“เหงาเนอะ”
/นั่นดิ/
“มีเรียนป่าว”
/วันอาทิตย์นะ/ เขาเผลอหัวเราะกับความเบลอของตัวเอง ไม่แน่ใจว่าเพราะทำงานหนักมากไปหรือเพราะอะไร
โทรศัพท์นอนแอ้งแม้งอยู่ข้างๆกับเขา
ปลายสายไม่ได้วางสายไปเช่นเดียวกับเขา เสียงก๊อกแก๊กจากฝั่งนู้นทำให้เขานึกสงสัยว่าอีกคนกำลังทำอะไรอยู่
“กัป”
/ว่าไง/ เสียงดูไกลจากโทรศัพท์ เจ้าตัวคงยุ่งอยู่เขาเลยเลือกที่จะเงียบแล้วฟังเสียงอีกคนต่อไป
“สะดวกมั้ย”
/ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่หน่า/
“ฟังเพลงหน่อยมั้ย”
/เอาสิ/ เขาเปิดโน๊ตบุ๊คข้างตัวก่อนจะเลื่อนดูลิสต์เพลงที่จะเปิด เสียงจากปลายสายยังดังขึ้นมาเป็นระยะ
Morning - Lazyloxy
ไม่รู้เพราะอะไรเขาถึงเลือกที่จะกดเพลงนี้ ดนตรีเบาๆพร้อมกับเสียงของแรปเปอร์ที่น่าจะงานเยอะพอสมควรดังขึ้นตามลำโพง
เนื้อเพลงที่พูดถึงแฟนเก่าที่รักที่สุด แม้จะจากกันไปแล้วแต่ยังผูกพัน ยังอยู่ที่เดิม ยังเหมือนเดิม
/เศร้าเฉยเลยเนอะ/ หลังจากเงียบจนเพลงจบแล้ววนกลับมาอีกรอบ พวกเขาก็ยังไม่มีบทสนทนาต่อไปอีกซักพักใหญ่ๆแล้วปลายสายก็พูดขึ้นมา
“ก็ว่างั้น” นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงกว่าๆแล้วแต่เขายังคงอยู่บนเตียงที่เดิม มากสุดก็แค่การเปลี่ยนท่าทางของตัวเองเท่านั้น
เมื่อวานหยั่งกับฝันไป ทุกอย่างมันประดังเข้ามาตั้งแต่ความรู้สึกตื่นเต้น สนุก มีความสุข ตื้นตัน เสียใจ
ทำไมแค่วันวันเดียวเขาต้องปรับโหมดความรู้สึกมากขนาดนี้กันนะ
วันสุดท้ายแล้วในฐานะไนน์บายนาย
คิดถึงแล้วนะ
ปลายสายไม่พูดอะไรมีเสียงน้ำดังขึ้นแทน คงจะล้างจานอยู่คนอย่างชลธรไม่ทิ้งจานไว้เฉยๆแน่
ต่างกับเขา
/หัวเราะอะไรอ่ะ/ ปลายสายถามเมื่ออยู่เขาก็นึกขำขึ้นมากับความต่างของพวกเขาสองคน
จากที่เข้าโปรเจคมาด้วยการไม่รู้จักกัน มันมีบางอย่างที่รู้สึกว่าเหมือนกันจนทำให้พวกเขาเข้ากันได้ เป็นคนไม่ชอบยอมแพ้อะไรละมั้ง
เพราะงั้นถึงได้กอดคอกันร้องไห้บ่อยๆเวลาโดนด่า
กัดฟันสู้กันมาจนถึงวันที่คิดว่าฝันจะเป็นจริงแล้ว
แต่ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
กับอีกคนยิ่งแล้วใหญ่ ลภัสยังเคยนึกชื่นชมอีกคนในใจตลอดช่วงที่ผ่านจุดที่ยากที่สุด เขาอาจจะไม่ได้พูดอะไรมากมาย ไม่ได้บอกใครว่าเขาทำอะไรไปบ้าง แต่เขาอยู่เสมอ
อยู่ข้างๆ พร้อมที่จะร้องไห้ไปด้วยกัน
ผ่านมันมาแล้วจนพวกเขาได้มีผลงานออกมา โคตรสนุกเลยตอนนั้นแม้เขาจะโดนบ่นเป็นระยะเรื่องความขี้เกียจบ้างละ ความติดเกมส์บ้างละ
แต่เขาก็มักจะจับอีกคนให้มาเป็นรูมเมทเขาทุกครั้งไป
โรคจิตละมั้งชอบฟังอีกคนบ่น
เพราะสนิทกันมากไปไหนไปด้วยกันไม่แปลกที่พวกเพื่อนเขาก็จะสนิทกับอีกคนไปด้วย ไอการไปเที่ยวอังกฤษตอนปีใหม่ ทริปที่ตั้งใจไว้เลยโดนแซวมาว่าเขาเหมือนพกแฟนไปกับกลุ่มเพื่อนเลยนะ
แฟนอะไรละแม่แล้วมั้ง ขี้บ่น
“ฉันบอกว่าแก้มใหญ่ๆของเธอ มันทำให้เธอน่ากอด” เขาร้องท่อนนึงในเพลงออกมาให้อีกคนฟัง
“จากนี้ไอไม่ได้ไปร้องไห้กับยูแล้วนะ”
/รู้แล้วหน่า/
“ยูก็อย่าขี้แยมากนะ”
/เห็นเป็นคนแบบนั้นหรอ/
“แล้วปฏิเสธมั้ย” การเงียบก็เป็นคำตอบอย่างหนึ่ง เหมือนที่อีกคนเงียบไปกลายๆว่ายอมรับ เขาเผลอยิ้มให้กับตัวเอง
/ยู/
“ว่า”
/ไว้ว่างมาเจอกันนะ/
“แน่นอนสิ”
/สัญญาแล้วนะ/
“ไม่ผิดสัญญาครับ แคปแคป”
/ขอบคุณนะ มายเลิ้บ/
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in