เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
กบฏไร้เดียงสาccttiana
13 เขาว่าบ้านนี้ผีดุ (1/2)
  • หลังจากกินข้าวเสร็จอารอล์ฟเดินไปส่งของให้พวกเพื่อนที่กองตรวจสอบพัสดุในทุก ๆ วัน นอกจากเขาต้องเปลี่ยนหน้าที่มาทำบัญชีแล้วยังต้องคอยประสานงานนู้นนี้ให้คนภายในค่ายแห่งนี้ ถ้าไม่นับเจ้าหนูเกรเทลที่งานยุ่งจนไม่มีเวลาคุยด้วยแล้วเขาก็คิดว่าตนเองเป็นรองไม่น้อยไปกว่าเด็กนั่น งานล้นมือชนิดที่ว่าต้องสับเท้าวิ่งไปมาตลอดเวลาเหมือนหนูติดจั่น

    เหนื่อยนะแต่จะบ่นก็กลัวโดนฟาดหัวจากนาย

    ชายหนุ่มกำลังเอนตัวลงนอนปิดไฟหลังจากอาบน้ำอาบท่าก็ยังไม่เห็นรูมเมตตนเองกลับมาสักที ทว่าคิดได้ครู่เดียวหูได้ยินเสียงฝีเท้าเบาค่อย ๆ เดินมาหยุดอยู่หน้าประตูบ้านพัก เสียงลูกบิดประตูดังขึ้นปรากฏร่างเล็กที่สะพายถุงผ้าไว้ด้านหลัง อารอล์ฟจึงเอ่ยทักทายไป

    “ไงไอ้หนูกลับช้าเชียว” 

    เกรเทลพยักหน้าส่ง ๆ ให้อารอล์ฟพร้อมตอบกลับไปเสียงแผ่วเบา

    “อืมโดนใช้ทำงานทั้งวันเลย พรุ่งนี้ก็ต้องไปทำความสะอาดบ้านพักให้นายด้วย” 

    ร่างหนาที่นอนบนเตียงถึงกลับเด้งตัวลุกมานั่งทันทีทันใด จนเสียงจากเตียงดังเอี๊ยดอ๊าดเสียดหูจนเกรเทลเบ้หน้าเลิกคิ้วสงสัยว่ามันมีอะไรให้ชายหนุ่มตื่นตัวขนาดนั้น

    “ห๊ะ? นายสั่งให้เจ้าไปทำความสะอาดบ้านพักเรอะเกรเทล” 

    “ใช่ ทำไมเหรอ” 

    หน้าตาตื่น ๆ ของเพื่อนชายทำเอาใจคอไม่ค่อยดีมันก็แค่ไปทำความสะอาดบ้านพักทั่วไปมิใช่เหรอ จะมีอะไรน่าแปลกใจตรงไหนกันหรือมันเป็นงานที่คนอื่นไม่อยากทำแล้วเธอได้ทำ

    “เขาว่ากันว่าบ้านนายมีผีสิง” 

    ใบหน้าหวานหันหัวขวับตาโตเป็นไข่ห่านไปทางอารอล์ฟเมื่อได้ยินคำว่า ผีสิง เกรเทลเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีสางนางไม้นักแต่ก็ใช่ว่าจะไม่กลัวเลย โดยเฉพาะการที่มนุษย์ชอบจิตปรุงแต่งเองนั่นแหละจากที่ไม่มีกลายเป็นมีเฉย

    “ไม่จริงมั้งรอล์ฟใครบอกกัน” 

    ชายหนุ่มเขยิบตูดมานั่งตรงปลายเตียงแต่ไม่ยอมลุกออกมายืนใกล้เธอชายหนุ่มยกแขนกวักมือเรียกหยิก ๆ ทำให้เธอต้องจำใจเดินไปฝั่งตรงข้ามเพื่อฟังสิ่งที่อีกฝ่ายจะบอก อารอล์ฟเลือกที่จะลดระดับน้ำเสียงให้เบาลงจนเหมือนเสียงกระซิบจนเกรเทลต้องยื่นหูเล็กลงไปใกล้เพื่อให้ได้ยินชัดเจน

    “ก็พวกป้าแม่บ้านนั่นแหละ เขาลือกันสนั่นว่าผีในบ้านโคตรดุ” 

    เด็กสาวขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม ข่าวลือมันจะน่าเชื่อถือได้แค่ไหนกันไม่ใช่ว่ากลัวเจ้านายเลยกุเรื่องขึ้นมาแทนจะได้ไม่มีใครเข้าไปใกล้หรือเปล่า

    “แล้วมันยังไง” 

    ทาสตัวน้อยก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าอะไรดุ เห็นมีแต่พูดแค่ว่าผีดุ แล้วมันดุยังไงเธอชักสงสัยจนเร่งเร้าให้อีกฝ่ายตอบเร็ว ๆ ขืนช้ากว่านี้เธอจะขาดใจ อยากเสือกก็อยากแล้วยังจะมากั๊กพูดไม่หมดอีก

