เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เห๋ย อันยอง สวัสดีเกาหลีใต้404notfound
#4 นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว
  • ตอนแรกมา ก็คิดว่า มันง่ายๆ
    เอ้า!ไหนได้ เกือบตาย เลยนะนั่น
    ทั้งทำนู่น เรียนนี่ พัลวัน 
    แต่ว่าฉัน ทำได้ จบแล้วเอย
  • นี่นึกว่าต้องฝังตัวเองไว้ที่เกาหลีซะแล้ว

         สวัสดีทุกคนนนน...(ใคร?) นั่นแหละ ไม่เป็นไร 555 สวัสดีไว้ก่อน เขาว่ามันคือมารยาทที่ดี เป็นเวลานานมากกก เกือบจะปีนึงอยู่แล้วที่เราไมไ่ด้เข้ามาเขียนอะไรไร้สาระให้มันรกหูรกตาคนอื่นเลย รู้สึกไม่ดีเลยค่ะ ไม่ได้เป็นภาระ หรือสร้างความรำคาญให้ใคร เอ้า! อินี่นิ ถถถถถ หยอกเย่น แอ่แห้

         คือว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา เรายุ่งมาก ลำบากมาก ท้อมาก เกือบยอมแพ้ให้กับอะไรก็ตามที่เข้ามาหลายรอบมากๆ มันหนักไปหมดเลยสำหรับเรา เรียกได้ว่าเป็นจุดพีคของชีวิตเลยก็ว่าได้ เดี๋ยวเราจะสาธยายให้ฟัง มาเร็ว มาล้อมวง ตึ่งโป๊ะ!

         หลังจาก #3 เปิดเทอมนั้น ฉันตาย เราก็เข้าสู่ช่วงนาทีชีวิต วิกฤตมรณะ คือเราต้องทำทีสิส เรื่องทั่วไปของนักเรียนปอโท แต่ของเรามันไม่ใช่แพลนงานเสร็จ แล้วทำปุ๊บปั๊บได้เลย เรื่องนี้ยาวมาก มากแบบมากๆ คือโปรของเราเขาบอกให้เราทำแลบนึงซึ่งเป็นงานต่อจากรุ่นพี่ เราต้องศึกษางานนั้นทุกอย่าง แล้วก็ศึกษาลึกเข้าไปอีก เพิ่มไปอีก เพราะต้องวิจัยเพิ่ม 

         เรา, ซึ่งเป็นคนเด๋อ กาก และด๋อย, ใช้เวลาศึกษาอยู่นานเป็นเดือน จนสามารถเริ่มแลบได้ ปล.เล็กๆไว้ตรงนี้ ว่าแลบที่เราทำคืองานวิจัยที่ทดลองในหนู ช่วงชีวิตตอนนั้นของเราเหมือนตกนรกมาก อากาศหนาวเพียงใด แต่ในใจนี่ยั่งกับไฟสุมทรวง ฝนตก หิมะตก แดดออก พายุเข้า อะไรยังไง เราก็ยังต้องไปแลบหนูทุกวัน เพื่อไปเปลี่ยนน้ำ เช็คอาหาร บันทึกผล แต่แล้ว โปรก็มาบอกเราว่า เขาอยากให้เราเปลี่ยนหัวข้อทีสิสใหม่... เราตอนนั้นช็อคไปเลย 2 เดือนที่เราเลี้ยงหนูมานี่เท่ากับศูนย์เลย เหมือนโดนโปรกระชากวิญญาณออกไปตอนนั้นเลย

         ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนธันวาคม ขณะที่เพื่อนร่วมแลบของเราผ่าหนู เก็บตัวอย่าง และเริ่มวิเคราะห์ผลกันแล้ว แต่เราต้องเริ่มทำทีสิสใหม่ ใหม่ในที่นี้ คือ เริ่มใหม่หมดเลย ตั้งแต่ศูนย์ คือ เริ่มอ่านงานวิจัยใหม่ เริ่มวางแผนใหม่ ออกแบบการทดลองใหม่ หาแฟคเตอร์ที่จะเอามาวัดใหม่ คือตอนนั้นเราดาวน์มาก ร้องไห้ บอกแม่ เราไม่ไหวแล้ว เราไม่โอเคเลย ทำไมเขาทำกับเราแบบนี้ เราอยากกลับบ้าน เราไม่อยากทำแล้ว แม่เราฟังเราบ่นจนแม่สงสาร แม่พูดมาว่า กลับบ้านเราไหม แม่ไม่ว่าอะไรหรอก 

       สำหรับเรานะ คำนั้นของแม่ที่แม่บอกว่า 'กลับบ้านเราไหม' คือ เหมือนมันเป็นแรงผลักให้เราอยากทำให้ได้ อยากอยู่ต่อ ทำให้มันเสร็จ เอาวะ มันคงไม่ตายหรอก นั่นแหละ ที่มันทำให้เราเลยกลับมาเริ่มใหม่ได้อีกครั้ง ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวไหมนะ แต่ว่านั่นคือสิ่งที่ทำให้เราอยู่ต่อมาจนถึงวันนี้แหละ :)
  • 21.07.2015 - 21.07.2017 It has been 2 years already!

