เขาเคยรู้จักปิศาจตนหนึ่งตั้งแต่เมื่อราวๆ สิบห้าปีก่อน
ตอนนั้นก็แค่อายุยี่สิบกลางๆ วิถีชีวิตแตกต่างจากปัจจุบันแบบหน้ามือกับหลังเท้า
ก็นั่นละ เขาก็แค่คิดว่าชาตินี้คงไม่มีวันได้เจอกันอีก แต่ไอ้ปิศาจที่ว่าตอนนี้มันกลับมายืนอยู่ตรงหน้า
เป็นภาพชัดเจนเหมือนไม่ใช่ความจริงที่ไม่ว่าจะหรี่ตามองยังไงก็ยังคงอยู่
จะกี่ปีผ่านไป
เรือนผมสีแพลตตินัมบลอนด์ล้อมกรอบใบหน้าที่มีผิวขาวจัด แล้วไหนจะยังนัยน์ตาสีฟ้าซีดๆ ที่ทำให้ทั้งตัวยิ่งดูขาว เขาอยากสบถออกมาว่าบ้านัก
บ้าที่ไอ้คนบ้านี่ยังคงสวมเชิ้ตสีขาวเนื้อดีทับด้วยเบลเซอร์สีเข้มที่ถึงจะไม่เห็นชื่อแบรนด์ ไม่รู้จักแฟชั่น แต่แค่มองก็รู้ว่าแพงระยับมายืนอยู่ท่ามกลางฝุ่นลูกรังในไร่แถบเท็กซัสที่อากาศร้อนระอุ
มันดู...ไม่ต่างไปจากเมื่อสิบกว่าปีก่อน
หากพูดว่าเสน่ห์ของกาลเวลาคือทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เสน่ห์นั้นคงเทียบไม่ได้กับผู้ชายตรงหน้า
เจ้าของร่างสูงล่ำสันอย่างคนใช้เวลาส่วนใหญ่อุทิศให้กับการทำงานในไร่เดินเข้าไปหาร่างสูงของใครอีกคนพร้อมกับคำพูดที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าวันหนึ่งจะได้หลุดออกจากปาก
“เข้ามาก่อนสิ”เขากำลังเชื้อเชิญให้มันเข้ามาในบ้าน
เป็นคำพูดที่ได้แต่หัวเราะตัวเองว่าถ้าเป็นเมื่อสิบกว่าปีก่อนจะมีวันเอ่ยคำพูดแบบนี้ไหม
☸
สิบกว่าปีก่อน
ตอนนั้นเขาอายุยี่สิบหก เป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่จะเรียกว่ารุ่งโรจน์ก็รุ่งไม่สุด หรือจะรุ่งริ่งก็ยังไม่สุดอีกเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นช่วงชีวิตที่กำลังบ้าคลั่งจะดีกว่า
“แก... อย่าเพิ่งหลับ” เสียงแหบต่ำไม่ต่างจากคำรามดังขึ้นจากริมฝีปากหยักลึกที่เผลอตัวขบเม้มเข้าหากันอย่างที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่ามันคืออาการกระวนกระวาย
แขนยาวๆ ของร่างอ่อนปวกเปียกที่เขาคว้าจับมันพาดไว้ที่ไหล่ทำท่าจะหลุดร่วงลงไปอยู่เรื่อยเมื่อเจ้าของมันแทบไม่มีสติหลงเหลืออยู่
มือหนาตบลงที่แก้มขาวเผือดที่ก็เผลอลังเลไปเหมือนกันว่าถ้าตบแรงไปจะทิ้งรอยมือเอาไว้หรือไม่เพื่อเรียกสตินัยน์ตาสีฟ้าซีดของคนบาดเจ็บเปิดปรือขึ้นมามองตอบ ด้วยสายตาว่างเปล่า
เขา...ไม่ค่อยถูกชะตากับมันนักหรอก
แต่ถึงอย่างนั้นท่อนแขนกำยำก็จำต้องเลื่อนลงมาโอบประคองเอวสอบของร่างที่แขนเรียวยังคงถูกจับพาดไว้กับไหล่
