ดาวประจำเมืองส่องสว่าง
กระต่ายน้อยวิ่งนำทาง
ทั้งๆที่มีผู้นำมากมายทำไมถึงยังหลงทางกันนะ
พระจันทร์คิดด้วยใจฉงน
ความจริงแล้วบันทึกบทนี้ควรจะเป็นบทที่มีความหวังมากที่สุด เพราะฉันตั้งใจจะเขียนมันขึ้นมาก่อนการออกไปทัศนศึกษาครั้งแรก
น่าเสียดาย
มันกลายเป็นบันทึกที่สิ้นหวังที่สุดไปเสียแล้ว
หลังจากการตกลงใจว่าจะไม่ดรอป
แม่พยายามอย่างมากในการพูดคุยกับคุณครูหลายท่านเพื่อให้ฉันมีสิทธิ์สอบ
ท่านตามรับงานจากเพื่อนๆของฉัน
ทำแม้กระทั่งนั่งย่อหนังสือสอบไปด้วยกัน
แต่ฉันก็พ่ายแพ้
พ่อบอกว่าพ่อจะเป็นดาวประจำเมือง ดาวที่สว่างที่สุด คอยนำทางฉันกลับมา
แม่บอกว่าแม่จะเป็นกระต่าย รอคอยพระจันทร์แม้คืนเดือนแรม
แต่ฉันอาจไม่ใช่พระจันทร์ที่พวกเขาตามหา
ไม่รู้เพราะฤทธิ์ยาที่แรงเกินไป
หรือหัวใจที่อ่อนแอจนน่าชัง
ตั้งแต่ปรับปริมาณยาครั้งล่าสุดร่างกายฉันก็แปลกไป
ฉันหลับเร็วกว่าทุกวัน
ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือทำการบ้านทั้งๆที่เป็นสองสัปดาห์สุดท้ายที่เร่งรีบ
มือสองข้างไม่มีแรงจับปากกา ถึงฝืนเขียนก็บิดเบี้ยวและเหนื่อยล้า
สองตาคอยจะปิดตั้งแต่หัววันแม้จะเอาแต่นอนกระสับกระส่ายก็ตาม
ฉันแพ้
ขี้แพ้
คำว่าไร้ประโยชน์สลักลงกลางใจฉัน
จากครรลองสายตาที่ปริบปรือฉันเห็นแม่นั่งหลังขดหลังแข็งย่องานให้ฉัน
ในขณะที่ฉันทำได้เพียงนอนบิดตัวไปมาและคร่ำครวญว่าอยากจะนอน
เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่ฉันกลับมาทบทวนเรื่องดรอป
ด้วยความสามารถของฉันตอนนี้ การไปต่อมันจะเป็นจริงได้หรือ
ด้วยหัวใจของฉันในยามนี้ การเอาชนะตัวเองจะสามารถทำได้จริงๆหรือ
คำถามนี้ช่างยากเหลือเกิน
พระจันทร์อีกดวงกระเพื่อมสั่นราวจะแตกสลาย
แสงของมันไม่สว่างสวยงามเพราะเป็นเพียงภาพลวง
วินาทีที่คลื่นน้ำกระทบฝั่งทำเอาพระจันทร์ดวงนั้นหนาวจับใจ
ที่แท้ไม่ว่าดาวประจำเมืองจะสว่างแค่ไหน
กระต่ายน้อยจะวิ่งเร็วเพียงใด
พระจันทร์ดวงนี้ก็ไม่มีวันออกเดินทาง
เพราะมันเป็นเพียงเงาจันทร์บนผืนน้ำ... เท่านั้นเอง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in