนายก็คงได้เจ็บปวดน่าดู.."
"นายกำลังทำให้ฉันหมดอารมณ์จะทำแผลให้นายนะไทเลอร์" แอชเชอร์ว่าก่อนจะกดเข้าไปที่แผลของอีกฝ่ายแรงๆ อย่างตั้งใจ จนไทเลอร์ทำตาดุใส่
"ทำตัวดีๆเถอะเลสลีย์"
"พอฉันจะเลิกคิดเรื่องนี้นายก็กลับพูุดมันขึ้นมา แล้วจะให้ฉันทำยังไง"
"โอเค ฉันผิดเองก็ได้" ไทเลอร์ยอมแต่โดยดี ก่อนจะพยักเพยิดให้เลสลีย์ทำแผลให้ตัวเองต่อเสียที
"เลิกทำให้ฉันอยากรู้เรื่องความสัมพันธ์ของนายกับอาเธอร์เสียที.."
"นายไม่จำเป็นต้องรู้หรอกเลสลีย์ มันไม่ได้มีอะไรมากมายให้นายต้องกังวล"
"ถ้าไม่อยากให้ฉันถาม ก็เลิกพูดเรื่องนี้สักที!"
"แล้วจะให้ฉันหุบปากเงียบ นั่งมองหน้านายทำแผลแบบนี้น่ะหรือ"
มันไม่มีสักทางที่เป็นทางเลือกที่ดีต่อตัวแอชเชอร์
"จะทำอะไรมันก็เรื่องของนาย ฉันมีหน้าที่แค่ทำแผลให้ก็เท่านั้น"
"มั่นใจ?" ไทเลอร์ถามย้ำ ในขณะที่มุมปากหยักเริ่มจะยกยิ้มขึ้นมา
ตาคู่สวยของแอชเชอร์ไล่มองตามมือของไทเลอร์ที่ขยับมาโอบรอบเอวตัวเองในทันทีอย่างไม่ไว้ใจ
"นายรู้ไหม ว่าความแตกต่างที่ทำให้อัลฟ่าน่าสนใจกว่าโอเมก้าอยู่ตรงไหน"
"...."
"เสน่ห์ที่เข้มแข็งของอัลฟ่าคือสิ่งที่ฉันชอบที่สุด"
"...."
"แต่ตอนนี้ ฉันโคตรอยากจูบนายเลสลีย์"
HASTAG #youngmastermn
TALK : มาช้าแต่มานะคะ T-T ขอบคุณผมสีบลอนด์ของน้องที่ตอบโจทย์คาร์แอชเชอร์ในเรื่องนี้จริงๆค่ะ กรี๊ดลั่นเลยจริงๆตอนที่เห็นครั้งแรก ฮื้ออออออ พอจะเดาออกกันบ้างหรือยังเอ่ยคะ ถ้ายังเดาไม่ออกก็ไม่เป็นไรเน้อ เพราะว่าเดี๋ยวเราจะค่อยๆเฉลยแต่ละปมไปเรื่อยๆ เอาแบบชัวร์ๆให้ชัดๆกันไปเลย ʢᵕᴗᵕʡ หากมีตรงไหนผิดพลาดหรือสงสัยยังไงก็ถามกันมาได้นะคะ เผื่อบางทีเราอาจจะหลุดตรงไหนไปบ้าง
ถ้าคุณเชสไม่ชอบแอช แล้วทำไมถึงชอบขอเค้าจูบกันจังน้ออออ เอ๊ะ สงสัยจัง ;-;
ปล. ขอบคุณทุกคนมากๆที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้กัน หวังว่าจะชอบกันนะคะ แล้วก็ต้องขอบคุณไปถึงคอมเมนต์และหลายๆ คนที่แนะนำฟิคเรื่องนี้ให้ในแท็กด้วยนะงับ แง้ **อยากกราบงามๆ** อาจจะไม่ได้อัพบ่อยๆ แต่จะพยายามอัพอย่างสม่ำเสมอนะคะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in