เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#แปลแล้วแต่อารมณ์Sprühregen
#4 [แปลสัมภาษณ์] Aimer เปิดใจ เคยกลัวการเปิดหน้า ระเบิดในลำคอ และ Zankyou Sanka
  • เคยคิดว่ามันสำคัญที่เสียงของฉันเท่านั้น



    "หลังจากได้เดบิวต์ ฉันก็รู้สึกอย่างจริงจังว่าไม่อยากทำลายบรรยากาศของเพลง ด้วยการที่ตัวเองออกไปอยู่เบื้องหน้าเลยจริง ๆ" Aimer กล่าว "ฉันคิดมาตลอดว่ามันสำคัญที่เสียงของฉันเท่านั้น จึงกลัวการเปิดหน้าในไลฟ์และทำได้แค่ก้มหน้าร้องเพลงมาตลอด แต่หลังจากที่ไลฟ์ไปครั้งแล้วครั้งเล่า ก็พบว่า ต่อให้ฉันจะปลดปล่อยด้านที่มนุษย์คนนึงก็มีออกมา แต่ก็มีคนที่ยอมรับและเข้าใจฉันอยู่ ซึ่งฉันรู้สึกตื้นตันมากเลยค่ะ"

    Aimer เดบิวต์ในปี 2011 เริ่มต้นวงการโดยเน้นร้องเพลงประกอบอนิเมะ ต่อมาในปี 2016 เธอก็ได้ปล่อย Chouchou Musubi เพลงที่ได้ Noda Youjirou แห่งวง RADWIMPS มาประพันธ์และมอบให้ และได้ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตหลายประเภท จนกระทั่งปี 2019 เธอได้ร้อง STAND-ALONE เพลงประกอบละครโทรทัศน์เรื่อง Anata no Ban desu จนมีฐานแฟนคลับขยายตัวไปทุกเพศทุกวัย และในปีนี้ เธอได้จัดทัวร์ทั่วประเทศทั้งหมด 22 แห่ง 28 คอนเสิร์ตตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงมิถุนายน และปิดทัวร์ด้วยจำนวนผู้ชมอันล้นหลาม

    "ฉันคิดว่าตัวตนของฉันเป็นอุปสรรคต่อเสียงของตัวเองมาตลอด แต่สิ่งที่ทำให้ฉันคิดได้ว่า 'ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ยังมีคนที่ยอมรับในตัวเราอยู่นะ' ก็เพิ่งไม่กี่ปีมานี้เองค่ะ เพราะมีคนที่คอยฟังเพลงของฉัน คอยสนับสนุนฉันอยู่ แสงสปอร์ตไลท์ถึงได้น่ากลัวน้อยลงเรื่อย ๆ แล้วก็รู้สึกว่าแฟน ๆ ก็ยอมรับ Aimer ในฐานะมนุษย์คนนึงเหมือนกันนะ"

    ท่าทางของ Aimer ที่เปล่งเสียงแหบเสน่ห์ด้วยโทนเสียงอันนุ่มนวลขณะบรรจงเลือกสรรค์ถ้อยคำ ทำให้การสัมภาษณ์ค่อย ๆ ตกสู่ภวังค์ น่าประหลาดใจจริง ๆ ครับที่เธอพยายามไม่เปิดเผยตัวตนของตัวเอง

