เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
MovieTony Memento
Burning มือเพลิง
  • ประเด็นเรื่องชนชั้นที่ถูกนำเสนอภายในเรื่อง ผ่านสามตัวละคร


    จงซู ‘The Little  Hunger


    • โตมากับการที่มีพ่อที่มีความหยิ่งในศักดิ์ศรีสูงและมีความรุนแรงระดับนึง สังเกตได้จากการให้จงซูเผาเสื้อของแม่ที่หนีไปตั้งแต่ยังเด็ก และมีปัญหาชกต่อยกับเจ้าหน้าที่ รวมไปถึงความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมบ้านที่ไม่ค่อยจะดี ซึ่งก็สอดคล้องกับที่จงซูพูดถึงพ่อเค้า ให้เบนฟัง ตอนอยู่หน้าบ้านจงซู 

    • ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับจงซู ถือว่าค่อนข้างเปนความสัมพันธ์ที่เย็นชา ดั่งที่จะเหนได้จากฉากที่ขึ้นศาล ที่แทบไม่มองหน้าพ่อของเค้าเองด้วยซ้ำ 

    • จงซูอาจจะโกรธการกระทำของพ่อเค้าในอดีต ที่ไม่ยอมซื้อที่ดินในย่านกังนัม จนทำให้ชีวิตของเค้าต้องดิ้นรนดั่งเช่นตอนนี้ 

    • ฉากการช่วยตัวเองในห้องนอนของจงซู เปนการแสดงการปลดปล่อย และการสร้างความสุขให้กับตัวเค้าเอง การช่วยตัวเองเปนต้นทุนความสุขที่ถูกที่สุด ของคนชนชั้นล่าง ในขณะที่คนรวยนั้น มีทางเลือกในการหาความสุขได้มากมายหลายรูปแบบ เช่น การไปช้อปปิ้ง ไปเที่ยว ไปกินของอร่อยๆแพงๆ รวมไปถึงการซื้อบริการทางเพศ 

    แฮมี ‘The Great Hunger’


    • แฮมี เปนพริตตี้ หาเช้ากินค่ำ มีหนี้บัตรเครดิต เยอะแยะมากมาย ซึ่งถึงว่าสถานะของแฮมีก็ดูไม่ต่างจากจงซูเท่าไหร่ แต่แฮมีเอง มีความพยายามเปน Great Hunger (หิวโหยความหมายของชีวิต) มากกว่าจงซู ที่เปนแค่ Little Hunger 

    • ห้องของแฮมีนั้น ทั้งเย็นและหนาว โดยจะมีแสงสะท้อนจากตึกโซลทาวเวอร์เพียงครั้งเดียวของวันเท่านั้น เปรียบเสมือนสิ่งที่ชนชั้นล่างทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอคอยเพียงแสงสว่างมาตกกระทบที่ตึก 

    • ในหนังจะเหนว่า แฮมี เอง ก็เปรียบได้ดั่งกับ แมว ที่ชื่อ บอยด์ (การมี/ไม่มี ตัวตนของคนชนชั้นล่างในสังคม) ในวันที่ แฮมีหายไป ก็จะเห้นว่า ไม่ได้มีใครรู้สึกว่า ต้องออกตามหาแฮมี เหมือนที่จงซูพยายามตามหาเลย ทุกคนรอบตัวแฮมี ก็ต่างใช้ชีวิตตามปกติ (เพื่อนแฮมี และครอบครัวของแฮมี) ซึ่งก็เปรียบดั่งแมวในเรื่องที่ไม่มีใครจะสนใจหรอกว่ามีอยู่จริงมั้ย นอกจากตัวจงซูเอง สอดคล้องกับเบนเคยพูดไว้ ว่ามีเรือนเพาะชำจำนวนมากที่ไร้ประโยชน์มากมายในเกาหลี เปรียบเสมือนคนชนชั้นล่าง ที่ต่อให้หายตัวไปแบบแฮมี ตำรวจก็ไม่สนใจที่จะตาม 

