เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Movie Murmur8dashslash
The Journalist (2022)
  • ขอเขียนไว้เน้น ๆ ตั้งแต่เริ่มเอนทรี่เลยว่า "spoiled alert"
    มันไม่ใช่การรีวิวค่ะคุณกิตติคะ มันคือการเก็บบันทึกทุกอย่างที่ตัวเองคิดระหว่างดูซีรี่ส์เรื่องนี้เอาไว้ค่ะ

    ขอออกตัวก่อนเลยว่าปกติเราไม่ใช่แฟนซีรี่ส์ญี่ปุ่นขนาดนั้น
    และมีติดภาพสเตอริโอไทป์ของซีรี่ส์ญี่ปุ่นอยู่พอสมควร (ซึ่งสเตอริโอไทป์พวกนั้นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เราไม่ค่อยได้ดูซีรี่ส์ญี่ปุ่นด้วยนั่นแหละ) แต่ต้องยอมรับว่าซีรี่ส์เรื่องนี้แทบไม่มีอะไรแบบนั้นเลย 
    และถึงอย่างนั้นก็ยังทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นญี่ปุ่นอยู่ได้ ซึ่ง.. ก็นะ.. เอาจริง ๆ ความเป็นญี่ปุ่นมันก็มีหลาย ๆ อย่างที่ชัดเจนมากอยู่แล้ว อย่างเช่นแค่คุณพี่ถ่ายออฟฟิศมาเราก็รู้สึกได้ถึงญี่ปุ่นอย่างอัดแน่นแล้วค่ะ มันจะมีประเทศไหนในโลกอีกคะที่เราต้องนั่งใกล้ชิดสนิทแนบกับเพื่อนร่วมงานโต๊ะข้าง ๆ ขนาดนั้นโดยไม่มีแม้แต่พาทิชั่นกั้นแต่เราก็ยังสามารถทำงานอยู่ได้โดยที่มีสมาธิเต็มเปี่ยมอะค่ะ 
    (ที่พูดมานี่ไม่ได้ใส่อารมณ์หรือความรู้สึกส่วนตัวลงไปเลยนะ.. ไม่มี๊..) หรือฉากร้านอาหาร ฉากกินข้าวกับพนักงานรุ่นพี่ แค่เห็นก็.. โอ๊ย โดนความญี่ปุ่นกระโดดเข้ามาตบอยู่แล้ว

    ซีรี่ส์เรื่องนี้เกี่ยวกับนักข่าวที่มีความหลัง? ความแค้น? ส่วนตัวกับรัฐบาลปัจจุบันและต้องการเปิดโปงความจริงเรื่องการคอรัปชั่นของรัฐบาลให้ประชาชนได้รู้ (สรุปได้ห่วยมากรู้ตัว แต่จะเขียนไงดีวะ..)
    ตอนแรกเลยนึกว่าจะมุ่งมาที่อิมแพ็คของตัวนักข่าวนี่เป็นหลัก อย่างที่ซีรี่ส์สายอาชีพส่วนใหญ่ชอบทำ เช่นว่าอาชีพนักข่าวมีความสำคัญอย่างงี้และสร้างอิมแพ็คได้อย่างงี้นู่นนี่นั่น

    แต่นี่ไม่ใช่เลยเว่ย
    ดูเสร็จแล้วคุณจะรู้สึกเลย (อย่างน้อยก็เรา) ว่าทุกอาชีพและประชาชนทุกคนมีอิมแพ็คทั้งหมด
    ถ้ามีนักข่าวคนนี้คนเดียวที่อยากเปลี่ยนแปลง อยากเปิดโปงความฉ้อฉลของรัฐบาลแต่คนอื่น ๆ ไม่ยอมเอาด้วย เรื่องก็จะไม่สามารถมูฟไปไหนได้ 

    ในเรื่องมันไม่ได้มีการชิงไหวชิงพริบอะไรมากมายเลยที่จะโน้มน้าวอีกฝั่งให้ยอมมาเป็นพวกตัวเอง เพื่อที่ในท้ายที่สุดฝ่ายธรรมะจะได้ชนะอธรรม ..มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย แต่ละตัวละครเป็นคนเลือกด้วยตัวเองทั้งนั้นในท้ายที่สุดแล้ัวว่าจะทำอย่างไร โคตรมูฟ โคตรจะเป็นเมสเสจว่าการเปลี่ยนแปลงมันเกิดขึ้นได้ทั้งนั้นถ้าเราทุกคนเลือกที่จะเริ่มเปลี่ยนตั้งแต่ตอนนี้ที่ตัวเอง และไม่เพิกเฉยต่ออำนาจและความไม่ยุติธรรม

    นอกเหนือจากนั้นต้องถือว่าเป็นเรื่องที่รวมพ้อยท์หลัก ๆ ในสังคมญี่ปุ่นตอนนี้มาพอสมควร
    ทั้งเรื่องการฝากอนาคตไว้ที่คนรุ่นใหม่ ทั้งเรื่องที่คนญี่ปุ่นรุ่นใหม่แทบจะไม่สนใจการเมือง ไม่สนใจแม้แต่ข่าวหนังสือพิมพ์ เรื่องโอลิมปิก เรื่องการจัดการซัพพอร์ทผลกระทบจากโคโรน่าไวรัส เรื่องพาวเวอร์ฮาราสเม้นในที่ทำงาน ฯลฯ คือ.. เยอะ.. อาจจะแตะแต่ละประเด็นแต่ละนิดละหน่อย แต่รวมมาได้ครบมาก

    สรุปก็คือ.. ชอบ
    ตอนดูก็โคตรอึดอัดเลย รู้สึกว่าเรื่องมัน...โอ้ยยย ทำไมไม่ไวกว่านี้ มันแบบ... โอ้ย อึดอัด ทุกอย่างมันจะรู้สึกเนิบ ๆ กดดัน ช้า ๆ ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่ง.. เป็นความช้าที่ไม่ได้ทำให้เราต้องกรอเร็วนะ lol 
    แอบคิดว่าเค้าตั้งใจเปล่าวะ ให้เรารู้สึกถึงคนที่ได้รับความไม่ยุติธรรมอยู่ ว่าการจัดการทุกอย่างมันช่างเป็นไปอย่างเชื่องช้าและทรมานสำหรับพวกเค้าเหลือเกิน...

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in