    “เห็นพวกป้าเล่าว่าปกติแล้วบ้านพักหลังนั้นจะมีแค่นายคนเดียวที่อาศัยอยู่ แล้วมีช่วงหนึ่งที่นายไม่อยู่บ้านออกไปทำธุระนอกค่ายสองสามวัน ป้าแม่บ้านก็เข้าไปทำความสะอาดกันตามปกติ เช้าทำความสะอาดพอสาย ๆ ก็ออกมา” 

    เกรเทลฟังที่เพื่อนรูมเมตพูดอย่างตั้งอกตั้งใจอยากรู้เหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านหลังนั้นคนถึงกลัวนักกลัวหนา

    “แต่มีช่วงหนึ่งที่เปลี่ยนไปคือมีวันหนึ่งป้าที่ชื่อแจสเป็นเวรที่ต้องเข้าไปทำความสะอาดอยู่ ๆ ก็กรี๊ดลั่นออกมาจนคนแถวละแวกนั้นตกใจ ป้าเล่าว่าในบ้านไม่มีใครนอกจากนางอยู่ ๆ ก็มีเสียงคนเปิดปิดประตูดังมาจากชั้นสองพอขึ้นไปดูดันไม่มีใคร สักพักก็ได้ยินเสียงคนเปิดก๊อกน้ำในห้องน้ำจะเดินไปปิดก็ไม่มีน้ำไหล พอหันหน้ามาก็เจอเงาอะไรไม่รู้พุ่งเข้าใส่จนกรี๊ดหน้าตั้งออกมา” 

    คนเอียงหูฟังอย่างเกรเทลไม่รู้จะแสดงสีหน้าแบบไหนออกไปเลย ไม่รู้ว่าอึ้งหรือขนลุกกันแน่ ความรู้สึกตีรวนเป็นก้อนกลม ๆ ขยุ้มพันกันในหัว

    “แล้วมีคนเจอแบบนี้อีกไหม” 

    “อืมมี จากนั้นไม่นานคนที่ชื่อแจสก็ลาออกไปแล้วป้าคนอื่น ๆ ในค่ายก็เวียนกันไปทำความสะอาดต่างพูดว่าโดนหลอกไม่เหมือนกันสักคน บางคนโดนประตูล็อกถูกขังอยู่ในนั้น บางคนเจอของลอยปาใส่ บางคนโดนเป่าลมใส่ต้นคอทั้งที่หน้าต่างปิด” 

    เกรเทลทำตาปริบ ๆ ไม่รู้จะถามอะไรต่อดีมีความภายในใจเป็นหมื่นล้านคำแต่พูดออกมาไม่ได้ เธอก็อยากจะเชื่อเหลือเกินว่ามีผีจริง ๆ อย่างที่คนอื่นพูด แต่คนที่กำลังจะต้องเข้าไปทำความสะอาดทุกวันมันดันกลายเป็นเธอไง! พูดแบบนี้ไม่กลัวก็กระไรอยู่นะไม่ได้จิตแข็งขนาดนั้น เลยตัดสินใจเดินถอยหลังออกมาฝั่งเตียงตัวเองแทนโดยไม่พูดอะไร

    “อ้าว เจ้าไม่ถามต่อแล้วเหรอเกรเทล?” 

    หัวทุยเล็กส่ายหน้าเป็นคำตอบแทนคว้าเอาอุปกรณ์และชุดใหม่เตรียมอาบน้ำนอน ขอไปสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำและทำใจคนเดียวก่อนนะอารอล์ฟ ฮือ


    เช้าวันต่อมาเกรเทลตื่นมาด้วยขอบตาดำคล้ำเล็กน้อยเนื่องจากนอนไม่หลับทั้งคืน ทั้งที่ตัวเองเป็นคนไม่กลัวเรื่องผีไหงคิดฟุ้งซ่านไม่เป็นอันหลับอันนอน เธอพลิกตัวไปมาทั้งคืนจนเห็นว่าอารอล์ฟยกหัวขึ้นมามองกลางดึกหลายรอบว่าเธอเป็นไรแต่ก็ไม่ได้เอ่ยทัก

    ก่อนจะไปบ้านพักของอีตาหัวผักเธอไปช่วยที่ห้องครัวอย่างยกลังผักกับหั่นพวกผักผลไม้เท่าที่บาสเตียนจะให้เธอทำได้ ก่อนขออนุญาตออกไปทำความสะอาดบบ้านพักให้นายซึ่งสร้างความตกใจให้กับคนในครัวเป็นอย่างมากเพราะกิตติมศักดิ์บ้านหลังนี้เป็นที่เลื่องลือสุด ๆ ในค่ายตลาดค้าทาสโมเบียส

    บาสเตียนจึงทำได้แต่ให้กำลังใจเธอและหยิบเอากล่องข้าวส่งให้พกติดตัวไปด้วยเพราะไม่รู้ว่าเธอจะทำความสะอาดเสร็จตอนไหน เมื่อหิวจะได้กินเลยไม่ต้องวนกลับมาที่โรงอาหารให้เสียเวลา เกรเทลกล่าขอบคุณแล้วเดินออกมาตรงไปตามทางที่วอลล็อคเคยบอก

