เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
MUSIC COLLECTIONCyborg 03
VOL.01 : Cuz I Love You (2019) - Lizzo
  • " I'M CRYING CAUSE I LOVE YOU "


     
    Cuz I Love You
          Lizzo หรือ Melissa Viviane Jefferson ได้ปล่อยอัลบั้ม Cuz i love you ออกมาให้ได้ฟังกันอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 เมษายน 2562 (2019) ซึ่งอัลบั้มนี้ก็เป็นอัลบั้มที่ 3 ของ Lizzo หลังจากที่นางได้ฝากผลงานแบบเด็ด ๆ ไปใน LizzoBangers (2014) และ Big GRRRL Small World (2015)
          
          ถือว่าเป็นการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ของนางเลยทีเดียวเพราะคราวนี้มากลับมาทำอัลบั้มใน theme ของ Girl Power, Black Empowerment, Self-love และ Body-Positive ที่เสนอผลงานผ่านดนตรีประเภท Contemporary trap, Hip-hop, Pop และ 90's R&B ด้วยเสียงร้องที่มาแนว Ballad ดีกรี Diva และฝีมือด้านการแรปของนางก็ถือว่าเป็นอะไรที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวมากเลยทีเดียว

          อัลบั้มนี้ถูกเปิดตัวผ่าน Life Nice และ Atlantic Records


    เรามาเริ่มฟังและอ่านไปพร้อม ๆกันเลยดีกว่าค่ะ


    1. Cuz I Love You

           

          เป็นแทร็กเปิดอัลบั้มได้ดีมาก ทำให้นึกถึง Phantom Of The Opera ที่เป็นละครแนว Broadway ระดับโลกเลย เสียงร้องบัลลาดของนางคือเอาอยู่ แทร็กให้ความตื่นเต้นอยู่ตลอดทั้ง 3:00 นาทีด้วยดนตรี Soul pop, Neo Soul, R&B กับความโอเปร่าและเสียงเปียโนสลับเป็นช่วง ๆ กับเสียงร้องนางถ้าให้เปรียบเสมือนละครเวทีสักเรื่องหนึ่งก็คงเป็นเรื่องที่ดึงความสนใจเราได้อยู่ตลอดทั้งเรื่อง มีจุดพีคตลอด เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ

          Lizzo ยังบอกอีกว่านางชอบเพลงนี้มากๆ นางเขียนเพลงนี้ด้วยเวลาเพียงแค่ 10 นาทีเองด้วยความช่วยเหลือของวงร็อค X Ambassadors 


    เปิดอัลบั้มมาด้วยแทร็กที่ทรงพลังขนาดนี้ Music Video ก็ดีไม่แพ้กัน 

            เราชอบมากๆเลยกับการที่นางเลือกที่จะใช้ผู้ชายในการแสดง Music Video นี้ ด้วยการที่ Intro เปิดมา ' I'm Crying Cause I Love You ' จึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างลึกซึ้งและสวยงามสำหรับเรามากเพราะผู้ชายมักจะถูกตีกรอบจากสังคมและโดนสอนเสมอว่า ห้ามร้องไห้ ต้องเข็มแข็งอยู่ตลอดเวลาแต่ก็หารู้ไม่ว่าเราทุกคนนั้นก็ย่อมมีมุมอ่อนแอได้เหมือนกัน เราควรที่จะมีอิสระในการแสดงออกทางความรู้สึก

    2. Like A Girl

       แทร็กแห่งความ feminist และ body-positive ที่ถูกสื่อผ่านดนตรีป๊อปจังหวะสนุกๆ แทร็กนี้นางได้กล่าวถึงไอค่อน feminist อย่าง Serena Williams นักเทนนิสหญิงที่ทำลายสถิติคว้าแชมป์แกรนแสลมสูงสุดในประวัติศาสตร์ไปถึง 23 สมัยและ Lauryn Hill แรปเปอร์หญิงในตำนานที่มีเพลงขึ้นอันดับ 1 ของ Billboard Hot100 ได้เป็นคนแรกอีกด้วย