    "การมีชีวิตอยู่เนี่ย ต่อให้ไม่ได้เจอเรื่องเลวร้ายแบบในนิยาย แต่บางครั้งลึก ๆ ในใจของเราก็รู้สึกบีบคั้นอึดอัดอยู่เหมือนกัน อย่างเช่นในจดหมายจากแฟนคลับคนหนึ่งที่ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง เขาบอกว่าช่วงนั้นเองที่ได้ฟังเพลงของฉัน ไม่เคยคิดเลยว่าจะรักเสียงเพลงได้มากขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้ดนตรีช่วยชีวิตเอาไว้ กลายเป็นว่ามาดูไลฟ์ของฉันด้วยค่ะ จากถ้อยคำเหล่านั้นฉันสัมผัสถึงคำว่า 'ดีใจที่ได้เจอคนคนนี้' ได้อย่างไม่เกินจริงเลย เพราะอย่างนั้นเอง ความรู้สึกคล้ายว่ามีหน้าที่ให้อยากบรรลุก็ก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ แล้วฉันก็คิดว่าตัวเองจำเป็นต้องแต่งเพลงที่มอบอิทธิพลอะไรสักอย่างให้ใครสักคนที่อาจจะได้เจอกันในอนาคตต่อจากนี้ รู้สึกว่าอยากสร้างสรรค์ดนตรีที่สามารถปกป้องหัวใจของพวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้จังเลยค่ะ"

  • อยากให้ฟังเสียงสดของฉัน แม้ว่าในคอจะยังมี 'ระเบิด' ลูกหนึ่งอยู่


    แม้จะออกโทรทัศน์หรือรายการวิทยุบ้าง แต่อย่างไรงานหลักของ Aimer ก็ยังเน้นไปที่การไลฟ์ เราจะพาย้อนกลับไปฟังประสบการณ์วัยเด็กของเธอที่ทำให้กลายมาเป็น Aimer ในวันนี้กัน

    "พ่อของฉันเป็นมือเบสวงดนตรีแนวบลูส์กับแจ๊สค่ะ ไลฟ์เฮ้าส์ไฟสลัว ควันบุหรี่ที่ลอยเอื่อย เพลงที่ฟังได้แค่วันนั้น ๆ การได้สัมผัสประสบการณ์เช่นนั้นถือเป็นสมบัติล้ำค่าของฉันเลยค่ะ ฉันเลยกลายเป็นนักดนตรีไปด้วยโดยปริยาย ไม่ใช่แค่ฟังเพลงที่ฉันอัดเท่านั้น แต่อยากให้ฟังดนตรีสด ๆ ของฉันด้วย ความรู้สึกนี้อยู่ในใจฉันมาตลอดเลยค่ะ"

    Aimer ที่ให้ความสำคัญกับดนตรีสดที่เรียกว่าไลฟ์ เคยเผชิญอาการเจ็บคอตอนอายุสิบห้าปี โดยเธอรักษาด้วยการไม่พูดเลยเป็นระยะเวลาครึ่งปี จากนั้นก็ร้องเพลงทั้งที่ยังมีตุ่มอยู่ที่สายเสียง (ตุ่มนูนเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นกลางเส้นเสียง) มาโดยตลอด ซึ่งเจ้าตัวเคยเล่าในรายการวิทยุว่าเธอคิดมาตลอดว่าการเดบิวต์พร้อมกับ 'ระเบิดในคอ' นั้น "ในฐานะมืออาชีพแล้วก็ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีนะคะ" แต่หากรักษาตุ่มที่เส้นเสียง ก็มีโอกาสที่เสียงจะเปลี่ยนไป เธอจึงเลือกที่จะอยู่ร่วมกับมันแล้วร้องเพลงมาตลอด

    "เพราะตุ่มนี้อยู่มาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น ฉันเลยไปตรวจสภาพเส้นเสียงกับหมอแผนกหูตาจมูกอยู่บ่อย ๆ ประมาณทุกสัปดาห์ สมัยเดบิวต์ฉันร้องเพลงสบาย ๆ เป็นหลัก เส้นเสียงเลยไม่ต้องแบกรับภาระมาก แต่ขอบเขตแนวเพลงของฉันก็กว้างขึ้นเรื่อย ๆ ฉันได้ร้องเพลงหนัก ๆ เยอะขึ้น ซึ่งการที่เส้นเสียงของฉันต้องรับภาระมากขึ้นตามไปด้วยก็เป็นเรื่องจริงค่ะ แต่ฉันก็รับมือด้วยการหมั่นขัดเกลาเทคนิคดูแลเส้นเสียงอยู่ทุกวัน"

