.
ดาเนียล(KDN)×แสนดี(OSW)
หมายเหตุ: ตอนนี้เป็นตอนจบแล้วนะคะ ต่อจากตอน
เจ้ากบกับแซนดี้และตอน
ความในใจจากโปรเจค #SayItNielOng นะ ขอให้มีความสุขกับการอ่าน
.
.
แสนดีฝันประหลาด เขาฝันว่าทะเลาะกับชายคนหนึ่งกลางสายฝน เพราะชายคนนั้นพยายามฉุดกระชากลากแขนเขาไปที่ไหนสักแห่ง ช่างเป็นฝันที่น่ากลัวจริงๆ ถ้าเป็นเรื่องจริงและชายคนนั้นเป็นพวกมิจฉาชีพ เขาอาจจะถูกทำร้ายไปแล้ว คิดแล้วขนลุก ทำไมเขาฝันถึงอาชญากรรมได้ สงสัยเขาคงจะเหนื่อยมากไป ขวัญเอ้ยขวัญมานะแสนดี โชคดีที่เป็นแค่ความฝัน
แสนดีหลับตาลงเพื่อพลิกตัวนอนต่อ พลันเขานึกบางอย่างขึ้นมาได้
เดี๋ยวนะ
เขาตามหาเจ้ากบอยู่ไม่ใช่เหรอ
ทำไมถึงมาอยู่บนเตียงได้
แสนดีพยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาจำได้ว่าเขาตามหาเจ้ากบแล้วฝนตก เขาเลยจำใจเดินกลับบ้าน แล้วยังไงต่อนะ แสนดีพยายามลำดับเหตุการณ์ แต่มีเหตุการณ์บางช่วงขาดหายไปทำให้เขาสับสน เอาใหม่อีกรอบ เขาเดินตากฝนตั้งแต่หน้าตลาด พอใกล้ถึงบ้านก็เจอกับคนแปลกหน้า คนแปลกหน้าเหรอ เดี๋ยว อย่าบอกนะว่าไม่ใช่ความฝัน
แสนดีรีบลุกพรวดพราดขึ้นจากเตียงด้วยความตกใจ
.
"ตื่นแล้วเหรอ"
.
แสนดีเบิกตาโพรง เขาหันไปอุทานเสียงดังลั่นราวกับเจอวิญญาณร้ายจนเกือบตกเตียง แต่ถูกคว้าแขนไว้ได้ทัน ถึงจะถูกช่วยไว้แต่แสนดียังไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะขอบอกขอบใจใครทั้งนั้น ตอนนี้แสนดีกำลังงงเป็นไก่ตาแตกว่าทำไมตัวเองถึงอยู่บนเตียงแล้วกับชายคนนี้ได้
ไอ้นี่มันเป็นใคร
มานอนบนเตียงกับเขาได้ยังไง
แสนดีรีบสะบัดแขนออก เขาจ้องอีกฝ่ายตาไม่กระพริบ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ช่างเป็นการพบกันที่แปลกประหลาดเหมือนซีนในหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ไม่มีผิด บ้าน่า มุกนี้มันเก่าไปแล้วหรือเปล่า เดี๋ยวนี้เขาไม่เล่นมุกแบบนี้กันแล้วมั้ง แสนดีมึนไปหมด เขารู้สึกเหมือนทุกอย่างอยู่ผิดที่ผิดทาง นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย เขาอยากจะกรีดร้อง ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้
.
