เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storyleebenzbang
ลมหายใจ ภายใต้ 14,000 ft.
  • .


    ลมหายใจ ภายใต้  14,000 ft.





    การทำ skydiving หรือการกระโดดลงมาจากเครื่องบินที่บินอยู่สูงเหนือเมฆ และลอยตัวค้างเติ่งด้วยร่มชูชีพอันจิ๋วอยู่บนอากาศคือความฝันของเราตั้งแต่เรายังอยู่มอปลาย วันนี้เรากับพี่ออม พี่ที่มาเวิร์คแอนด์ทราเวลด้วยกันได้มาเที่ยวที่ โอฮาอู เมืองโฮโนลูลู ที่เกาะฮาวาย พวกเราบินตรงมาจากคาวาย ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆเกาะหนึ่งเพื่อมาทำ skydiving และชมเมืองโฮโนลูลูกันก่อนจะกลับไทย 





    พี่ออมเป็นคนจัดการกดจองผ่านเว็บไซต์ให้เสร็จสรรพ เรารู้สึกแย่มากที่แทบไม่ได้ช่วยอะไรพี่ออมเลย 555555 เราไปทำ skydiving กับบริษัท Pacific Skydiving ซึ่งตั้งอยู่บริเวณฝั่ง North Shore เนื่องจากพวกเราจองโฮสเทลกันแถวๆหาด Waikiki ซึ่งจะอยู่คนละฝั่งเลย เราเลยต้องแจ้งกับทางบริษัทเพื่อให้ทางบริษัทมารับเราในเช้าวันพรุ่งนี้




    การจองก็ไม่ยากเลย (ไม่ยากเลย เพราะพี่ออมทำ 555555 ผิด) เราสามารถจองล่วงหน้าได้หนึ่งวันก่อนจะทำ skydiving พี่ออมกดจองตอนเย็น และเลือกจะทำ skydiving ในตอนเช้าตรู่ของอีกวัน เดี๋ยวจะแนบเว็บไว้ให้ (https://www.pacificskydivinghonolulu.com/?gclid=Cj0KCQjwhJrqBRDZARIsALhp1WQAl0D6BDgykRSYLvmfOBPhHo3xLQ35hcedfBbEvcbUP62X0m6ubsgaAvRREALw_wcB) จะมีรายละเอียดเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด ถ้างงๆก็ไม่ต้องตกใจ พอไปถึงที่บริษัทเค้าจะอธิบายให้เราฟังอีกที




    เช้าตรู่ของวันเสาร์ที่สามสิงหา เรากับพี่ออมตื่นกันตอน 04.10 น. แล้วรีบอาบน้ำแต่งตัว เรียกอูเบอร์ไปจุดนัดพบซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโฮสเทลเราเท่าไหร่ ประมาณราวๆตีห้ารถก็ออก รอบนี้น่าจะเป็นรอบที่เช้าที่สุด นอกจากเรากับพี่ออม ก็มีคนจีนอีกสามคนที่มาทำด้วยกัน บนรถจะเปิดวิดีโอคลิปตัวอย่างพร้อมทั้งคำชี้แจงบางส่วนที่มีในเอกสารหมดแล้ว คนขับรถจะแจกเอกสารรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเบื้องต้นของเราให้เรากรอก รวมไปถึงหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะสามารถติดต่อใครได้บ้าง พวกข้อมูลอะไรเหล่านี้จะมีอยู่แค่หน้าแรกเท่านั้น หน้าถัดๆไปจะเป็นพวก contract หรือคล้ายๆกับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆที่เราต้องเขียน initial name ของเราลงไปเพื่อเซ็นต์ยอมรับ (เอกสารมีทั้งหมด 7 หน้าอ่ะแม่) เรากรอกสายตาอ่านไปทั่วๆให้ละเอียด และจับใจความได้ส่วนใหญ่ว่า เราต้องยอมรับเงื่อนไขของทางบริษัทว่าอาจเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอันตรายหรือถึงแก่ชีวิตได้ เนื่องจากปัจจัยหลายๆอย่างทั้งทางด้านสภาพอากาศ และความบกพร่องทางกายภาพของเครื่องบินและร่มชูชีพ




