เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
จากวันร้างลา...สู่วันแรกรักIfIStay
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน Chapter 4
  • ฟุรุยะผู้มาเยือนจมตัวลงในความมืดมิดอีกครั้ง เขาจำได้แล้ว...

    วันนั้นหลังจากที่เขากับอากาอิเสร็จกิจกันเรียบร้อย อากาอิถามเขาเรื่องอนาคต ชายหนุ่มอยากเขยิบจากความสัมพันธ์แฟนระยะไกลแบบนี้ให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น 

    ...เขาอยากแต่งงานแล้ว... อยากอยู่ด้วยกันแบบชูอิจิและเรย์ ไม่มีสึบารุ ไม่มีอามุโร่ ไม่มีเบอร์เบิ้น และไม่มีไรย์อีกต่อไป....

    และวันนั้น... เป็นวันแรกที่พวกเขา...เริ่มทะเลาะกัน

    ต่างคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง ต่างคนต่งมีโลกของตัวเอง ยากนักถ้าให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเสียสละ พวกเขาทั้งคู่ต่างมีความสำคัญกับองค์กรของตนเอง 

    'แล้วจะทำยังไงดี?'

    ฟุรุยะผู้มาเยือนลืมตาตื่นขึ้นในชุดเบอร์เบิ้น ชุดที่เขาไม่ได้ใส่มานานแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องสวมใส่อีกต่อไป เพราะในโลกปัจจุบันนั้น องค์กรนี้ได้สูญสิ้นไปหมดแล้ว ตอนนี้เขายังคงอยู่ในฐานะผู้เฝ้ามอง 

    เบอร์เบิ้นในตอนนั้นได้รับหน้าที่ให้ค้นหา NOC (Non Official Cover หรือ พวกที่แฝงตัวเข้าไปในองค์กรเพื่อล้วงข้อมูล) ตามแฟ้มรายชื่อขององค์กร ระหว่างการสืบค้นในฐานข้อมูลนั้นก็พบว่า องค์กรมีข้อมูลของสก็อตซ์ หรือชื่อจริงก็คือ โมโรฟุชิ ฮิโระมิทสึ ที่บ่งบอกว่าเป็น NOC อยู่แล้ว โดยมีรายชื่อคนที่สามารถจัดการกับสก็อตซ์ได้ก็คือไรย์ ซึ่งตอนนี้ก็มีรายชื่อเป็น NOC เช่นกัน

    เบอร์เบิ้นแอบสงสัยว่า ถ้าหากองค์กรรู้อยู่แล้วว่าสก็อตซ์คือ NOC องค์กรคงส่งคนมาตามปิดปากสก็อตซ์อยู่แล้ว จึงเป็นไปได้ว่า การที่ไรย์ไปพบสก็อตซ์ในวันนั้น ไม่ใช่เพื่อฆ่าปิดปาก แต่เพราะกำลังจะช่วยต่างหาก 

    แล้วพยายามช่วยเขาจากอะไรกันล่ะ?? 
    ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่...

    ทางด้านเอโดงาวะ โคนัน ก็สืบรู้เรื่องของรัมและองค์กรชุดดำมาจนพอปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆ ได้ทั้งหมดแล้ว พร้อมทั้งยังได้ทีมที่สุดแข็งแกร่งจากทั้ง FBI, MI6, CIA และกรมตำรวจของญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีหนอนบ่อนไส้ภายในองค์กรอย่างเขาอีก การวางแผนการล่าและเปิดเผยองค์กรใต้ดินแห่งนี้ขึ้นจึงค่อยๆ เริ่มต้นขึ้น 

    จนเมื่อถึงวันนี้ที่ทุกอย่างกำลังจะปิดฉากลง เขาพลาดท่าให้กับรัม ศัตรูตัวฉกาจของเขา รัมบอกว่า องค์กรจับตาดูเขามานานแล้วตั้งแต่รูว่าสก็อตซ์เป็นหนอนบ่อนไส้ เป็นไปไม่ได้ที่คนเจ้าวางแผนและชาญฉลาดอย่างเบอร์เบิ้นจะไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของสก็อตซ์เลย แถมยังเป็นเพื่อนสนิทกันอีก เบอร์เบิ้นเองก็ประมาทองค์กรจนเกินไป เพราะองค์กรก็หลอกใช้เบอร์เบิ้นเช่นเดียวกับที่เบอร์เบิ้นหลอกใช้องค์กรนั่นแหละ 