    p.s. if you feel like a girl, then you real like a girl นางต้องการที่จะสื่อถึง transgender women, drag queens, gay boys หรือไม่ว่าจะเป็น male ที่มี feminine side ซึ่งนางบอกว่านางชอบท่อนนั้นที่สุดแต่สำหรับเรา เราชอบ Bridge ทั้งหมดเลย เราคิดว่า Bridge ของเพลงนี้เป็นอะไรที่สื่อออกทรงพลังและมีความหมายเอามากๆ เราฟังครั้งแรกแล้วแบบโห้วววเลย แนวเราจริงๆ มันเป็นอะไรที่สนุกไม่พอแต่มันฮีลมากๆ  (ท่อน got nothing to prove ทำให้เรานึกถึงหนังอย่าง Captain Marvel ด้วย)

    03. Juice

         จริง ๆ เพลง Juice เนี่ย ถูกปล่อยออกมาพร้อมกับเพลง Truth Hurts เลยนะ ตั้งแต่ปี 2017 นู้นนนเลย เราคิดว่าที่นางเอามาใส่ในอัลบั้มนี้และเลือกเป็นหนึ่งในเพลงโปรโมทอีกเพราะว่ามันเข้ากับโทนของอัลบั้มมาก มันเป็นหนึ่งใน self-empowerment anthems ที่ดีเลย เพลงถูกสื่อผ่านดนตรี Dance-pop ที่มีความ Synth และ Retro-funk มีเสียงแซกโซโฟนและทรอมโบนคอยบรรเลงประกอบจังให้อยู่ ฟังแล้วให้ความรู้สึกมั่นใจในการเป็นตัวของตัวเองมาก เป็นเพลงดึงความสนใจเราได้ตลอดทั้งเพลงแบบไม่มีดรอปเลย นอกจากนี้ยังทำให้นึกถึง mirror-ball dance floor ในช่วงยุค 80's อีกด้วย คลาสสิคสุด ๆ


    Music Video ที่มีความ Positive Vibes และ Retro Fun 

         เราชอบ vibes ของเอ็มวีมากๆ คือมันเข้ากับเพลงเป็นอะไรที่ให้ความรู้สึกมั่นใจคูณสองไปเลยแถมยังมี parody ตลก ๆ มาให้ดูคอยขำขันกันอีกตลอด 3:20 นาที

    p.s. นางบอกว่านางต้องการให้เพลงของนางทำให้คนที่ได้ฟังแล้วรู้สึกดีกับตัวเอง มีความมั่นใจในตัวเอง รักตัวเองซึ่งเราว่าตรงนี้นางตีโจทย์แตกมาก!

    04. Soulmate

         เมื่อนึกถึง Soulmate หลายๆคนก็คงจะนึกถึงการที่เราเจอรักแท้หรือเรากำลังมีความรัก การมีใครสักคนหนึ่งมาอยู่ข้าง ๆกายกันแต่สำหรับนางคนนี้แล้วไม่เลยเพราะ She is her own Soulmate ยังไงล่ะ message ที่นางต้องการส่งมาให้คนฟังมันดีมาก ๆ บวกด้วยเสียงและเทคนิคการร้องของนางที่สุดแสนไม่ธรรมดา ทำให้ Soulmate เป็นอีกหนึ่งแทร็ก Self-Love ดนตรีป๊อปจังหวะสนุกสนาน ฮีลใจที่ไม่ควรพลาดหรือกด SKIP 

         ขอพูดถึงท่อน Chorus หน่อย มันทำให้เรานึกถึงตัวเองและคงทำให้ใครหลายๆคนในที่นี้ที่ฟังอยู่คงนึกถึงตัวเองด้วยไม่น้อยเลยทีเดียว อย่าง Cause I'm my own soulmate/I know how to love me/I know I'm a queen, but I don't need no crown Look up in the mirror like "Damn, she the one" คืออะไรที่เราฟังครั้งแรกแบบเป็นอะไรที่รู้สึกดีมาก ยกให้เป็นท่อนฮีลใจสำหรับตัวเราไปเลย ชอบมาก 