    เออว่ะ  กูตายได้เลยนี่




    ปากกาชื้นเหงื่อที่มาจากอุ้งมือของเราทำให้เรามีสติขึ้นได้ว่าเรากำลังจะทำอะไรอยู่ ก่อนเราจะทำ มีคนเตือนเราเยอะแยะเลยว่าอันตรายมากนะ มีข่าวนู้นข่าวนั่นข่าวนี่เต็มไปหมด เรามองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดสนิทเนื่องจากพระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นแล้วก็ถอนหายใจเงียบๆ เรากำลังพานิคจากสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า พี่ออมเหมือนรู้งาน ชูมือขึ้นสูงๆหวังให้ฮึกเหิม พร้อมกับพูดว่า “มึงก็เตรียมใจจะทำมาตั้งนานแล้วนี่หว่า”


    หลังจากมั่นใจว่าอ่านข้อตกลงถ้วนถี่ เราจรดปากกากรอก initial name ลงไปอย่างมุ่งมั่น เอาหน่า ชีวิตชั้นคงไม่โชคร้ายอะไรขนาดนั้นหรอก (มั้ง) พลางคิดในใจว่า ชั้นจะตายไม่ได้ ชั้นยังไม่ได้รับปริญญา! แง


    รถขับมาถึงบริเวณสนามบินเล็กๆที่ชื่อว่า Dillingham Airfield 68-760 ตอนราวๆหกโมงกว่าๆ เป็นสนามบินที่เอาไว้จอดสำหรับเฮลิคอปเตอร์หรือเครื่องบินลำเล็กเท่านั้น คุณลุงคนขับพาพวกเราไปนั่งรอที่ห้องรับรอง ซักแป้บจะมีคุณป้าที่เป็นเจ้าหน้าที่จะมาชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เราพึงจะต้องจ่าย 




    ของเราจะเป็น Airplan Tandem หรือการกระโดดลงมาจากเครื่องบิน จะมีให้เลือกสองอย่างคือแบบ Regular และแบบ Ultimate


    Regular : ราคา 159 $ ความสูง 8,000-10,000 ft.

    Ultimate : ราคาบวกเพิ่มอีก 30 $ ความสูงมากกว่า 14,000 ft.


    ทีนี้พอเลือกประเภทที่เราจะทำการโดดลงมาได้แล้ว ก็มาเลือกแพคเก็จรูปภาพ เนื่องจากเราไม่สามารถกระโดดอย่างเดียวโดยไม่เอารูปหรือวิดีโอได้ เค้าจะให้เราเลือกระหว่างจะเอารูปหรือจะเอาวิดีโอ หรือจะเอาทั้งคู่


    Regular : รูปราคา 105 $ วิดีโอ 140 $ - both : 199 $

    Ultimate : รูปราคา 135 $ วิดีโอ 170 $ - both : 230 $




    คนสวยๆรวยๆอย่างเราก็ต้องเลือกกระโดดแบบ ultimate และเลือกแพคเก็จคู่วิดีโอพร้อมรูปถ่ายอยู่แล้ว 555555 ล้อเล่น คือเราคิดอย่างเดียวว่าเราเองก็ไม่ได้จะมาโดดบ่อยๆ แถมเงินที่ได้มาก็เป็นเงินที่เราหามาเองจากการทำงานอย่างหนักหน่วง เราเลยตัดสินใจได้ไม่ค่อยยากนัก (มั้ง)


    ทีนี้ เสต็ปสุดท้าย เราก็ต้องมาเลือกว่าเราจะอยากให้รูปภาพและวิดีโอออกมาเป็นรูปแบบไหน โดยมีสองแบบคือ Handicam หรือการติดกล้องโกโปรที่ข้อมือของ instructor ที่โดดไปกับเรา รูปที่ได้จะออกมาแนว close up คล้ายการเซลฟี่ และอีกแบบคือ cameraman คือการที่มีช่างกล้องกระโดดตามไปกับเราด้วยเลย 55555 เราจำรายละเอียดราคาของ Handicam ไม่ได้แล้ว เพราะเราเลือกแบบ cameraman ไป จะบวกเพิ่มอีก 220 $ 


    อย่างสุดท้ายเลยคือ เค้าจะถามว่าจะเอารูปผ่านแอร์ดรอปหรือผ่านแฮนดี้ไดรฟ์ เรากับพี่ออมเลือกแฮนดี้ไดรฟ์ไปเพราะเผื่อจะอยากเก็บเอาไปดูในคอมได้ (จ่ายค่าแฮนดดี้ไดรฟ์เพิ่ม 10 $)