"ทำอะไร"
ทำอะไรล่ะถามมาได้ มองแล้วยังไม่รู้อีกเหรอ แสนดีก็กำลังสำรวจตัวเองอยู่ไงว่าได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า—เหมือนจะไม่มี เขายังปกติดี ไม่เจ็บไม่ปวดตรงไหน ไหนลองยกแขนสิ—โอเค ยังใช้การได้ปกติ ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย แสนดีไม่เคยคิดว่าเขาจะต้องมาสำรวจตัวเองเหมือนซีนในหนังแบบนี้ เขาทำท่าเหมือนตัวเอกในซีรี่ย์ที่เพิ่งดูไม่มีผิด นี่เขาต้องรู้สึกหล่อขึ้นด้วยไหม เหมือนจะมาดแมนแฮนซั่มขึ้นหรือเปล่า บ้าไปแล้ว นี่ไม่ใช่เวลามาเล่น ไอ้ดีจริงจังหน่อยสิวะ
เอ่อเกือบลืม แล้วเสื้อผ้าล่ะ—โอเค ยังอยู่ครบ ครบเหรอวะ ไม่ใช่ ตอนนั้นเขาไม่ได้ใส่ชุดนี้ ตอนนี้เขาใส่ชุดนอน แต่เขาไม่มีทางใส่ชุดนอนออกจากบ้านแน่ๆ
อย่าบอกนะว่า..
.
"ชุดนายเปียกฝน ฉันเลยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ อย่ามองเหมือนฉันเป็นคนร้ายแบบนั้น"
มีคนร้อนตัวด้วยว่ะ
ร้อนตัวแบบนี้หมายความว่ายังไง เขายังไม่ทันได้ถามอะไรเลยไอ้วิญญาณร้าย เอ่อวิญญาณร้ายเป็นแค่คำอุทานเหมือนเป็นคำสร้อย เขาไม่ได้หมายถึงวิญญาณร้ายที่เป็นวิญญาณร้ายจริงๆ หรือผู้คุมวิญญาณหรืออะไรทำนองนั้น เพราะฉะนั้นอย่ามา อย่ามา ขอร้องอย่ามา แค่สถานการณ์ตอนนี้เขาก็รับมือไม่ไหวแล้ว
แสนดีตบแก้มตัวเองเบาเบาเพื่อเรียกสติ เขาหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างไม่ไว้ใจ แต่ไอ้หมอนี่ดูคุ้นๆเหมือนเขาเคยเจอที่ไหนมาก่อน แสนดีมองอย่างพินิจ
.
"ทำอะไร"
ทำอะไรล่ะถามอีกแล้ว แสนดีก็กำลังนึกอยู่ว่าเคยเห็นหน้านายมาก่อนหรือเปล่า แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาไอ้หมอนี่จังวะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่นึกไม่ออก ไหนลองปิดหน้าครึ่งหนึ่งสิ
"ทำบ้าอะไรของนาย, แซนดี้"
"ใครแซนดี้"
"นายไง"
"ใช่ที่ไหน"
เงียบ แสนดีกำลังงงว่าเขาไปเป็นแซนดี้อะไรนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือหมอนี่จะจำคนผิด บ้าน่า โลกนี้จะมีคนหน้าตาดีที่หน้าเหมือนกับเขาขนาดแยกไม่ออกว่าใครเป็นใครเลยเหรอ ไม่ใช่หนังนะ แต่หลังจากที่เขาตอบไปแบบนั้น นายนั่นก็ดูงงไม่ต่างกัน ผลัดกันงงเข้าไป มันจะสับสนวุ่นวายเกินไปแล้ว
"แล้วนายเป็นใคร"
ในที่สุดแสนดีก็ถามคำถามที่เขาควรจะถามแต่แรกออกไป เอ่อสงสัยก็น่าจะถามแต่แรก มานั่งนึกอยู่ได้ตั้งนานแล้วก็นึกไม่ออกอีก
.
.
.
.
.
