เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ไม่มีชื่อเรื่องMickey Fern
ฟิล์มม้วนที่เก้า
  •    ฟิล์มม้วนที่เก้า ฟิล์มบูดม้วนเก่าที่ถูกเก็บไว้ในชั้นเก็บของของใครบางคนมานาน บางทีเขาอาจจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเขามีมันอยู่ในห้องของเขา

    ย้อนกลับไปเมื่อสองเดือนก่อน เรามีโอกาสได้เข้าไปในห้องนั้นครั้งแรก ห้องเล็กๆที่เหมือนจะมีไว้เป็นที่พักผ่อนหลังกลับมาจากการทำงานเท่านั้น
    บรรยากาศภายในห้องดูจืดชืดไร้ชีวิตชีวา แต่ทว่าคงมีความทรงจำบางอย่างซุกซ่อนตัวอยู่ในซอกหลืบไหนซักแห่ง

    เราเริ่มปฏิบัติการสอดส่ายสายตาตามหาความทรงจำไปตามซอกเล็กซอกน้อยต่างๆที่ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ
    และแล้วสายตาเราก็หยุดอยู่ที่ชั้นวางของในซอกเล็กๆ ที่ชั้นล่างสุด มีฟิล์มเนกาทีฟหลายต่อหลายม้วนวางซ้อนกันอยู่
    เราค่อยๆเปิดดูทีละม้วน ไล่สายตาดูให้ครบทุกรูป พลางคิดตามว่าแต่ละรูปเกิดขึ้นที่ไหน ความรู้สึกของคนในรูปเป็นยังไง
    บางรูปมีรอยยิ้มที่ตั้งใจยิ้มให้กล้อง บางรูปก็ไม่ได้ตั้งใจ บางรูปเหมือนถูกถ่ายตอนเผลอ บางรูปเหมือนทุกคนกำลังหัวเราะอยู่ และมันยังรวมไปถึงตัวตากล้องเองเสียด้วย..

    เราชอบเสียงหัวเราะของเธอ มันดูน่าค้นหา เหมือนกับว่าเธอซ่อนอะไรไว้ภายใต้ความร่าเริงของเธอ ต่อให้มันดูมีความสุขแค่ไหน สุดท้ายเราก็ยังรู้สึกว่ามันมีความรู้สึกลึกลับแฝงมาด้วยทุกที

    หลังจากนั่งดูฟิล์มอยู่นานสองนาน เราก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าในชั้นเดียวกันมีฟิล์มเนกาทีฟที่ยังไม่แกะใช้อยู่ด้วย
    เราลองหยิบขึ้นมาดู ก็พบว่ามันหมดอายุไปตั้งแต่ปี2001แล้ว มิน่าล่ะ เจ้าของมันถึงไม่หยิบมันไปใช้สักที
    อาจเป็นเพราะเธอไม่กล้าเสี่ยงที่จะหยิบมันไปใช้ หรือไม่ เธอก็คงไม่สนใจที่จะถ่ายรูปอีกต่อไปแล้ว.. มั้ง
    เธอเล่าให้ฟังว่าตัวเธอเองก็หยิบมันมาจากห้องชมรมอีกที เพราะในตอนนั้นก็ไม่มีใครสนใจที่จะหยิบมันออกมาใช้กัน
    คงเป็นเพราะไม่มีใครกล้าเสี่ยงล่ะมั้ง.. หมดอายุมานานซะขนาดนั้น จะถ่ายติดหรือเปล่าก็ไม่รู้... สุดท้าย ฟิล์มม้วนนั้นก็กลายมาเป็นของเราจนได้
    ก็แน่ล่ะ ตามหาฟิล์มบูดดีๆมาตั้งนาน จะปล่อยให้มันตั้งซังกะตายอยู่อย่างนั้นคงไม่ไหวมั้ง


    จำไม่ได้ว่านานเท่าไรที่ฟิล์มม้วนนั้นค้างเติ่งอยู่ในกล้องเรา แต่มันก็นานพอที่จะอยู่จนถึงวันที่เจ้าของเก่าของมันไม่ทันได้เห็นว่าภาพมันจะออกมาเป็นอย่างไร
    อาจเป็นเพราะเราถ่ายมันช้าไป เราใช้เวลากับมันมากไป หรือไม่ ก็คงเป็นเพราะความสัมธ์ของเราจบลงเร็วเกินไป ใช่.. มันเร็วจนน่าใจหาย เร็วในแบบที่ตัวเราเองก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัว..

    วันที่เราเอาฟิล์มไปล้าง เราไม่แน่ใจเท่าไร ว่าเราต้องคาดหวังให้รูปมันออกมาในทางไหน
    ถ้าทุกรูปชัด นั่นหมายความว่า เราจะได้เห็นเธอใกล้ๆอีกครั้ง แต่ถ้ารูปที่ออกมาใช้ไม่ได้ เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเราจะดีใจหรือเปล่าที่จะไม่ต้องเห็นเธออีก..

    ผลที่ออกมา กลายเป็นว่ารูปถูกแสกนเสียไปแปดสิบเปอร์เซ็นต์จาก36รูป ไม่น่าเชื่อว่าอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือ จะเป็นรูปเธอไปเสียสิบเปอร์เซ็นต์...
    รูปของเธอทำให้หัวใจเราเต้นไม่เป็นจังหวะ ราวกับว่ามีเธอมายืนยิ้มให้ข้างหน้าเราเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
    เราควรดีใจดีไหมนะ ที่เราได้เห็นเธอใกล้ๆแบบนี้อีกครั้งหนึ่ง..

    ความทรงจำตอนที่เราลั่นชัตเตอร์ยังชัดเจนดี รอยยิ้มบางๆของเธอบนรถแท็กซี่ที่เรานั่งมาด้วยกันตอนบ่ายวันนั้นยังคงสวยงามเสมอ แม้อยู่ในรูปใบเล็ก
    แน่นอน ว่าความรู้สึกของเราที่มีต่อเธอ ก็ยังคงชัดเจนดีเช่นกัน..
    เราไม่รู้หรอกว่าเธอจะยังยินดีอยู่หรือเปล่าหากเธอได้เห็นมัน เราไม่รู้ว่าเธอหวังที่จะได้เห็นรอยยิ้มของเธอในรูปใบเล็กอยู่หรือเปล่า
    แต่เรารู้สึกดีนะที่เราได้เห็นมันชัดๆอีกครั้ง แม้ว่ามันจะเป็นรูปสองใบสุดท้ายที่มีเธออยู่..

    ยินดีเหลือเกิน ที่ได้พบกันอีกครั้ง.. แม้ว่ามันจะเป็นเพียงความทรงจำ แต่เราก็ยินดีที่ได้เจอเธออีกครั้งนะ :)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in