เซสโต้ไม่ค่อยถูกชะตากับมันด้วยเหตุผลที่ถ้าจะให้แจกแจงออกเป็นข้อก็คงยาว แต่โดยสรุปคือเขาไม่ชอบเลขแปด ไม่ชอบคนที่บรรยากาศรอบตัวแผ่ไปด้วยไอเย็นจนอึดอัด ไม่ชอบโทนสีดวงตาซีดจางที่ดูแล้วหลอนลึกไปถึงเส้นประสาท รังเกียจไอคิวและความคิดในสมองนั่นที่ไม่เคยตามทัน เกลียดการไม่เคยเข้าใจอะไรก็ตามที่มันต้องการ และเบื่อการโดนจับมาเปรียบเทียบกับมันโดยคนในองค์กร ทั้งที่ก็เห็นอยู่ว่า เดลตัน โรดริเกซ ไม่มีอะไรสู้เขาได้สักอย่าง
อืม เดลตัน โรดริเกซ นี่คือชื่อของมันละมั้ง
ชื่อที่เขาเองก็ไม่แน่ใจเพราะไม่เคยเรียก
บรรยากาศรอบตัวมันคือสิ่งที่เขาไม่ชอบ และด้วยวิธีการทำงานที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วทำให้เขาไม่จำเป็นต้องสุงสิงกับมันเท่าไหร่ จนเมื่อไม่นานมานี้ที่องค์กรต้นสังกัดมอบตำแหน่งหมายเลข
เหอะ ก็แค่เลขแปด
ถึงการจัดลำดับจะอยู่ห่างจากเขาเพียงเลขตัวเดียวกั้นแต่ฝีมือการออกล่ายังห่างชั้น ไม่งั้นแค่งานง่ายๆ อย่างปิดโกดังสินค้าท่าเรือเพื่อออกล่า ไอ้บ้านี่จะถูกยิงบาดเจ็บจนกลายเป็นภาระให้เขาแบบนี้รึไง
แม้ที่จริงการเสียสละโดนกระสุนแค่นัดเดียวแลกกับภารกิจที่เกือบจะพังครืนอยู่แล้วพลิกกลับมาสำเร็จและทำลายหลักฐานมัดตัวทั้งหมดลงได้จะคุ้มค่า แต่เขาก็มองว่านี่คือการเจ็บตัวอันเกิดจากความไม่ได้เรื่องของมันอยู่ดี
ไอ้ราฟาเอลผู้เป็นหมายเลขหนึ่งชอบชื่นชมมันออกนอกหน้าว่าเดลตันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในโลกที่เขาไม่มี ถึงกับยกมาข่มเขาอยู่บ่อยไปว่าความคิดอันซับซ้อนและไอคิวของหมอนี่มีมากยิ่งกว่าตัวเขาสามร้อยคนรวมกัน
แต่สามร้อยคนแล้วยังไง ในเมื่อสุดท้ายก็เป็นเขาที่กำลังแบกร่างชุ่มเลือดของมันหลบหนีการตามล่า ทั้งที่จริงๆ จะทิ้งมันไว้ให้ตายในสถานที่นั้นไปเลยก็ย่อมได้
องค์กรใต้ดินเคลื่อนไหวเฉพาะเรื่องที่ผิดกฎหมาย ไม่มีนักฆ่าหน้าไหนเห็นอกเห็นใจหรือยินดีซัพพอร์ตเพื่อนร่วมอาชีพนักหรอก เพราะงั้นก็ชื่นชมด้วยแล้วกันว่าเซสโต้คือนักฆ่าที่ร้อยปีจะมีสักคน
☸
ริมินี เมืองตากอากาศทางตะวันออกของประเทศ ในทีแรกเขาก็ไม่เข้าใจนักว่าคนที่ก้มหน้านิ่งจนดูเหมือนสติแทบจะปลิดปลิวอยู่แล้วจะย้ำให้เขาพามันมาที่นี่ทำไม
“แกควรหาที่ทำแผลก่อน”
“ไปริมินี”
น้อยคำพูดจากริมฝีปากสีอ่อนบางเฉียบที่มักคลี่ยิ้มเป็นรูปปีกนก ถึงทุกครั้งจะฟังดูน่าหงุดหงิด แต่เซสโต้ก็จำต้องทำตาม เหตุผลเพราะเขาขี้เกียจคิด ทั้งแผนการกบดานและการหลบหนีหลังจบภารกิจก็ยังไม่ได้มีอยู่ในหัว เลยยึดเอาความเชื่ออย่างมั่วๆ ว่าอีกฝ่ายคงได้ตระเตรียมบางอย่างเอาไว้
ริมินีก็ดี...
