ในปีพุทธศักราช 2456 พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ ก็ได้เสด็จกลับประเทศไทยพร้อมกับหม่อม เอลิซาเบธ เมื่อกลับมาแน่นอนคนเป็นพระราชมารดานั้นย่อมมีความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ในแผ่นดินรัชกาลที่ 6 พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ได้เข้าทำงานในกระทรวงศึกษาธิการ ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยปลัดทูลฉลองกระทรวงธรรมการ อีกทั้งยังมีการเฉลิมพระนามเป็น ”พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์” สถาปนาพระยศเป็นพระองค์เจ้าต่างกรมว่า “กรมหมื่นชัยนาทนเรนทร” ในรัชกาลเดียวกันก็ได้เลื่อนขั้นเป็น “กรมขุนชัยนาทนเรนทร”
นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเป็นผู้บัญชาการโรงเรียนราชแพทยาลัย จนกระทั่งในพ.ศ.๒๔๖๐ ได้ก่อตั้งกรมมหาวิทยาลัย ซึ่งพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหมื่นชัยนาทนเรนทร เป็นอธิบดีพระองค์แรก โปรดเกล้าฯให้โรงเรียนราชแพทยาลัยเป็น 1 ใน 4 คณะแรกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นามว่า “แพทยศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”
ในปี พ.ศ. 2461 เปลี่ยนชื่อเป็น คณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล (ปัจจุบันจากข้อมูล โรงเรียนราชแพทวิทยาลัย คือ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล เพราะแยกออกมาจากจุฬาฯในปี พ.ศ.2486) และปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาแพทย์เพิ่มระยะเวลาการศึกษาเป็น ๖ ปี
ด้วยความที่สนใจทางการแพทย์พระองค์จึงเป็นผู้โน้มน้าวและส่งเสริมให้เจ้าฟ้ามหิดลฯหรือสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมชนกให้ทรงสนพระทัยและศึกษาด้านการแพทย์อย่างจริงจัง เพื่อทรงนำมาพัฒนาด้านการแพทย์ของไทยจนได้รับการสถาปนาเป็น พระบิดาแห่งการแพทย์
นอกจากนี้พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ยังเป็นผู้จัดตั้งการเรียนการสอนวิชาใหม่ ก็คือ การสอนด้านการปรุงยา โดยเรียกเป็น ”แผนกแพทย์ผสมยา” หรือในอีกชื่อหนึ่งว่า "โรงเรียนปรุงยา" ในสังกัดโรงเรียนราชแพทยาลัย ตามคำขอของกรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ(เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ) ที่ทรงปรารภว่า ตอนนี้มีแต่แพทย์รักษาโรคแต่ยังขาดแพทย์ปรุงยา เพื่อใช้ในกองทัพ ดังพระดำรัสของพระองค์ที่ประทานแก่นักศึกษารุ่นแรก ความว่า
ต่อมาในปี พ.ศ. 2475 ปทานุกรมของไทยได้กำหนดให้บัญญัติใช้คำว่า "เภสัชกรรม" แทนคำว่า"ปรุงยา" หรือ "ผสมยา" จึงได้มีประกาศกระทรวงธรรมการให้มีการเปลี่ยนชื่อแผนกเป็น "แผนกเภสัชกรรม" โดยขึ้นตรงกับคณะแพทยศาสตร์ ต่อมาจึงแยกออกเป็นอิสระเป็นที่มาของ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์จึงยกย่องพระองค์ท่านว่า “บิดาของวิทยาศาสตร์เภสัชกรรมแห่งประเทศไทย” นับได้ว่าพระองค์ได้ทำให้วิชาทางด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพในประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น
โปรดติดตามตอนต่อไป
ติดตามเรื่องราวอื่นๆผ่าน Facebook page ตำนานเก่าเจ้านายสยาม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in