เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
กบฏไร้เดียงสาccttiana
13 เขาว่าบ้านนี้ผีดุ (2/2)
  • เด็กสาวเริ่มเคลียร์พื้นที่ตรงห้องนั่งเล่น ทยอยเปิดหน้าต่างและประตูให้มีลมพัดผ่านเพื่อระบายอากาศให้ถ่ายเทไม่เหม็นอับ เอื้อมมือขึ้นสูงถอดเอาผ้าม่านและพื้นพรมยกไปไว้ตรงลานหลังบ้านเพื่อเตรียมซักตาก จากนั้นปัดฝุ่นตามชั้นวางของ โต๊ะ ตู้ เก้าอี้ ให้ฝุ่นลงมาที่พื้น

    เกรเทลเลือกที่จะค่อย ๆ กวาดพื้นตามซอกตามมุมให้ขยะออกมา แม้ว่าก่อนหน้าจะไม่มีแม่บ้านมาดูแลทำความสะอาดในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่วอลล็อคเขาคงจะคอยปัดกวาดเช็ดถูด้วยตนเองฝุ่นหรือขยะจึงแทบไม่มีให้เธอเห็น อย่างมากก็จะเป็นพวกเม็ดหินดินทรายมากกว่าที่เยอะ

    ซึ่งเธอก็ไม่ต้องเหนื่อยจัดเก็บ ถ้าให้พูดกันตามความจริงเธอก็ไม่อยากอยู่ที่นี่นาน ๆ หรอก ฟังเจ้าอารอล์ฟพูดเยอะไปจนชักหลอน

    เกรเทลหยิบเอาถังไปเติมน้ำจำนวนสองถัง ใบหนึ่งเอาไว้เช็ดโต๊ะตู้ชั้นวาง อีกใบเอาไว้ถูพื้นโดยเฉพาะ เกรเทลไล่เช็ดถูไปเรื่อยจนสะอาดหมดจด แล้วปิดท้ายด้วยการจุ่มไม้ม็อบลงไปส่งมือลงไปกำบิดให้ผ้าเปียกหมาด ๆ แล้วไล่ถูจากด้านในสู่หน้าบ้าน 

    ข้าวของส่วนใหญ่ถูกวางไว้เป็นที่ของมันเด็กสาวแค่ขยับนิด ๆ หน่อย ๆ ให้เรียบร้อย ส่วนภายในครัวเธอทำเพียงแค่เช็ดถูตามชั้นตู้เก็บของ จัดการล้างแก้วที่บางส่วนยังถูกทิ้งแช่เอาไว้ให้ไม่มีคราบ จัดโต๊ะเก้าอี้เข้าที่ 

    มีกองหนังสือพิมพ์ถูกวางทิ้งไว้เกรเทลจึงหยิบขึ้นมาดูปรากฏว่าเป็นอักษรแปลกประหลาดซึ่งเธออ่านไม่ออก แต่ด้านข้างคอลัมน์มีภาพถ่ายประกอบดูเหมือนจะเป็นเหตุจลาจลอะไรสักอย่าง ถัดลงมาเป็นภาพเบลอ ๆ ถ่ายจากระยะไกลในภาพเป็นชายรูปร่างสูงโปร่งมืด ๆ มองไม่ออกว่าในภาพนั้นคือใคร

    “ยืนอู้งานอยู่หรือ” 

    ร่างบางได้ยินเสียงพูดจึงหันหน้าไปมอง รอบนี้เขากลับมาในสภาพเรียบร้อยผมไม่ยุ่งแล้ว คาดว่าเขาคงขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามาสินะถึงหายไปนานกว่าจะลงมาชั้นล่าง

    วอลล็อคแกล้งทักหยอกล้อคนตัวเล็กแก้เบื่อเพราะเขารู้ดีว่าหมอนี่มันขยันทำงานทำการที่สุด พลันลากสายตาไปมองในมือของเด็กหนุ่มเป็นแผ่นกระดาษหนังสือพิมพ์เช้าวันนี้ นกส่งสารคงบินเข้ามาทางหน้าต่างบานไหนสักบานแล้วมาวางไว้แถวนี้ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ทันได้สังเกตด้วย

