เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My Own Playlist ♪ppatricia
11 Must-Have Songs for (My) Driving Playlist สิบเอ็ดเพลงที่ (เรา) ต้องมีไว้ฟังตอนขับรถ

  • pic credit: We Heart It, Drive (2011)

    note1: เป็นสิบเอ็ดเพลง(สากล)ที่มาจากความชอบส่วนตัวของเราล้วนๆนะคะ แต่ก็อยากแบ่งปันให้ทุกคนได้ลองไปฟังกันดู เผื่อว่าอาจจะมีบางเพลงที่ชอบฟัง(ตอนขับรถ)เหมือนกันบ้างเน้าะ

    note2: เรียงลำดับเพลงตามตัวอักษร A-Z นะคะ ไม่ได้เรียงตามลำดับความชอบมากชอบน้อย เพราะในสิบเอ็ดเพลงนี้เราก็ฟังบ่อยพอๆกันหมดเลยค่ะ

    note3: ถ้ารวมๆแล้วมันออกมางงๆ หรืออ่านไม่รู้เรื่องก็ขอโทษด้วยจริงๆค่ะ เจตนาคืออยากมาแบ่งปันเพลงที่ชอบฟังแค่นั้นเองจริงๆ แล้วก็เพิ่งมาลองลงบทความใน minimore เป็นครั้งแรก ปกติสิงอยู่แต่ในเด็กดี ไม่ค่อยคุ้นหน้าตากับวิธีการใช้งานในเว็บนี้เท่าไหร่/กะลังอยู่ในโหมดพยายาม555555555555


    ไม่เวิ่นเว้อล้ะ! มาเริ่มกันเลยดีฝ่า!





    1. The 1975 - Chocolate (2013)


    - Now run, run away from the boys in the blue,
    Oh, my car smells like chocolate
    Hey, now I think about what to do, I think about what to say, I think about how to think
    Pause it, play it, pause it, play it, pause it -


              อย่าคิดว่านี่จะเป็นเพลงใสๆ ฟีลแบบหอมกลิ่นช๊อคโกแลตตอนขับรถ เพราะว่ามันไม่ใช่ค่ะ (fyi, chocolate เป็นสแลงที่ใช้เรียกกัญชา) แต่คิดว่าหลายๆคนที่รู้จัก The1975 ก็น่าจะเข้าใจสไตล์เพลงของวงเน้แหละ/อาจจะต้องตีความ ถอดความ หรือถอดเสียงคนร้องบ้างไรบ้าง555555555555555

              จริงๆเรามีเพลย์ลิสของ The1975 โดยเฉพาะเลยอยู่เหมือนกัน แต่ก็อยากให้มันมีหลายๆเพลงจากหลายๆศิลปิน ก็เลยเลือกเอาเพลงของวงนี้มาแค่เพลงเดียว เพราะคิดว่าจังหวะมันกำลังดี กำลังชวนให้โยกหัวตามได้ตอนรถติดไฟแดงอะไรงี้

              ส่วนเวอร์ฯที่ชอบฟังก็เป็นเวอร์ฯที่ไปเล่นสดในงาน Radio 1's Big Weekend (งานเดียวกะคลิปข้างบนนั่นแหละค่ะ) ถ้าเกิดว่าใครชอบฟังแบบเล่นสดๆมากกว่าที่อัดมาในแทร็ค เราแนะนำวงนี้เลยค่ะ เป็นวงที่เล่นสดสุดมากจริงๆ คือเสียงร้องเสียงดนตรีมันสม่ำเสมอมาก ไม่ว่าจะไปเล่นที่ไหนก็ตาม คือประทับใจ/นี่ก็พยายามจะอวยให้น้อยที่สุดแล้ว




    2. Lorde - Homemade Dynamite (2017)


    - Our friends, our drinks, we get inspired
    Blowing shit up with homemade d-d-d-dynamite -


            เราชอบความเล่นใหญ่ของLordeในงานMTV เรารู้สึกว่าเออเค้าดูเอ็นจอยกับเพลงเค้าอ่ะ ดูแล้วอยากจะไปเต้นตามบ้างไรบ้าง กับเพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงนึงจากบั้ม Melodrama ที่เราฟังบ่อย เห็นเมื่อสองสามวันก่อนเพิ่งออกเวอร์ฯที่มี khalid, Post Malone and SZA มาฟีทให้ด้วย อันนั้นก็เพราะไปอีกแบบเหมือนกัน แต่ส่วนตัวแล้วเราชอบเวอร์ฯแรกมากกว่า ชอบเสียงLorde ตอนร้องท่อน Blowing shit up with homemade d-d-d-dynamite ที่สุดแล้ว คือเรารูุ้สึกว่าเค้าร้องท่อนนี้ได้ฟีลสุดล้ะ55555555555555 
          