ถึงอิตาลีจะเป็นประเทศท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ แฝงเร้นด้วยอันตรายจากองค์กรใต้ดินดิบเถื่อน แน่นอนว่าตัวเขาย่อมต้องคุ้นชินกับสังคมดิบเถื่อนมากกว่าการได้ท่องเที่ยวตากอากาศ ชื่นชมบ้านเมืองที่อวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งดนตรีและศิลปะ
เซสโต้ไม่ได้คิดคำเปรียบเปรยนี้ได้เอง
ก็แค่เพิ่งพลิกอ่านมันจากเอกสารท่องเที่ยวแจกฟรีที่มีอยู่ตามสถานีรถไฟ
“แกกำลังจะแย่”
หลังอีกฝ่ายกระซิบบอกเขาว่าได้จัดการจองโฮมสเตย์เอาไว้เรียวคิ้วเข้มก็ขมวดฉับ เซสโต้ผู้ทำทุกอย่างตามสัญชาตญาณไม่ได้รั้งรอสิ่งใดอีก ร่างสูงในชุดเสื้อยืดสีขาวเนื้อบางสวมทับด้วยแจ็กเกตหนังสีดำที่ยิ่งขับรูปร่างล่ำสันให้ยิ่งโดดเด่นคว้าร่างของผู้ชายอีกคนที่การแต่งตัวไม่ได้เข้ากันและไม่ได้เหมือนเป็นนักท่องเที่ยวที่นิยมมาพักผ่อนตากอากาศสูดกลิ่นอายทะเลแสนสงบที่ริมินีเข้าไปในคลินิกแห่งหนึ่งแถบชานเมืองชายทะเล ปฏิเสธการเข้าไปเช็คอินในโฮมสเตย์ตามคำบอก
ทันทีที่โยนร่างซึ่งต้องอดทนต่อการเสียเลือดมากว่าสองชั่วโมงจนทั้งเนื้อทั้งตัวยิ่งดูเปลี้ยลงกับเตียงในห้องตรวจ สายตาของหมอเจ้าของคลินิกและพยาบาลผู้ช่วยก็มองมาด้วยความหวาดกลัวเสมือนเขาเป็นผู้ลงมือจะฆ่าเดลตันมากกว่าเป็นคนแบกมันเดินทางไกลมา แถมยังเป็นคนตัดสินใจโยนมันเข้าคลินิก
เขาละเกลียดสายตาที่ชอบตัดสินทุกอย่างจากภาพที่เห็นแบบนี้นัก
“คุณ ไปทำอะไรมา!”
เจ้าของนัยน์ตาสีเข้มทิ้งตัวนั่งลงกอดอกบนเก้าอี้พักคอย มองดูความวุ่นวายอันเกิดขึ้นจากการที่คลินิกเล็กๆ ในเมืองท่องเที่ยวไม่ค่อยมีเคสเลือดตกยางออกขนาดหนักมาถึงมือ
เดลตันก็รอบคอบแล้ว มันไม่ได้แย้งตอนจะถูกเขาจับโยนเข้าไปเย็บแผลที่คลินิกแต่กลับขอเวลาให้ได้ถอดสูทตัวนอกและอาวุธทั้งหมดออกจากตัวก่อน ทั้งยังเตรียมคำพูดสำคัญเอาไว้ให้
“มันเป็นนักแสดง”
และใช่เสียงที่ตอบคำถามนั้นไปเป็นเสียงเขาเอง ตามบทพูดทุเรศๆ ที่ไม่คิดว่าพูดออกไปแล้วใครจะเชื่อ
“เรามาถ่ายทำฉากแอคชั่นกันที่นี่แล้วพลาดท่าพร็อพปืนที่เอามาใช้เพื่อความสมจริงดันลั่น พวกคุณก็อย่าเอะปากไปละโปรดักส์ชั่นเราต้นทุนต่ำ ไม่มีปัญญาเคลียร์กับตำรวจแน่ๆ”
เซสโต้เกือบหลุดเสียงหึออกไปอยู่แล้วเตรียมนับเรื่องนี้เอาไว้ด่าแสกหน้าราฟาเอลว่าเดลตันที่มันชื่นชมนักที่จริงก็ไม่ได้มีมันสมองที่ชาญฉลาดสักเท่าไหร่
ดูคำโกหกที่มันบอกให้เขาพูดนี่เป็นไง ทั้งหมอและพยาบาลผู้ช่วยอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อ
เอาละ เตรียมนับหนึ่งถึงสาม เดี๋ยวเขาคงได้ออกแรงพังคลินิกที่นี่แล้วแบกเดลตันหนีไปอีกรอบแต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นดังคาด
“มิน่าล่ะเขาหล่อมาก!” พยาบาลผู้ช่วยสาวที่อ้าปากค้างอยู่นานดูจะหาเสียงตัวเองเจอในที่สุด เซสโต้งุนงงที่เธอสะกิดเรียกสติหมอและใช้กรรไกรตัดเสื้อเชิ้ตเนื้อดีของชายที่อยู่บนเตียง
เชื่อได้ไงวะ
นี่มันน่าจะเป็นคำโกหกที่โง่ที่สุดในโลก หรือจะเป็นจริงที่คนอิตาเลียนนั้นคลั่งไคล้การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเสียจนเมืองตากอากาศทางตะวันออกอันเงียบสงบนี่จะเป็นโลเกชั่นเหมาะสมสำหรับการมาถ่ายหนังอะไรนี่จริงๆ
“คุณเป็นลูกจ้างของเขาเหรอ”
“อะไรนะ!”
