เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เดินเที่ยวไปด้วยกันthefirstofmine
สัตหีบ: สามคน สามหาด หนึ่งพิพิธภัณฑ์





  • ในที่สุดก็ถึงวันหยุดแรกของเดือนเมษา ที่ไม่ใช่วันหยุดเสาร์อาทิตย์นะ

    คืองี้ เมื่อวันจันทร์ที่ 3 เมษายน 2017 เกิดนึกคึกอะไรไม่รู้ ฝ้ายกับคุ่นบ่นว่าอยากไปเที่ยว เราก็เลยไปร่วมแจม ไปๆ มาๆ พฤหัสนี้วันหยุดพอดี ก็เลยชวนกันไปเที่ยว คิดกันอยู่ว่าจะไปทะเลไหน ฝ้ายก็บอกขึ้นมาว่า ไปสัตหีบกัน ก็เลยมาหาๆ ดูว่าไปหาดไหนกันดี แล้วฝ้ายก็ส่งกระทู้แนะนำหาดน้ำใส เราๆ ก็เห็นว่าน่าสนใจ นี่คือจุดเริ่มต้นของทริป

    วันอังคารที่ 4 เมษายน 2017 คุ่นก็มาเช็คสภาพอากาศ อื้อหือ เมฆครึ้มจนถึงวันอาทิตย์ แล้วคิดว่าทริปของเราจะยกเลิกหรอ ไม่ค่ะ เราก็เลยช่วยๆ กันหาแผนสำรองเผื่อว่าฝนตก ก็ไปตกอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย อยู่ใกล้ๆ กันนี่แหละ แถบแสมสารเหมือนกัน

    วันพุธที่ 5 เมษายน 2017 ก็ลุ้นกันอยู่ว่าฝนจะตกมั้ย แต่ถ้าฝนตกก็หายห่วงแล้ว มีแผนสำรอง

    วันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน 2017 วันหยุดของเรามาถึงแล้ว เราสามคนนัดเจอกันที่ Airport Rail Link ลาดกระบัง ประมาณ 0930 แล้วก็ขับไปทางมอเตอร์เวย์ จนเข้าตัวจังหวัดชลบุรี 




    พึ่งแต่ Google Maps จนหลงหลายรอบกว่าจะถึงสัตหีบ เท่านั้นยังไม่พอ Google Maps ยังพาเข้าป่าเข้าดง (มีถนนผ่าน แต่ไม่ใช่ถนนสายหลัก) ก็เข้าใจนะว่ามันลัด แต่ก็กลัวไปโผล่อีกที่เหมือนกัน

    ระหว่างทางก็มีฝนตกปรอยๆ บ้างให้หวั่นใจเล่นๆ ตลอดเวลา



    พวกเราออกจากกรุงเทพตอน 0930 ถึงหาดน้ำใสตอน 1145 ได้ ก็งมทางกันไปเรื่อยๆ 
    ไม่ขอบอกรายละเอียดทางนะ เพราะกลัวคนอื่นหลงตามพวกเรา ฮือออ


    พอเข้ามาตอนแรกก็คิดว่าคนไม่เยอะหรอก แต่พอถึงที่จอดรถเท่านั้นแหละ 
    คนหรือกองทัพมด

    เมื่อถึงที่จอดรถ ก็ออกมาเสียค่าบำรุงสถานที่ คนละ 15 บาท ที่ป้อม แล้วก็จะมีรถสองแถวเอาไว้บริการจากที่จอดรถไปถึงหาด ข้างทางก็จะมีศูนย์อาหารไว้บริการด้วย

    ขามานี่ฝนตกประปรายตลอดทาง แต่พอถึงหาดน้ำใสเท่านั้นแหละ แดดเปรี้ยงมาเลย

    พอมาถึงที่หาด ก็พบว่า ที่คิดว่าที่จอดรถคนเยอะแล้ว ที่หาดคนก็เยอะกว่าอีกหลายเท่า เห็นแล้วท้อ แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว เราก็จะไม่ให้เสียเที่ยว


    นอกจากศูนย์อาหารแล้ว ก็ยังมีบ้านพักรับรอง และจุดให้บริการดำน้ำ สำหรับผู้ใหญ่ 250 บาท ของเด็กเราจำไม่ได้ orz 

    อาหารบริเวณศูนย์อาหารไม่ได้แพงอย่างที่คิดนะ เรียกได้ว่าเป็นราคาปกติเลยล่ะ

    หลังจากที่แวะกินข้าวเสร็จ ก็ตกลงกันว่า แดดร้อนเหลือเกิน ร้อนแบบ แค่เดินไปห้องน้ำก็จะหมดแรงแล้ว ก็เลยว่าจะไปพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยกันแทน

    แต่ก่อนจะไปก็ว่าจะไปเดินเตะๆ น้ำทะเลกันก่อน


    น้ำทะเลที่นี่ใสสมชื่อหาดน้ำใสเลยล่ะ ใสจนอยากที่จะเล่นน้ำต่อเลย ถ้าไม่ติดว่าแดดร้อนมาก แดดตอนเที่ยงนี่แหละ ร้อนแทบเผาเลย


    จากนั้นเราก็งมทางไปพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยกันต่อ 
    จากตอนแรกที่เป็นแผนสองหนีฝน กลับเป็นแผนหนีร้อนกันแทน

    จริงๆ จะเดินไปจากหาดน้ำใสก็ได้ แค่ไม่กี่นาที แต่เราคิดผิด ขึ้นรถกันไป ก็ขับวนอยู่อย่างนั้นแหละ หาทางออกเพื่อไปพิพิธภัณฑ์กัน

    ระหว่างทางที่ขับไปก็จะผ่านสโมสรหาดน้ำหนาวด้วย ขับเข้าซอยไปเรื่อยๆ แล้วจู่ๆ ฝ้ายก็บอกว่า ทะเลตรงนี้สวยจัง น้องก็หักเลี้ยวเข้ามาตรงลานจอดรถเลย ดีที่ไม่มีรถตามหลังมา ไม่งั้นโดนสวดยับแน่


    แต่วิวตรงนี้สวยจริง แถมมีทางลงไปด้านล่างด้วย ตอนแรกก็ไม่คิดว่าสูงหรอก จนกระทั่งเดินลงไปเอง ขาสั่นมาก นอกจากจะสูงแล้ว ระหว่างขั้นบันไดก็ยังสูงตามไปด้วย orz

    เสื้อที่ฝ้ายใส่เป็นเสื้อ manchild ของหนุ่มภูมิ วิภูริศ สามารถตามฟังเพลง ติดตามผลงานได้ที่ FB TW

    แนวโขดหินมีหอยตัวเล็กๆ อยู่เต็มไปหมดเลย วิวสวยด้วย พอดูจากข้างล่างมองออกไปก็ยิ่งสวย

    เสร็จแล้วก็ขึ้นรถต่อไปพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ตั้งอยู่บริเวณเขาหมาจอ 

    น้องปลาฉลามเสือดาว

    ใครเอ่ยไม่เข้าพวก

    ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าต้องเดินขึ้นเขา มารู้ตอนซื้อบัตรไปแล้ว orz แต่ก็สู้ ไหนๆ ก็มาถึงแล้ว

    ลืมบอก ค่าบัตรเข้าพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติเกาะและทะเลไทย ของผู้ใหญ่ 50 บาท ของเด็ก 20 บาท

    ตอนที่พวกเราไป สามารถเข้าชมอาคารที่ 1, 2, 3 แล้วก็จุดชมวิวด้านบนเป็นอาคารที่ 5

    บันไดไม่ชัน แต่สูงพอควร ควรดูกำลังตัวเองให้ดีก่อนจะหมดแรงระหว่างทางนะ

    ภายในอาคารต่างๆ จะมีนิทรรศการให้ชมกัน อาคารแรกสุดจะมีไดโนเสาร์ด้วย



    อาคารที่ 2 เดินขึ้นไปอีกหน่อย มีเล่าเรื่องป่าชายเลยด้วยล่ะ


    มีคำถามน่าสนใจ / คำถามชวนสงสัยด้วย


    ส่วนอาคารที่ 3 เราไม่ได้เข้า เพราะตัดสินใจกันว่า ขึ้นไปจุดชมวิวด้านบนเลยดีกว่า



    แต่ 





    แต่





    แต่



    ระยะทางที่จะขึ้นไปจุดชมวิว เรียกได้ว่าลากขากันขึ้นไปก็ได้



    แรกๆ ก็เป็นทางเดินปกติ ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ แต่พอถึงจุดๆ นึง เป็นบันไดสูงขึ้นไปเรื่อยๆ 


    แต่อย่างน้อยก็ยังมีที่นั่งให้นั่งพักระหว่างทางเดินขึ้นบ้าง 
    เดินขึ้นไป ก็หอบไป แอบดีใจที่เชื่อคำพูดของเจ้าหน้าที่ที่ให้ซื้อน้ำก่อนเดินขึ้นมาด้านบน
    วิวด้านบนก็สวย คุ้มกับที่ลากขาขึ้นมาด้านบน



    จริงๆ มีจุดชมวิวก่อนขึ้นมาด้านบนนิดนึงด้วย 




    ทั้งนั้นและทั้งนี้ จุดชมวิวด้านบนสุดเป็นจุดที่ลมเย็นมาก มีที่ให้นั่ง วิวที่มองออกไปสวย และคุ้มกับการเดินขึ้นมาดูด้านบนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก




