เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Triple n x Japannanadia
Triple N x Japan [Ep.1] หนึ่งวันใน 'โตเกียว'
  • เริ่มกันที่วันแรกกันเลยค่ะ อย่างที่บอกไปตอนแรกนะคะว่าเราจะเน้นไปที่แถบ"คันไซ"เสียส่วนใหญ่ แต่วันแรกที่เราไปถึงนั้น เราไปโผล่ที่โตเกียวจ้า555 เราไม่ได้ลงที่สนามบินคันไซนะคะซึ่งสนามบินคันไซเนี่ยจะอยู่ที่โอซาก้าค่ะ แต่ว่าเราไปลงที่สนามบินนาริตะกันค่ะอยู่โตเกียว พอเหยียบเข้าสู่โตเกียวแล้วเพลง tokyo drift ก็แล่นเข้าสู่สมองอย่างอัตโนมัติ555 เราออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองในเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ถึงสนามบินนาริตะเวลา 8.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของที่ญี่ปุ่นเลยค่ะ หลังจากนั่งหลังขดหลังแข็งมา 6 ชั่วโมงก็หิวมื้อแรกคือเซเว่นไปเลยจ้า555 พอหลังจากที่เรากินข้าวเช้าอันแสนสดใสนั้นก็เริ่มเดินทางจากสนามบินนาริตะเข้าสู่เมืองโตเกียวกันเลยฮะ เราก็จะนั่งรถไฟจากสนามบินนาริตะ Keisei Main Line มุ่งหน้าสู่สถานี Keisei Ueno กันเลยจ้า

    เห็น Tokyo tower อยู่ไกลๆด้วยค่ะ
    นั่งมาเรื่อยๆก็มาโผล่ที่สถานี Ueno กันแล้ว

    หลังจากที่เราเดินทางมาสู่โตเกียวแบบเต็มๆกันแล้วนั้นการออกเริ่มผจญภัยในญี่ปุ่นก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการโดยสถานที่แรกของเรากับพี่ๆคือไปที่ตลาด Ameyoko หรือ ตลาด อาเมะโยโกะ นั่นเองค่ะ ภายในตลาดก็คล้ายๆกับบ้านเราอีกเช่นเคย ใดๆในโลกล้วนคล้ายกันเสมอ555 หลังจากที่ออกมาจากสถานีรถไฟแล้วนะคะก็เดินออกมาเรื่อยๆเดินมาไม่กี่ก้าวเท่านั้นค่ะก็เจอกับซอยๆหนึ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นทางที่เข้าตลาดก็ตัดสินใจเลี้ยว ฟวั้บ เข้าไปเลยฮะ แต่เราชอบอย่างหนึ่งของญี่ปุ่นนะสังเกตมาตลอดเลยว่าเวลาที่ได้ไปตลาดอะไรแบบนี้ พ่อค้าแม่ค้าแต่ละคนจะออกมาร้องเชียร์สินค้าของตัวเองอย่างไม่มีใครยอมใครเลยค่ะ ไอเราก็ฟังไม่ออกหรอก แต่มองไปมองมาก็คิดว่าน่ารักดีนะทุกคนทุ่มเทกับอาชีพของตัวเองดี เราชอบๆ 





    เดินไปได้ซักพักเริ่มหิวกันแล้วค่ะ อาหารญี่ปุ่นจานแรกของเราก็เกิดขึ้นค่ะ เดินไปเรื่อยๆพร้อมเช็คราคาอาหารแต่ละร้านว่าเป็นยังไงบ้าง ก็เจอกับร้านที่ถูกใจก็มุ่งหน้าเข้าไปเลยฮะ ก็ได้เมนูนี้มา คุ้ม ราคาใช้ได้ และที่สำคัญ อิ่มด้วยค่า

    หลังจากที่เราเดินเล่นที่ตลาดอาเมะโยโกะไปจนอิ่มหนำสำราญนะคะ เราก็มีภารกิจที่อยากทำตั้งแต่ตอนที่อยู่เมืองไทยแล้วคือ การเดินข้ามถนนที่ ห้าแยกชิบูย่า และไม่ใช่เดินแค่แยกเดียวต้องทุกแยกไปเลยค่ะทั้งหมดห้าแยก เหมือนเป็นโรคจิต555 เราก็ทำการนั่งรถไฟฟ้าเหมือนเดิมค่ะจากสถานี Ueno ไปที่ สถานี Shibuya ค่ะ 