    “อ่อ เปล่าขอรับข้าแค่ดูหนังสือพิมพ์เฉย ๆ แล้วก็สงสัยว่ามันคืออะไร” 

    นายหัวแห่งตลาดค้าทาสเลิกคิ้วขึ้นไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพูด ก็เมื่อในมือมันถือหนังสือพิมพ์อยู่ก็แสดงว่าต้องอ่านอยู่มิใช่หรืออย่างไร

    “ก็เจ้าอ่านอยู่ไม่ใช่เหรอเจ้าหนู” 

    “คือว่า…ข้าอ่านไม่ออกหรอกขอรับ” 

    เกรเทลทำสีหน้าไม่เข้าใจพร้อมตอบไปสั้น ๆ ว่าเธออ่านมันไม่ออกจริง ๆ ตัวขะยึกขะยือบิดไปบิดมาไม่เคยเจอในโลกของตนเองแถมไม่รู้ด้วยว่าต้องอ่านจากฝั่งซ้ายหรือขวา อ่านจากบนลงล่าง 

    “อืมงั้นเหรอ” 

    ชายหนุ่มหรี่ตามองดูแล้วท่าจะจริงเพราะบนหน้าหนังสือพิมพ์เช้าวันนี้เขากำลังพูดถึงเหตุการณ์ชุมนุมครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อคนวงกว้าง ซึ่งเป็นใครอ่านข่าวก็ต้องตื่นตกใจแล้วจับกลุ่มพูดคุย ผิดกับเจ้าเด็กนี้ดูไม่ประสีประสาอะไรแถมยืนทำหน้างงอีก

    “ข้าอยากรู้ว่าข่าวเกี่ยวกับอะไรขอรับ” 

    เกรเทลบอกจุดประสงค์ภายในใจให้หัวหน้ารับรู้ไปเลย ตอนนี้เธอเหมือนกบในกะลาครอบที่ไม่รู้จักอะไรเลยนอกจากภายในตลาดค้าทาสโมเบียส ข่าวสารด้านนอกเป็นไง สภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างเธอไม่รู้อะไรเลย ถ้าบอกว่าโดนปิดหูปิดตาเธอก็เชื่อ

    “เช่นนั้นเอาไว้ข้าสอนให้เจ้าก็แล้วกัน” 

    “จริงหรือขอรับ?” 

    เกรเทลหูผึ่งหันไปมองด้วยตาเป็นประกายวิ้ง ๆ เธอเป็นคนรักการเรียนมากคนหนึ่งเฮลก้าจึงชอบล้อเลียนว่าเธอเป็นพวกเด็กเนิร์ดของแท้ แม้จะมีบ้างที่แอบหนีโดดเรียนแต่จนแล้วจนรอดก็คว้าเอาเกรด 4 ไม่ก็เกรด A มาครองได้อย่างสบาย ๆ เด็กสาวถือว่าหัวดีแถมขยันไม่แปลกที่เธอจะทำได้ทุกอย่างในเวลาอันสั้น

    “จริง แต่ข้ามีค่าจ้างนะ” 

    “อ้าว” 

    ชายหนุ่มเห็นตาเป็นประกายนั้นได้เพียงแป๊บเดียวพอเขาพูดคำว่าค่าจ้างปุ๊บ แววตาเจ้าเด็กนี้ก็หม่นหมองลงโดยทันที

    “เอาเถอะไว้ข้าค่อยคิดทีหลังว่าจะเก็บเจ้าเท่าไรไว้จะสอนอ่านแล้วกัน” 

    “สัญญาแล้วนะขอรับ” 