            ก็เป็นเพลงที่เปิดฟังบนรถแล้วเพื่อนหลายคนร้องตามบ่อยๆค่ะ โดยเฉพาะท่อนข้างบนนี่แหละ/catchy af 







    3. khalid - Hopeless (2017)


    - Now tell me was I ever something that you could regret
    I know I wasn't the one for you
    But at least I tried my best -



             แค่อินโทรขึ้นมาเราก็ชอบแล้วค่ะ คือถึงเนื้อเพลงมันจะฟังดูเศร้าๆ ดูตัดพ้อๆ แต่จังหวะในเพลงมันดีอ่ะค่ะ มันชวนให้อยากฟังต่อ แบบว่าฟังแล้วก็เคาะพวงมาลัยตามเป็นจังหวะไปด้วย555555555555 จริงๆเราว่าทุกเพลงในบั้ม American Teen นี่คือเพราะหมดทุกเพลงเลย ไม่ใช่แค่ Location ไม่ใช่แค่ Saved ไม่ใช่แค่ Young Dumb & Broke แต่ทุกๆเพลงคือดีงาม 
         
             ศิลปินเดี่ยวผู้ชายแนว Pop R&B สำหรับเรานอกเหนือจาก Frank Ocean ก็มี Khalid นี่ล่ะค่ะที่ชอบมากๆ รู้สึกว่าเค้าทำผลงานออกมาดีเกินอายุอ่ะ ไม่ใช่ว่าเราตัดสินความสามารถคนที่อายุนะคะ แต่คือใครจะไปคิดว่าเด็กอายุ18จะทำdebut albumออกมาได้ดีขนาดเน้อ่ะคูณณณณณณ ฮรือ ประทับใจจจจ







    4. Daft Punk - Instant Crush ft. Julian Casablancas (2013)


    - I didn't want to be the one to forget
    I thought of everything I'd never regret
    A little time with you is all that I get
    That's all we need because it's all we can take -


               ก็เป็นเพลงที่เอ็มวีมีฟามน่ารักและฟามน่ากลัวอยู่ในเวลาเดียวกัน และก็เป็นเพลงที่แค่อินโทรขึ้นมาเราก็ชอบอีกแล้วเหมือนกันค่ะ ตัวเราเองเรารู้จักวง The Strokes แบบผ่านๆ คือเราไม่ใช่สายร๊อคเท่าไหร่ ฟังได้บ้างเป็นบางวงบางเพลง แต่อย่างเพลงนี้ที่อยู่ในบั้ม Random Access Memories ของ Daft Punk (เพลง Get Lucky ที่ดังๆเมื่อหลายปีก่อนก็อยู่ในบั้มนี่แหละ) เราว่าตัวอัลบั้มมันมีความเป็นดาฟพั้ง มีความเป็นหมวกกันน็อคสูงมากกกกกกกก 

               แต่กับ Instant crush พิ Julian เค้าก็ทำให้มันออกมามีความเป็น The Strokes itself ได้เหมือนกันอ่ะ ชอบๆ เป็นcollaboration ที่ดี วันไหนขับรถกลับบ้านดึกๆเพลงนี้คืิอต้องเปิดค่ะ ยิ่งดึกยิ่งได้ฟีล ไม่รู้ทำไมทำเหมือนกัน

               และเนื้อเพลงก็ทำให้งุนงงอยู่พอสมควร คนฟังก็ตีความกันไปเป็นสิบยี่สิบตลบได้ อะไรมันจะซับซ้อนขนาดน้านนนนนน แต่ที่เห็นจากในหลายๆเว็บที่เค้าแสดงความคิดเห็นกันก็คือเป็นการพูดถึงความสัมพันธ์ของคนสองคนจากที่ตอนแรกอาจจะเริ่มต้นด้วยการเป็นเพื่อนกันมาก่อน ต่อมาก็เป็นแฟนกัน และหลังจากนั้นก็เลิกกัน แต่ฝ่ายชายดูเหมือนจะยังไม่อยากเลิกหรือไม่อยากจบความสัมพันธ์/ไม่อยากเป็นแค่ instant crush อะไรเง้