    05. Jerome

        Lizzo เลือกที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ชายที่ชื่อว่า Jerome การปฎิเสธและความหวังที่เธอหวังว่าเขาคนนั้นจะรู้จักโตขึ้นมาบ้างและการที่นางตัดสินใจทำแบบนี้มันจะทำให้ทั้งคู่เจอคนที่เหมาะกับตัวเองมากกว่า แทร็คนี้นางเลือกที่จะหยิบยกจังหวะดนตรี old-school R&B มาใช้เป็นตัวผสานเรื่องราวให้ดูอาลัยอาวรมากขึ้น เป็นอะไรที่ลงตัวมาก ๆ

    06. Cry Baby

           Lizzo บอกว่าเธอได้แรงบันดาลใจเพลงนี้มาจากประสบการณ์จริงในชีวิตของเธอเองเลย มันเริ่มจากการที่เธอนั่งอยู่ใน Red Corvette กับผู้ชายคนหนึ่ง มันดูเหมือนจะโรแมนติกแต่ไม่ใช่อย่างที่คิดเลย เธอกลับนั่งร้องไห้เสียใจเพราะเธอรักผู้ชายคนนั้นมาก ๆ เธอได้พูดความรู้สึกทุกอย่างเกี่ยวกับเขาคนนั้นไปจนหมดเปลือก 

         เพราะงั้น verse 1 ของเพลงเลยเปิดมาด้วยประโยค "Pull this car over, Boy don't pretend like you don't knowการร้องบัลลาดบวกกับกีตาร์สไตล์ร็อคแอนโรลของนางในเพลงนี้เป็นอะไรที่สุดมาก ๆ สื่ออารมณ์ของตัวเพลงได้ดีสุด ๆ

    07. Tempo (Feat. Missy Elliott)

          ส่งต่อสู่ Tempo ที่เริ่มเพลงมาด้วยกีตาร์สุดมัน มีความร็อกก่อนจะสวิชเป็นบีทสไตล์ Hip-Hop Old School พูดได้ว่า Tempo เป็นเพลงที่เรียกได้ว่า mood โดดออกจากอัลบั้มไปเยอะค่อนข้างมากแม้กระทั่งเจ้าตัวอย่าง Lizzo เองยังเคยลังเลที่จะใส่เพลงนี้เข้าไปในอัลบั้มจนต้องไปถามทีมของนางและทีมของนางก็ได้พูดว่า "นี่เธอจะบ้าหรอ? ถ้าเธอไม่ใส่เพลงนี้เข้าไปในอัลบั้มก็คือเธอต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ

        เพลงนี้ได้แรปเปอร์ไอค่อนของวงการอย่าง Missy Elliott มาร่วมแจมด้วย บอกได้เลยว่าจังหวะบีทดรอปต้องมีแอบบดกันบ้างแหละ มันเยี่ยวมาก เธอยังบอกเองอีกด้วยว่าเพลงนี้ต้องการจะพรีเซนร์ความเป็น Big Girl ถึง mood จะโดด ๆ ไปบ้างแต่พูดได้เลยว่าถ้าไม่ได้หยิบเพลงนี้ใส่มาในอัลบั้มก็คงน่าเสียดายอยู่ไม่ใช่น้อย


    Music Video ที่พรีเซนตร์ความเป็น Big Girl 

        ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีมากเลยทีเดียว มันดูเป็น Music Video ทั่ว ๆ ไปแต่สำหรับเราแล้วแค่ได้เห็น Lizzo กับ Missy Elliott มากระโดดโลดเต้นด้วยกันก็ถือว่าเป็นอะไรที่คุ้มมาก ๆ

    08. Exactly How I Feel (Feat. Gucci Mane)

          "อย่ากลัวที่จะรู้สึกสิ" "ภูมิใจกับความรู้สึกตัวเอง ซื่อสัตย์กับมัน" เป็น Message ที่ Lizzo ต้องการจะสื่อในเพลงนี้เลย ไม่ว่าใครจะมาสนใจอะไรก็ช่างมัน ขอแค่เราได้แสดงมันออกมา มันไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะมันเป็นความรู้สึกของตัวเราเอง 

          เพลงนี้สำหรับเราคิดว่ารับช่วงต่อ Tempo ได้ดีเลยทีเดียวเพราะเพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงที่มีจังหวะที่สนุกมาก ๆ เนื้อเพลงที่ค่อนข้างรีเลทและยังได้แรปเปอร์ชื่อดังอย่าง Gucci Mane มาร่วมแจมเพิ่มความกวนให้กับเพลงได้อย่างลงตัว

