30 มกราคม 2562 เบนฟิก้ามีโปรแกรมลงแข่งเกมลีกพบกับคู่แข่งจากย่านเมืองท่า เบาวิสต้า

แมตช์เดย์ที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงอีกแมตช์นึงที่สองทีมลงสนามเพื่อโกยคะแนนทำอันดับตามเป้าหมายของตน แต่หากบนอัฒจรรย์ที่ล้อมรอบกรอบหญ้าสีเขียวนั้น อาจจะมีอะไรที่ต่างออกไป

บนแผงที่นั่งฝั่งวีไอพี มีกลุ่มแมวมองจากหลายสโมสรของยุโรปมานั่งเรียงรายกันโดยมิได้นัดหมาย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, บาเยิร์น มิวนิค, เฟเยนูร์ด และอีกหลายคนที่อาจซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มกองเชียร์ พวกเขาต่างมาตั้งใจดูลีลาการโชว์ฝีเท้าของนักเตะคนหนึ่งที่ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมวันนั้น ซึ่งทั่วทั้งยุโรปเริ่มจะคุ้นชื่อของเขาภายในเวลาไม่ถึงปีที่ผ่านมา

เจา เฟลิกซ์ ไอ้หนุ่มผมกระเซิงในชุดแดงสดวัย 19 ปี กำลังใช้สมาธิอยู่ในสนามอย่างตั้งมั่น สถานะในสนามตอนนั้นเจ้าตัวก้าวขึ้นมาเป็นกำลังของเบนฟิก้าได้แล้ว เขาอาจรู้หรือไม่รู้ว่าวันนี้มีแมวมองที่อยู่เหนือเขาขึ้นไป มาจับตามองอยู่ แต่ด้วยความสามารถในตัว เฟลิกซ์ขึ้นโหม่งทำประตูให้ทีมได้ตั้งแต่ นาทีที่ 9 ยังไม่พอ พอเข้าสู่ครึ่งหลัง เขายังจ่ายให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้นาทีที่ 54 เป็นผลงานที่เพียงพอที่จะทำให้เบนฟิก้าถล่มพวกเมืองท่ากลับบ้านไปอย่างดุดัน 5-1

เฟลิกซ์อยู่ในสนามครบทุกนาที และนั่นก็มากเกินพอที่แมวมองของทุกสโมสรจะมีอะไรกลับไปรายงานให้ผู้บริหารทราบถึงความจำเป็นที่จะต้องกระชากเด็กคนนี้เข้าอ้อมอกของทีม

หลังเกมวันนั้น เฟลิกซ์กลายเป็นตัวละครหลักของหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์กีฬาโปรตุเกสทุกฉบับ พร้อมจั่วหัวด้วยข้อความที่ไปในทางเดียวกัน "อัจฉริยะ"

ว่ากันว่า เกมนัดต่อมา ซึ่งเบนฟิก้า ต้องบุกไปเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน ที่อัฒจรรย์มีอดีตลูกหม้อของเจ้าถิ่นอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เดินทางมาชมเกม

เจา เฟลิกซ์ ทำหนึ่งประตูให้โรนัลโด้ได้เห็นกับตา ว่านักเตะวันเดอร์คิดส์ที่ถูกเอามาเทียบกับเจ้าตัวตอนอายุเท่ากัน ฟอร์มการเล่นร้อนแรงขนาดไหน วันนั้นเบนฟิก้าเก็บสามคะแนนใส่กระเป๋ากลับบ้านด้วยสกอร์ 4-2

ถึงตอนนี้ เฟลิกซ์ทำไป 10 ประตู 4 แอสซิสต์ให้กับทีมในลีก บวกกับเปอร์เซนต์จ่ายบอลสำเร็จเฉลี่ย 77.8% และจ่ายบอลคีย์พาสเฉลี่ย 1.1 ครั้งต่อเกม ด้วยความที่เพิ่งเป็นเดบิวต์ซีซั่น และด้วยอายุที่ยังไม่ทันจะ 20 จากฟอร์มขนาดนี้ทำให้เฟลิกซ์ถูกคาดหมายว่า อาจจะมีราคาค่าหัวทะลุร้อยล้านยูโร หากทีมอื่นใดอยากได้ลายเซ็นเจ้าตัวไป

