จุดเริ่มต้นของทริปนี้เกิดจากการที่เพื่อนบ่นอยากกินเฝอลงทวิตเตอร์ เราเลยไป reply ว่าไปเวียดนามสิ (งง ง่ายมาก) รู้ตัวอีกทีก็หารีวิวอ่านอย่างจริงจังและวางแผนว่าจะไปเที่ยวกันช่วงปิดเทอม ซึ่งกว่าจะตกลงกันได้ว่าจะไปเวียดนามเหนือ กลาง หรือใต้ดี ก็ใช้เวลานานเป็นเดือน ๆ หาข้อมูลและอ่านรีวิวเยอะมาก ๆ ก็เลือกไม่ได้สักทีเพราะที่นี่ก็น่าไป ที่นั่นก็สวย จนสุดท้ายพวกเราก็ตัดสินใจกันได้สักทีว่าจะไป 'เวียดนามใต้' ทั้งหมด 4 เมือง คือ โฮจิมินห์ ญาจาง ดาลัด และมุยเน่ ใน 6 วัน 5 คืน หลายคนถามว่าเวียดนามมีอะไรให้เที่ยวไปตั้งเกือบอาทิตย์ รีวิวนี้จะเป็นเหมือนบันทึกความทรงจำของเรามากกว่า เราจะมาเล่าแบบละเอียดเลยว่าเวียดนามมีอะไรให้ทำเยอะม๊ากกกกก และทำให้เราหลงรักประเทศนี้ไปเลย
*ทริปนี้เราไปกัน 2 คนนะคะ ค่าใช้จ่ายก็จะหารกันหมดทุกอย่างเลย ตกคนละเกือบ 1 หมื่นบาท เดี๋ยวเราจะสรุปให้ว่าในแต่ละวันเราใช้ไปเท่าไหร่ บอกก่อนว่าทริปนี้เป็นทริปที่(พยายาม)ประหยัดสุด ๆ
เราบินจากดอนเมือง ไฟลท์ 07.40 น. และถึงสนามบิน Tan Son Nhat ในเมืองโฮจิมินห์ 09.15 น. ผ่าน ตม. มาแบบชิว ๆ เราแลกเงินจากไทยไปคนละประมาณ 5,000 บาทเป็น USD แล้วค่อยไปแลกเป็น VND ที่สนามบินอีกทีเพราะมีคนบอกว่าคุ้มกว่า ได้มาประมาณ 7 ล้านนิด ๆ เราได้กำเงินล้านแล้วทุกคน ! ! ! จากนั้นก็ไปซื้อซิม vinaphone ร้านสีฟ้าซ้ายมือสุด (ก็ตามรีวิวอีกนั่นแหละ) ลากกระเป๋าออกจากสนามบินแล้วเลี้ยวขวาไปขึ้นรถบัสสีเขียวสาย 152 ที่จอดอยู่ตรงข้าม Burger King เรากับเพื่อนคุยกันตั้งแต่อยู่บนเครื่องแล้วว่าทริปนี้เราจะมีสติ เราจะไม่โดนโกง (หรือถ้าโดนก็อย่าให้รู้ตัวแล้วกัน5555) เพราะอย่างนั้นระหว่างทางที่เดินไปขึ้นรถบัสไม่ว่าจะมีแท็กซี่หรือใครก็ตามเรียกเราเราก็ไม่หยุด เดินดุ่มๆๆๆ ไปขึ้นรถบัส บอกกระเป๋าว่าจะไปฟามงูหลาวเพื่อจะไปซื้อตั๋วรถนอนไปญาจางคืนนี้ พอได้เวลารถบัสออกจากสนามบินเท่านั้นแหละ เราสัมผัสได้ถึงความเป็นเวียดนามเลย รถมอเตอร์ไซค์ซิกแซกยั้วเยี้ยเต็มไปหมด เสียงแตรที่ดังทุกวินาที ย้ำว่าทุกวินาที แต่เสียงที่น่าปวดหัวกว่าคือเสียงไฟเลี้ยวของรถบัสที่นั่ง เหมือนมีรถหวอมาจ่อข้างหูตลอดเวลา
แน่นอนว่ามื้อแรกในเวียดนามก็ต้องเป็นเฝอเจ้าดังอย่าง Pho 2000 แถวตลาดเบญถั่น ร้านอยู่ชั้น 2 ข้างล่างเป็น cafe ไม่ไกลจากที่ฝากกระเป๋าและที่ขึ้นรถทัวร์ไปญาจางคืนนี้มากนัก
ป.ล. ระวังบันไดร้านเฝอกันด้วยนะทุกคน ขั้นบันไดมันวนแล้วพื้นที่ให้เหยียบน้อยมาก เพื่อนเราลงไปวัดมาแล้ว
