1 (2010)

ดำเนินเรื่องน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพระหว่างมนุษย์กับมังกรที่ผูกพันและยอมรับในตัวกันและกันมากขึ้นเรื่อยๆ ชอบฉากฮิคคัพขี่เขี้ยวกุดบินครั้งแรกมาก ยิ่งช่วงหลังที่ฮิคคัพทิ้งคู่มือการบังคับทิศทางที่เขียนขึ้นมาเองไป ปล่อยความรู้สึกไปตามสัญชาตญาณอย่างเต็มที่ เป็นความรู้สึกที่ดูยิ่งใหญ่มาก ช่วงหลังอาจมีดราม่าบ้าง ทั้งเรื่องความสัมพันธ์พ่อลูก การเป็นไวกิ้งที่ทุกคนคุ้นชิน แต่จบได้ซึ้งและสมเหตุสมผลดี เป็นภาคที่ชอบที่สุด ดูเพลิน สนุกและตื่นเต้นตลอด

2 (2014)

ตัวละครมีพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากรูปร่างหน้าตาแล้ว ทั้งอารมณ์ ความคิด แม้จะยังรักอิสระ มีความไม่มั่นใจในตัวเองอยู่บ้าง แต่ก็ทำให้รู้สึกได้ว่าเจ้าเด็กขี้ก้างตัวป่วนประจำเผ่าได้โตขึ้นแล้วจริงๆ เขี้ยวกุดเองก็ดูทะเล้น ขี้เล่นมากขึ้น ส่วนแอสทริดจากลุคทอมบอยก็ดูเป็นสาวหวานขึ้นในแบบของเธอ ช่วงแรกเอื่อยๆ ฮิคคัพโลกสวยไปหน่อย ไม่ฟังคำทัดทานของใครทั้งนั้น แต่พอถึงฉากต่อสู้ดูอลังกาล น่าสนใจ และลุ้นดี มีความดราม่ามากกว่าภาค 1 แบบคาดไม่ถึงเลยจริงๆ สะเทือนใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็ชอบที่บทสมจริง เป็นการปูทางไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่และผู้นำอย่างสมบูรณ์ของฮิคคัพ แม้ภาคนี้จะรู้สึกเรื่อยๆ ไปบ้าง แต่ก็ยังชอบอยู่ ภาพสวย ไอเดียการประดิษฐ์อุปกรณ์ของฮิคคัพก็น่าสนใจ

The Hidden World (2019)

แค่เปิดตัวก็ตะลึงกับงานภาพแล้ว เมืองเบิร์คสวยมาก รวมทั้งที่อยู่ใหม่ และดินแดนลับ งานละเอียดมาก ก่อนไปดูตื่นเต้นกับเพลิงนวล แต่พอดูแล้วคิดว่าบทเน้นเรื่องเขี้ยวกุดเพลิงนวลจีบกันมากไป เนื้อเรื่องไม่แตกต่างจากภาคก่อนๆ เท่าไหร่ ตัวร้ายปูมาเหมือนเก่งมาก แต่กลับไม่โดดเด่นและแพ้ไปแบบง่ายๆ บรรดาผองเพื่อนดูมีบทมากขึ้น ได้ปล่อยมุก แสดงเสน่ห์เฉพาะตัวกันเต็มที่ ความสัมพันธ์ของฮิคคัพและเขี้ยวกุดยังคงเต็มไปด้วยความรักความผูกพันเหมือนเดิม แม้สุดท้ายจะต้องจากลา แยกย้ายไปมีชีวิตของตัวเอง รู้สึกเศร้าอยู่บ้างแต่ก็ยิ้มออก ส่วนตัวชอบบทของพ่อฮิคคัพมาก ไม่ว่าจะภาคไหนก็กินใจเสมอ แม้จะเสียดายที่ไม่บอกเล่าเรื่องราวของเหล่าเพื่อนๆ และชาวเกาะเบิร์คคนอื่นเลยว่าหลังจากที่มังกรจากไปชีวิตเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่ก็ยังเป็นภาคจบที่ลงตัว