เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ตลอดกาลคือคำลวงหรือผลพวงจากความคาดหวังnichised
8 — ความฝันฉันหล่นหาย เธอเก็บไว้ได้แต่ไม่คิดจะคืน
  • เป็นเวลานานแล้วที่แพรวไม่ได้คุยกับพริม เหมือนกับว่าพอติดต่อพราวไม่ได้ แพรวก็ลืมคนอื่นไปหมด ชีวิตเสียสมดุล กลายเป็นคนเก็บตัว ร่างกายซูบผอม หน้าตาซีดเซียว

    พริมทักเธอมาเมื่อวานหลังจากแพรวตื่นมาพร้อมกับอาการแฮงค์ เธอไม่ได้ดื่มเหล้ามากจนเมาขนาดนั้น แต่ดื่มน้ำน้อยจนร่างกายประท้วงด้วยไมเกรน พริมอยากปาร์ตี้ออนไลน์อัพเดทเรื่องราวในชีวิต จึงชวนเธอจิบไวน์ออนไลน์ แพรวรู้สึกว่าความอยากแอลกอฮอล์ของเธอเริ่มอยู่นอกเหนือการควบคุม เธอดื่มบ่อยขึ้นเกินโควต้าที่ตั้งไว้ให้ตัวเอง แพรวสัญญากับตัวเองไว้ว่าถ้าได้คุยกับพริม เธอจะดื่มแค่ชามิ้นท์ไร้คาเฟอีนเท่านั้น

    .

    แพรวนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานข้างหน้าต่างในห้องนอน ข้างกายมีเบียร์นายทุน 0% ที่เธอซื้อมาด้วยความเร่งรีบ ตอนเป็นเบียร์จริงๆ ยังแดกไม่ได้ ไม่รู้ว่า 0% จะเหมือนน้ำล้างเท้าไหม ถึงจะสัญญาไว้แล้วว่าจะดื่มเพียงชามิ้นท์ แต่มันไม่เข้ากับเนื้อสวรรค์ที่เธอกินเหลือจากวันก่อน 

    พริมในจอแลปท็อปของเธอต่างไปจากที่เธอ 5 ปีที่แล้วก่อนจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศมากกว่าที่คิด ใบหน้าอ่อนเยาว์เหมือนเดิม เรียกได้ว่าแทบไม่ต่าง แต่แววตาที่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากกับบรรยากาศบางอย่างทำให้พริมดูลึกลับและมั่นใจกว่าครั้งสุดท้ายที่เจอกัน

    แพรวจำไม่ได้ว่าตอนนี้พริมทำอะไรอยู่ เหมือนกับว่าเธอจะเรียนต่อโท แต่พวกเขาไม่ได้มีบทสนทนาเป็นชิ้นเป็นอัน

    “เป็นไงบ้างแพรว คิดถึงจังเลย” พริมทักทายอย่างสนิทสนม ถึงพริมจะบอกแพรวว่าเลิกชอบเธอแล้วแต่ก็ยังหยอดทุกครั้งที่มีโอกาส แพรวไม่แน่ใจว่าที่บอกว่าเลิกชอบนี่แค่บอกให้เธอสบายใจไหม แล้วเธอจะใจแข็งได้อีกนานแค่ไหน แพรวในวัยมัธยมไม่เคยสนใจความรักโรแมนติก แพรวในวัยมหาลัยผูกติดกับพราว ส่วนแพรวในวันนี้ว่างเปล่าและต้องการที่ยึดเหนี่ยว

    “ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ยังพอใช้ชีวิตได้ แกล่ะ” แพรวตอบนิ่งๆ ขอบตาคล้ำลึกชัดและผมพิกซี่คัทยิ่งทำให้ใบหน้าตอบของเธอเห็นได้ชัด

    “ตั้งแต่เลิกกับแฟนคนก่อนไป ชีวิตก็มีอิสระขึ้นมาก อยากทำอะไรก็ได้ทำ ตอนนี้โสดนะ เป็นประโยคบอกเล่า” พริมพูดยิ้มๆ

    “ทำไมล่ะ ตอนนั้นยังเห็นไปเยี่ยมบ้านเขาอยู่เลย”

    “ไปเจอของแรงมาน่ะ” พริมยิ้มแห้ง 

    “คืออะไร โดนผีหลอกหรอ” แพรวถามงงๆ ไม่ได้มีแต่เธอที่ผีในห้องแกล้งเปิดเพลงแทงใจดำสินะ

    “เรื่องมันซับซ้อนน่ะ ผีหลอกให้หลง แต่คนหลอกให้ไป–าย” สัญญาณขาดหาย พริมได้ยินไม่ชัดนัก

    แพรวไม่ได้ถามต่อ พริมเล่าให้เธอฟังว่าตอนนี้เธอเป็นนักกิจกรรมสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กับการเรียนปริญญาโท ชีวิตของเธอดูห่างไกลจากแพรวทั้งทางกายภาพและจิตวิญญาณ อาศัยอยู่ในสถานที่ที่งดงาม เต็มไปด้วยสีสันของธรรมชาติและประสบการณ์

    “เธอจะกลับไทยไหม” แพรวถาม

    “ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากกลับหรอก ถึงนิวซีแลนด์จะให้วีซ่าทำงานหลังเรียนจบโท แต่ฉันไม่รู้ว่าจะหางานที่ตรงสายได้ไหม ไม่อยากกลับไปทำงานคอลเซ็นเตอร์อีกแล้ว ฉันมีสิ่งที่อยากทำตั้งมากมาย” น้ำเสียงของพริมแข็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