    แถมยังบอกเล่าเรื่องราวของสก็อตซ์อีกด้วยว่า สก็อตซ์น่ะฆ่าตัวตาย เพราะหลังจากที่เขาวิ่งมาเจอศพสก็อตซ์แล้วเกิดการต่อสู้กับไรย์ขึ้น ไรย์ก็เรียกคนขององค์กรให้มาจัดการกับศพเลยทันทีเพื่อให้ดูเหมือนไรย์ทำงานสำเร็จก่อนคนอื่น เป็นความดีความชอบให้มีชื่อเสียงและได้รับความไว้วางใจจากเบื้องบนมากขึ้น ช่างเป็นแผนที่ชาญฉลาดจริงๆ... แต่เมื่อทีมชันสูตรศพขององค์กรพิจารณาจากวิถีกระสุนแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่สก็อตซ์จะถูกยิงโดยไรย์เลย มันเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นเพราะเสี้ยววินาทีด้วยความรีบร้อน 

    เบอร์เบิ้นนึกย้อนไปถึงวันนั้น

    'ใช่... เขาวิ่งขึ้นมา...เพื่อมาพบว่า เพื่อนรักของเขาได้จบชีวิตลงไปแล้ว หากไรย์ไม่ได้เป็นคนยิง ก็หมายความว่า...สก็อตซ์ฆ่าตัวตาย...ฆ่าตัวตาย เพราะไม่รู้ว่าเสียงฝีเท้าที่วิ่งไล่ตามขึ้นมาเป็นของเขา!!!'

    เบอร์เบิ้นตาเบิกกว้างกับข้อเท็จจริงที่เพิ่งค้นพบนี้ 'งั้นที่ผ่านมา... ไรย์ก็ไม่เคยทำอะไรเลยน่ะสิ แต่ทำไมไรย์ต้องปกป้องเขาขนาดนี้ด้วย ทำไมไม่บอกความจริงกับเขา'

    วินาทีที่รัมหมายจะฝังกระสุนเข้าสู่หัวของเบอร์เบิ้นนั้น กระสุนปริศนาก็ถูกยิงมาจากด้านนอกของห้อง โดนเข้าแสกหน้าอย่างจังจนร่างนั้นลอยล้มไปทางด้านหลัง เมื่อมองทะลุผ่านเข้าไปตามรูวิถีกระสุนก็พบเห็นชายร่างสูงที่ยืนอยู่ นัยน์ตาสีเขียวมะกอกมองมาทางเขา แล้วร่างนั้นก็วิ่งออกจากห้อง

    ตึกๆๆๆ... ปึงงงๆๆๆ 

    ฮึ่ยยยย (เสียงสบถ)

    ปังงงงง!!!! ปึงงงงงงง!!!!

    เขานั่นเอง ชายร่างสูงที่เขาเห็นเมื่อสักครู่นี้ ตอนนี้หาทางเขามาในห้องที่เขาถูกจับอยู่จนได้ ประตูยับเยินแบบนั้น คงใช้กระสุนทำลายล็อคและถีบเข้ามาแน่ๆ ร่างสูงแบกปืนขนาดใหญ่เดินเข้ามาในห้อง
    พลางมองหน้าเบอร์เบิ้นแล้วพูดว่า 

    "ไม่นึกเลยว่าคนอย่างนาย จะโดนจับได้ด้วย"

    "อะไรกันเล่า!!! ผมไม่ต้องการให้คุณมาช่วยสักหน่อย ผมดูแลตัวเองได้น่า"

    "งั้นเหรอ?? งั้นที่เห็นเมื่อกี้คือแสดงละครงั้นสิ" อากาอิพูดหยอกหน้าตาเฉย แต่คนฟังไม่สบอารมณ์ด้วย ได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

    "อ่ะ!! อึ่กกก!!!"

    "นายบาดเจ็บนี่!!!" เบอร์เบิ้นตกใจเมื่อเห็นร่างสุงทรุดลงนั่งกับพื้น ที่แขนมีเลือดไหลซึมออกมาเปรอเปื้อนเสื้อผ้า เขาเพิ่งตะหนักได้ว่า ห้องนี้มันอยู่ลึกและสูงแค่ไหน กว่าจะบุกฝ่าดงกระสุนเข้ามาที่นี่ได้ คงต้องผ่านพวกมันมามากเลยทีเดียว เขารีบหันไปฉีกผ้าปูที่นอนแล้วนำมาปฐมพยาบาลให้กับผู้ช่วยชีวิตเขาทันที