    แต่ขากลับเราไม่ได้กลับทางเดิมที่อ้อมเขานะ แต่กลับอีกทางนึงที่เป็นทางตรงเลย สูงเหมือนกัน แต่ชมวิวริมทะเลได้ตลอดทางเลย แถมยังมีจุดพักชมวิวระหว่างทางด้วย 

    กว่าจะเดินลงไปถึงข้างล่างก็ขาสั่นกันไปเป็นแถบ 

    พอลงมาข้างล่างเราก็ไปเอารถขับไปตรงท่าเรือที่เราเห็นจากด้านบน ซึ่งมันไม่ไกลเลย แต่เพื่อความสะดวกขากลับ ก็เลยขับเข้าไป 


    คุ่นบอกว่า เห็นแล้วนึกถึงฉากใน La La Land เลย

    ขอบคุณนางแบบกิตติมศักดิ์มา ณ โอกาสนี้ด้วย


    หลังจากเดินชมวิว ตากลม ถ่ายรูปกันซักพัก ก็ขึ้นรถไปหาดนางรำ หาดนางรอง เพื่อเล่นน้ำกัน 

    ถามว่ารอบนี้หลงมั้ย 

    หลงอีกแล้ว

    แต่เราก็มาถึงกันจนได้


    หาดนางรำ หาดนางรอง อยู่ใกล้กันมาก 

    ฝ้ายเองก็จัดแจงเปลี่ยนชุดเตรียมลงเล่นน้ำเต็มที่ เรากับคุ่นก็ไปยืนเตะๆ น้ำ โดนน้ำซัดขึ้นมาเป็นระยะๆ ส่วนฝ้ายนั่งจ๋อมลงในน้ำเรียบร้อย ไปๆ มาๆ เหมือนจะเปียกกันถ้วนหน้า


    เมฆเยอะมาก แต่แสงก็สวยมากเช่นกัน 

    เจ้าหน้าที่บอกว่าห้องอาบน้ำจะปิดให้บริการตอน 1800 ก็เลยรีบไปอาบน้ำกันก่อน พอจะขึ้นรถกลับก็ถึงเวลาดวงอาทิตย์ตกพอดี ก็เลยลงจากรถ ไปถ่ายรูปกันก่อน



    บรรยากาศดวงอาทิตย์ตกทะเลเป็นอะไรที่ดูแล้วเพลินตาเพลินใจมาก



    หลังจากนั้นเราก็งมทางกลับไปมอเตอร์เวย์กัน โดยพึ่ง Google Maps เช่นเคย และมันก็พาเราไปทางลัด แต่ยิ่งกว่าเมื่อเช้าซะอีก ถนนหนทางมืดมาก ถนนตัดเข้าไปถึง แต่ไร้ซึ่งแสงไฟ มีแต่แสงจากรถที่ขับผ่านเส้นนั้นเท่านั้น

    ระหว่างทางขากลับ ฝนก็ตกจ้า ตกปรอยๆ เป็นระยะๆ ตลอดทางมอเตอร์เวย์เลย 

    และแล้วเราก็ถึงบ้านกันโดยปลอดภัยทุกคน โดยมีคุ่น เป็นสารถีคอยขับรถให้พวกเราตลอดทั้งวัน มีเพลงให้ฟังเพลินๆ ทั้งวัน โดยฝ้ายและคุ่น ส่วนเราก็คอยแอบถ่ายรูปทุกๆ คน ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว

    ขอบคุณที่ทำให้เกิดทริปนี้ 

    ขอบคุณที่สร้างความสุข และรอยยิ้ม

    ขอบคุณ @Fray_04 และ @ofdustspace สำหรับการเดินทางทริปนี้ด้วย


    สุดท้ายนี้ก็อยากจะขอฝาก Minimore ของฝ้ายและคุ่นไว้ด้วย (แอบบอกว่าเทสต์การฟังเพลงของสองคนนี้ดีกว่าเรามาก เรามันฟังเพลงในโลกเล็กๆ ก็ได้ 2 คนนี้และหลายๆ คนแนะนำเพลงให้เราฟัง)


    Minimore ของฝ้าย

    Minimore ของคุ่น

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
liamingxoxo13 (@liamingscods)
สวัสดีค่ะ เราอิงนะคะ เราเป็นเจ้าของแอคเค้าท์ @wanderlustxo13 หรือคนทำแฟนวิดเจ้าสิบสองคลาร่า จะมาบอกว่าเราอยู่สัตหีบ555 เราเป็นคนพื้นเพตั้งแต่เกิดค่ะ สัตหีบเป็นอำเภอที่มีทะเลสวยมาก ดีใจมากๆ เลยนะคะที่ชอบบ้านเรา มาเที่ยวอีกนะคะ