    • ในฉากที่จงซุเจอแมวในบ้านของเบนนั้น เบนบอกว่าเปนแมวจรจัด ซึ่งก่อนหน้านี้จะเหนว่า เบนไม่เคยที่จะเลี้ยงสัตว์ใดๆมาก่อน จึงเปนไปได้ยากมาก ที่เบนจะเอาแมวจรจัดที่ไหนก็ไม่รู้มาเลี้ยงในบ้านของเค้า นอกเสียจากเปนแมวของแฮมี ซึ่งที่บอกไปข้างต้นว่า ตอนนี้แฮมีได้เปลี่ยนสภาพกลายเปนแมวตัวนั้นในบ้านของเบนเปนที่เรียบร้อยแล้ว 

    • เปรียบเสมือนแฮมี ที่เบนได้บังเอิญเจอ จนในที่สุดเค้าได้ครอบครอง และเปนผู้กำหนดชะตาชีวิตของแมวตัวนั้น ดั่งที่เค้าทำกับแฮมี จงซูได้แค่ช่วยออกตามหา ตอนที่แมวหนีออกมา แม้ว่าแมวจะโผเข้าหาจงซูก็ตาม แต่สุดท้ายเค้าก็ทำได้แค่เอาไปมอบคืนให้แก่เบน

    เบน ‘The Great Gatsby’


    • เราไม่รู้ว่า เบนในเรื่องทำงานอะไร แต่เบน บอกว่า งานของเค้าคือ เล่น ซึ่ง เล่นในที่นี้คือการเล่นกับชีวิตของชนชั้นล่างอย่าง จงซู และแฮมี นั่นเอง เบนชอบที่จะเล่น และศึกษากับคนชนชั้นล่างอย่างจงซู ว่ามีมุมมองในชีวิตอย่างไร อะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิตของจงซุ จะเห็นได้จากการถามถึงนักเขียนที่จงซูชอบ และหาหนังสือมาอ่านตาม 

    • เบนมองว่า การที่เค้าเปนชนชั้น Elite มันทำให้เค้ารู้สึกเหมือนเปนพระเจ้า จากฉากที่เค้าทำอาหาร แล้วพูดว่าเค้าชอบทำอาหาร เพราะเค้าได้ทำในสิ่งที่เค้าอยากทำ ด้วยวิธีที่เค้าพอใจ แล้วก็บอกต่ไปอีกว่า เค้าทำอาหารเพื่อเซ่นให้ตัวเค้าเอง ราวกับตัวเองเปนพระเจ้า 

    • หรือฉากที่เค้าคุยกับจงซูที่หน้าบ้าน แล้ว จงซูถามถึงเบน คุณตัดสินยังไง ว่าเรือนเพาะชำอันไหนไม่มีประโยชน์ เบนบอกว่า เค้าไม่ได้ตัดสิน แค่ยอมรับมัน (กฎธรรมชาติ) ก็เหมือนฝน ฝนตกทำให้น้ำท่วม พัดพาผู้คน เปนไปตามกฎธรรมชาติ (Parasite ฉากน้ำท่วม ที่ฝนตกในพื้นที่เดียวกัน แต่คนชนชั้นสูงไม่ได้รับผลกระทบจากการน้ำท่วม) 

    • ต่อมา เบนพูดถึงเรื่อง การดำรงอยู่พร้อมกัน ผมอยู่ที่นั่นแต่ผมก็อยูที่นี่ เปนการบ่งบอกว่า เค้าเปรียบเสมือนพระเจ้า สามารถไปอยู่ที่ไหนก็ได้ที่เค้าต้องการ เปนคนกำหนดการมีอยู่ของคนชนชั้นล่าง (ล้อกับ Elite ที่หลายคนจำกัดความว่าเป็นกลุ่มคนที่ Lead สังคม) 