    5. Jason Mraz - Long Drive (2014)


    - Drive a little slower, don’t matter where we’re going
    As long as I’m with you, we could take the long way -



            ถ้าบอกว่าตัวเองเป็น driving playlist แล้วไม่มีเพลงนี้มันก็เหมือนจะขาดอะไรไปบางอย่างใช่มั้ยคะ/คุยคนเดียว เพลงนี้ก็เป็นเพลงโปรดเพลงนึงของเราเลยค่ะกับ Long Drive จาก Jason Mraz (เราเป็นแฟนเพลงเค้ามาตั้งแต่สมัยบั้ม Mr.A-Z เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วนู่นอ่ะ) คือชอบเสียงเค้าละก็เสียงกีตาร์เค้ามากจริงๆค่ะ หลายๆเพลงคือฟังแล้วสบายหู สบายใจ อย่างเพลงนี้คือถ้าฟังตอนขับรถกลับบ้านนี่ก็ได้ฟีลสุด 


            ส่วนเนื้อเพลงก็ไม่มีไรมากนอกจากการพูดถึงการขับรถกลับบ้านกับแฟน ประมาณว่ากลับกับเธอต่อให้ดึกยังไง เส้นทางจะยาวแค่ไหน ฉันก็ไม่หวั่น(จริงๆแล้วชอบด้วย) เพราะว่าฉันมีเธอนั่งมาด้วยกันข้างๆ/ส่วนคนโสดอย่างเราๆถ้าไม่อยากนั่งฟังเพลงคนเดียวเหงาๆ ก้ะนั่งฟังเสียงดีเจจากเรดิโอเอฟเอ็มอะไรก็ว่ากันไปเน้าะ5555555555555555







    6. Kevin - Night Call (2011)


    - I'm giving you a night call to tell you how I feel
    I want to drive you through the night, down the hills -


             ถ้าใครยังไม่เคยดูหนังเรื่อง Drive (2011) ที่ Ryan Gosling แสดงไว้ แนะนำให้ปิดบทความเราแล้วไปหาหนังดูเดี๋ยวเน้เลยค่ะ! เป็นหนังที่ดีและพิ Ryan ของหนู เท่มั่ก กรี๊ดดดด เท่กว่าตอนเป็น Noah ใน The Notebook อีก! (ต่อให้ Sebastian ใน La La Land ก็เทียบไม่ได้!) เดี๋ยวๆกลับมาที่เพลงก่อน/ตกลงเธอจะมาแนะนำเพลงหรือแนะนำหนัง

            soundtrack ของหนังเรื่องนี้เป็นอะไรที่เราถูกใจมากค่ะ ยกให้เป็น forever favorite soundtrack album เลย คือเวลาฟังเพลงจากในบั้มนี้ทีไร ซีนในหนังนี่ผุดขึ้นมาเป็นฉากๆ โทนของหนังกับเพลงนี่โคตรจะเข้ากัน ตัวหนังคือดีอยู่แล้ว พอได้เพลงดีๆมานี่ยิ่งส่งให้หนังดียิ่งขึ้นไปอีกกกก/อวยระดับสิบ

           สำหรับใครที่ชอบขับรถตอนกลางคืน ตอนดึกๆ บนทางด่วน บน highway tollway ทางโล่งๆ เหยียบมิดไมล์ หรือใครที่อยากจะทดลองเป็นพิไรอั้นในหนัง เราก็แนะนำให้เปิดเพลงเน้คลอไปด้วยค่ะ (แต่ก็ต้องขับรถอย่างมีสติและไม่ประมาทในทุกๆครั้งด้วยนะค้า อย่ามัวแต่ฟังเพลงเพลิน เราขับรถอยู่ในชีวิตจริงน้า ไม่ใช่ในหนังน้า)







    7. The xx - On Hold (2017)


    - And every time I let you leave 
    I always saw you coming back to me
    When and where did we go cold?
    I thought I had you on hold -



