บนดวงจันทร์ที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ (We have always lived in the castle)
ผู้เขียน: Shirley Jackson
ผู้แปล: โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล
สำนักพิมพ์ Merry go round
"ฉันจะเสกความตายใส่ลงในอาหารของพวกมันทุกคน และเฝ้ามองพวกมันตาย" (หน้า 153)
เรื่องราวของครอบครัว "แบร็ควูด" ที่ครั้งนึงเคยเกิดโศกนาฎกรรมขึ้น สมาชิกในครอบครัวต่างเสียชีวิตกันหมดจากเหตุวางยาพิษฆาตกรรมหมู่ "แมร์รี่แค็ท" คือหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้น เธอยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมกับ "คอนสแตนซ์" พี่สาวแสนรัก "อาจูเลียน" คุณอาผู้มีสุขภาพไม่สู้ดีเท่าไหร่ และ "โจนาส" แมวผู้เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเธอ ชีวิตของแมร์รี่แค็ทไม่ราบรื่นสักเท่าไหร่ เธอต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความเกลียดชังมากมาย แต่แล้วสถานการณ์เริ่มจะร้ายแรงขึ้นมา เมื่อ "ชาร์ลส์" ญาติอีกคนของเธอปรากฎตัวและมาร่วมอาศัยในบ้านหลังเดียวกับเธอ...
ก่อนหน้านี้ เราได้มีโอกาสอ่าน "บ้านหลังนี้มีคนตาย" (The Haunting of Hill House) ของ Shirley Jackson แล้วรู้สึกติดใจกับความน่าขนลุก ก็เลยสอยเล่มนี้มาอ่านด้วยค่ะ และคาดหวังในความน่าขนลุกเช่นกัน 55555
แต่เรื่องนี้ดันไม่ขนลุกน่ะสิคะ..
มันเป็นหนังสือแนวแปลกๆ ที่อ่านไม่ยาก แต่ก็อ่านไม่ง่ายในเวลาเดียวกัน อ่านแล้วหลุดเข้าไปอยู่ในอะไรสักอย่างที่ใช้คำว่า "เหตุผล" เพื่อเข้าใจมันคงจะยาก เพราะงั้น ตอนอ่านเล่มนี้โปรดปล่อยวางตัวเองเอาไว้ข้างนอกบ้านแบล็ควูด และให้แมร์รี่แค็ทเป็นคนนำพาทุกคนไปรู้จักโลกของเธอจะดีกว่า
"บนดวงจันทร์ที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ" เป็นเหมือนโลกใบนึงของแมร์รี่แค็ทอย่างแท้จริง ทุกเรื่องราวในเล่มนี้เป็นการมองโลกแบบแมร์รี่แค็ทเข้าใจและรู้สึกเท่านั้น โลกเลยออกจะบิดๆ เบี้ยวๆ ไปตามสำนึกคิดของเธอ และคนอ่านอย่างเราก็อาจจะงงๆ หรือตามไม่ทันบ้าง แต่อ่านไปสักพักจะเริ่มชินกับการมองโลกของเธอแบบนั้น
แมร์รี่แค็ทเป็นคนน่าสงสาร เป็นคนที่รักพี่สาวมาก และหวงแหน "ดวงจันทร์" ของเธออย่างที่สุด เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าก่อนหน้านี้เธอเจอกับเรื่องอะไรมา อะไรที่ทำให้เธอกลายเป็นคนแบบนี้ แต่ก็พอจะสันนิษฐานได้จากสภาพแวดล้อมรอบตัวทั้งในบ้านและนอกบ้าน ก็พอเดาได้ว่าเธอคงเคยเจอเรื่องที่ไม่ดีเอามากๆ มาแน่ๆ ตอนจบเรื่องก็เลยไม่ผิดคาดสักเท่าไหร่
สรุปคือ แปลกดี แต่ก็สนุกดี อ่านได้ยาวๆ เรื่อยๆ ไม่รู้ทำไมนิยายเล่มนี้ถึงได้ดึงดูดให้เราอ่านต่อไปจนจบได้ เพราะรู้สึกว่าเนื้อเรื่องไม่มีจุดพีคหรือจุดเร้าใจให้น่าติดตามเท่าไหร่ แถมอ่านไปก็สัมผัสได้ตลอดทั้งเรื่องถึงลางร้ายบางอย่าง คือรู้ว่ามันต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ ถ้าทุกอย่างยังเป็นแบบนี้ต่อไป เหมือนเห็นหายนะอยู่รำไร แต่นอกจากจะไม่ทำอะไรแล้ว เหมือนยอมรับชะตากรรมแล้วพุ่งเข้าหาหายนะนั้นเลยค่ะ เนื้อเรื่องมีความหดหู่หม่นหมองเจือปนอยู่นิดหน่อย มีฉากที่ทำให้รู้สึกจิตตกกับด้านมืดของมนุษย์อยู่บ้าง แอบสะเทือนใจนิดหน่อยกับฉากพวกนั้น
รีวิวโดย มิราอิ
____________________
สามารถติดตามการรีวิวหนังสือของเราและเพื่อนๆ ได้ที่ แฟนเพจ
Rook a Bead
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in