    เมื่อถึงสถานี Shibuya นะคะเราก็เดินออกมาเรื่อยๆเลยค่ะจำได้ว่าทางที่เราเดินเนี่ยมันเหมือนเป็นห้างด้วยส่วนหนึ่งแต่จำไม่ได้ว่าห้างอะไร เดินออกมาปุ๊ปก็เจอกับอนุเสาวรีย์ ฮาจิโกะ ค่ะเพื่อนๆหลายคนคงจะรู้จักกันมาบ้างกับประวัติสุนัขผู้ซื่อสัตย์ตัวนี้ลองหาอ่านดูได้นะคะหรือไม่ก็ภาพยนตร์ที่เราอยากแนะนำทุกคนมากเลยหลายๆคนก็น่าจะเคยดูชื่อเรื่องว่า Hachi: A Dog's Tale(2009) ชื่อไทยคือ ฮาชิ...หัวใจพูดได้ รับรองว่าถ้าทุกคนได้ดูต้องมีน้ำตาซึมแน่ๆค่ะ ยังไงถ้ามีโอกาสก็ลองดูได้นะคะ









  • และแล้วช่วงเวลาที่เรารอคอยก็มาถึง ภารกิจเดินข้ามแยกชิบูย่าให้ครบห้าแยกกกก555  เอาล่ะค่ะเราก็เดินต่อมาเรื่อยๆเลยจากอนุเสาวรีย์ ฮาชิโกะ ก็มาถึงห้าแยกชิบูย่าแล้วนะคะเดินมานิดเดียวก็ถึงค่ะ มาทำความฝันของเราให้เป็นจริงกันและเรากับพี่ก็ทำสำเร็จด้วยนะเออ555 เพื่อ???? จริงๆแล้วมันก็คือการข้ามทางม้าลายปกติธรรมดาเนี่ยแหละแต่เรากับพี่เห็นว่ามันมีตั้งห้าแยกเราก็เดินให้ครบห้าแยกไปซะเลยเอาให้คุ้มเพราะเราอยู่โตเกียวแค่วันเดียวก็ลุยเลยจ้า การเดินก็จะวุ่นวายกันนิดนึงค่ะ คนเยอะสนุกดีเหมือนกัน555 คนแต่ละฝั่งเดินปะทะเข้าหากันเต็มๆ คนข้ามแยกนี้ก็จะเยอะหน่อย ไม่หน่อยอ่ะค่ะ เยอะมากเลยดีกว่า555



    พอเราทำภารกิจพิชิตห้าแยกชิบูย่าเสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินเล่นในโตเกียวกันต่อ เราจำไม่ได้ว่าที่ตรงนั้นเรียกว่าย่านอะไรแต่คือแบบว่า..... 18+ทั้งนั้นจ้า5555555 ขอขำแรงๆ ด้วยความที่ไม่รู้ไง ไปครั้งแรกไง ก็เดินมั่วๆไปก็คิดว่าเออก็ร้านปกติธรรมดาแต่ก็สังเกตว่า เอ๊ะ..ทำไมแต่ละร้านต้องมีรูปผู้หญิงใส่หูกระต่ายกับแว่นแบ๊วๆด้วย ตอนแรกก็โลกสวยคิดว่าอาจจะเป็นร้านถ่ายรูปเหมือนตู้ purikura ที่เราฮิตไปถ่ายที่สยามกันตอนนู่น แต่..ไม่ใช่ฮะ เดินไปเรื่อยๆก็เริ่มคิดล่ะว่าร้านถ่ายรูปแบบนี้เหตุใดมีเยอะเหลือเกินคะ55555 จึงตรัสรู้ได้เองเรื่อยๆว่ามันไม่ใช่ที่ที่อิฉันควรมาเดินเจ้าค่ะ5555555 18+ทั้งน้าน มีหลายร้านหลายราคาให้เลือกสรร แต่ว่าเราไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะว่าร้านไหนดีร้านไหนดัง555 ดังนั้นเมื่อรู้ตัวก็เดินกลับซิครับรออะไร หลังจากที่เราเริ่มรู้สึกว่าเต็มอิ่มกับชิบูย่าแล้วก็ทำการนั่งรถไฟฟ้าอีกเช่นเคยไปที่ชินจูกุค่ะ เพราะว่าเวลา 22.00 น. เราและพี่ๆจะต้องนั่งรถบัสเพื่อมุ่งหน้าไปยังเกียวโตค่ะเมื่อมาถึงชินจูกุแล้วนะคะก็ทำการฝากกระเป๋าก่อนเลยอันดับแรกเพราะแบกมาเกือบ10โลเจ็บบ่าไปหมดแล้วจ๊ะพี่จ๋า หลังจากนั้นก็ไปหาอะไรกินดีกว่าเป็นอาหารมื้อเย็นก่อนที่เราจะต้องนั่งรถบัสไปอีกเมืองหนึ่งค่ะ ซึ่งร้านที่เราไปนะคะเป็นร้านราเมนค่ะ ร้านนี้เป็นร้านอาหารอิสลามเลยค่ะ ตอนแรกเราก็ไม่คิดว่าประเทศญี่ปุ่นจะมีร้านอาหารอิสลามด้วยแต่หลังจากที่เปิดรีวิวอ่านแล้วเห็นเขาบอกว่าอร่อยก็ลองเลยล่ะกันอ่ะ ก็ทำการเดิน ใช่ค่ะ เดินอีกแล้ว จะบอกว่าระยะทางการเดินจากสถานีรถบัสชินจูกุไปร้านอาหารนั้นไม่ใช่ใกล้ๆกันนะจ๊ะ ตอนแรกคิดว่าใกล้ก็เดินชิวๆไปที่ไหนได้เดินจนจุกกันไปเล้ย555 เมื่อมาถึงนะคะพนักงานที่ร้านนี้น่ารักมากกกก 

