(ผมใกล้ถึงแล้ว)
" อือ เดี๋ยวพี่ต้องไปสแตนบายแล้ว "
(ครับ สู้ๆนะ)
นิ้วเรียวกดวางสายหลังจากอีกคนโทรมาเพื่อบอกเซอร์ไพร์ว่าหมอนั้นกำลังขับรถถึงตึกที่เขาทำงานอยู่ ยงกุกส่ายหน้าเบาๆกับความคิดที่แสนดื้อรั้นของฮยอนบิน ทั้งที่ตอนแรกตกลงกันแล้วว่าจะเจอกันตอนทำรายการจบ
" คุณคิมยงกุกเชิญสแตนบายหน้าเวทีได้เลยค่ะ "
เสียงของสตาฟสาวเอ่ยบอก วันนี้ชุดเป็นสีฟ้าที่ใส่แล้วดูสดใสบวกกับทรงผมใหม่ที่พี่โคดี้ลองทำให้ โดยรวมแล้วยงกุกรู้สึกพอใจและไม่ขาดความมั่นใจเท่าวีคแรก
ไม่นานนักก็ถึงเวลาออนแอร์ ทุกอย่างถูกดำเนินไปอย่างเรียบง่ายและปกติจนกระทั่งในช่วงพักเบรครอบที่สองระหว่างวงที่คัมแบคกำลังขึ้นโชว์อยู่ ก็มีใครบางคนเดินเข้ามาในสตู และไปนั่งรออยู่แถวๆเดียวกับเมเนเจอร์ แน่นอนว่าการแต่งตัว เรียกความสนใจจากแฟนคลับได้มากพอสมควร
โดยเฉพาะเหล่าจอยฟูล
ให้มองจากดาวอังคารนะ
ยังรู้เลยว่านั้นคือ ควอน ฮยอนบิน
ยงกุกเหลือบมองอาการของแฟนๆสลับกันเด็กแสบที่นั่งเล่นมือถืออย่างไม่สนใจโลกหรือสิ่งรอบตัว ถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วกลับมาสนใจสคริปในมือต่อ วันนี้รายการยาวกว่าปกติเนื่องจากมีสเตจยิบย่อยที่ค่อนข้างเยอะ เทียบกับวีคที่แล้วยังน้อยกว่านี้
ฮยอนบินคว่ำมือถือลงบนตักตัวเองก่อนจะมองคุณเอ็มซีที่ทำหน้าตาน่ารักไม่หยุดหย่อน เหมือนคิ้วมันจะกระตุกหน่อยๆตอนที่พูดชื่อเพลง
ทำไมต้องทำหน้าน่ารักขนาดนั่น?
ก็แค่แนะนำเพลง
ให้ตายเหอะ ฮยอนบินไม่ชอบเลย
กว่าจะรู้ตัวอีกทีขายาวๆก็เดินลงไปด้านล่างข้างเวทีแล้ว ยืนข้างพี่เมเนเจอร์อีกคนพร้อมกับโค้งให้ แล้วทำการเอ่ยบอกว่า วันนี้พี่ยงกุกจะกลับกันตน เพราะนัดกันไว้ซึ่งก็ไม่ยากอะไรหรอก
หลังจากคุยธุระเรียบร้อย ก็หันไปมองเหล่าจอยฟูลที่บางคนก็ให้ความสนใจกับตน แฟนคลับคนนั่นโยกสโลแกนเบาๆพร้อมกับเอ่ยชื่อเขาโดยไม่มีเสียง เจ้าของชื่อก็ยิ้มตอบถึงแม้ว่าจะมีแมสปิดอยู่ตรงปากแต่ก็ยังเด่นชัดอยู่ดี
ผ่านไปจนรายการจบลง ฮยอนบินเดินเลี่ยงผู้คนมากมายไปรอหลังเวที สายตาจดจ้องอยู่กับคนที่เขาอยากเจอมาทั้งวันกำลังเดินลงมาพร้อมด้วยรอยยิ้ม ยงกุกก้าวเข้ามาหาช้าๆสีหน้าอีกคนไม่ได้ดูเหนื่อยมากนักแต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนอยากทิ้งตัวลงเตียงอยู่ดี
" เบื่อไหม รออีกแปปพี่ต้องเปลี่ยนชุดก่อน "
" ไม่หรอก เดี๋ยวผมไปรอในห้องเอ็มซี "
" อือๆ แล้วพี่เมเนละ? "
" กลับไปแล้ว "
" อ่าว.. "
" วันนี้พี่กลับกับผมไง เอารถมา "
ยงกุกพยักหน้าเร็วๆสองสามทีก่อนจะเดินตรงไปยังห้องเพื่อเปลี่ยนชุด ทั้งกำชับให้อีกคนนั่งรอนิ่งๆเหมือนแม่ดุลูกเพราะกล้วจะไปวิ่งซนที่ไหน แต่ไม่เลย.. คนที่ซนนะ คนสั่งนั้นละ
ใช้เวลาไม่นานอีกฝ่ายก็ออกมาในชุดออลแบล็คเช่นเดียวกับเค้า ต่างกันตรงอีกฝ่ายไม่มีแมสและสะพายกระเป๋าอยู่ที่หลัง ฮยอนบินยิ้มรับพร้อมกับโค้งลาทุกคนในห้องเพื่อไปที่รถ
" นายว่าแฟนๆจะตกใจปะ? "
" ไม่หรอก คงมีใครสักคนอัพลงทวิตแล้วว่าผมมา "
" ให้ตายเถอะ จริงๆเลยนะ "