แล้วคำถามที่ดาเนียลกลัวก็ออกจากปากแซนดี้—ที่เพิ่งบอกว่าตัวเองไม่ใช่แซนดี้ แต่ก็คือแซนดี้ของเขานั่นแหละ แล้วจะพูดให้งงทำไมหรือแซนดี้จะลืมชื่อตัวเอง แต่ก็ไม่น่าใช่
แซนดี้เอาแต่จ้องมาที่ดาเนียลเหมือนกำลังรอคำตอบอยู่ ทำให้ดาเนียลรู้สึกกดดัน เขาควรตอบว่าเขาเป็นใครดี ตอนที่แซนดี้สลบ เขาคิดอยู่นานว่าควรจะแปลงร่างเป็นเจ้ากบแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นดีไหม แต่การปกปิดความจริงแบบนั้นดูร้ายแรงยิ่งกว่าตอนแรกเสียอีก ถ้ารู้ความจริงแซนดี้อาจจะโกรธมากกว่าเดิม แล้วเขาก็ไม่อยากหลอกแซนดี้อีกต่อไปแล้ว เขาอยากรู้จักแซนดี้มากกว่านี้ และอยากให้แซนดี้รู้จักเขาในฐานะดาเนียลไม่ใช่เจ้ากบ
เอาว่ะ ในเมื่อตัดสินใจมาแล้วก็ลุย
"ฉันชื่อ 'ดาเนียล คัง' เป็นพ่อมด"
"และเป็นเจ้ากบของนาย"
.
.
.
"เข้าใจแล้ว"
"ในที่สุดก็บอกกันสักที"
"ขอบคุณนะ"
แสนดียิ้ม
หมายความว่าไง มาขอบคุณเขาทำไม ไหนจะยิ้มนั่นอีกหรือแสนดีจะเพี้ยนไปแล้วจริงๆ ดาเนียลขมวดคิ้ว ช่างเป็นปฏิกิริยาตอบรับที่แตกต่างจากสิ่งที่เขาคาดไว้โดยสิ้นเชิง เขาคิดว่าแสนดีจะโกรธเสียอีก แต่อีกฝ่ายดูเข้าใจและยอมรับได้อย่างรวดเร็ว หรือแสนดีจะรู้เรื่องของเขาอยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ ก่อนหน้านี้แสนดียังดูหวาดระแวงเขาอยู่เลย
.
"ก็ว่าคุ้นหน้านายที่ไหน"
"ที่แท้นายก็คือเจ้าหมาอ้วนที่ชอบลุกมาหาของกินกลางดึก" แสนดีลูบศีรษะของดาเนียลอย่างเอ็นดู
แล้วมาลูบหัวทำไม ตอนนี้ไม่ใช่หมาแล้วนะ เดี๋ยวผมยุ่งหมด ดาเนียลหงุดหงิด แต่ไม่ได้ปัดมือของแสนดีออก
.
"ตอนแรกฉันก็ไม่แน่ใจคิดว่าตัวเองฝันประหลาด นายชอบกลับร่างพ่อมดมาหาของกินตอนดึกใช่มั้ย นายชอบเปิดไฟหัวเตียงแล้วเดินออกจากห้อง มาม่ากับไข่ก็หายไป ถ้ากินข้าวไม่อิ่มก็บอกกันสิ ไม่เห็นต้องลุกมากินตอนดึกเลยทำเหมือนฉันเลี้ยงไม่ดีปล่อยให้หิวจนต้องหากินเองไปได้" แสนดีร่ายยาว
ดาเนียลรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาทันที เขาอายจนทำหน้าไม่ถูก อยากจะมุดดินหนีจริงๆ ให้ตายสิ แอบออกมาหาของกินก็โดนจับได้เหรอเนี่ย เขาว่าเขาเนียนแล้วนะ ใครจะคิดว่าแสนดีจะสังเกตมาม่ากับไข่ที่หายไป เขาควรซื้อคืนหรือเปล่า ไหนจะผักกาดกับเนื้อหมูในตู้เย็นอีก ดาเนียลอยากจะบ้าตาย มิน่าช่วงหลังแสนดีถึงชอบมองเขาแปลกๆเหมือนมีอะไรในใจ แถมยังเทอาหารให้เยอะเชียว
"ตอนเป็นหมามันพูดได้ที่ไหน อีกอย่างอาหารเม็ดมันไม่อร่อยด้วย" ดาเนียลพยายามหาทางออกจากสถานการณ์น่าอับอายนี้
"ไม่อร่อยแต่กินหมดตลอด"
"กินหมดเพราะเสียดายเงินหรอก"
เขาไม่ได้พิศวาสไอ้อาหารเม็ดนั่นเลยสักนิด มันทั้งแห้งทั้งจืดแถมมีกลิ่นแรง ดีที่กรอบทำให้เคี้ยวเพลินหน่อยแค่นั้น แล้วอาหารสุนัขถุงหนึ่งไม่ใช่ราคาถูกๆ จะทิ้งไปก็เสียดาย ถึงจะไม่ใช่เงินของเขาก็เถอะ แล้วเขาต้องทนกินไอ้เม็ดกรอบนั่นตั้งสามเดือน จะกินอาหารมนุษย์ในร่างสุนัขก็ไม่ได้ ระบบย่อยอาหารไม่เหมือนกันอีก ให้ตายเถอะ ถ้ารู้แล้วก็น่าจะบอกกันบ้าง ทำไมปล่อยให้เขากินไอ้เม็ดกรอบนั่นอยู่ได้ตั้งนาน ดาเนียลหงุดหงิด
.