    ผมสีเขียวขยับขึ้นลงพยักหน้าน้อย ๆ ให้ เกรเทลก็เลิกเซ้าซี้อีกฝ่ายหันหน้ามามองกระดาษหนังสือพิมพ์ในมือแล้วเม้มปากแน่นเสียดายที่ไม่สามารถอ่านมันออกในตอนนี้ได้ เธอชอบอ่านข่าวโดยเฉพาะอ่านจากหนังสือพิมพ์มันให้ความรู้สึกฟินเมื่อได้ยินเสียงกระดาษพลิกไปมาเหมือนหนังสือ

    มือเรียววางมันลงบนโต๊ะจัดระเบียบให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมที่จะไปขัดห้องน้ำ แล้วต่อด้วยทำความสะอาดชั้นบนตามลำดับ ห้องน้ำเธอทำจนชำนาญจึงใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที ก็สะอาดเอี่ยมอ่อง ลากอุปกรณ์เดินไปตามชั้นบันไดด้วยความระมัดระวัง เมื่อเดินมาจุดบันไดก็พบว่ามีแค่สองห้องจริง ๆ คือห้องน้ำกับห้องนอนเกรเทลจัดการห้องน้ำชั้นสองก่อนแล้วค่อยย้ายไปเก็บกวาดห้องนอน

    ในสายตาเด็กสาววอลล็อคเป็นคนรักความสะอาดระดับหนึ่ง ในห้องน้ำทั้งชั้นบนและล่างแทบไม่มีคราบสกปรกให้เห็น ส่วนห้องนอนรกนิดหน่อยตามประสาผู้ชายที่อาศัยอยู่คนเดียวในบ้าน มีเตียงขนาดควีนไซซ์กับตู้เสื้อผ้าที่ดูเหมือนยังไม่ได้ถูกพับเก็บวางกอง ๆ กันอยู่บนเก้าอี้ตรงโต๊ะทำงาน ข้าวของในห้องมีไม่กี่อย่างแต่ดูอบอุ่นครบครัน

    เธอเหลือบไปเห็นตะกร้าผ้าวางหลบมุมห้องอยู่ ใจลังเลว่าต้องเอาไปซักด้วยไหม ยืนสองจิตสองใจอยู่นานจึงตัดสินใจชะโงกหน้าออกไปทางประตูแล้วเปล่งเสียงตะโกนถามลงไป

    “ตะกร้าผ้าตรงนี้ให้ข้าซักด้วยเลยไหมขอรับ?!” 

    ร่างหนาสะดุ้งตกใจเสียงที่ดังมาจากชั้นบนจึงก้าวเดินไปตรงตีนบันไดแล้วพูดกลับไป

    “เจ้าเอาไปซักด้วย” 

    เมื่อได้ยินดังนั้นเกรเทลก็พยักหน้าเข้าใจแล้วกลับมารีบเคลียร์ห้องต่อ พับเสื้อผ้าเข้าตู้ให้เรียบร้อย ปัดกวาดเช็ดถูตามโต๊ะตู้ใต้เตียง แล้วต่อด้วยการดึงผ้าปูที่นอนออกมาพร้อมปลอกหมอนผ้าห่ม จับขยุ้ม ๆ เป็นก้อนกลมวางไว้ที่พื้นหน้าห้องนอนชั่วคราว จากนั้นเดินกลับไปในห้องคว้าเอาตะกร้าผ้าออกมาพร้อมก้มลงกอดก้อนเครื่องนอนลงไปซักด้วยทีเดียว

    ชายหนุ่มยืนเท้าเอวมองร่างเล็กค่อย ๆ ก้าวลงบันไดอย่างใจเย็น มีข้าวของอย่างพวกผ้าห้อยพะรุงพะรังเดินลัดเลาะผ่านประตูครัวไปทางหลังบ้าน เขาเดินตามไปอย่างเงียบ ๆ เฝ้าดูการทำงานของอีกฝ่าย

    “วันนี้ท่านไม่มีงานทำหรือ?” 