ตีแขนอีกคนเบาๆก่อนจะเดินเข้าไปในตัวลิฟท์ที่ขึ้นมาบนชั้น หลังจากนั้นเสียงกรี๊ด เสียงโวยวายก็เริ่มขึ้น และมันยิ่งหนักกว่าเดิมเมื่อใครสักคนเรียก ฮยอนบินนา แล้วเจ้าตัวก็หูดีหันไปยิ้มทักทายปกติ
" มีคนจำผมได้ด้วย "
" มีด้วยหรอ คนที่เขาจำนายไม่ได้อ่ะ "
หัวเราะกับคำพูดแปลกๆเหล่านั้นจนกระทั่งลิฟท์มาหยุดลงตรงชั้นหนึ่ง ทั้งสองคนเดินออกไปด้านหลังเพื่อขึ้นรถ แน่นอนว่ายงกุกไม่ลืมจะโบกไม้โบกมือพร้อมทักทายทุกคนเท่าที่ไหว รวมถึงการกระโดดโดยไม่กลัวล้มด้วยนั่นละ
เดินมาจนถึงตัวรถ ก้าวขึ้นไปพร้อมคาดเข็มขัดก่อนจะสตาร์ทรถออกจากที่จอด ก่อนถึงแยกที่ต้องขับสู่ถนนใหญ่ยงกุกก็ใจดีเปิดกระจกรถเพื่อโบกมือลาแฟนๆทุกเป็นรอบสุดท้ายในวันนี้ ฮยอนบินยิ้มรับพร้อมกับพยักหน้าให้
เสียงกรี๊ดพร้อมประโยคอื่นๆที่เหมือนจะตกใจไม่ใช่น้อย เลยอดไม่ได้เลยที่ทั้งสองคนจะรู้สึกเอ็นดู ขับมาสักพักพอพ้นจากกลุ่มแฟนคลับแล้วฮยอนบินก็จับมืออีกคนมาวางไว้บนตักตัวเอง
" ทำไรเนี่ย "
" ชาร์ตแบต วันนี้ทำงานเหนื่อยทั้งวันเลย "
" บอกให้ไปรอที่ร้านก็ไม่ฟัง "
" อยากมารับแฟน ผมผิดตรงไหนหรอครับ? "
ประโยคคงไม่กวนประสาทเท่ากับหน้าตาของอีกคนที่ยกคิ้วให้เขาตอนนี้หรอก ยงกุกหยิกมือฮยอนบินแก้เขินก่อนจะจับเอาไว้เหมือนเดิมเพื่อไม่ให้เด็กแสบลวนลามตนได้
" นี้ ฮยอนบิน "
" ว่า "
" นายว่าพี่ทำได้ดีไหมอะ? "
" เอ็มซีนะหรอ "
" อื้อ "
ไฟสีแดงตรงหน้าที่เพิ่งเปลี่ยนทำให้การเคลื่อนตัวของรถต้องหยุดลง แน่นอนว่ามันไม่ได้น่าสนใจเท่าคนข้างกายเข้าที่มองวิวข้างถนนเหมือนกำลังใช้ความคิดอยู่ สัมผัสอุ่นๆบริเวณแก้มลูบไปมาอย่างแผ่วเบาเหมือนจะปลอบโยนให้ยงกุกผ่อนคลาย ทิ้งความวิตกกังวลเหล่านั่นไป
" พี่เก่งแล้ว พูดเก่งขึ้นตั้งกว่าแต่ก่อนเยอะเลย "
" จริงหรอ "
" จริงสิ ผมจะโกหกทำไม "
" ไม่รู้ นายชอบอวยพี่มั่ง "
ฮยอนบินหัวเราะน้อยๆก่อนจะเลื่อนลงมาจับมืออีกคนเหมือนเดิม แต่คราวนี้ไม่ได่แค่จับเฉยๆแต่เค้ายกขึ้นมาพร้อมกับกุมมันเอาไว้
" ผมอวยเพราะผมชอบพี่ไง ไม่ดิ "
" .... "
" ผมรักพี่ต่างหาก "
ยงกุกหันมาพร้อมกับทำหน้าสงสัยว่าไอ้การที่เขาถามถึงเรื่องการเป็นเอ็มซีมันเกี่ยวยังไงกับประโยคเมื่อกี้นี้.. แต่ช่างเถอะ ถือว่าเป็นกำลังใจละกัน
" ไฟเขียวละ "
เอ่ยบอกอีกคนที่เอาแต่จ้องหน้าเขาจนลืมไปแล้วมั่งว่ากำลังอยู่บนถนน อีกคนหันไปให้ความสนใจกับวิวตรงหน้าต่อถึงแม้ว้ามันจะน่ามองน้อยกว่าคนข้างก็เถอะ
" งั้นเราซื้อของกลับไปกินห้องละกัน "
" นายจะไม่เหนื่อยแย่รึไง กินที่ร้านนั้นละ "
" ไม่หรอก บอกแล้วไง "
ฮยอนบินกระชับมือที่กุมอยู่ให้แน่นขึ้นแต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรพร้อมกับยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะเอ่ยประโยคเลี่ยนๆอีกรอบให้ยงกุกได้ฟัง
" มีที่ชาร์ตแบตอยู่นี้แล้ว ไม่เหนื่อยหรอกครับ "
หมอนี้ เป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ
จริงๆอาจเป็นมาตั้งนานแล้ว
และคิมยงกุกก็ตกหลุมรัก
ความเลียนบ้าๆนั่น
จนนั่งยิ้มกับตัวเองแบบนี้ไปตลอดทางเลย
END.
#storyofbinguk
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in