    09. Better in Color

          Lizzo บอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงเนิร์ดที่สุดที่เธอเคยแต่งเลยทีเดียว นางแต่งเพลงนี้ขึ้นมาเพราะอยากที่จะพูดถึงเรื่องความรัก เสน่ห์แรงดึงดูด เซ็กโดยปราศจากเรื่องเพศวิถีหรือสีผิว เธอยังบอกอีกด้วยว่าใครมันจะแคร์เรื่องพวกนี้กัน มีความ Politically Correct ที่สะท้อนสังคมปัจจุบันได้ไม่น้อยเลยทีเดียว 

        นางยังบอกอีกว่าความรักมันควรมีสีสันสิ มันถึงจะดูดีกว่า เธอไม่อยากเห็นความรักแค่ในสีดำกับสีขาวหรอกนะ พูดในอีกนัยนึงได้ว่าความรักมันไม่ควรจะมีแต่เรื่องเศร้า ๆ นั่นเอง

    10. Heaven Help Me

         อีกหนึ่งเพลงสวดมนต์ฉบับ Lizzo ในปี 2019 ที่มีจังหวะที่พอให้เราได้ขยับเบาๆ เสียงเปียร์โนที่ค่อย ๆ กล่อมเราตลอดบทเพลงก่อนจะลาจากกันไปด้วยการเอเมนแล้วตบท้ายด้วยเสียงฟลูตบอกได้เลยว่าเป็นอะไรที่เราชอบมาก ๆ เราคล้อยตามไปกับนางตลอดทั้งเพลงจริง ๆ

        Lizzo บอกอีกด้วยว่าตอนที่เธอแต่งเพลงนี้เธอนั่นนึกถึง Aretha Franklin ว่าถ้า Aretha ทำอัลบั้มที่ใส่การแรปเข้ามาด้วย มันจะเป็นยังไงนะ จนแต่งไปแต่งมาเธอคิดว่าเนี่ยแหละ เป็นเพลงที่มีความ Aretha ที่สุดสำหรับตัวเธอเลย

    11. Lingerie 

         มันเป็นเรื่องยากสำหรับ Big Women ในเรื่องความสัมพันธ์ ความรักแม้กระทั่งเรื่องราวต่าง ๆ ในชีิวิต นอกจากเพลง Jerome แล้ว Lizzo เธอยังพูดอีกว่าเรื่องราวของพวกเรามันไม่ใช่เมนสตรีม Social Media หรอก มันไม่ได้มีใครมานั่งสนใจแบบเรื่องอื่นพอมีเรื่องใดเรื่องหนึ่งของพวกเราถูกเล่าออกมาก็จะมีแต่ผู้คนต่างแปลกใจกัน ถึงอย่างงั้นมันไม่ใช่เรื่องราวอะไรที่น่าแปลกใจเลยนะ มันแค่ไม่ได้โดนเล่าบ่อยขนาดนั้น พวกเราแค่ไม่ได้มีโอกาสที่จะเล่าเรื่องราวของตัวเองสักเท่าไหร่ 

         Lizzo เธอเลยถือโอกาสนี้เองในการที่จะแต่งเพลงเล่าเรื่องราวของเธอและเป็นตัวแทน Big Women ผ่านบทเพลง Lingerie ที่มีความเย้ายวน หอมหวาน ปิดท้ายอัลบั้มได้อย่างนุ่มนวล


        Lizzo เป็นศิลปินอีกคนหนึ่งเราเกือบจะ underrate เธอไปเลยจนมีพี่ที่เรารู้จักแนะนำมาว่าให้ลองฟังดู อัลบั้มนี้มันเป็นสไตล์ที่เราชอบและเราก็ชอบเข้าจริง ๆ ทั้ง 11 เพลงในอัลบั้ม Cuz I Love You สามารถพรีเซนร์ความเป็นตัวของ Lizzo เองและ Self-Love, Self-Confidence และ Body-Positive ได้อย่างสนุกสนานและสะท้อนสังคมได้ดีมาก ๆ มันทำให้เราเห็นและนึกภาพตัวเองในเพลงของเธอเลย หยิบยกสิ่งดี ๆ ที่เธอต้องการจะสื่อมาเรียนรู้และทำความเข้าใจกับมัน 

