เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
It's okay not to be okayRachata Piwawattanapanith
หมอว่าคุณใจร้ายกับตัวเองมากเกินไป
  • เดือนก่อนได้ยาตัวนึงมากิน เพราะอาการวิตกกังวล คิดมาก คิดวน มันกลับมาอีกแล้ว รอบนี้หนักจนถึงขนาดทำงานใช้ชีวิตฟังก์ชั่นปกติแทบจะไม่ได้เลย หมอบอกให้กินเช้ากับบ่าย พยายามกินให้ได้ทุกวัน แล้วอาการเหล่านั้นจะค่อยๆ ดีขึ้นเองตามลำดับ 

    แต่เหมือนอาการมันไม่ดีขึ้นเลย ทั้งที่กินยาทุกวันมาเกือบๆ เดือน แถมเผลอๆ อาการมันแย่ลงไปอีก เมื่อวานไปเจอหมออีกรอบ ก็บ่นๆ โน่นนี่ให้หมอฟัง อารมณ์ไม่ค่อยสวิงหนักแล้ว มีดิ่งบ้าง แต่ไม่ได้ลึกอะไรขนาดนั้น ส่วนเรื่องวิตกกังวล นี่ก็บอกหมอไปตรงๆ ว่าไม่ดีขึ้นเลยสักนิด 

    หมอเลยบอกให้หยุดยาตัวนั้นเลย แล้วไปเพิ่มโดสอีกตัวแทน น่าจะช่วยให้คิดมากได้น้อยลง 

    จริงๆ หมอก็บอกว่าอยากให้กินยาต้านเศร้าแหละ มันช่วยเรื่องคิดวนอะไรแบบนี้ได้เหมือนกัน แต่ด้วยความที่เราเป็นไบโพล่าร์ การกินยาต้านเศร้ามันจะทำให้อารมณ์มันพุ่ง ซึ่งพอมันดีดไปสูงๆ สักพักมันจะกลับมาดิ่งมากๆ 

    ไม่คุ้มกัน

    หมอเสริมอีกว่า จริงๆ อยากให้กินยาอีกตัว แต่จนถึงป่านนี้มันก็ยังไม่เข้าไทยสักที น่าเสียดายเนอะ แต่คิดไปคิดมาอีกที หมอพูดแบบนี้แสดงว่ามันเป็นยานอกแน่ๆ คงแพงอีกแหละ ช่วงแรกๆ ที่รักษาก็กินยานอก ค่าใช้จ่ายเยอะมากๆ ตกเดือนนึงมีเกือบหมื่น ไม่ไหว ตอนนี้เลยกินตัวที่ผลิตในไทยแทน ยาตัวเดียวกัน แค่คนละยี่ห้อ ลดค่าใช้จ่ายไปได้เกินครึ่งเลย

    เราเป็นคนพูดเก่ง จะบอกว่าขี้โม้ก็ได้ เวลาไปหาหมอจิต มักจะใช้เวลานานกว่าคนปกติทั่วไปนิดนึง พยายามเล่าอาการให้หมอฟังให้ได้มากที่สุด อันนี้น่าจะเป็นข้อดีของการคิดเยอะคิดมากมั้ง เพราะเราเก็บรายละเอียดอาการตัวเองได้เกือบหมด 

    ส่วนข้อเสียก็อย่างที่ทุกๆ คนรู้กันแหละ มันจะคิดวนคิดซ้ำอยู่กับเรื่องเดียวไปเรื่อยๆ จนแทบจะไม่เป็นอันกินอันนอน คิดว่าตัวเองไม่มีค่า ทุกคนเกลียดเรา อีกไม่นานคนอื่นก็จะรู้ว่าเราไม่ได้เก่งจริง ทุกอย่างที่ทำได้คือฟลุ๊คมาตลอด เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นที่เขาทำงานมานานกว่า เปรียบเทียบกับคนอื่นที่ฝึกฝนมากกว่า ถ้าไม่ได้เก่งกว่าคนพวกนั้น คือชีวิตล้มเหลว แต่ก็บอกหมอนะ ว่ารู้ว่าตัวเองแอบใจร้ายกับตัวเองมากเกินไป 

    "อย่างที่คุณรชตะบอกแหละ หมอว่าคุณใจร้ายกับตัวเองมากเกินไป"
    .
    "มันก็จริงอย่างที่คุณบอก มันดูใจร้ายไปนิดที่คุณจะเอาตัวเองที่เลเวลอาจจะยังไม่สูงมากไปเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ ที่เลเวลเกือบจะตันแล้ว" 
    .
    "อันนี้หมอพูดจริงๆ นะ คุณรชตะอาจจะต้องปรับชุดความคิดตัวเองใหม่ พยายามอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบใคร ถ้าจะเทียบจริงๆ ให้เทียบกับตัวคุณในอดีตดีกว่า ดูว่าเราเดินมาไกลแค่ไหนแล้ว เราเก่งขึ้นจากแต่ก่อนหรือเปล่า"

    ก็ถูกของหมอนะ เราเองก็รู้สึกว่าใจร้ายกับตัวเองมากๆ เราชอบแนะนำให้คนอื่นค่อยๆ คิด ใจเย็นๆ กับตัวเอง ทุกสิ่งอย่างมันมีเวลาของมัน อย่ารีบ แต่พอถึงเรื่องของตัวเอง เรากลับทำไม่เคยได้เลยสักครั้ง

    แย่เนอะ ว่าปะ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in