    “หรอ ฉันน่ะไม่อยากทำอะไรเลย แค่เอาชีวิตรอดในประเทศนี้ก็ยากมากพอแล้ว เป้าหมายปีนี้ขอแค่ไม่ตาย” แพรวตอบด้วยน้ำเสียงที่แห้งแล้งไม่แพ้กัน

    “แล้วพราวเป็นไงบ้าง” พริมรู้จักพราวผ่านแพรว เธอรู้สึกได้ถึงความอิจฉาเล็กๆ ในน้ำเสียงของพริม ถึงเธอจะไม่เคยชอบพราวแบบโรแมนติก แต่ก็ไม่เคยมีใครสำคัญสำหรับแพรวเท่าพราว

    “ไม่รู้เหมือนกัน ติดต่อไม่ได้นานแล้ว” แพรวตอบสั้นๆ เธอไม่มีอะไรจะอธิบายมากไปกว่านี้

    “คือยังไง อยู่ดีๆ ก็หายไปเฉยๆ ไม่อ่านแชท ไม่โทรหางี้หรอ” เสียงของพริมมีน้ำโห

    “อืม” แพรวรู้สึกเหมือนมีก้อนมาจุกอยู่ที่คออีกครั้ง บางเบากว่าที่เคย แต่ไม่หายไป

    พริมไม่ถามต่อ เหมือนว่าเธอจะอ่านสีหน้าออกว่าแพรวเสียใจกว่าที่แสดงออกมา ซึ่งก็ชัดมากพอสำหรับเธอแล้ว พริมชวนคุยถึงเรื่องชีวิตประจำวันแทน อาหารที่กิน เครื่องดื่มที่ชอบ

    “เพื่อนบ้านฉันหมักเหล้าบ๊วยใช้ได้เลยแหละ” แพรวบอกพร้อมกับยิ้มบางๆ

    “ไหนๆๆ ฉันพลาดอะไรไป มีใครหมักเหล้าบ๊วยอร่อยกว่าฉันอีกหรอ” พริมถามหาเรื่องทีเล่นทีจริง

    “เป็นผู้ชายหน้าจืดที่สอนดำน้ำน่ะ บังเอิญว่าฉันกับเขาเป็นเพื่อนออนไลน์กันมานาน รู้ตัวอีกทีก็อยู่ห้องข้างๆ แล้ว” น้ำเสียงของแพรวสดใสขึ้นมาบ้าง เมื่อนึกได้ถึงการมีอยู่ของน้ำทะเลและโลมา โลกก็น่าอยู่ขึ้นนิดหน่อย

    พริมหรี่ตา

    “ฉันไม่ได้คิดอะไรกับเขาจริงๆ ผู้หญิงกับผู้ชายน่ะเป็นเพื่อนกันเฉยๆ ก็ได้นะ” แพรวรีบบอก ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆ ก็รู้สึกเลิ่กลั่กเพราะสายตาของพริม

    “โอเค เอาเป็นว่าอย่างน้อยเธอก็มีที่พึ่งทางใจอยู่บ้างสินะ” พริมยิ้มอย่างจริงใจ

    ทั้งคู่คุยเล่นกันเรื่อยเปื่อยอีกสักพัก แพรวก็ขอตัวไปกินข้าวเย็น ไทม์โซนของพริมเองก็ได้เวลานอนแล้ว พริมวางสายไปพร้อมกับรอยยิ้มหวาน

    .

    แพรวรู้สึกเหมือนกับว่าที่ผ่านมาเธอช่างโง่เขลา เธอมีเพื่อนสนิทอีกคนที่ให้ความสำคัญกับเธอ และระยะทางระหว่างพริมกับแพรวไม่ได้ทำให้ความมุ่งมั่นที่จะเป็นเพื่อนของพริมลดลงเลย เมื่อคิดได้แบบนั้นแพรวก็ยิ่งโมโหพราวขึ้นมา ฉับพลันมือถือแพรวสว่างวาบ วันนี้เป็น Half The World Away ของ Oasis

    So here I go

    I'm still scratching around in the same old hole

    My body feels young but my mind is very old

    So what do you say?

    You can't give me the dreams that are mine anyway

    You're half the world away

    You're half the world away

    หรือว่าจริงๆ แล้วผีในห้องที่เธออุปมาอาจจะเป็น AI ที่พัฒนาขึ้นมาจากอัลกอริธึมของสปอตติฟาย และวางแผนครองโลกด้วยการทำร้ายจิตใจมนุษย์ แพรวคิดสะระตะ

    จะว่าไปการที่พราวหายไปจากชีวิตเธอพรากเอาความฝันมากมายของแพรวไปด้วย แน่นอนว่าความฝันที่ถูกพลัดพรากไปมีปัจจัยภายนอกทั้งโรคระบาดและรัฐบาลที่โง่เง่าและชั่วร้าย เธอไม่มีทั้งอนาคต ความฝัน และความหวัง แต่ความสุขเพียงไม่กี่อย่างของแพรว เช่นการคุยกับพราว การมีคนสำคัญในชีวิตในระดับที่ช่างตวงวัดไม่ได้ มันเป็นความสุขง่ายๆ ที่พราวให้เธอได้ เธอไม่รู้ว่าพราวมีเหตุผลอะไร แต่แพรวก็สมควรได้รับคำอธิบาย หรืออย่างน้อยก็คำบอกลา

    แพรวคิดว่าอาจจะถึงเวลาที่จะเลิกเสียใจ


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in