“เขาชื่ออะไร”
เจ้าของร่างสูงใหญ่ที่เกือบจะน็อตหลุดเรียกสติที่เกือบอาละวาดขึ้นมาได้เมื่ออีกฝ่ายถามตรงคีย์เวิร์ดที่เดลตันตั้งเอาไว้
“แรคเนล แบรทด์ฟอร์ด”
คำโกหกดังมาจากปากเขาอยู่ดี
พูดไปก็รู้สึกเกลียดชื่อปลอมๆ ที่ดูเป็นผู้ดีอังกฤษที่มันตั้งขึ้นนี่จริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก็ดูเหมาะกับรูปลักษณ์ของเจ้าตัวที่เขาเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นคนอิตาเลียนรึเปล่า แต่ถ้าจะให้เดาจากผิวขาวๆ กับเครื่องหน้าเด่นชัดไปทางโซนยุโรปมากกว่าคมเข้มแบบละตินก็คงไม่ใช่
“อ้อ!”
เป็นอีกครั้งที่คำโกหกที่ดูไม่น่าจะใช้ได้กลับได้ผลอีกแล้ว
เซสโต้ทอดลมหายใจ เลิกสนใจหมอกับพยาบาลผู้ช่วยที่กำลังช่วยกันห้ามเลือดและเย็บแผลให้คนเจ้าบงการที่ตั้งแต่มาถึงริมินีมันก็แทบไม่ต้องขยับปากพูดอะไรเองสักอย่าง
ว่าแต่นี่เขาพลาดยอมเป็นปากแทนมันได้ยังไง
กว่าสี่สิบนาทีที่ร่างสูงได้แต่นั่งรออย่างเบื่อหน่าย เซสโต้ใช้ห้องน้ำในคลินิกในการถอดเสื้อยืดสีขาวเลอะคราบเลือดจนชุ่มฉ่ำไปซัก ผลที่ออกมาคือมันไม่ได้ดีขึ้นหรอก ออกจะแย่กว่าเดิมอีก เลือดสีเข้มทิ้งร่องรอยเจือจางไว้กับเสื้อเปียกชุ่มที่พอสวมแนบเนื้อยิ่งทำให้รู้สึกรำคาญไปกันใหญ่
ในตอนกลับออกมาจากห้องน้ำเพื่อจะนั่งลงรอที่เก่าก็พบว่าร่างสูงโปร่งที่สูงพอๆ กันกับเขาหาที่ยึดเกาะใหม่ได้แล้วเป็นพยาบาลผู้ช่วยสาวที่ผิวสีน้ำผึ้งยวนตากับอกโตๆ นั่นก็น่าสนใจดีไม่หยอก เดลตันถูกประคองออกมาจากห้องทำแผลที่เขาคิดว่ามันจะต้องอยู่ในนั้นอีกนาน
ผิวเนื้อขาวจัดถูกคลุมไว้ด้วยเชิ้ตตัวเดิมที่แนวกระดุมถูกกรรไกรตัด บาดแผลจากกระสุนที่ช่องท้องถูกจัดการเรียบร้อยพร้อมด้วยรอบเอวสอบที่พันปิดด้วยผ้าพันแผล
เดลตันจ่ายค่ารักษาของมันเองโดยไม่ต้องให้เขาเข้าไปยุ่งจนเกือบจะคิดว่ามันคงดูแลตัวเองต่อได้โดยไม่ต้องมาเป็นภาระให้เขาอีก แต่ก็คิดผิดเมื่อพยาบาลผู้ช่วยสาวที่ดูออกจะอยากเนื้อแนบเนื้อกับมันแทบตายดันกวักมือเรียกเขาที่ถูกเข้าใจว่าเป็นลูกจ้างไปช่วยประคองคนตัวสูง
“ดูแลเขาด้วยนะคุณต้องทำความสะอาดและเปลี่ยนผ้าพันแผลทุกวัน”
“ธุระกงการอะไรของฉันวะ!”
“เอาละ สุดหล่อแล้วฉันจะคอยติดตามผลงานแล้วก็...ถ้าลูกจ้างของคุณล้างแผลไม่ได้เรื่องหรือสะดวกมาล้างแผลที่นี่ก็เชิญได้เสมอนะ”
เหอะ เซสโต้เห็นนะว่าแม่พยาบาลอกโตสอดแผ่นกระดาษใบหนึ่งลงไปในกระเป๋ากางเกงของเดลตันที่ใบหน้าหล่อๆ นั้นก็แค่ยิ้ม
จากคนที่ก็ไม่ได้สนิทกันแต่ต้องมาทนรับรู้เรื่องของมันนี่คืออะไร
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in