    ร่างบางลากตัวเองมาหยุดยืนหน้าบ้านพักไม้สนตามที่อีตาหัวเขียวบอก บรรยากาศก็ดูร่มรื่นดี หน้าบ้านมีต้นวิลโลว์ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านสวยงามคาดว่ามีอายุถึงร้อยปี เธอเดินไปสัมผัสลำต้นของมันอย่างแผ่วเบารู้สึกคุ้นเคยเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนที่ไม่มั่นใจเพราะตลอดชีวิตของเธอก็เห็นต้นไม้มานับร้อยต้น หน้าตามันก็คล้าย ๆ กันไปหมด

    มือเรียวหอบข้าวของที่จะเอามาทำความสะอาดบ้านอย่างทุลักทุเล ขณะที่มือกำลังเอื้อมไปจับลูกบิดประตูบ้าน พอดีกับบานประตูเปิดอ้ากว้างปรากฏเป็นชายหนุ่มร่างสูงคนดีคนเดิมผมเผ้าสีเขียวยุ่งเหยิงสภาพเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน

    “เจ้ามาแต่เช้าเชียว ดีนะข้าตื่นลงมาทันเข้ามาสิ” 

    คิ้วบางยกสูงทำหน้างงนิดหน่อยแต่ไม่นานก็กลับมาแสดงสีหน้าปกติ งั้นแสดงว่าเขาเพิ่งตื่นนอนได้ไม่นานสินะ แล้วเขารู้ได้ไงว่าเธอมาถึงแล้วเซนส์ของหมอนี่คงจะดีจริง ๆ แบบนี้จะนินทาหรือพูดลับหลังอะไรเขาไม่รู้หมดเลยเหรอ

    เกรเทลเดินตามวอลล็อคเข้ามาด้านในพร้อมอุปกรณ์กระทบส่งเสียงดังก๊อกแก๊กเวลาเธอเดิน ร่างสูงเอียนหน้าหันมามองเล็กน้อยพลางคิดในใจว่าตัวเจ้าหนูมีอยู่แค่นั้นยังยกของได้เยอะขนาดนี้ไม่ธรรมดาเสียจริง

    “เจ้าเริ่มทำความสะอาดจากห้องนั่งเล่นก่อนแล้วกันตามซอกโซฟา โต๊ะ เก้าอี้ไม้ บานหน้าตา ฝ้าเพดาน ชั้นวางของ พื้นพรม ส่วนห้องครัวปกติข้านาน ๆ จะใช้ที เจ้าก็ช่วยจัดระเบียบความเรียบร้อยทำเท่าที่ทำได้นะ” 

    มือหนาชี้ไปทางนู้นทีไปทางนั้นทีพร้อมอธิบายเนื้องานคร่าว ๆ ที่เธอต้องทำทั้งหมดอย่างละเอียดยิบ

    “ห้องน้ำอย่าลืมขัดทำความสะอาดด้วย พอเจ้าทำที่ชั้นหนึ่งเสร็จแล้วก็ค่อยขึ้นไปทำความสะอาดที่ชั้นสองต่อ ข้างบนจะมีห้องนอนข้ากับห้องน้ำฝากเจ้าดูแลด้วย พอดีไม่มีแม่บ้านมาทำความสะอาดบ้านนี้มาพักใหญ่แล้วอาจรกไปบ้าง” 

    ไม่ต้องเดาเธอก็พอรู้ว่าทำไมไม่มีแม่บ้านคนไหนกล้ามา ขนาดแค่เธอฟังจากอารอล์ฟยังรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ๆ เลย พอวอลล็อคสั่งงานเธอเสร็จเขาก็เดินหนีขึ้นไปชั้นบนปล่อยเธอทิ้งไว้ตามลำพังกับความเงียบภายในบ้าน

    เกรเทลสั่นหัวตั้งสติดึงสมาธิกลับมาโฟกัสที่ปัจจุบันว่าต้องทำงานตามหน้าที่ อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิดก่อนอย่าไปใส่ใจมันมากมิฉะนั้นงานไม่เสร็จเป็นแน่ กลัวไปก็ไม่ได้ช่วยให้งานเธอเสร็จทันเวลา


    ------

    กดหัวใจ ❤️ หรือคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ไรท์ได้นะคะ

    หากพบคำผิด แก้ไขหรือติชม

    โปรดคอมเมนต์อย่างสุภาพไรท์ยินดีปรับปรุงแก้ไขค่ะ


    𝑻𝒂𝒍𝒌 𝒘𝒊𝒕𝒉 𝒘𝒓𝒊𝒕𝒆𝒓

    ใครกลัวผีขอให้ยกมือขึ้นสูง ๆ ค่ะ

    เกรเทลหนูลูกดวงสมพงษ์กับความซวยสุดแล้ว🤣

    แวะมาพูดคุยเล่นหรือดูอัปเดตเกี่ยวกับนิยายไรท์ได้ที่

    Facebook : C.T.Tiana

    X (Twitter) : @Ccttiana

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in