    ชื่อร้านว่า Sinjyukugyoen Ramen Ouka เรียกได้ว่าอ่านไม่ออกกันเลยทีเดียว5555
    นั่งติดบาร์กันเลยค่ะ เห็นทุกกระบวนการทำราเมนที่แท้จริง


    จะมีหลายไซส์ให้เลือกนะคะ เราเลือกไซส์ใหญ่ ผลสุดท้ายกินไม่หมดค่า 55555

    ลูกกลมๆอันนี้อร่อยมาก เป็นไก่ค่ะจิ้มกับน้ำจิ้มเปรี้ยวๆแล้วเข้ากันสุดๆเลย

    พอทานมื้อเย็นกันอิ่มแล้วก็เดินกลับไปที่รถบัสชินจูกุเหมือนเดิม จากที่ขาไปว่าจุกแล้วขากลับจุกกว่าค่ะ55555 ความประหยัดไม่ยอมนั่งรถนี้พร้อมด้วยเหตุผลที่ว่าเดินย่อยเอาล่ะกันของเรากับพี่เกือบทำกันอ้วกกลางทาง555 แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นแต่อย่างใดค่ะเมื่อมาถึงก็นั่งรอรถบัสเพื่อมุ่งหน้าไปสู่เมืองเกียวโตรถออกในเวลา 22.00 น. ถึงที่เกียวโต 6.00 น.ค่ะ ตอนนั้นเพิ่งรู้ว่าโตเกียวกับเกียวโตถ้านั่งรถบัสจะนานได้ถึงขนาดนี้ แต่โชคดีค่ะที่รถบัสที่เรานั่งเนี่ยมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างดีเลยค่ะ

    เนื่องจากตอนที่เราขึ้นรถนั้นไม่ได้มีโอกาสถ่ายรูปภายในรถค่ะเพราะว่าตอนนั้นก็มืดมากแล้วจึงไม่อยากรบกวนเพื่อนร่วมเดินทางของเรา จึงขอนำรูปมาอ้างอิงแล้วกันนะคะ (http://acoupletravelers.com)

    จากที่เห็นเลยค่ะเบาะที่นั่งนั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆค่ะเป็นของบริษัท W Willer Express ค่ะ จะมีที่ปิดหัวเอาไว้ด้วยถ้าไม่อยากให้ใครเห็นเราตอนนอนน้ำลายย้อยหรืออ้าปากหวอก็จงนำเจ้าตัวนี้มาปิดเอาไว้กันน้า อีกอย่างๆๆ มีปลั๊กให้ด้วยนะเออ เก๋กว่านี้ไม่มีอีกแล้วฮะ


    เมื่อกี้เราพูดถึงเรื่องปลั๊กไปอยากบอกเพื่อนๆว่าปลั๊กที่ไทยกับที่ญี่ปุ่นไม่เหมือนกันนะคะ ถ้าใครไปญี่ปุ่นก็อย่าลืมนำตัวแปลงปลั๊กไปด้วยนะคะหรือถ้าไม่ได้ซื้อเตรียมไปจากที่ไทยที่ญี่ปุ่นก็มีขายค่ะ แต่ต้องหาให้ดีๆน้า

    หลังจากนั้นเราและพี่สาวอีก 2 คนก็นั่งรถบัสจากโตเกียวไปเกียวโตอย่างแสนยาวนาน คืนนั้นก็ไม่ต้องสงสัยกันเลยค่ะว่าพวกเรานอนที่ไหน ถูกต้องค่า นอนมันบนรถนั่นแหละแต่ดีที่ว่าที่นั่งเขาก็สบายอยู่แต่ก็นะ นั่งหลับมันจะดีกว่านอนได้ยังไงล่ะคะ จริงมั้ยทุกคน5555 ครั้งนี้ก็จบการเที่ยวที่โตเกียวกันแล้ว 1 วันเต็มๆ ล้าไปทั้งตัวเลยค่ะ ครั้งหน้าก็จะเริ่มลุยเมืองเกียวโตกันแล้วนะฮะ เตรียมพร้อมกันให้ดีๆเน้อ 









Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in