    เกรเทลเห็นว่าเขาไม่ได้ออกไปไหนแต่ดันมายืนคุมงานเธอมาได้สักพักหนึ่งแล้ว เลยถามออกไปให้หายสงสัย

    “ก็มีนะแต่เจ้ามาทำงานที่บ้านพักข้า แถมเจ้าเพิ่งขโมยของไป ข้าจึงต้องมาดูกับตาว่าเจ้าได้แอบขโมยอะไรไปหรือไม่” 

    เด็กสาวกลอกตามองบนกับประโยคเหน็บแนมของอีตาหัวเขียวที่แท้ก็มายืนจับผิดเธอนั่นแหละ ไม่ได้มีเหตุผลอื่นเลยนอกจากเรื่องขโมยของ

    “ข้าก็แค่ขโมยอาหารชิ้นเดียวเอง” 

    เกรเทลทำปากขมุบขมิบพูดพึมพำไม่ให้เขาได้ยิน แต่วอลล็อคดันเป็นคนแปลกประหลาดหูดีผิดมนุษย์มนาจึงได้ยินเต็มสองรูหู

    “นี้ ๆ ทำงานไปอย่ามัวแต่บ่น” 

    “ขอรับ~” 

    จากนั้นเกรเทลเลื่อนใบหน้ามามองกองผ้าขนาดใหญ่ ลากเก้าอี้ไม้เล็ก ๆ มานั่งลงแล้วลงมือซักผ้าทั้งหมดที่มีด้วยตัวคนเดียว ไม่ว่าจะผ้าม่าน พรม ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม และเสื้อผ้าของชายหนุ่ม เธอไม่รู้สึกกระดากอายกับพวกชุดชั้นในของผู้ชายเพราะบ่อยครั้งที่เธอต้องซักพวกชุดเสื้อผ้าให้ป๊าและพี่ฮันเซลอยู่เป็นประจำเมื่อแม่ไม่อยู่บ้าน ยิ่งพวกชุดทหาร ชุดในเครื่องแบบ ไหนจะต้องรีดผ้าให้เรียบ เย็บซ่อมชุดให้กลับมามีสภาพดี เกรเทลล้วนทำได้หมดความเป็นแม่ศรีเรือนเธอมีพร้อม

    วอลล็อคยืนกอดอกพิงอบประตูหลังบ้านมองไปยังเด็กหนุ่มตัวเล็กที่กำลังขะมักเขม้นกับการซักผ้าทั้งหมดแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

     

    …มันจะไม่หมดแรงเป็นลมไปก่อนใช่ไหมวะ? …

     

    เขาเริ่มไม่แน่ใจเท่าไรว่ามันจะทำทั้งหมดได้ด้วยตัวคนเดียว ปกติเวลาป้าแม่บ้านมาทำความสะอาดบ้านพักเขาต้องหอบกันมาสามสี่คนถึงจะเสร็จ แต่นี่เขาเล่นให้มันทำคนเดียวดูจะใจร้ายไปหรือเปล่านะ ต่อมความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเริ่มทำงานหลังจากเฝ้าดูมันมาสองสามวัน การแกล้งมันก็สนุกดีหรอกแต่ถ้าเกิดเจ้าเด็กนี่ป่วยขึ้นมาเขาคงจะโดนลูกน้องในสังกัดสาปส่งทั้งค่าย

     

    เกรเทลอยู่ทำความสะอาดบ้านพักวอลล็อคเกือบทั้งวันโดยเฉพาะการซักผ้ากองมโหฬาร มีพักเบรกไปกินข้าวช่วงเที่ยงแล้วก็กลับมาซักต่อ แม้วอลล็อคจะบอกเธอเสมอว่าถ้าเหนื่อยก็พักบ้างเขาไม่ได้เร่งขนาดนั้น อีกอย่างทำอยู่คนเดียวไม่มีใครช่วยจะกินเวลานานก็ไม่แปลก