    หากได้ฟัง Zankyou Sanka ในไลฟ์แล้ว จะต้องตกใจกับน้ำเสียงของดนตรีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในท่วงทำนองสั้น ๆ แม้ Aimer จะกล่าวยิ้ม ๆ ว่า "ฉันเองยังร้องยากเลยค่ะ" แต่เสียงร้องของเธอกลับลุ่มลึกและทรงพลังจนจินตนาการไม่ออกเลยว่าในลำคอของเธอนั้นมีตุ่มขึ้นอยู่ แม้จะรู้ดีว่าเสี่ยงกับเส้นเสียง แต่เธอก็จริงจังกับไลฟ์อย่างยิ่ง และซ้อมออกเสียงวันละ 2 ชั่วโมงเป็นกิจวัตร

    "ถ้าให้ความสำคัญกับการดูแลเส้นเสียงเป็นอันดับแรก อาจจะต้องคิดเรื่องลดจำนวนไลฟ์ลงอีกนิดหน่อยค่ะ เรื่องประสบการณ์เสียงหายเพราะใช้เสียงเกินขีดจำกัดเนี่ย จริง ๆ ตั้งแต่เดบิวต์มาก็เกิดขึ้นอยู่หลายครั้ง แต่ฉันก็ควบคุมเสียงแล้วร้องต่อได้จนจบโชว์เพื่อมอบเสียงดนตรีให้กับทุกคนที่มาฟัง ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ฉันตัดสินใจเลือกเอง ถ้าบอกว่าไม่กดดันเลยคงจะดูเหมือนโกหกใช่ไหมคะ แต่เมื่อได้ขึ้นเวทีแล้ว คงมีสมาธิจนลืมความกดดันไปเลยมั้งคะ"

    เมื่อกวาดสายตาไปยังที่นั่งของผู้ชมระหว่างการแสดงของ Aimer บางครั้งจะเห็นแฟนคลับนั่งซับน้ำตาอยู่ด้วย

    "คิดว่าหากเพลงของฉันสร้างช่วงเวลาที่ได้ปลดปล่อยเราจากชีวิตประจำวัน ทุกคนจะชอบแล้วมาชมไลฟ์กันไหมนะ ฉันจัดไลฟ์ขึ้นมาด้วยความรู้สึกว่าอยากให้เป็นเวลาพักผ่อนของทุกคนแม้จะแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ยังดีค่ะ"

    คำว่า "เวลาที่ได้ปลดปล่อยเราจากชีวิตประจำวัน" ของ Aimer นั้น อาจเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญในผลงานและกิจกรรมต่าง ๆ ของเธอก็เป็นได้ ซึ่งหมายรวมถึงชีวิตประจำวันของเธอเองด้วย

    "ปกติแล้วฉันทำอะไรคนเดียวตลอดค่ะ แต่ละวันก็จะอ่านหนังสือบ้าง แล้วก็ชอบทำอาหารด้วยค่ะ Essay หรือวรรณกรรมเด็กก็อ่านนะคะ เรื่องที่ประทับใจคือ วัดปราสาททอง ของ มิชิมะ ยูกิโอะค่ะ สิ่งที่ฉันชอบเนี่ย ส่วนใหญ่มักจะซ่อนความมืดมนเอาไว้อยู่ลึก ๆ ซึ่งในเพลงของฉันเองก็มีความเศร้าหยั่งรากลึกอยู่ในนั้นด้วย"

    เมื่อพูดคุยถึงบทเพลงที่ชุบหัวใจของเธอมากที่สุด Aimer ก็ยกชื่อวง Spitz ขึ้นมา

    "ทั้งเสียงร้องเพลงและมุมมองต่อโลกของคุณ Kusano (Masamune) พอได้ฟังเพลงของเขาแล้ว รู้สึกเหมือนถูกดูดกลืนเข้าไปในโลกใบนั้นได้เลยทีเดียว ฉันชอบจุดนี้มากเลยค่ะ"

