เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My Daily Writingฝนมกรา.
Day 4 : Happiness
  • Warning : m/m romance


    เช้าวันหนึ่ง คุณถามผมว่าผมมีความสุขไหม

    ผมเงยหน้ามองคุณ หยุดมือที่กำลังหย่อนน้ำตาลก้อนลงในกาแฟดำของคุณเอาไว้ หูแก้วมัคสีขาวเริ่มอุ่นเพราะอุณหภูมิมือผม ทั้งที่มือข้างนั้นกำลังเย็นชืดลงทุกทีๆ

    ใจผมอดกลัวไม่ได้...

    ครั้งหนึ่ง คนรักเก่าของผมก็เคยเกริ่นคำถามนี้ขึ้นมา

    มันเกิดขึ้นในช่วงเช้าตรู่ก่อนผมออกไปทำงาน ช่วงเวลาเดียวกับที่เรานั่งประจันหน้ากันอยู่ในขณะนี้ เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวที่คุณกำลังนั่ง ตรงตำแหน่งหัวโต๊ะที่คุณกำลังยึดจองอยู่ และคุณก็จ้องผมเขม็งหลังตั้งคำถามเหมือนอย่างที่เขาทำไม่มีผิดเพี้ยน

    อ้อ จะต่างกันอยู่บ้าง ตรงที่คุณกำลังกัดขนมปังปิ้ง ส่วนเขากำลังจิบน้ำส้ม

    ตอนนั้นผมตอบเขาไปว่าผมมีความสุขดี

    เขาคนนั้นส่ายหน้าพลางวางแก้วน้ำส้มเปรี้ยวจัดลง สายตาที่มองผมเจือแววตำหนิติเตียนชัดเจน เขาบอกว่าผมเห็นแก่ตัวที่มีความสุขอยู่คนเดียว

    ผมถามเขากลับว่าเขาไม่มีความสุขหรือ

    เขาบอกผมว่าเขาเคยมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว ไม่แม้แต่นิดเดียว

    ผมแปลกใจเพราะไม่เคยสังเกตเห็นถึงปัญหา ดังนั้นจึงเอ่ยปากถามเขาตรงๆ ว่าอะไรที่ทำให้เขาไม่มีความสุข และคำตอบที่ได้กลับมาก็คือความบกพร่องทั้งหมดทั้งมวลในตัวผม

    นับตั้งแต่นิสัยใจอ่อนไม่เข้าท่า ความหัวอ่อนของผม ความไม่ฉลาดของผม รอยยิ้มของผมที่ไม่น่ารัก เสียงพูดของผมที่ไม่น่าฟัง พฤติกรรมนอนเร็วตื่นเช้าของผมที่รบกวนเวลานอนของเขา ท่านั่งไหล่ห่อแบบที่เขาไม่อยากเห็น เสื้อเชิ้ตสีชมพูน่าเกลียดของผมที่เขาอยากฉีกทิ้ง กาแฟรสแย่ที่ผมชง น้ำส้มเปรี้ยวเกินไปที่ผมซื้อ ไปจนถึงเซ็กส์ห่วยๆ แสนจืดชืดที่เขาเบื่อหน่าย

    ภายในเวลาช่วงพักโฆษณาของรายการข่าวยามเช้า ตัวผมถูกสาวไส้ออกมาเจียระไนทุกส่วน เช่นเดียวกับความสัมพันธ์สองปีที่ถูกขุดค้นขึ้นมาตีแผ่กลางโต๊ะอาหารจนไม่เหลือชิ้นดี

    ผมเถียงกลับ เพราะรับไม่ได้ที่ถูกชี้ชัดให้อับอายอย่างไม่เป็นธรรม มื้อเช้าวันนั้นจึงกลายเป็นสงครามสาดน้ำลายครั้งใหญ่