    ชายหนุ่มตัดสินใจหอบเอาเอกสารและงานมานั่งทำในบ้านพักแทนเพื่อเฝ้าดูเจ้าหนูทำงานอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งตกเย็นทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยดี โชคดีที่วันนี้มีแดดและลมพัดผ่านทำให้ผ้าที่ซักทั้งหมดแห้งเร็วทันใช้ เกรเทลดึงผ้าลงมาจากราวไม้สะบัดผ้าให้พวกฝุ่นหรือเศษไม้ใบที่ปลิวตกใส่ให้หลุดออกไปแล้วพับใส่ตะกร้าสานถือเข้าไปในบ้าน เธอทยอยเอาม่านไปแขวนตามหน้าต่างและเดินขึ้นชั้นสองไปพับเก็บเสื้อผ้าของชายหนุ่มเข้าตู้ให้เรียบร้อย งานวันนี้เสร็จสิ้นไม่มีอะไรต้องให้ทำที่นี่อีก

    วอลล็อคเดินตรวจตราเช็กสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้าน ทุกอย่างดูสะอาดเข้าที่เข้าทางต่างจากเมื่อเช้าลิบลับถือว่าเจ้าหนูทำงานได้ดีจริง ๆ

    “เจ้าทำงานดีมาก” 

    เขาเอ่ยชมจากใจจริงคิดเสียว่าเป็นค่ากำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้มันพอยิ้มได้

    “พรุ่งนี้ก็มาทำความสะอาดเวลาเดิม” 

    พูดเสร็จเขาก็กลับมานั่งที่เก้าอี้ที่ห้องนั่งเล่นทำงานเอกสารต่อ ส่วนเธอหอบอุปกรณ์ออกจากที่นั่นแล้วตรงไปยังโรงครัวเพื่อช่วยงานหัวหน้าพ่อครัวบาสเตียนต่อ

    เมื่อร่างเล็กเดินออกไปไกลจากบริเวณบ้านพักวอลล็อคลากสายตาไปทางประตูบ้านที่อีกฝ่ายเพิ่งเดินออกไป เขาพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในบ้านที่เขาอาศัยอยู่

    “เจ้าคิดว่ายังไง?” 

    “ไม่มีพิษไม่มีภัย แต่พลังงานภายในช่างแปรปรวนแปลกประหลาด” 

    เป็นเสียงแหบต่ำที่ขานตอบกลับมา วอลล็อคหรี่ตาคิดวนไปวนมาในหัวเกี่ยวกับเจ้าเด็กคนนี้

    “จับตาดูเอาไว้ก่อน ข้าไม่ไว้ใจมันนัก” 

    “แต่ท่านก็จับดูอยู่ตลอดมิใช่หรือ?” 

    สิ้นคำถามจาก ‘เจ้านั่น’ ชายผมสีเขียวโดดเด่นไม่พูดอะไรต่อเลือกที่จะก้มหน้าลงไปอ่านเอกสารงานแทน

     

    ------

    กดหัวใจ ❤️ หรือคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ไรท์ได้นะคะ

    หากพบคำผิด แปลพลาด แก้ไขหรือติชม โปรดคอมเมนต์อย่างสุภาพไรท์ยินดีปรับปรุงแก้ไขค่ะ

     

    𝑻𝒂𝒍𝒌 𝒘𝒊𝒕𝒉 𝒘𝒓𝒊𝒕𝒆𝒓

    น้องขยันแบบนี้ใจอ่อนให้น้องบ้างยังคะพ่อ ตัวน้องก็มีอยู่แค่เนี่ย🤏🏼

    ไรท์หายไปงานพบปะนักเขียน Dokya Ebook มาค่ะ บวกกับเร่งปั่นตอนเพิ่มอยู่จึงทิ้งช่วงไปบ้าง

    แต่สัญญาว่าจะพยายามอัปให้ได้ทุกวันนะคะ🤧


    แวะมาพูดคุยเล่นหรือดูอัพเดตเกี่ยวกับนิยายไรท์ได้ที่

    Facebook : C.T.Tiana

    X(Twitter) : @Ccttiana

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in