              เราชอบ mv เพลงนี้นะ คือแบบมันให้ฟีล American teen มี cheerleader มี American football player อะไรงี้ แต่ตัวเพลงนี่ก็ค่อนข้างเศร้านะคะ คือสื่อถึงรักของวัยรุ่นที่ไม่มั่่นคง ไม่แน่นอน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ตลอด ส่วนทำนองก็เป็นเพลงอกหักที่จังหวะชวนให้โยกอยู่ประมาณนึง5555555555 ก็เอาไว้เปิดฟังตอนที่ขับรถแล้วรู้สึกง่วงได้ค่ะ เพลงนี้ช่วยได้ดี โดยเฉพาะท่อน  Where does it stop where does it stop เราฟังแล้วรู้สึกตื่นตัว กระฉับกระเฉง/นี่เพลงหรือenergy drink

             จริงๆกับเพลงนี้เราชอบฟังเวอร์ฯที่ The xx เล่นสดที่งาน Glastonbury มากกว่า แต่คือตอนนี้คลิปนั้นเหมือนจะติดลิขสิทธิ์อะไรซักอย่างก็เลยโดนอุ้มไปแล้วค่ะ ก็เลยเหลือแค่ official video นี่แหละ ฮรือ








    8. LANY - Pancakes (2017)


    - You are the best, please don't ever change on me
    Cloud nine times nine my mind when I'm gone with you
    Pancakes, champagne, babe, can I stay? It's almost 3
    My hands get cold in that BMW -


              กับเพลงนี้ก็ปลื้มเป็นพิเศษค่ะ คือหลงเสียง Paul Klein ในเพลงนี้มาก/จินตนาการว่าต้วเองเป็น Dua Lipa for a minute เปิดในรถบ่อยทั้งตอนกลางวันและกลางคืนเลยค่ะ แต่ตัวเพลงมันก็จะให้ฟีลแบบบรรยากาศตอนดึกๆ อากาศหนาวๆไรงี้นิดนึง 

              ชอบอีท่อน ฮูว ฮู้ว ฮูว that's the way my heart feels มากถึงมากที่สุด! คือมันชวนให้คิดถึงเรื่องเรทๆแบบช่วยไม่ได้เลย5555555555555 แต่มันก็เรทตั้งแต่ชื่อเพลงแล้วอ่ะแหละ (อันนี้เผื่อใครยังไม่รู้ นึกว่าเพลงนี้เป็นเพลงชวนทำอาหารน่ารักกุ๊กกิ๊ก/นอกจากจะหมายถึงอาหารชนิดนึงแล้ว pancake ก็ยังสามารถเป็น slang ที่หมายถึงการมีเซ็กส์ได้ด้วยนะคะ)

               ส่วนอัลบั้มเต็มนี่ก็ถือว่าเป็นบั้มที่มีเพลงดีๆหลายเพลงเลย เราเองก็มีที่ชอบฟังอยู่เยอะเหมือนกัน แต่ที่จะได้ยินบ่อยๆเวลาออกไปข้างนอกส่วนใหญ่ก็จะหนีไม่พ้น ILYSB กับ Super Far (เพลงนี้เหมาะจะเอาไว้ฟังตอนรถติดมากค่ะ แบบว่าโน่น อีกไกล กว่าจะถึง/ไม่ใช่!) หรือไม่ก็ Good Girls คือสามเพลงนี้นี่จะได้ยินบ่อยสุดล้ะจริงๆ 







    9. LAUV - Reforget (2015)


    - Blurry bodies, but you're on my mind
    We let it go now I'm full of rum and regret
    I go out just so I can reforget -


           ถ้าเกิดว่าใครชื่นชอบ Ari Leff หรือ LAUV จากเพลง I like Me better เราก็อยากแนะนำให้ลองไปฟังเพลงก่อนๆของพิเค้าดูค่ะ ส่วนตัวเราว่าเพราะนะคะ อย่าง The Story Never Ends เสียงร้องกะเสียงเปียโนคือเข้ากันเว่อ หรือจะ The Other งี้ เราว่าเค้าทำเพลงดีอ่ะ และแต่ละเพลงที่ออกมาก็คือติดหู ทั้งเนื้อเพลงทั้งทำนองเพลงเลย

           อย่างเพลงนี้เราก็ชอบที่เค้าคิดคำขึ้นมาใหม่ คือ reforget แบบยังไงดี ต้องการจะลืมแบบลืมอ่ะ ไม่ได้อยากจะจำไม่ได้อยากจะคิดถึงเลย แต่หน้าเธอก็เข้ามาอยู่ในหัวฉันตลอด ฉันก็เลยต้องออกไปดื่ม ดื่มเพื่อให้ลืมเธอ(ซ้ำแล้วซ้ำอีก) คือเฮิร์ทเว่อไรเว่อ เพลงนี้เราชอบฟังตอนกลางคืนค่ะ จะรู้สึกเข้าถึงเพลงนี้มากเป็นพิเศษถึงแม้ว่าความจริงแล้วจะแค่ขับรถไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ตามที5555555555555555







