เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ตลอดกาลคือคำลวงหรือผลพวงจากความคาดหวังnichised
7 — เหลือไว้แค่เพียงจุดพิกเซลที่ถูกบีบอัด ไม่อาจสัมผัสจับต้องได้
  • แพรวกำลังนั่งขัดสมาธิบนพื้น หลังพิงเตียง ข้างตัวมีขวดไวน์แดงจากชิลี ปี 2017 ถัดไปบนพื้นมีจานเล็กๆ วางกามองแบร์ชีสจากฝรั่งเศสเป็นอาหารเย็น หลังจากแพรวยกรูปที่วาดให้กับแทนไปได้ไม่กี่วัน จิตใจแพรวก็ดำดิ่งอีกครั้ง 

    ฝันร้ายยังคงเกิดขึ้นซ้ำๆ แต่พราวดูห่างไกลออกไปยิ่งกว่าเดิม ถึงเหตุการณ์ในความฝันจะไม่ทำให้แพรวรู้สึกแย่เท่าแต่ก่อน แต่การที่พราวจางหายไปแม้กระทั่งในความฝันทำให้แพรวหวาดกลัวขึ้นมา ไม่มีใบหน้าของพราวในฝันมานานมากแล้ว แพรวเห็นแค่เพียงผมยาวสยาย ถึงความฝันเหล่านั้นจะไม่เคยทำให้แพรวมีความสุข แต่เหมือนกับว่ามันคือสิ่งเชื่อมโยงสุดท้ายระหว่างแพรวกับพราว

    แพรวยกแลปท็อปมาวางตรงหน้า นั่งเปิดดูรูปของเธอกับพราวด้วยฟังชันจับภาพใบหน้าคนของคลาวด์สำหรับเก็บรูป ภาพเธอกับพราวที่ทะเล ภาพเธอกับพราวที่คาเฟ่ร้านประจำ ภาพเธอกับพราวนั่งบนฟุตบาทขณะกำลังเมา ภาพพราววิ่งหนีห่าน ภาพเธอกอดขวดไวน์ ภาพของใบหน้าพราวที่ถ้าหากไม่เปิดรูปดู แพรวเริ่มจะนึกไม่ออกแล้วว่าเป็นอย่างไร ทั้งหมดนี้เป็นแค่ข้อมูลบนก้อนเมฆที่จับต้องไม่ได้

    มือถือของแพรวเล่นตลกอีกครั้ง คราวนี้เพลง Picture Of You ของ The Cure เล่นขึ้นมาท่ามกลางความเงียบงันของแพรวและตัวแทนของพราวที่ประกอบร่างจากพิกเซลบนหน้าจอ 

    I've been looking so long at these pictures of you

    That I almost believe that they're real

    I've been living so long with my pictures of you

    That I almost believe that the pictures

    Are all I can feel

    แพรวเริ่มรู้สึกว่ามือถือของเธออาจจะถูกผีในห้องแกล้ง ถึงได้เอาแต่เปิดเพลงแทงใจดำ

    ท้องฟ้าเป็นสีแสด หากไม่ได้อาศัยอยู่บนชั้นสิบแปดแพรวคงไม่ได้เห็นขอบฟ้ากว้างขนาดนี้ บนผืนดินของประเทศนี้มองขึ้นมาอาจเป็นตึกสูงใหญ่และสายไฟเกะกะ แต่ไม่ว่าแพรวจะเห็นท้องฟ้ากว้างใหญ่แค่ไหน ก็ไม่มีพราวอยู่ในนั้น พราวหลงเหลือตัวตนอยู่แค่ในจอมอนิเตอร์ของแลปท็อป ในมือถือ ในแท็บเล็ต

    ความรู้สึกอยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออกจุกอยู่ในอก แพรวยกไวน์ขึ้นมาจิบ หวังว่าก้อนที่คอจะละลายหายไปกับแอลกอฮอล์ แต่ความพยายามของแพรวไม่เป็นผล แพรวเทไวน์ไปอีกครึ่งแก้ว ความมั่นใจว่าจะดื่มจนหมดท่วมไปครึ่งแก้ว อีกครึ่งแก้วเป็นความว่างเปล่าในใจแพรว

    .