ขอเล่าย้อนกลับไปก่อนจะมาถึงร้านเฝอนิดดดนึง ก็อย่างที่รู้ว่าเวลาเดินข้ามถนนในเวียดนามเนี่ยรถเขาจะไม่หยุด ถ้าเราเดินข้ามเราต้องเดินต่อไปเรื่อย ๆ ห้ามหยุดเพราะเดี๋ยวรถจะหลบเราเอง แอดเวนเจอร์มาก ๆ แล้วตอนนั้นเราจะเดินข้ามถนนและเห็นว่ามีคนจีน 3 คนกำลังข้ามเราก็เลยข้ามไปกับเขาด้วย ในขณะที่เขาเดินอยู่ฝั่งขวามือเราและรถก็วิ่งมาจากทางด้านขวา เราเห็นผู้ชายจีนโดนคนขับมอเตอร์ไซค์ผลักหน้าอกแรงมาก ตอนแรกเรานึกว่าเขาผลักเพราะกลัวชนรึเปล่าแต่เราเห็นสร้อยทองติดมือคนขับมอเตอร์ไซค์มาด้วย สรุปคือเขาโดนกระชากสร้อยกลางเมืองเลย welcome to Ho Chi Minh ค่า หลังจากเจอเหตุการณ์อันน่าหวาดกลัวตั้งแต่ที่เท้าแตะเวียดนามได้ไม่ถึง 3 ชั่วโมงมันทำให้เราระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิม 10 เท่าตัว จับกระเป๋าแน่นเลย แล้วเราก็เจอฝรั่งแปลก ๆ เราด้วย เดินสวนกันแล้วเขาชี้มาที่กางเกงแล้วพูดใส่เราว่าเกิดอะไรขึ้นกับกางเกง!!! ด้วยใบหน้าที่หัวร้อนสุด ๆ เราก็ เอิ่ม งง ก็แค่กางเกงยีนส์เข่าขาดไหม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกลับไปนะ รีบ ๆ เดินห่างออกมา
พอประมาณ 5 โมงเย็นเราก็เดินกลับไปตรงร้านที่ฝากกระเป๋าเพื่อที่จะไปอาบน้ำก่อนขึ้นไปนอนบนรถทัวร์ เจอเรื่องพีคอีกแล้ว ก่อนเราเดินออกมาเที่ยวรอบเมืองเพื่อนเราถ่ายป้ายหน้าร้านที่ฝากกระเป๋าไว้เผื่อลืม พอตอนเย็นเราเดินกลับมาปรากฏว่าหาร้านฝากกระเป๋ากันไม่เจอ! เรากับเพื่อนคิดว่ามาถูกซอยแล้วแต่ไม่รู้ทำไมไม่เจอป้ายร้านสักทีเราเลยซูมดูรูปป้ายร้านข้าง ๆ ที่ถ่ายติดมา สรุปว่าร้านมันก็อยู่ตรงนั้นแหละแต่เขาเปลี่ยนป้ายหน้าร้าน แง แล้วมาเปลี่ยนเอาวันนี้อะนะ
จบแล้วสำหรับวันแรกในเวียดนามที่โฮจิมินห์ เราว่าโฮจิมินห์เป็นเมืองที่วุ่นวายมาก ตอนที่เพิ่งเข้าเมืองมาปวดหัวกับเสียงในท้องถนนมากแต่พออยู่ไปมันก็แอบชิน ได้เดินข้ามถนนบ่อย ๆ จนรู้สึกว่ากลับไทยไปต้องเป็นเซียนข้ามถนนแน่ อโศกหรอ มาเลยพี่พร้อม และเนื่องจากเราและเพื่อนกลัวการโดนโกงจนขึ้นสมองเลยพยายามทำตัวให้ไม่เหมือนนักท่องเที่ยว แต่ก็มีพนักงานหลาย ๆ คนที่พูดภาษาไทยใส่เราชวนให้เข้าร้านอาหาร5555 ไม่เนียนตั้งแต่ลากกระเป๋าแล้ว จากที่เราอยู่ในโฮจิมินห์แค่ครึ่งวันก็เห็นว่าไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ ที่เห็นบ่อยคือเขาชอบเอาขยะมาทิ้งกองตรงท่อที่ฟุตบาทกัน แต่ถ้าเป็นย่านห้าง หรือที่ไฮโซ ๆ หน่อยเช่นแถวโฮจิมินห์สแควร์ตรงนั้นไม่มีนะ ฟุตบาทก็เรียบกริบ ต่างกันราวฟ้ากับเหว ก็เหมือนกรุงเทพฯแหละเนอะ แต่แลนด์มาร์คบ้านเขาออกแนวยุโรป สวยดี
สรุปค่าใช้จ่าย (ต่อคน)
รวมใช้ไป 635.000 VND หรือประมาณ 826 บาท (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in