    • ดังนั้นการที่เบนบอกว่าเค้าจะคอยกำจัดเรือนเพาะชำที่ไม่มีประโยชน์ ที่อยู่ใกล้ตัวของจงซูนั้นก็คือ แฮมี นั่นเอง ซึ่งกว่าที่จงซูจะรู้ตัวว่า เรือนเพาะชำที่เบนกล่าวถึงนั้น ไม่ใช่เรือนเพาะชำจริงๆ แต่เปนการเปรียบเปรย ก็สายไปเสียแล้ว 

      Elite คือ ชนชั้นนำ (ชนชั้นอภิสิทธิ์) ซึ่งหากเป็นสมัยก่อน ก็ได้แก่ พระมหากษัตริย์ และพระราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ ขุนนาง แต่สมัยนี้ เพิ่ม นักการเมือง นักวิชาการ นักธุรกิจ เข้าไปด้วย ซึ่ง มันทำให้ฐานของ Elite กว้างมากขึ้น เปนชนชั้นนำทางความคิดของสังคม


    ประเด็นฉากจบของหนัง


    หนังเล่าเรื่องผ่าน จงซู จะเหนว่าทุกฉากในหนังจะเปนมีจงซูอยู่แทบทั้งสิ้น ดังนั้นสิ่งที่เราได้จากในหนัง ก็น่าจะเปนข้อมูลเดียวกันกับที่จงซูได้รับ


    ฉากช่วงท้าย ที่เราเหนจงซูเริ่มเขียนหนังสือ ในห้องของแฮมีีนั้น หลังจากซีนนี้ เป็นจินตนาการของจงซูหรือเปล่า??


    เพราะหลังจากซีนนั้น เราจะเห็น เบนกำลังสวมคอนแทคเลนส์ และหยิบกระเป๋าแต่งหน้าออกมา ไปทาปากหญิงสาวคนใหม่ นี่เป็นซีนแรกของหนังหรือเปล่าที่ไม่มีจงซูอยู่ในซีน เพราะที่ผ่านมาเราแทบจะเห็นทุกอย่างที่จงซูเห็น แต่พอซีนนี้หนังกลับไม่มีจงซูอยู่ในนั้น เปนจินตนาการของจงซูเอง ที่เค้าไปพบเจอกระเป๋าแต่งหน้าในห้องน้ำของเบน แล้วเอามาสร้างเรื่องราวเปนดั่งที่เหนในช่วงท้ายของหนัง


    ดังนั้นฉากจบ เปนการจินตนาการของจงซูหรือไม่


    เพราะในโลกของความเปนจริง เค้าไม่มีทางที่ชนะเบนเลย ต้องเปนฝ่ายตามหลังเบนเสมอ  เช่น ตอนที่จงซูคอยแอบติดตามเบนไปยังที่ต่างๆ  จะเห็นว่ามีิอยู่ฉากนึง ที่เบนวิ่งออกกำลังกายบนลู่วิ่งสายพาน บนตึกที่อยู่สูงมากๆ แต่จงซู อยู่บนพื้นถนน ที่ดูต้อยต่ำเหลือเกิน  (เล่นระดับ เหมือนกับ Parasite)


    ดังนั้น การเขียนนิยาย จึงเปนทางเลือกเดียวที่เค้าสามารถเอาชนะเบนได้ จึงเปนที่มาของฉากสุดท้าย  ที่เค้าจะสามารถระบายความแค้นความอัดอั้นภายในใจทั้งหมดที่เค้าพบเจอมาก่อนหน้านี้กับเบน ผ่านมีดของพ่อเค้าเอง


    ฉากจบนี่เอง ค่อนข้างเหมือนกับ Parasite ของบองจุนโฮ ที้ทำให้เหนว่า สิ่งที่ปรากฎในหนังช่วงท้ายของทั้งสองเรื่องนั้น เปนได้เพียงแค่จินตนาการของคนชนชั้นล่าง


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in