    ซักแป้บนึง เค้าก็บอกให้พวกเราเก็บของมีค่าทั้งหมดใส่ในล็อกเกอร์และล็อกเอาไว้ เรากับพี่ออมไปหาอะไรกินกันที่ truck ข้างๆสนามบิน ซักแป้บนึง 15 นาทีก่อนจะบิน เค้าจะเรียกเราให้ไปพบกับ instructor ประจำตัวเพื่อ gear-up หรือการสวมเข็มขัดและเครื่องรั้งตามลำตัวต่างๆ Caylon จะกลายมาเป็น instructor ของเรา ตอนแรกเคย์ลอนก็เรียกเราชื่อจริงนี่แหล่ะ จนกระทั่งเราบอกชื่อเล่นไป เคย์ลอนก็เรียกชื่อเล่นของเราและแซวว่าเราราคาแพงยันชื่อเลยนะ 5555555 เคย์ลอนน่ารักที่พยายามจะ ice-breaking เพราะคงรู้ว่าเราประหม่าและกังวลกับการทำ skydiving ครั้งแรกในชีวิตอยู่แน่ๆ เคย์ลอนแต่งตัวสบายๆพร้อมกับสวมรองเท้าแตะและมัดจุก เราเองที่ใส่รองเท้าแตะรัดส้นอยู่โดน instructor ไล่ไปเปลี่ยนรองเท้าทั้งที่เค้าเองยังใส่แตะกระโดดอ่ะ 555555 หลังจากทำความรู้จักกันแล้ว เคย์ลอนก็เริ่มสอนเราว่า ตอนจะกระโดดลง ให้ head back หรือการทำตัวให้คล้ายๆกับกล้วย (banana head back) ส่วนตอนลอยอยู่กลางอากาศ ให้เอาขาของตัวเองทั้งสองข้างๆโน้มไปด้านหลังระหว่างกลางของขาเคย์ลอน ระหว่างกระโดดลงไป ให้เอามือจับตรงเชือกบริเวณหน้าอกไว้ทั้งสองข้าง เราฟังเคย์ลอนอย่างตั้งใจ ก่อนจะไปพบกับ Kelly ที่จะมาเป็น cameraman ของเรา (เป็นผู้หญิงที่น่ารักและสดใสมากๆ) Kelly ชวนเราออกไปนอกตัวอาคารเพื่อถ่ายวิดีโอ pre-flight interview ของเรากับพี่ออม ถามว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร ตื่นเต้นมั้ย พร้อมมั้ย หลังจากนั้น พวกเราทุกคนก็โดนเรียกให้ไปขึ้นเครื่อง เราคุยกับเคย์ลอนไปตลอดทาง เคย์ลอนบอกว่า เมื่อคืนฝันร้าย ฝันว่าลืม gear-up เธอ 5555555 ก็คือไม่ได้ช่วยให้กู nervous น้อยลงเลยซักนิด 55555555 ความบังเอิญคือ cameraman ของพี่ออมคือน้องชายแท้ๆของเคย์ลอน ซึ่งหน้าคล้ายกันมาก แล้วเราก็จำผิดไปทัก 5555555 เคย์ลอนนางกลัวเราหน้าแตก เลยบอกว่าไม่ต้องห่วง แฟนของน้องชายชั้นก็เคยทักชั้นเพราะนึกว่าชั้นเป็นแฟนเค้าเหมือนกัน อีเวรเอ้ย 55555555



    เครื่องบินลำเล็กใช้เวลาไม่นานในการเทคออฟ เราพยายามกวาดสายตาไปโดยรอบของ North Shore วันนี้มีเมฆค่อนข้างมาก อาจจะเป็นเพราะว่ายังเช้าอยู่มากๆด้วย เครื่องบินเริ่มบินสูง เรากลับมาพานิคอีกครั้ง เคย์ลอนกระชับตัวเราให้ออลเซ็ตเป็นสัญญาณบอกว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเรากำลังจะกระโดดลงจากเครื่องบินกัน เคย์ลอนสวมแว่นให้เราก่อนจะชี้ให้ดูตรงส่วนที่เราเกียร์กันไว้ พลางจะบอกว่าถ้าเกิดการ crash ขึ้นแล้วเคย์ลอนอยู่ในอันตราย ให้ปลดตรงส่วนเกียร์ออก นี่เลยบอกไปว่า อย่าพูดแบบนั้นนะ ซักแป้บเคย์ลอนก็ทำน้ำเสียงเรียบดู ไม่ขี้เล่นเหมือนก่อน ก่อนจะบอกว่า นี่พูดจริงๆ ก่อนจะกลับมาหยอกเราเหมือนเดิมว่า ถ้าชั้นตาย ฝากให้อาหารปลาด้วยนะ 55555555