  • ต่อให้จะอ่านชื่อ Aimer (เอเมะ) ไม่ถูก ฉันก็มีความสุข



    Aimer ผู้เดิมพันเพื่อให้ได้ร้องเพลงต่อไป แต่เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองมีชื่อเสียงโด่งดังอะไรเลย

    "ฉันดีใจมากค่ะที่ผู้ฟัง Zankyou Sanka เพลงเปิดอนิเมะเรื่อง Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร : ภาคย่านเริงรมย์ มีทั้งเด็กเล็กไปจนถึงครอบครัวพร้อมหน้า ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่หลาย ๆ คนได้ฟังเพลงของ Aimer คนนี้ผ่านอนิเมะหรือละครเรื่องต่าง ๆ แต่ฉันยังไม่รู้สึกว่าตัวเองดังขนาดนั้นนะคะ ตอนเดินอยู่ในเมืองก็ไม่เคยมีใครทักเลยสักครั้งเดียว"

    Aimer กล่าวว่า แค่มาฟังเพลงของเธอ ถึงไม่ได้อ่านชื่อ Aimer ว่า เอเมะ ก็ไม่เป็นไรเลย ซึ่งจุดนั้นแสดงให้เห็นถึงความภาคภูมิใจในฐานะศิลปินที่ชื่อว่า Aimer ผู้ให้ความสำคัญกับบทเพลงมากกว่าทิฐิของตน

    "แค่มีคนบอกว่า 'เพลงของคนนี้ดีจังเลยเนอะ' ฉันก็รู้สึกดีใจที่ได้เกิดมาร้องเพลงแล้วค่ะ หากคนที่ฉันสามารถแชร์เสียงดนตรีด้วยกันได้เพิ่มจำนวนมากขึ้น เช่น คนที่ฟังเพลงของฉันหรือคนที่อุตส่าห์มาไลฟ์ของฉัน สำหรับทั้งสองฝ่ายแล้ว ฉันคิดว่ามันเป็นอะไรที่มีความสุขมาก ๆ เลยค่ะ"


    Aimer (เอเม่)

    เดบิวต์ด้วยซิงเกิล Rokutousei no Yoru ในปี 2011 ปล่อยอัลบั้มที่ 4 Daydream ที่รวมเพลงดังมากมาย เช่น Chouchou Musubi ในวันที่ 9 มิถุนายน ปี 2016 และขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตมากมาย

    ในปี 2022 ปล่อย Zankyou Sanka/Asa ga Kuru เพลงเปิดและเพลงปิดทีวีอนิเมะ Kimetsu no Yaiba : ดาบพิฆาตอสูร ภาคย่านเริงรมย์ ทำสถิติอันดับ 1 ต่อเนื่อง 7 สัปดาห์บน Billboard JAPAN “JAPAN HOT 100” ร้องเพลงหลากหลายแนวตั้งแต่บัลลาดไปจนถึงร็อค และในเดือนตุลาคมปีนี้ กำลังเตรียมการแสดงไลฟ์ที่ PIA ARENA MM และ OSAKA-JO HALL ALL ที่สามารถรองรับจำนวนคนถึง 10,000 คน


  • ข้อมูลและเรียบเรียง : 宗像明将
    ภาพถ่าย : 河邉有実莉
    บทความ : ライブで顔を上げるのも怖かった──喉の「爆弾」と闘い続ける、「残響散歌」Aimerの素顔 (Aimer เปิดใจ เคยกลัวการเปิดหน้าในไลฟ์ ต้องต่อสู้กับ "ลูกระเบิด" ในลำคอ และพูดคุยถึง Zankyou Sanka)

    บทสัมภาษณ์อื่น ๆ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in