เมื่อปีก่อน เจา เฟลิกซ์ยังอยู่กับทีมชุดบีของเบนฟิก้า ขณะที่ย้อนกลับไปอีก เจา เฟลิกซ์ เพิ่งเข้าฝึกวิชากับศูนย์ฝึก Seixal อันเป็นแหล่งปั้นนักเตะเบนฟิก้าให้ออกไปโลดแล่นมาแล้วหลายรายทั้ง แบร์นาโด ซิลวา, อีแดร์สัน และวิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ

เฟลิกซ์ย้ายทีมอคาเดมี่อยู่หลายทีม หนึ่งในนั้นคือยักษ์ใหญ่อีกแห่งอย่าง เอฟซี ปอร์โต ที่ใช้เวลาอยู่ถึง 7 ปี แต่ก็ถูกยกเลิกสัญญาออกมา ด้วยเหตุผลคลาสสิค "ตัวเล็กเกินกว่าเกณฑ์" และภายในปีกว่าต่อมา ก็เป็นเบนฟิก้าที่มาชุบเลี้ยงต่อ

ทุกวันนี้ คนในปอร์โต ก็เริ่มพูดกันแล้วว่า ทีมทำพลาดอย่างรุนแรงที่ประเมินเฟลิกซ์ต่ำเกินไป บางคนว่า สต๊าฟฟ์อคาเดมี่ที่ตัดสินใจในวันนั้น น่าจะลาออกจากการทำทีมเด็กไปเลย

เฟลิกซ์มาอยู่เบนฟิก้า และไต่เต้าขึ้นมาเรื่อยๆ กระทั่งทีมชุดบี และทีมเยาวชนชุดลุยยูฟ่า ยูธ ลีก ในชุดที่ได้รองแชมป์ เพราะไปแพ้เร้ดบูลส์ ซัลซ์บวร์กในรอบชิง ทั้งที่ในรอบรอง พวกเขาหักด่านเรอัล มาดริดไปได้ (เบลล่า กัตต์มันน์ถูกใจสิ่งนี้)

เบนฟิก้าตัดสินใจเอาเฟลิกซ์มาทดลองเล่นชุดใหญ่ในฤดูกาลนี้ แม้ฝีเท้าที่ผ่านมาจะจัดจ้านเพียงใด แต่นั่นคือการวัดแข้งกันในระดับเยาวชนด้วยกัน หากแต่การเลื่อนขึ้นมาดวลกับกระดูกอีกเบอร์นึงนั้น ทำให้เบนฟิก้าค่อยๆ ส่งเขาลงสนามอย่างค่อยเป็นค่อยไป โอกาสแรกของเฟลิกซ์ในเกมนัดที่สองของฤดูกาล โดยลงมานาทีที่ 88 (ชนะเบาวิสต้า 2-0)

แต่พอเกมต่อมากับสปอร์ติ้ง ลิสบอน เขาได้รับโอกาสลงมาในนาทีที่ 71 ขณะที่ทีมยังตามหลังอยู่หนึ่งลูก แต่เฟลิกซ์ที่ตัวเล็กกว่าใครในสนาม กลับโหม่งทำประตูได้ในช่วงท้ายเกม เบนฟิก้ากลับบ้านด้วยหนึ่งคะแนนสำคัญ การลงสนามในเกมต่อๆ มา ของเฟลิกซ์ก็ยังไม่เสถียร แต่หลังผ่านครึ่งฤดูกาลแรก ภายใต้การทำทีมของโค้ชคนใหม่ บรูโน่ ลาเก้ ส่งเฟลิกซ์ลงเป็นตัวจริงทุกนัด ด้วยแท็กติกที่เอาเฟลิกซ์มายืนเป็นกองหน้าคู่กับ ฮาริส เซเฟโรวิช ทำให้ช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง เฟลิกซ์ทำได้ถึง 7 จาก 10 ประตู และ 3 จาก 4 แอสซิสต์ โดดเด่นขึ้นมาทันใด

อยากให้ติดตามเจา เฟลิกซ์ไปเรื่อยๆ ทีมงานเชื่อว่า ชื่อของเขาจะสร้างปรากฎการณ์อะไรอีกมากให้โลกลูกหนังต่อจากนี้ อย่างน้อยที่สุดในตลาดซื้อขายหน้าร้อนนี้ รวมถึงโอกาสที่จะติดทีมชาติชุดใหญ่ไปเล่นยูฟ่า เนชั่นส์ลีก รอบไฟนอลโฟร์ ที่บ้านของตัวเอง ในเดือนมิถุนายนนี้ด้วย