    อะไรก็เกิดขึ้นได้ ตรงความสูง 14,000 ft. เหนือระดับน้ำทะเล



    เราถามเคย์ลอนอีกครั้งเรื่อง banana head back เคย์ลอนบอกว่าตอนเราแลนด์ ให้เรายืดขาให้สูงมากๆ หลังจากนั้นพอเท้าเริ่มจะแตะพื้น ให้วิ่งให้เร็วที่สุด ประตูเครื่องบินเล็กถูกเปิดออก อากาศเย็นสะท้านถูกพัดเข้ามาด้วยความเร็วของลมและแรงกดอากาศ หูเราเริ่มอื้อ แต่กลับได้ยินเสียงเครื่องบินลำเล็กทำงานชัดเจน เราไม่เห็นน้ำทะเลและภูเขาแล้ว เราเห็นแต่ก้อนเมฆสีขาวหลายก้อน เราหันไปถามเคย์ลอนว่าใครจะเป็นคู่แรกที่กระโดดลงไป เคย์ลอนก็บอกว่า คู่ที่อยู่ใกล้กับประตูที่สุดนั่นแหล่ะ



    คู่55555555555กู5555555นั่น5555555เอง55555555



    เรากลับมา freak out อีกครั้ง เขย่าแขนพี่ออมเป็นระยะจน instructor พี่ออมหันมายิ้ม ซักแป้บนึง พี่ออมก็กระเถิบตัวไปด้านหน้า เตรียมจะกระโดดลงเป็นคู่แรก เราใจแกว่งหล่นไปถึงตาตุ่ม พี่ออมและinstructor ของเขากำลังลอยเติ่งอยู่กลางฟ้า อย่างน้อยเราก็เป็นคู่ที่สองที่กระโดดแหล่ะวะ



    ก็55555555คือ55555555คู่5555555ต่อ555555ไป5555555นั่น5555555เอง



    เคย์ลอนเริ่มดันตัวเราให้เข้าใกล้กับประตู พลางย้ำเตือนสเต็ป banana head back เป็นระยะๆ เรานั่งอยู่ตรงขอบเครื่องบิน ชันเข่า ภาพตรงหน้าทำเราเวียนหัวชวนอ้วก เรากำลังจะตกจากเครื่องบิน โดยไม่ทันตั้งตัว เคย์ลอนดันตัวเราอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย ทำให้ขาสองข้างของเราไถลออกจากพื้นเครื่องบินโดยง่าย



    ปลิดปลิว...กลางอากาศ





    มันสุดยอดมากกกกก เรากลัวมากในตอนแรก แต่ตอนที่ลอยค้างอยู่กลางอากาศคือมันดีมาก ลมแรงตีหน้าเราจนแสบไปหมด เราเห็นเคลี่ลอยอยู่ข้างๆเราคอยเก็บภาพเราที่ค้างเติ่งอยู่แบบนั้น มีจังหวะที่เรากับเคย์ลอนโดนลมพัดหมุนติ้วเหมือนอยู่ในเครื่องอบผ้าแบบขนาด Large load เราตาพร่า ขนมปังที่กินรองท้องไว้เมื่อสิบนาทีก่อนเริ่มมากองอยู่บริเวณคอ มันเป็นการหมุนติ้วอย่างรวดเร็วก่อนจะเงียบสงบ เคย์ลอนหันไปยิ้มกับกล้องที่เคลี่ถืออยู่ก่อนจะชูเลขหนึ่ง สอง สาม แล้วกระตุกร่ม!!



    ฟึ่บบบบบ!!!


    เราเหมือนเป็นก้อนลูกข่างที่โดนปล่อยออกมาจากดาดฟ้า แรงดึงของเชือกบวกกับการถ่วงน้ำหนักของเรากับเคย์ลอนทำให้เกิดแรงกระตุก 


