พระจันทร์ลอยคว้างอยู่กลางฟ้า
กัปตันเรือลำใหญ่ด้านล่างบอกจะนำทางแก่มัน
พระจันทร์ฝากความหวังไว้ที่ต้นหนของเรือลำนั้นโดยไม่รู้ตัว
เมื่อไม่นานมานี้ฉันหยุดการไปโรงเรียน
เรื่องที่ฉันป่วยเป็นโรคซึมเศร้าแผ่ขยายเป็นวงกว้าง
คุณครูหัวหน้าระดับอนุญาตให้ฉันหยุดรักษาตัวและฝากความห่วงใยมาให้
ท่านว่าเพื่อนและครูต่างรอการกลับมาของฉันและพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ
ฉันไม่เชื่อ
ไม่ใช่ไตร่ตรองแล้วจึงไม่เชื่อ
แต่เป็นความรู้สึกในวินาทีแรกที่ได้ฟังว่าไม่เชื่อ
หลังจากการไปหาหมอครั้งสามหรืออาจจะสี่ ฉันได้ยาเพิ่มขึ้นมาหนึ่งตัว
แต่เดิมมียาแก้คิดวนกับยานอนหลับ
ตอนนี้มียาแก้คิดมากเข้ามาร่วมด้วย
สองสามวันมานี้ฉันเริ่มออกกำลังกายตอนเย็น
นอกเหนือจากการที่หวังว่ามันจะช่วยปรับระดับฮอร์โมนที่ปรวนแปรแล้วฉันยังเริ่มมีความคิดว่ามันอาจทำให้ฉันผอมลงสักหน่อย
ช่างเป็นความคิดของเด็กสาวสามัญที่ไม่ได้เกิดในหัวสมองฉันมานานแล้ว
อ่านจากสายตาของแม่
ฉันกำลังดำเนินไปในทางที่ดี
เมื่อคืนวานแม่รบเร้าอยากให้ฉันลองไปโรงเรียน
คุณหมอท่านก็แนะนำว่าถ้าคิดว่าไหวก็ไป หรือลองไปแบบถ้าอยากกลับก็กลับเลยก็ได้
ฉันไม่อยากไป
ฉันไม่รู้ว่าสภาพของตัวเองตอนที่ไม่ไหวมันแย่แค่ไหน
ไม่สิ
ฉันไม่รู้ว่าจะทนกับสายตาที่มองมายามฉันไม่ไหว ไหวหรือเปล่า
ความคิดช่างน่ากลัว
ในที่นี้ฉันหมายถึงตัวเอง
ฉันไม่ขอ ไม่เคยคิดขอให้ใครมองอย่างไร คิดอย่างไร
หัวใจที่ไตร่ตรองดีแล้วรู้ดีว่าเราไม่อาจห้ามความคิดความเชื่อใครได้
ฉันอยากขอเพียงให้ตัวเองไร้ความรู้สึกก็เท่านั้น
เชิญมองฉันอย่างไรก็ได้
เชิญพูดถึงฉันอย่างไรก็ได้
เชิญปฏิบัติกับฉันอย่างไรก็ได้
ตราบใดที่ฉันไร้ความรู้สึก
ตราบนั้นฉันคงไม่รู้สึกจนสร้างปัญหาให้ใครมากมายอย่างตอนนี้
ข้อความข้างต้นเป็นคำตอบที่ฉันเคยตอบคุณหมอไปเมื่อท่านถามว่าหากจะขอพรวิเศษที่เปลี่ยนตัวเองได้จะขออะไร
และการตอบสนองของท่านคือการบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้
ท่านแนะนำฉันเรื่องการตัดความคิดและการแยกแยะความหวังของคนอื่นออกจากความหวังของตัวเอง
ก่อนหน้านั้นท่านว่าฉันเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่น
ด้วยความสัตย์จริง
นั่นเป็นครั้งแรกในช่วงนี้ที่ฉันจำได้ว่าตัวเองมีความสุข
มันคล้ายมีหยดน้ำเย็นฉ่ำหยาดลงบนต้นอ่อนที่แห้งเหี่ยว
ต้นอ่อนนั้นไม่ได้ชูคอล้อแสงทันทีอย่างในการ์ตูน
มันเพียงขยับใบรับความสดชื่นนั่นเบาๆอย่างขอบคุณแล้วพยายามหยั่งรากลึกเสาะหาน้ำและแร่ธาตุเพื่อมีชีวิตอยู่อีกครั้ง
แม้รากฝอยบางๆนั่นจะเติบโตเพียงหนึ่งมิลลิเมตร
แต่มันก็พยายามจะมีชีวิตอยู่
เมื่อเช้าฉันกลั้นใจอ่านไลน์กรุ๊ปห้อง
กลัวถึงขนาดว่าจะมีใครสังเกตไหมว่ามีคนอ่านครบจำนวนสมาชิกแล้ว
ฉันพบว่าในห้องกำลังรวบรวมเอกสารเพื่อขอ ปพ.7 ที่จะเอาไว้สมัครสอบ กสพท
ฉันพยายามคิดว่าจะทำอย่างไร
เย็นนี้แม่หวังจะไปเอาการบ้านจากเพื่อนสักคนที่โรงเรียน
ถ้าฉันฝากเอกสารให้แม่ไปที่โรงเรียนในช่วงพักกลางวันเพื่อจะได้รวบรวมพร้อมเพื่อนๆคงดีไม่น้อย