"เป็นไรอีกหมาอ้วน"
"ไม่ใช่หมาแล้ว"
"แต่ยังทำหน้ากบ"
พูดแล้วก็ขำ แสนดีหัวเราะหน้าดำหน้าแดง จนดาเนียลทำตัวไม่ถูก—บ้าบอจริง หยุดหัวเราะสักทีได้ไหม เขาจะทำหน้ากบได้ยังไง ชอบเพ้อเจ้อตลอด ดาเนียลได้แต่ส่ายหน้าไปมา เขาเกลียดรอยยิ้มตาหยีกับรอยย่นที่หางตาของแสนดีชะมัด เห็นแล้วใจสั่นแปลกๆ แต่จะหันหน้าไปทางอื่นก็ไม่ได้ ดูเสียมารยาทอีก งั้นเหลือบมองแทนแล้วกัน
.
"ทำไมไม่ถาม"
"ถ้ารู้ถึงขนาดว่า มาม่ากับไข่ในตู้เย็นหายไปก็น่าจะมั่นใจแล้วหรือเปล่าว่าไม่ใช่ความฝัน มันต้องมีอะไรสักอย่าง แต่ทำไมไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย"
ดาเนียลเอ่ยถามสิ่งที่เขาสงสัยหลังจากนิ่งเงียบไปนาน ปกติแสนดีมักจะคุยกับเขาทุกเรื่อง ขนาดเรื่องกินส้มตำตอนกลางวันแล้วท้องเสียยังเล่าให้เขาฟังเลย ถ้าเห็นอะไรผิดสังเกต เช่น ไม่แน่ใจว่ามีคนเดินเข้าออกห้องตอนกลางดึกหรือเปล่า หรือตื่นมาตอนกลางดึกแล้วเห็นไฟหัวเตียงเปิดอยู่ หรือมาม่ากับไข่ในตู้เย็นหายไป น่าจะสงสัยแล้วพูดถึงเรื่องนี้บ้าง แล้วแสนดีเป็นพวกขี้กลัวจะตาย ไม่น่าทนอยู่แบบหลอนๆได้ แต่ดาเนียลกลับไม่เคยได้ยินเรื่องพวกนี้จากแสนดีสักครั้ง
.
"ไม่รู้เหมือนกัน คงกลัวมั้ง"
"กลัวอะไร"
"ความจริง"
ดูเหมือนจะไม่ได้มีแค่ดาเนียลที่กลัวเมื่อต้องพูดความจริง แต่แสนดีเองก็กลัวเมื่อต้องรับรู้ความจริงเช่นกัน อาจเป็นเพราะพวกเขาเคยชินกับการมีกันและกันและมีความสุขกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาจึงเลือกปิดตาข้างหนึ่งและเพิกเฉยต่อความจริงตรงหน้า ทั้งที่ทำแบบนั้นไม่ต่างกับการหลอกตัวเอง
.