         ที่เลือกมาเขียนวันนี้ เพราะวันเป็นวันครบรอบ 2 ปีพอดี ที่เรามาอยู่ที่นี่ด้วยแหละ เราผ่านอะไรมาเยอะมาก ทั้งดี ทั้งไม่ดี แต่จุดที่สำคัญ คือ เราผ่านมันมาได้ พอมองย้อนกลับไปถึงวันที่เรากลัวจนร้องไห้ หรือท้อจนไปต่อไม่ไหว พอเอากลับมาเล่าใหม่ มันก็กลายเป็นเรื่องตลก ไว้ให้เพื่อนที่เราเล่าให้มันฟังไว้ล้อกัน 5555555555 

         มาถึงตอนนี้ เราทำทีสิสเสร็จแล้ว เย้! เราพรีเซ็นต์งานเสร็จแล้ว เย้! เราส่งเล่มทีสิสให้หอสมุดและโปรเรียบร้อยแล้ว เย้! เรายื่นคะแนนสอบภาษาอังกฤษไปแล้ว เย้! สรุปคือ ตอนนี้ เราเรียนจบแล้ว โอ้เย~~~ สิ่งที่เหลือตอนนี้ คือ เหลือแค่รับปริญญาในเดือนหน้าค่ะ โอ้เย! ฮิ้ฮิ้

         สองปีที่ผ่านมา เรามักจะเศร้า และท้อแท้ หมดหวังกับเรื่องเรียน เรื่องแลบ เรื่องงาน แต่ว่าเรามีสิ่งสำคัญอยู่ 2 สิ่ง คอยฮีลให้ชีวิตเราดีขึ้นเสมอๆ

    • บ้งบ้ง (เจ้าหมาที่ป้ากับลุงเจ้าของหอเราเขาเลี้ยงไว้)
    • ธรรมชาติ

         สำหรับเรา เกาหลี, เมืองที่เราอยู่, เป็นอะไรที่อากาศดีมากๆ เพราะต้นไม้เยอะมาก และด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นภูเขาซะส่วนใหญ่ มันเลยแบบ มองไปทางไหนก็เห็นต้นไม้ เห็นภูเขา เห็นสีเขียวววว มันดีมากๆจริงๆ เราสามารถสูดหายใจเข้าลึกๆโดยไม่รู้สึกถึงมลพิษ แต่กลับรู้สึกสดชื่น หายใจได้เต็มปอดแทน

    ขออนุญาตใส่ภาพประกอบฮ้ะ :)

    ฤดูที่เราชอบที่สุด คือ สปริงงงงงงงงงง! เป็นช่วงที่ดอกไม้เริ่มจะผลิใบ ออกดอก รวมถึงดอกซากุระด้วย อิอิ หลังจากเหี่ยวแห้งเป็นก้านมานาน 555555 ท้องฟ้าจะสวยมาก อากาศสบายกำลังดี ประมาณสิบ กว่าๆ เรารักสปริงที่สุดดดดด
    ดอกนี้ดอกอะไรไม่รู้ แต่เราเรียกว่าดอกกระดาษ สวยดี ตัดกับสีท้องฟ้า :)
    เจ้าซากุระ กับฟ้าใสใส :)

         ที่จริงเรามีรูปอยากอัพใส่เต็มไปหมดเลย แต่ก็กลัวจะรกตาทุกคนเกินไป 5555 เราเลยจะลงเพิ่มอีกนิดนึง ประมาณว่าฤดูละรูปงี้ 55555 

    เท่านี้พอก่อน แค่นี้ก็อาจจะโดนด่าไปสามบ้านแปดบ้านแล้ว ว่าจะใส่รูปอะไรนักหนา 5555555555555 ความจริงคืออยากใส่เยอะๆมากกว่านี้ เผื่อวันไหนเข้ามาอ่านจะได้ดูรูปไปด้วยงี้ แต่ไม่เป็นไร เท่านี้พอ อิ้


          ลืมไปแล้วเนี่ย ว่าตั้งใจจะเขียนอะไรกันแน่ 5555555555 สมาธิสั้นไปอีก 
         
         อ๋าาาา แค่อยากจะเขียนเก็บไว้ ว่าเออ คนคนนึงที่ไม่เคยจากบ้านไกลๆแต่กลับต้องมาใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศคนเดียวคนนี้ สามารถมีชีวิตรอด และสามารถอดทนอยู่ได้ถึง 2 ปี!! แถมยังถูไถๆลากตัวเองมาจนจบได้ ต้องยอมรับกับตัวเองว่า เป็นคนที่ถึกมากจริงๆ 55555555555
         อยากจะขอบคุณตัวเองอีกที ที่อดทนจนมาถึงวันนี้ได้ ถ้าหากตอนนั้นหนีกลับบ้านไป ก็ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง คงผิดหวังในตัวเองไม่น้อย แต่ก็นั่นแหละ สุดท้ายเราก็ผ่านมาจนถึงจุดนี้จนได้ ดีใจเป็นบ้า :) 
    เก่งมากเจ้าอ้วน!!
         ตอนนี้ก็รอแค่นับวันกลับบ้านแล้วนะ อีกนิดก็จะได้กลับไปนอนเตียงนุ่มๆ กินข้าวอร่อยๆ เล่นกับเจ้าหมา ชวนเพื่อนไปกินหมูกระทะ และก็ไปเดินเล่นตลาดแล้วนะ อดทน ฮึ๊บๆ มาช่วยเราเค้าท์ดาวน์ได้นะ 555555555555555555

    เหลืออีกแค่ 42 วัน เท่านั้นแหละ ฮิ้ฮิ้

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Glacierjan (@glacierjan)
เมืองบรรยากาศดีมากๆเลย ยินดีด้วยนะคะ
404notfound (@aonyermaduck)
@glacierjan ขอบคุณค่ะ :) รูปที่ลงเป็นบริเวณมหาลัยซะส่วนใหญ่เลยค่ะ มอเรานี่ทีแต่ภูเขากีบต้มไม้ 5555 โปรชอบชวนไปปีนเขาค่ะ ตามสไตล์คนเกาหลี