ข้อแรก ฉันคิดอย่างเห็นแก่ตัวว่าไม่อยากไปตามทำเรื่องเองทีหลัง
ข้อสอง ฉันคิดว่าวิธีนี้คงไม่ลำบากเพื่อนมากนักที่จะต้องมาตามตอบคำถามฉันอีกในวันเวลาหลังจากนี้
ฉันพิมพ์ความคิดนั้นอย่างรอบคอบลงในช่องแชทของเพื่อนคนหนึ่งที่คล้ายว่าเราสนิทกัน
เหตุเพราะเธอไลน์มาถามฉันเรื่องการแข่งตอบปัญหาที่ใกล้จะมาถึง
แน่นอนว่าฉันปฏิเสธ
ฉันยังไม่รู้สึกพร้อมสักนิดกับการพบเจอผู้คนที่มาจากโรงเรียน
คำตอบแรกของเธอทำให้ฉันใจสั่น
เธอว่าตอนกลางวันไม่สามารถนำการบ้านมาฝากที่ป้อมยามให้แม่ฉันได้และไม่อาจรับเอกสารของฉันด้วย เพราะเพื่อนทั้งห้องติดการสอบ
โอเค
ฉันเข้าใจ
ฉันกรอกตัวอักษรอย่างระมัดระวังอีกครั้งถึงขอเสนอว่าหากเลื่อนมาเป็นตอนเย็นแทนจะมีความเป็นไปได้ไหม
คราวนี้ฉันจ้องโทรศัพท์รอ
ใจสั่นมากกว่าเดิม
เธอตอบกลับมาว่าไม่
เธอต้องไปปลูกต้นไม้และไปบ้านเพื่อนคนหนึ่ง
ซึ่งฉันคิดว่าเธอคงหมายถึงเพื่อนทุกคน
ฉันคว่ำหน้าจอลง
ไม่ได้กดเข้าไปอ่าน
แสร้งทำเหมือนยังไม่ได้รู้เรื่องราวใดทั้งๆที่กำลังร้องไห้ปานจะขาดใจ
เส้นอารมณ์ที่คงที่สลับกับตกหลุมบ่อตื้นๆในช่วงสองสามวันมานี้ยิ่งกว่าดิ่งลงเหว
เส้นเส้นนั้นมันขาดแล้วเกิดเป็นเส้นใหม่ในจุดที่ต่ำที่สุด
ฉันร้องไห้
ร้องไห้
ร้องไห้
ระหว่างที่ทำให้น้ำตาไหลและเช็ดมันออกในเวลาเดียวกัน ความคิดมากมายหลั่งไหลอยู่ในหัว
ไหนครูบอกว่าเพื่อนพร้อมจะช่วยฉัน
ไหนครูบอกว่าเพื่อนรอฉันกลับไป
ไหนครูบอกว่าที่นั่นพร้อมจะช่วยเหลือ
ฉันกรีดร้องอย่างเงียบงัน
ช่วงแรกด่าทอเพื่อนสาวที่แต่ไหนแต่ไรมักรู้สึกว่าอีกฝ่ายคิดกับฉันน้อยกว่าเพื่อน
ภาพของตัวเองในอดีตที่เดินตามหลังเพื่อนสองคน
ภาพทางเดินเงียบๆที่ฉันก้าวไปตามสอบตามเก็บงานเพียงลำพัง
ภาพคุณครูที่ตำหนิฉันว่าไม่ยอมส่งงานชิ้นที่เพื่อนไม่เคยบอกว่ามันมีทั้งๆที่ทวงถามหลายครั้ง
ทั้งหมดนั่นย้อนกลับมาราวกับสายน้ำ
หลังจากนั้นฉันยังคงร้องไห้
เพียงแต่คราวนี้ด้วยหัวใจที่รู้สึกผิด
เธอคนนั้นไม่ได้ผิด
ครูคนไหนก็ไม่ได้ผิด
เป็นฉันเองที่เห็นแก่ตัว
ให้ลองนึกฉันก็นึกไม่ออกว่าตัวเองเคยทำสิ่งที่เมื่อครู่เรียกร้องกับเพื่อนคนใดไหม
แล้วจะหวังให้ใครแสดงสิ่งเหล่านั้นกลับคืนได้เช่นไร
ฉันหอบหายใจ
ช่องอกเจ็บแสบจากอาการทางกายและใจ
ตลอดมาเป็นฉันเองที่เฝ้าวอนขอแต่ไม่เคยหยิบยื่น
หัวใจที่เอาแต่เรียกร้องนี้ หากเจ็บปวดก็สมควรแล้วล่ะมั้ง
ตอนนี้ฉันตาบวมเป่ง
จมูกแน่นจนหายใจลำบาก
ข้อดีเพียงอย่างเดียวคือฉันค้นพบคำตอบบางอย่าง
ฉันยังไม่พร้อมจะไปโรงเรียน
และฉันดีใจเหลือเกินที่ตัวเองพบมันก่อนจะก้าวเท้าออกไป
มันอาจเป็นคำตอบที่ไม่ได้แสดงถึงความคืบหน้าและทำให้คนฟังผิดหวัง
แต่ฉันยังไม่พร้อมจะร้องไห้ให้ใครฟังนอกจากตัวเอง
เรือลำใหญ่แล่นลัดฉวัดเฉวียน
ต้นหนยังคงดูทิศทางลมและบอกทางแก่กัปตันเรือ แต่เขาไม่แม้แต่จะแหงนขึ้นมาสบตากับพระจันทร์
บางทีสิ่งที่เรือกำลังนำทางอาจเป็นดาวดวงอื่น
ดวงที่สว่างกว่านี้
สวยงามกว่านี้
สำคัญกว่านี้
ดวงที่ไม่ใช่พระจันทร์
คืนนั้น... พระจันทร์ยังคงหลงทาง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in