"นายก็เลยทนอยู่กับฉัน ทั้งที่สงสัยและไม่รู้ว่าฉันเป็นตัวอะไรงั้นเหรอ"
"ทำไมฉันจะไม่รู้ว่านายเป็นตัวอะไร นายก็เป็นเจ้ากบของฉันไง เราเป็นครอบครัว แล้วฉันก็ไม่ได้ทน อย่าพูดแบบนั้น"
ยังหาเหตุผลไปได้อีก
คงเพราะตอนนั้นเขาเป็นเจ้ากบและเป็นครอบครัวคนเดียวของแสนดี แสนดีถึงอยากรักษาไว้ ก็ไม่แปลก สัตว์เลี้ยงก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวนั่นแหละ
แต่ถ้าตอนนี้เขาไม่ใช่เจ้ากบแล้ว ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงแล้ว แสนดีจะทำยังไง ถึงเจ้ากบจะเป็นอีกร่างหนึ่งของเขา แต่มันก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและสถานะก็แตกต่าง ถ้าเป็นแบบนี้แสนดีจะยังอยากอยู่กับดาเนียลคนนี้ไหม
กลัวคำตอบอีกแล้ว
ทั้งที่ยังไม่ทันได้ถาม แต่คิดไปก่อนแล้ว ให้ตายสิ เขาจะคิดมากทำไม ปกติเขาไม่ใช่คนคิดมากแบบนี้หรอกนะ แต่พอเป็นเรื่องแสนดี เขามักจะคิดมากทุกที ดาเนียลรู้สึกหงุดหงิดงุ่นงานอย่างบอกไม่ถูก ไอ้ความคนพิเศษกับความสัมพันธ์พิเศษ นี่มันชักจะพิเศษมากเกินไปแล้ว น่ารำคาญชะมัด เขาไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย
.
"แล้วนายไม่คิดจะทำอะไรเลยเหรอ"
"นายจะให้ฉันทำอะไร"
"ถ้าวันนี้ฉันไม่บอกความจริงกับนาย ฉันก็ไม่รู้ว่านายสงสัยเรื่องพวกนั้น นายก็จะทนอยู่แบบหลอนๆ โดยไม่คิดจะถามหรือเล่าอะไรให้ฉันฟังเลยงั้นเหรอ"
"แล้วถ้าวันนี้นายกลับบ้านทัน นายคิดจะบอกความจริงกับฉันมั้ยล่ะ นายคิดจะบอกความจริงกับฉันเมื่อไหร่"
"..."
"เราก็เหมือนกันนั่นแหละ"
ดูเหมือนเราสองคนจะกลัวคำตอบของคำถามที่ยังไม่ได้ถาม และการเปลี่ยนแปลงของสิ่งที่ยังไม่เกิดจนไม่คิดจะไปข้างหน้า แล้วเลือกที่จะปล่อยให้มันค้างคา ทั้งที่ความจริงวิ่งตามเราทันแล้ว
แต่เราจะเหมือนกันจริงเหรอ
ดาเนียลสงสัย
.