    ในที่สุดแพรวก็ไม่ต้องดื่มคนเดียว วันที่แทนนัดแพรวเลี้ยงเหล้ามาถึง แพรวเดินไปเคาะประตูห้องข้างๆ เมื่อถึงเวลานัด ในมือมีถุงผ้าท่วมไปด้วยกับแกล้ม เนื้อสวรรค์ กามองแบร์ชีส ถั่วแมคาดาเมีย มะนาวหลายลูก วานิลลาไซรัป ไม่แน่ใจว่ามาให้แทนเลี้ยงเหล้าหรือเปิดร้านป็อปอัพสโตร์ แทนไม่ได้บอกว่าจะดื่มเหล้าประเภทไหน เธอเลยเหมากับแกล้มมาครอบจักรวาล

    ห้องของแทนตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เรียบง่ายไม่ต่างจากห้องของเธอนัก เพียงแต่บนชั้นต่างๆ เต็มไปด้วยรูปภาพ ของสะสม กองกระดาษ กล่องวางสิ่งของมากมาย ไม่มีโซฟาตัวยาวข้างหน้าต่าง แต่เป็นโต๊ะกินข้าวขนาด 4 คน ที่ออกจะใหญ่เกินไปสำหรับห้อง 38 ตรม. 

    แพรวทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะกินข้าว หันด้านข้างของเธอให้ริมหน้าต่าง เทของในถุงผ้าลงบนโต๊ะ ลูกมะนาวกลิ้งหลุนๆ ไปหาแทนที่กำลังง่วนกับการเก็บของมากมายที่เขาพึ่งโกยออกมาจากบนโต๊ะใส่กล่องพลาสติกขนาดใหญ่

    “ขอโทษที ปกติผมใช้โต๊ะนี้ทำทุกอย่างเลยน่ะ ตั้งแต่กินข้าวยันทำงาน ส่วนมากก็ทำทุกอย่างไปพร้อมๆ กัน”

    ด้านหลังของแทนเป็นกำแพงกั้นระหว่างห้องนอนกับห้องกินข้าว-นั่งเล่น ที่ต่อเนื่องกับครัวเปิด ต่างกับห้องครัวของแพรวซึ่งมีโต๊ะกินข้าวเล็กๆ เบียดอยู่ กำแพงฝั่งตรงข้ามที่แพรวมักจะนั่งมองความว่างเปล่าเป็นประจำ ถูกแทนที่ด้วยภาพวาดฝีมือของแพรว

    “ฉันคิดว่าตัวเองน่าจะเป็นเพื่อนดื่มที่แย่” แพรวกล่าวเปิดตี้ด้วยเสียงหดหู่ ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเธอรู้สึกแย่กว่าที่เคยมากนัก

    “ไม่ต้องห่วง! เพื่อนดื่มที่ดีเป็นหน้าที่ของผมนะ”

    มือถือของแพรววางอยู่บนโต๊ะ สว่างวาบแล้วส่งเสียงดังแทรกขึ้นมาเป็นเพลง Picture Of You อีกเช่นเคย 

    Remembering you running soft through the night

    You were bigger and brighter and wider than snow

    And screamed at the make-believe

    Screamed at the sky

    And you finally found all your courage

    To let it all go

    “ไม่ต้องตกใจหรอก ผีในห้องแกล้งเปิดเพลงทำร้ายจิตใจฉันบ่อยๆ ไม่ยักรู้ว่าตามมาห้องนายด้วย”

    “ไม่เอาดิคุณ ผมกลัวผี ชีวิตนี้ยังไม่เคยถอดพระเลย”

    แพรวขยับยิ้มบาง เนื้อเพลงทำให้อดคิดถึงพราวไม่ได้

    “นายมีคนที่สำคัญกับนายมากๆ ไหม สำคัญแบบที่เอาอะไรมาชั่งตวงวัดไม่ได้เลยน่ะ”

    “เอ่อ ถ้าหมายถึงแฟน ผมเป็นทั้ง aromatic แล้วก็ asexual ด้วยน่ะ ส่วนคนที่สำคัญขนาดนั้นสำหรับผมไม่อยู่แล้ว”

    “เล่าให้ฟังได้ไหม แต่ไม่ต้องก็ได้ถ้าทำให้นายไม่สบายใจ” แพรวถามเสียงเบา ไม่ปากแจ๋วเหมือนวันนั้นที่ระเบียง

    แทนหยิบโหลเหล้าบ๊วยหน้าตาโฮมเมดมาวางบนโต๊ะ บนโหลมีวันที่ลายมือหยึกหยักอ่านไม่ออกเขียนเลขวันที่กับภาษาอังกฤษยาวๆ

    “ก่อนจะเข้าเรื่องเครียด เอาเหล้าเข้าปากกันก่อนดีกว่า โหลนี้ผมหมักเอง ใช้จินกับบ๊วยเหลือง เข้มหน่อย แต่หวานแน่ๆ ไม่รู้คุณจะชอบไหม ผสมโซดาน่าจะอร่อยนะ”