    ความบาดหมางที่สะสมไว้ตั้งแต่แรกคบกันพรั่งพรูออกมา บางสิ่งที่ผมเก็บไว้ในใจมานาน บางสิ่งที่เขาไม่เคยคิดจะพูด สิ่งเหล่านั้นสาดเทออกมาโครมใหญ่ ระเบิดตูมเหมือนรถดูดส้วมแตก เศษปฏิกูลที่ผมกับเขาป้ายสาดใส่กันเหม็นคลุ้งแบบไม่มีวันเช็ดล้างออก

    สุดท้ายคำถามนี้ในเวลานั้นก็นำไปสู่การแยกกันอยู่สักระยะ ก่อนจบลงด้วยการบอกลากันอย่างถาวร

    ส่วนคำถามนี้ในเวลานี้ ผมยังไม่ได้ให้คำตอบกับคุณ ด้วยกลัวว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอยเดิม

    คุณเห็นผมเงียบไปนานผิดปกติ

    คุณเรียกชื่อผม ชะโงกหน้าข้ามจานขนมปังปิ้งเข้ามา ถามว่าผมเหม่ออะไรอยู่

    คุณถามว่าไม่ได้ยินที่คุณพูดหรือ

    ผมบอกว่าไม่ได้ยิน และขอให้คุณถามคำถามนั้นกับผมอีกสักรอบ

    คุณย้ำถามผมอีกครั้งว่าผมมีความสุขไหม

    ผมมองหน้าคุณ แผลใจครั้งเก่าทำให้ผมกลัวเกินจะตอบ ผมรักคุณมาก รักมากกว่าเขาคนนั้น ดังนั้นผมจึงไม่อยากเสียคุณไปหลังจากการตอบคำถามนี้

    คุณเริ่มย่นคิ้วเมื่อเห็นผมเงียบ สีหน้าคุณเริ่มดูไม่ดี คุณรีบถามว่าผมไม่มีความสุขหรือ

    ผมส่ายหน้า และบอกว่าคุณคือความสุขของผม ถ้าไม่มีคุณ ผมคงไม่มีความสุข

    คุณยิ้มกว้าง แสงแดดที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างยังสว่างไสวไม่เท่ารอยยิ้มของคุณเลย

    ความกลัวที่ทำให้มือไม้ผมเย็นเฉียบถูกความอบอุ่นของคุณปัดเป่าจนจางหาย

    ผมเริ่มมีความกล้าขึ้นมานิดหน่อย กล้าพอที่จะถามคุณกลับว่าคุณมีความสุขหรือเปล่า

    คุณจับมือผม ยื่นแก้มที่มีริ้วรอยและหนวดเคราจางๆ มาสัมผัสแก้มผมอย่างอ่อนโยน

    คุณบอกผมว่าคุณก็มีความสุขเช่นกัน

    คุณมีความสุขเมื่อเห็นรอยยิ้มของผม คุณมีความสุขที่ผมอ่อนโยนและว่านอนสอนง่าย คุณชอบเสื้อเชิ้ตสีชมพูที่ผมใส่วันนี้ คุณมีความสุขกับบทรักเมื่อคืนวาน คุณมีความสุขที่ผมตื่นเช้ามารดน้ำต้นไม้กับคุณ คุณมีความสุขที่ผมชงกาแฟได้ถูกใจคุณแบบที่ไม่มีใครทำได้

    คุณขอบคุณผมสำหรับชีวิตคู่สิบปีที่ผ่านมา

    ผมไม่ได้พูดอะไรได้แต่ยิ้มตอบคุณด้วยหัวใจเต็มตื้น

    คุณแซวผม บอกว่าอย่าเพิ่งมีความสุขจนเคลิ้มลอยไปไหนไกล ขอให้อยู่ด้วยกันก่อน อยู่ด้วยกันไปนานๆ

    ผมหัวเราะ บอกคุณว่าไม่ทันแล้ว

    ผมคือลูกโป่งอัดแก๊สแห่งความสุข

    และตอนนี้ผมลอยไปไกลถึงขอบฟ้าแล้ว

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in