"แล้วจะเอาไงต่อ" แสนดีถาม
"ถามฉันเหรอ"
"เอ้า ก็อยู่กันสองคนไม่ถามนายแล้วให้ถามใคร อย่าบอกว่าแถวนี้มีสิ่งที่ฉันมองไม่เห็นอยู่นะ" แสนดีหันซ้ายหันขวาอย่างหวาดหวั่น ท่าทางว่อกแว่กนั่นทำให้ดาเนียลอมยิ้มและส่ายหน้าไปมา
คนเพี้ยนยังไงก็เป็นคนเพี้ยนสินะ
แต่ทำไมถึงถามเขา
เขาว่าเขาควรเป็นฝ่ายถามแสนดีมากกว่าว่าจะเอาไงต่อ แต่ในเมื่อแสนดีรู้ความจริงแล้วว่าเขาไม่ใช่สุนัข เขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่กับแสนดีในฐานะเจ้ากบของแสนดีอีกต่อไป เขาควรกลับโลกเวทมนตร์ไปใช้ชีวิตตามปกติของตัวเองได้แล้ว
งั้นเหรอ
หากเป็นสามเดือนก่อนชีวิตตามปกติของเขาอาจจะอยู่ที่โลกเวทมนตร์ ทำงานวิจัยร่วมกับศาสตราจารย์เฮนรี่ ศึกษาคาถาและวิชาแปลงร่าง แต่ตอนนี้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปแล้ว เขาใช้เวลาส่วนใหญ่กับแสนดีที่โลกมนุษย์ และทำงานที่นี่ตอนแสนดีไม่อยู่บ้านแล้วเดินทางไปส่งงานให้ศาสตราจารย์เฮนรี่เป็นครั้งคราวเท่านั้น เขาอยู่กับแสนดีจนเขาคิดจะลงเรียนวิชามนุษยศึกษาและความสัมพันธ์ระหว่างโลก เพื่อจะได้เข้าใจมนุษย์มากขึ้น
ถ้าถามว่าเขาจะเอาไงต่อ
.
.
"อยู่ด้วยกันแบบนี้ได้มั้ย"
"เมื่อกี้นายบอกว่าฉันเป็นครอบครัว"
"เราก็อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวไง"
ดาเนียลคิดว่าตัวเองต้องบ้าไปแล้วแน่ที่พูดออกไปแบบนั้น เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าความสัมพันธ์ของเขากับแสนดีจะไปในทิศทางไหน เขารู้แค่ตอนนี้เขายังอยากอยู่กับแสนดีต่อ และยังไม่อยากจบความสัมพันธ์ของพวกเขาเพียงแค่นี้ แต่แสนดีอาจจะไม่คิดเหมือนเขาก็ได้ และวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายที่เขาได้อยู่กับแสนดี
งั้นเขาขอลองเสี่ยงทำตามใจตัวเองให้สุดเลยแล้วกัน
.
.
.
.
.
เป็นคำตอบที่ให้แสนดีอดประหลาดใจไม่ได้ เขาว่าเขาบ้าแล้วแต่ดูเหมือนนายพ่อมดนี่จะบ้าไม่ต่างจากเขา มีอย่างที่ไหนมาขออยู่เป็นครอบครัวกับคนแปลกหน้า แต่จะเรียกว่าคนแปลกหน้าก็เรียกไม่ได้เต็มปาก เพราะพวกเขาอยู่ด้วยกันมาตั้งสามเดือนแล้ว ถึงจะเป็นร่างหมาไม่ใช่ร่างพ่อมดก็เถอะ แต่ไม่ว่าจะเป็นพ่อมดดาเนียลหรือเจ้ากบซามอยด์ต่างก็เป็นตัวเดียวกัน หมายถึงคนเดียวกัน หรือตนเดียวกันนั่นแหละ
"นายยังอยากอยู่กับฉันไหม"
ถามกันแบบนี้เลยเหรอ ไอ้พ่อมดนี่จะไม่ให้เวลาเขาคิดเลยหรือไง เขายังไม่ทันได้ตอบคำถามแรกก็จู่โจมด้วยคำถามที่สองแล้ว
"ฉันอยากอยู่กับนายนะ"
เอาเข้าไป พูดแล้วก็ทำหน้าหมาอีก ช่วงนี้เป็นช่วงพูดตรงแห่งปีเหรอ ทีตอนแรกทำเป็นยึกยักกว่าจะพูดออกมาได้เหมือนกลัวดอกพิกุลจะร่วง เอ่อแสนดีแค่คิดในใจเฉยๆ ไม่ได้นินทาเลยนะ พ่อมดอ่านใจคนไม่ได้ใช่เปล่า
แล้วเขาควรจะตอบคำถามยังไงหรือควรพูดอะไรยังไง แสนดีรู้สึกแปลกพิกล
.