    “ขอเฮาส์เบลนเลย ตามใจนาย”

    แพรวรู้สึกสบายใจที่จะคุยกับแทนอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่ให้ความรู้สึกเหมือนผู้ชายทั่วๆ ไป ที่ถ้าไม่ได้ตัดสินเธอ ก็ต้องการเธอ หรือไม่ก็อยากเอาชนะเธอ แทนเหมือนเป็นเฟรมผ้าใบว่างๆ ที่เปลี่ยนรูปไปเป็นอะไรก็ตามที่จะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น

    เมื่อเริ่มดื่มไปได้สักพักแทนเริ่มเล่าเรื่องของตัวเอง คนสำคัญที่แทนพูดถึงเป็นเพื่อนสนิทสมัยมัธยม เสียไปเพราะมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เพื่อนของแทนสู้อยู่หลายปี แต่มะเร็งก็สู้ไม่ถอยเช่นกัน จนถึงวันที่ร่างกายของเพื่อนแทนแพ้

    “นายทำยังไงกับตัวเองเมื่อเขาหายไป” แพรวรู้สึกโหวงในใจ ช่วงมัธยมเธอเด็กเกินกว่าจะเข้าใจความสูญเสีย ญาติผู้ใหญ่ที่เสียไปก็ห่างไกลเกินกว่าเธอจะรู้สึกเหมือนมีช่องโหว่ในตัว

    “ผมมีเวลาทำใจนานน่ะ เพื่อนผมมันสู้มาหลายปี พวกเราเตรียมใจกันตั้งแต่ม.2 จนเข้ามหาลัย พอผมอยู่ปี 4 ตอนที่เขาจากไป ผมก็ใช้ชีวิตแบบคุ้นเคยกับการทำเหมือนพวกเราจะเจอกันวันสุดท้ายมาตลอด”

    อยู่ดีๆ เจ้าก้อนที่แพรวพยายามกลืนลงไปก็กลับมาที่คออีกครั้ง แพรวยกเหล้าบ๊วย on the rock ดื่มหมดแก้ว เจ้าก้อนนั้นก็ยังไม่ละลายหายไปเช่นเดิมแม้ว่าแอลกอฮอล์จะเพิ่มความเข้มข้นขึ้นมา แพรวสะอื้นแบบไม่มีน้ำตาออกมา

    แทนมองแพรวเงียบๆ เขาเดินไปหยิบกล่องทิชชู่มาวางบนโต๊ะ

    “ไหวไหม” แทนถาม

    แพรวส่ายหน้า

    “ร้องไห้ออกมาเถอะ ยิ่งเก็บไว้นาน ตอนมันออกมาจะยิ่งหนักนะ”

    คำพูดของแทนทำให้แพรวนึกได้ว่าเธอไม่ได้ร้องไห้เลยตั้งแต่พราวหายไป แต่ทำอย่างไรน้ำตาก็ไม่ไหลออกมา

    “คนสำคัญของคุณอาจจะไม่อยู่กับคุณตลอดไป แต่ความเสียใจก็เช่นกันนะ เดี๋ยววันหนึ่งมันจะดีขึ้น”

    แพรวคิดถึงวันที่จะไม่เสียใจเรื่องพราวอีก น้ำตาก็ค่อยๆ ไหลออกมา เธอไม่อยากหยุดเสียใจเรื่องพราว

    เป็นเวลานานกว่าแพรวจะหยุดร้องไห้ แทนปล่อยให้แพรวนั่งร้องไห้เงียบๆ ร้องไห้โฮ ร้องไห้สะอึกสะอื้น ตอนนั้นเวลาก็ปาเข้าไปเกือบตี 1 แพรวนั่งตาบวม เหล้าบ๊วยร่อยหรอ ส่วนแทนนั่งจิบเหล้าบ๊วยเงียบๆ เป็นผู้ฟังและเพื่อนดื่มที่ดีเท่าที่คนๆ หนึ่งจะเป็นได้

    “ไว้ฉันเลี้ยงเหล้าคืนนะ” แพรวบอกลาแทนด้วยเสียงยานคางแหบแห้ง เธอยังเดินเหินกลับไปที่ห้องตัวเองได้ปกติ แต่แผลในจิตใจถูกเปิดให้เห็นรอยเว้าแหว่งถูกเห็นทั่วทุกมุมแบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ทุกรอยแผลผ่านการชะล้างด้วยน้ำตาครบถ้วน 

    แพรวทิ้งตัวลงบนเตียงโดยไม่ได้อาบน้ำ หลับไปด้วยความเหนื่อยล้าและความหวังที่จะเห็นภาพพราวในความฝัน


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in