    เรา Free fall.. นิ่ง...ภายใต้ร่มชูชีพอันใหญ่ที่เพิ่งถูกกางออก



    มันมาอยู่ถึงจุดที่เคย์ลอนสามารถบังคับทิศทางร่มชูชีพของเราสองคนได้ ตัวเราร่วงทะลุเมฆมาอยู่ที่จุดที่สามารถเห็นภูเขาและทะเลได้อีกครั้ง เคย์ลอนถอดแว่นให้ เพื่อให้เราเห็นวิวตรงหน้าได้เต็มตาอย่างไม่มีสิ่งกีดขวาง ภาพตรงหน้าทำเราหยุดหายใจ สีน้ำทะเลเป็นสีฟ้าอ่อนจนเราสามารถมองเห็นโขดหินใต้ผิวน้ำได้อย่างชัดเจน ต้นมะพร้าวเรียงรายถูกปลูกเป็นระเบียบรอบชายฝั่ง ภูเขาโอบกอดบ้านเรือนเล็กๆไว้โดยรอบ เราน้ำตาไหลเพราะแสบตาจากแรงลมบวกกับก้อนสะอื้นที่เข้ามาจุกอยู่ที่ลำคอ




    มันสวยงามมากจนหยุดหายใจ


    เคย์ลอนซักซ้อมวิธีการแลนดิ้งของเราอีกรอบ ก่อนที่เรากำลังจะเตรียมตัวแลนดิ้งกัน เราชูขาสูงตามคำสั่ง instructor สุดหล่อของเราอย่างว่าง่าย แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เท้าเราไม่สามารถเกาะกับผืนหญ้าตรงบริเวณสนามบินได้ ทำให้เราไถลกลิ้งกลุกๆไปตามพื้น เจ็บ..แต่คุ้ม


    (ภายหลังคือยกมือไหว้ขอโทษ instructor ที่ลืมวิ่ง T_T)


    เราเห็นพี่ออมแลนดิ้งแล้ว เคลี่รีบตามมาเก็บวิดีโอหลังการทำ skydiving ของเราอย่างตื่นเต้น เราทั้งเหนื่อย ทั้งหมดแรง ผมเผ้ารุงรังไปหมด 555555 เคย์ลอนบอกว่าให้ไปรอเขาในตัวอาคาร ก่อนจะปลด harness ให้ พลางบอกว่ารอตรงนี้แป้บนึง แล้วเขาก็กลับมาพร้อม certificate ที่มีชื่อเราและลายมือของเค้าอยู่ในนั้น เราตื่นเต้นดีใจมาก ก่อนที่เค้าจะนำเรามาตรง Tip Box เพื่อให้เรา leave a comment ให้เค้าหน่อย จะได้เอาไปปรับปรุงหรือรับทราบความเห็นของลูกค้า เราแยกกันตรงนั้น บอกลากันก่อนที่เคย์ลอนจะไปเตรียมตัวเป็น instructor ให้กับลูกค้ากรุ้ปใหม่


    ธรรมเนียมมันมีอยู่ว่าเราจะต้องให้ทิปส์เค้า 15% จากค่ากระโดด ก็คือต้องให้ instructor 20$ และ cameraman อีก 20$ หลังจากเขียนคอมเม้นและให้ทิปส์เสร็จสรรพ เราก็มาถึงสเต็ปที่จะได้ชมวิดีโอและภาพของตัวเอง สุดท้ายแล้วก็คือไปจ่ายตังค์ ถ้าเราโชว์บัตรนิสิตเราให้กับแคชเชียร์ดู เราจะได้ส่วนลด 15$ เรารูดบัตร รับแฮนดี้ไดรฟ์ เงินหาสองเดือน แต่หายไปฟึ่บบบภายในสองนาที เป็นท้อแท้แร้ว


    ตีเหล็กมันต้องตีตอนร้อน เราเขียนรีวิวนี้หลังจากทำการกระโดดไปได้หนึ่งวันเพราะเราประทับใจมากๆ ความรู้สึกที่นั่งชันเข่าอยู่ตรงขอบประตูเครื่องบินชวนให้เรารู้สึกโหวงๆในท้อง แต่กลับกัน ภาพภูเขาและทะเลของ North Shore ที่โฮโนลูลูก็สวยงามจนทำให้เรารู้สึกว่าเราตัดสินใจไม่ผิดเลยที่เลือกทำ skydiving ครั้งนี้







    ลองมาหายใจ..ภายใต้อากาศบริเวณ 14,000 ft. ดูกันนะ








    Sincerely, yours.


    เบนซ์.


    (ค่าเสียหายทั้งหมด ค่ากระโดดบวกกับแพคกิจรูปวิดีโอและคาเมร่าแมน = 422$ 

    Tips ของทั้ง instructor และ cameraman = 40$

    Tips ให้คุณลุงคนขับ ซึ่งเป็นธรรมเนียม = 10$

    = 472$)

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in