    10. Foster the People - Sit Next to Me (2017)


    - I'm saying come over here sit next to me
    We can see where things go naturally
    just say the word and I'll part the sea
    Just come over here and sit next to me -


            ห่างหายไปหลายปีพอกลับมาทีนึงนี่แนวเพลงก็หลากหลายขึ้นกว่าเดิมสำหรับ Foster The People คือตอนแรกที่เข้าไปฟัง Loyal Like Sid&Nancy กับ Pay the Man นี่ก็ทำเรางงมากว่าเห้ย วงเปลี่ยนมาทำแนวEDMตั้งแต่เมื่อไหร่วะ คือแบบฟังครั้งแรกนี่ต้องย้อนกลับมาดูที่หน้าจอคอมอีกทีว่ากดเล่นถูกเพลงถูกวงแล้วมั้ย ยังไง แต่กับ Sit Next to Me นี่โอเคเลยค่ะ รู้สึกว่าเออบั้มนี้มันก็ยังมีอะไรที่เข้าถึงได้อยู่เว้ย5555555555555 

            ถ้าบั้ม Torches (2011) มีเพลงรักน่ารักๆอย่าง I Would Do Anything for You บั้มนี้ก็มี Sit Next to Me นี่แหละค่ะที่เรารู้สึกว่าเห้ยคือดี คือชอบ ให้ฟีลแบบเออคืนนี้มันเหงาๆอยากชวนเค้ามานั่งเล่นคุยกัน ถามไถ่ความเป็นไป บลาบลาบลา แค่นั้นจริงๆ ไม่ได้หวังอะไรมากกว่านั้นเลย ไม่เล้ย/เสียงสูง







    11. Calvin Harris - Slide ft. Frank Ocean, Migos (2017)


    - I might
    Empty my bank account
    And buy that boy with a pipe
    Buy that boy with a pipe
    I might, I might -



              ติดหูเราตั้งแต่ครั้งแรกที่ฟังค่ะกับท่อนข้างบน คือเอาออกจากหัวไม่ได้เลยจริงๆ555555555555 ไม่คิดเลยด้วยว่า frank Ocean จะได้โคจรมาร่วมงานกับ Calvin harris กับ Migos คือปกติเราจะเห็นพิเค้ายุ่งๆกะการทำบั้มเดี่ยวหรือไม่ก็ซิงเกิลเดี่ยวของตัวเองมากกว่า ถ้าใครยังไม่ค่อยคุ้นเอ๊ะเค้าคือใคร โด่งดังมาจากเพลงไหน ยังไง เราแนะนำให้ไปฟังบั้ม Channel Orange (2012) หรือถ้ามีเวลาไม่มากก็แนะนำให้ฟังแค่เพลง Thinkin Bout You (ที่มาของท่อน a potato flew around my room ในตำนาน) ก็ได้ค่ะ คืออยากจะบอกว่าชอบเนื้อเสียงกับฟีลลิ่งของเค้าตอนร้องเพลงมากจริงๆ ไม่ว่าจะกับเพลงไหนในบั้มไหน

              กับเพลงนี้ก็เอาไว้ฟังตอนกำลังจะขับรถออกไปผับได้ค่ะ ถือเป็นการwarm up ไปในตัว ฮรี่/ Do you slide on all your nights like this?




    และนี่ก็คือสิบเอ็ดเพลงทั้งหมดที่เราเปิดฟังบ่อยมากมากมากตอนที่ขับรถค่ะ 
    บางเพลงก็อาจจะเข้าข่ายที่จะเอาไว้ฟังตอนขับรถแต่บางเพลงก็ไม่เลย555555555555 




    แต่ก็ยังอยากจะแชร์เพลย์ลิสที่ตัวเองชอบฟังอยู่ดีค่ะ 
    ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ และถ้าเกิดว่าใครมีเพลงไหนหรือเพลย์ลิสไหนที่อยากจะมาแนะนำเราบ้างก็แนะนำมาได้เลยน้า ยินดีจะตามไปฟังมั่กๆค่ะ ❥



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in