        เราไม่ค่อยแปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีคนมากมายชื่นชอบเธอขนาดนี้เพราะทุกอย่างที่เธอหยิบยกมานำเสนอมันมีอิมแพคต่อตัวเรามากจริง ๆ ในหลาย ๆ เพลง ความมั่นใจในรูปร่างหน้าตาของเธอแบบเกินร้อยที่เกิดจากการเคารพและรักตัวเอง มันเป็นเรื่องยากสำหรับเธอจริง ๆ เพราะเธอไม่ได้มารูปร่างที่เป็นพิมพ์นิยมแต่ถึงอย่างงั้นเธอก็พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่านี่แหละ การเป็นตัวของตัวเอง มันดีที่สุด มันทำให้เรามีความสุขและมันส่งผลดี ๆ ต่ออะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิตมากไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพจิตที่ดีขึ้น แค่เรามีความมั่นใจ รักตัวเองก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว


        สำหรับตัว Lizzo เองเรามองว่าเธอเป็นศิลปินนักร้องที่มีความสามารถมาก ๆเลยคนนึง หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าเธอเป็นแรปเปอร์ที่ร้องเพลงได้แต่สำหรับเรากลับกันกับมองว่าเธอเป็นนักร้องที่ความสามารถในการแรปมากกว่าแต่ถึงอย่างงั้นสิ่งนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย 

       ในส่วนของภาคดนตรีสำหรับเรามันอาจจะออกแนวอัลบั้ม Pop/R&B ปกติทั่วไปก็จริง แต่เราชอบความ Creative ของนางมาก เธอเป็นอัจฉริยะทางดนตรีคนหนึ่งเลย สามารถหยิบยกดนตรีจากหลายแขนงมามิกซ์กันได้หมด เครื่องดนตรีอย่างฟลูตที่แถบไม่ค่อยเห็นคนหยิบยกมาใช้ใน Mainstream เท่าไหร่แต่เธอก็หยิบมาใช้ทำเพลงได้อย่างลงตัว กลมกล่อม ทำให้คนฟังอย่างเรารู้สึกสนุกที่จะฟังนางเล่าเรื่องราวผ่านเสียงดนตรี มีจุดให้ได้ว้าวกันตลอด



         ถือว่าตัวอัลบั้ม Cuz I Love You เป็นการสวิตซ์แนวของนางที่เปลี่ยนไปเยอะมาก ๆ และทำให้ตัวนางเอง เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จจากอัลบั้มนี้สุด ๆ ไปเลย หลาย ๆ คนอาจจะบอกว่าเธอค่อนข้าง overrated แต่สำหรับคิดว่าไม่เลยกับศิลปินที่เขาทำเพลงมาตลอด ปล่อยอัลบั้มมาแล้ว 2 อัลบั้ม ท้อจนเกือบเลิกทำเพลงไป สิ่งที่นางได้สื่อให้เราคนฟังทำให้เรามีความสุข บูทความมั่นใจ มันเป็นอะไรที่ deserved มาก ๆ สำหรับตัวเธอ 

    "ลิซโซ่อยากเห็นทุกคนมั่นใจ"

    Fav tracks : Cuz I Love You, Like A Girl, Juice, Soulmate, Cry Baby, Exactly How I Feel, Heaven Help Me และ Lingerie 
       



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
MAGAZYN (@zynlyn)
อ่านจบแล้ว 55555 สุดท้ายก็เขียนจนเสร็จเห็นมะ อ่านเพลินด้วย ไม่เวิ่นเว้อ (เหมือนของชั้น) แล้วถ้าแกอยากขายอัลบั้มไหนก็เขียนเลย คนอ่านน่ะมี ขายช้ายังดีกว่าไม่ขาย 55555
Cyborg 03 (@Cyborg_03)
@zynlyn แต่น้องชอบของพี่ซินมากกว่าของตัวเองอีก555555 อยู่ ๆก็ต่อจบแบบงงๆมากแล้วคือเอาเคล็ดลับที่พี่ซินทวีตมาใช้ด้วยหนึ่งแมท