    ที่ๆ พวกเขาอยู่ตอนนี้เป็นโรงแรมหรูในใจกลางเมืองโตเกียว ดูเผินๆ เหมือนโรงแรมหรู 5 ดาวขึ้นไป แต่ความจริงแล้วเป็นเพียงฉากบังหน้าขององค์กร ภายในมีห้องลับต่างๆ ทั้งห้องแล็ป บาร์เหล้า ห้องทำงานของกลุ่มคนที่รับใช้องค์กร แถมยังเป็นที่สำหรับนัดประชุมขององค์กรอีกด้วย 

    "ฉันจะพานายหนีออกจากที่นี่เอง" เบอร์เบิ้นพยายามประคองร่างของอากาอิเดินออกจากห้อง 

    "ไม่เป็นไร เอาปืนมาให้ฉัน" อากาอิดื้อรั้น รับปืนไปถือในมือ "พวกมันมีกันเยอะมาก นายสู้คนเดียวไม่ไหวหรอก" 

    "งั้นก็ตามใจ อย่าตายก็แล้วกัน"

    "นายก็อย่าตายนะ อยู่กับฉันไปนานๆ ล่ะ" 

    ทั้งคู่ต่างยิ้มให้กันและกัน ก่อนจะออกจากห้องไป เสียงกระสุนดังรัวใส่กันจากการปะทะกันของเขาทั้งสองและมือปืนจะองค์กรดังสนั่นฟังดูน่ากลัว จากเดิมที่เคยเขาไม่ชอบขี้หน้าอากาอิเลยในหลายๆ เรื่อง วันนี้พวกเขาสู้กันเคียงบ่าเคียงไหล่ ต่างคนต่างถามหากันเป็นระยะๆ ด้วยความเป็นห่วงกัน เพราะความแตกต่างขององค์กรที่ตนสังกัดอยู่ อาจทำให้เขาทั้งคู่มีวิถีชีวิตและความคิดไม่ตรงกันไปบ้าง แต่ด้วยอุดมการณ์ที่แน่วแน่ต่อเป้าหมาย จากคนแปลกหน้าอาจกลายมาเป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายกันก็ได้ 

    "ใช้บันไดหนีไฟ" อากาอิแนะนำและนำเบอร์เบิ้นไปยังบันไดหนีไฟ เสียงปืนและเสียงระเบิดดังสนั่นไปตลอดทางที่พวกเขาลงมา จนตอนนี้พวกเขาหนีออกมาข้างนอกได้แล้ว

    หลังจากเหตุการณ์สงบลง หน่วงานต่างๆ เข้าไปในโรงแรมเพื่อตรวจสอบสถานที่และข้อมูลต่างๆ ขององค์กรที่ยังพอหลงเหลือจากเหตุการณ์ปะทะกัน ซึ่งคงมากเพียงพอที่จะขยายผลต่อไปเพื่อจับกุมและกวาดล้างเครือข่ายขององค์กรชุดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ตามประเทศต่างๆ 

    เจ้าหน้าที่ขององค์กรหลายคนถูกจับกุมตัว หลายคนถูกวิสามัญ รวมถึงยีนและว๊อดก้าด้วย ส่วนเบลม็อท เธอถูกยีนฆ่าตายในระหว่างที่กำลังช่วยเหลือรันให้หนีไป บุญคุณที่รันเคยให้โอกาสเธอมีชีวิตอยู่ต่อไป ตอนนี้ได้รับการชดใช้คืนแล้ว เธอตายลงอย่างมีความสุข

    ฟุรุยะผู้มาเยือนยืนมองดูอากาอิและฟุรุยะในความทรงจำของเขาพลางคิด 

    'คิดถึงช่วงเวลานั้นจัง'

    'นายทำเพื่อฉันมามากเหลือเกิน อากาอิ ...ฉันเกลียดนายจัง...จะเท่ห์เกินไปแล้วนะ' เขาอมยิ้มให้กับความคิดนั้นของตนเอง และร่างของเขาก็ถูกกลืนกินหายไปในความมืดมิดอีกครั้ง

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
24.8 (@theromarktic)
ต้องรักขนาดไหนถึงบุกเข้าไปช่วย ฝ่าดงกระสุนเพื่อคนคนเดียว TOT แอบมีจังหวะซึ้งๆ นิดนึงด้วย อารมณ์กำลังหน้าสิ่วหน้าขวานแท้ๆ ดันมาพูดจาหวานๆ กันซะงั้น "นายก็อย่าตายนะ อยู่กับฉันไปนานๆ ล่ะ" จ้าาาา! เหม็นความรักของทั้งคู่จริงๆ เลยค่ะคุณโบว์ TwT
IfIStay (@chanankarn_bow)
@theromarktic 55555 คู่นี้เค้าต้องบอกรักด้วยประโยคที่ไม่มีคำว่ารักค่ะ ถึงจะเหมาะสม อิอิ