หลายคนคงมีบางสิ่งบางอย่างหรือของบางชิ้นที่ประเมินค่าไม่ได้
ประเมินค่าในที่นี้ไม่ใช่เรื่องราคา หากแต่เป็นคุณค่าของสิ่งๆ นั้น
สำหรับฉันมันคงเป็นรองเท้าแตะคู่นึงที่สวมสบาย พอดีเท้ากับคนหารองเท้าใส่ยาก เพราะเท้าเท่าเด็กอนุบาล ด้วยเหตุนี้ฉันกับรองเท้าแตะสีดำจึงเป็นเพื่อนซี้คู่ใจกันมาสองปีเต็ม ไม่ว่าบุกน้ำลุยไฟที่ไหนก็ไปด้วยกัน เป็นธรรมดาที่สภาพมันจะเยิน มอมแมมเหมือนเพิ่งผ่านสงครามมาขนาดนี้
แล้ววันหนึ่งก็ถึงคราวที่ฉันเอามันมาขัดล้าง เพราะทนเห็นสภาพคลุกฝุ่นลุยฝนต่อไปไม่ไหว
ฉันว่าคนอื่นก็ทนเห็นต่อไปไม่ไหวด้วยเหมือนกัน
ขณะที่กำลังทำความสะอาดเจ้าเพื่อนซี้อยู่นั้น ฉันพบว่าสายคาดข้างๆ ขาดแล้ว อีกเพียงไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตรจะหลุดออกมาเป็นชิ้นส่วน ตอนนี้ความคิดที่จะใส่ออกไปข้างนอกตัดทิ้งไปได้เลย ฉันยุติการทำความสะอาดกะทันหัน ทั้งๆ ที่เพื่อนซี้ยังดำเมี่ยม กลัวว่าถ้าไปโดนมันมากๆ เข้า จะแย่ยิ่งกว่าเดิม ฉันโอดครวญ รู้สึกเศร้าขึ้นมาเฉย ก่อนจะหยิบมันไปวางมุมเสาอย่างจำใจ
"มันแพงเหรอลูก?"
พ่อผู้อยู่ในเหตุการณ์เอ่ยถามขึ้น จากที่เห็นความอาลัยอาวรณ์ที่มีต่อรองเท้าเยินๆ ของฉัน
ฉันส่ายหัวเล็กน้อยเป็นคำตอบให้
เช้าวันต่อมา แม่ซื้อรองเท้าคู่ใหม่มาให้ฉัน แทนคู่เดิมที่ปลดเกษียณตัวเองไปเรียบร้อย ภายนอกมันคล้ายเพื่อนซี้คนเก่า แต่ทว่าพอลองสวม กลับไม่พอดีเท้าและไม่สบายเท่า ว่าก็ว่าเถอะ ฉันไม่อยากตัดสินอะไรโดยการสัมผัสมันแค่ครั้งเดียวหรอกนะ ฉันจะให้โอกาสตัวเองทำความรู้จักเพื่อนใหม่
หากแต่สุดท้ายแล้ว โอกาสของฉันกลับมาทำร้ายตัวเอง
ฉันสะดุดล้มหน้าทิ่ม เพราะรองเท้ามันใหญ่เกินไป
...เจ็บ
ความรู้สึกเสียใจ หงุดหงิดประเดประดัง จนปล่อยโฮออกมา ฉันคิดถึงรองเท้าคู่เก่า อยากได้คู่เก่า ไม่เอาคู่นี้แล้ว
"ไม่เป็นไร ค่อยๆ เดิน" พ่อพูดปลอบ เมื่อเห็นลูกสาวเริ่มงอแง ร้องไห้เป็นเด็กๆ
เช้าวันต่อมา ฉันพบรองเท้าคู่ใหม่ที่เหมือนกับคู่โปรดวางอยู่หน้าประตูบ้าน พอสำรวจดูดีๆ มันไม่ใช่คู่ใหม่ แต่เป็นเพื่อนซี้ตอนผ่านการอาบน้ำขัดตัวของฉันเอง รอยขาดข้างๆ ก็ไม่มีอีกแล้ว ฉันแปลกใจว่าใครเสกให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม จนกระทั่งเหลือบไปเห็นกาวสำหรับติดรองเท้า แปรงขัด และกะละมังวางอยู่ใกล้ๆ
น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
"พ่อซ่อมให้แล้ว พอใส่ได้มั้ยลูก"
นี่สินะ...คุณค่าที่ประเมินราคาไม่ได้โดยแท้จริง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in