เช้าวันหนึ่ง คุณถามผมว่าผมมีความสุขไหม
ผมเงยหน้ามองคุณ หยุดมือที่กำลังหย่อนน้ำตาลก้อนลงในกาแฟดำของคุณเอาไว้ หูแก้วมัคสีขาวเริ่มอุ่นเพราะอุณหภูมิมือผม ทั้งที่มือข้างนั้นกำลังเย็นชืดลงทุกทีๆ
ใจผมอดกลัวไม่ได้...
ครั้งหนึ่ง คนรักเก่าของผมก็เคยเกริ่นคำถามนี้ขึ้นมา
มันเกิดขึ้นในช่วงเช้าตรู่ก่อนผมออกไปทำงาน ช่วงเวลาเดียวกับที่เรานั่งประจันหน้ากันอยู่ในขณะนี้ เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวที่คุณกำลังนั่ง ตรงตำแหน่งหัวโต๊ะที่คุณกำลังยึดจองอยู่ และคุณก็จ้องผมเขม็งหลังตั้งคำถามเหมือนอย่างที่เขาทำไม่มีผิดเพี้ยน
อ้อ จะต่างกันอยู่บ้าง ตรงที่คุณกำลังกัดขนมปังปิ้ง ส่วนเขากำลังจิบน้ำส้ม
ตอนนั้นผมตอบเขาไปว่าผมมีความสุขดี
เขาคนนั้นส่ายหน้าพลางวางแก้วน้ำส้มเปรี้ยวจัดลง สายตาที่มองผมเจือแววตำหนิติเตียนชัดเจน เขาบอกว่าผมเห็นแก่ตัวที่มีความสุขอยู่คนเดียว
ผมถามเขากลับว่าเขาไม่มีความสุขหรือ
เขาบอกผมว่าเขาเคยมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว ไม่แม้แต่นิดเดียว
ผมแปลกใจเพราะไม่เคยสังเกตเห็นถึงปัญหา ดังนั้นจึงเอ่ยปากถามเขาตรงๆ ว่าอะไรที่ทำให้เขาไม่มีความสุข และคำตอบที่ได้กลับมาก็คือความบกพร่องทั้งหมดทั้งมวลในตัวผม
นับตั้งแต่นิสัยใจอ่อนไม่เข้าท่า ความหัวอ่อนของผม ความไม่ฉลาดของผม รอยยิ้มของผมที่ไม่น่ารัก เสียงพูดของผมที่ไม่น่าฟัง พฤติกรรมนอนเร็วตื่นเช้าของผมที่รบกวนเวลานอนของเขา ท่านั่งไหล่ห่อแบบที่เขาไม่อยากเห็น เสื้อเชิ้ตสีชมพูน่าเกลียดของผมที่เขาอยากฉีกทิ้ง กาแฟรสแย่ที่ผมชง น้ำส้มเปรี้ยวเกินไปที่ผมซื้อ ไปจนถึงเซ็กส์ห่วยๆ แสนจืดชืดที่เขาเบื่อหน่าย
ภายในเวลาช่วงพักโฆษณาของรายการข่าวยามเช้า ตัวผมถูกสาวไส้ออกมาเจียระไนทุกส่วน เช่นเดียวกับความสัมพันธ์สองปีที่ถูกขุดค้นขึ้นมาตีแผ่กลางโต๊ะอาหารจนไม่เหลือชิ้นดี
ผมเถียงกลับ เพราะรับไม่ได้ที่ถูกชี้ชัดให้อับอายอย่างไม่เป็นธรรม มื้อเช้าวันนั้นจึงกลายเป็นสงครามสาดน้ำลายครั้งใหญ่
ความบาดหมางที่สะสมไว้ตั้งแต่แรกคบกันพรั่งพรูออกมา บางสิ่งที่ผมเก็บไว้ในใจมานาน บางสิ่งที่เขาไม่เคยคิดจะพูด สิ่งเหล่านั้นสาดเทออกมาโครมใหญ่ ระเบิดตูมเหมือนรถดูดส้วมแตก เศษปฏิกูลที่ผมกับเขาป้ายสาดใส่กันเหม็นคลุ้งแบบไม่มีวันเช็ดล้างออก
สุดท้ายคำถามนี้ในเวลานั้นก็นำไปสู่การแยกกันอยู่สักระยะ ก่อนจบลงด้วยการบอกลากันอย่างถาวร
ส่วนคำถามนี้ในเวลานี้ ผมยังไม่ได้ให้คำตอบกับคุณ ด้วยกลัวว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอยเดิม
คุณเห็นผมเงียบไปนานผิดปกติ
คุณเรียกชื่อผม ชะโงกหน้าข้ามจานขนมปังปิ้งเข้ามา ถามว่าผมเหม่ออะไรอยู่
คุณถามว่าไม่ได้ยินที่คุณพูดหรือ
ผมบอกว่าไม่ได้ยิน และขอให้คุณถามคำถามนั้นกับผมอีกสักรอบ
คุณย้ำถามผมอีกครั้งว่าผมมีความสุขไหม
ผมมองหน้าคุณ แผลใจครั้งเก่าทำให้ผมกลัวเกินจะตอบ ผมรักคุณมาก รักมากกว่าเขาคนนั้น ดังนั้นผมจึงไม่อยากเสียคุณไปหลังจากการตอบคำถามนี้
คุณเริ่มย่นคิ้วเมื่อเห็นผมเงียบ สีหน้าคุณเริ่มดูไม่ดี คุณรีบถามว่าผมไม่มีความสุขหรือ
ผมส่ายหน้า และบอกว่าคุณคือความสุขของผม ถ้าไม่มีคุณ ผมคงไม่มีความสุข
คุณยิ้มกว้าง แสงแดดที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างยังสว่างไสวไม่เท่ารอยยิ้มของคุณเลย
ความกลัวที่ทำให้มือไม้ผมเย็นเฉียบถูกความอบอุ่นของคุณปัดเป่าจนจางหาย
ผมเริ่มมีความกล้าขึ้นมานิดหน่อย กล้าพอที่จะถามคุณกลับว่าคุณมีความสุขหรือเปล่า
คุณจับมือผม ยื่นแก้มที่มีริ้วรอยและหนวดเคราจางๆ มาสัมผัสแก้มผมอย่างอ่อนโยน
คุณบอกผมว่าคุณก็มีความสุขเช่นกัน
คุณมีความสุขเมื่อเห็นรอยยิ้มของผม คุณมีความสุขที่ผมอ่อนโยนและว่านอนสอนง่าย คุณชอบเสื้อเชิ้ตสีชมพูที่ผมใส่วันนี้ คุณมีความสุขกับบทรักเมื่อคืนวาน คุณมีความสุขที่ผมตื่นเช้ามารดน้ำต้นไม้กับคุณ คุณมีความสุขที่ผมชงกาแฟได้ถูกใจคุณแบบที่ไม่มีใครทำได้
คุณขอบคุณผมสำหรับชีวิตคู่สิบปีที่ผ่านมา
ผมไม่ได้พูดอะไรได้แต่ยิ้มตอบคุณด้วยหัวใจเต็มตื้น
คุณแซวผม บอกว่าอย่าเพิ่งมีความสุขจนเคลิ้มลอยไปไหนไกล ขอให้อยู่ด้วยกันก่อน อยู่ด้วยกันไปนานๆ
ผมหัวเราะ บอกคุณว่าไม่ทันแล้ว
ผมคือลูกโป่งอัดแก๊สแห่งความสุข
และตอนนี้ผมลอยไปไกลถึงขอบฟ้าแล้ว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in