"ว่าไง"
นี่ใครช่วยบอกให้ไอ้พ่อมดนั่นใจเย็นหน่อยได้ไหม ขอเวลาให้แสนดีคิดหน่อย ยิ่งคำถามจริงจังยิ่งไม่ควรเร่งเอาคำตอบหรือเปล่า ทำเหมือนมีเวลาแค่สองชั่วโมงเหมือนในหนังไปได้ จะหงุดหงิดแล้วนะ
ถ้าถามยังอยากอยู่กับเจ้ากบไหม แสนดีตอบได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าอยาก ไม่งั้นจะออกตามหาทำไม ถึงเขาจะเคยสงสัยว่าเจ้ากบเป็นเอเลี่ยนก็เถอะ แต่เจ้ากบก็ยังเป็นหมาซามอยด์ที่น่ารักของเขา แต่ดาเนียลไม่ใช่ ถึงดาเนียลจะเป็นอีกร่างของเจ้ากบ แต่มันก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ความรู้สึกมันต่าง จะว่าไงดี ดาเนียลเป็นพ่อมด แบบพ่อมดจริงจัง พ่อมดตัวเป็นๆ ไม่ใช่พ่อมดโอมมะลึกกึ๊กกึ๋ยย์ แล้วจะให้เขาอยู่กับพ่อมดเนี่ยนะ
.
"แสนดี"
"อยาก"
เอาเว้ย เผลอตอบไปแล้ว ทำไงล่ะทีนี้ ไอ้ดีเอ้ย ต่อไปแกจะอยู่กับพ่อมดเหรอวะเนี่ย แต่ดาเนียลดูมีความสุขมากที่เขาตอบรับ พ่อมดหนุ่มยิ้มกว้างจนตาหยี ขนาดอยู่ในร่างพ่อมดยังหน้าเหมือนหมาอีกเหรอเนี่ย แต่ดูน่ารักดีแหะ เห็นแล้วอยากลูบหัว
"เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปเรื่อยๆได้มั้ย ค่อยๆทำความรู้จักกันไป เรื่องความสัมพันธ์ให้เป็นเรื่องของอนาคต ฉันยังอยากอยู่กับนาย อยากรู้จักนายมากกว่านี้"
แสนดีควรจะรู้สึกยังไงดี มันก็รู้สึกดีที่มีคนอยากอยู่ด้วยขนาดนี้ ตอนนั้นเขาก็ชอบอยู่กับเจ้ากบมาก กับดาเนียลก็คงต้องลอง แต่ไอ้คำว่า 'อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ' นี่มันนานแค่ไหน แสนดีรู้สึกเหมือนเขากำลังถูกขอคบแบบไม่มีสถานะอยู่เลย แล้วสุดท้ายความสัมพันธ์ของเราจะจบที่ตรงไหน ถ้าวันหนึ่งไอ้พ่อมดนี่ไม่อยากอยู่กับเขาแล้วจะทำยังไง เขาต้องร้องเพลงให้ไหมวะ
.
"นายยังคิดว่าฉันเป็นครอบครัวอยู่มั้ย"
"คิด"
"งั้นคบกันมั้ย"
"หา"
"นายบอกว่ายังคิดว่าฉันเป็นครอบครัว แต่ฉันไม่ใช่ทั้งพ่อแม่พี่น้องปู่ย่าตายายของนาย สัตว์เลี้ยงก็ไม่ใช่ แล้วเราจะเป็นครอบครัวกันได้ไง มันยังเหลืออะไรที่ยังพอเป็นครอบครัวได้ล่ะ เป็นแฟนกันนะ"
แสนดีอึ้งจนพูดไม่ออก เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ยังบอกเรื่องความสัมพันธ์ให้เป็นเรื่องของอนาคตอยู่เลย นี่เขาเดินทางมาถึงอนาคตแล้วเหรอ ทำไมมันเร็วจังวะ เร็วยิ่งกว่าหนังสองชั่วโมงจบ นอกจากเป็นพ่อมดเป็นหมาแล้วนายยังเป็นเดอะแฟลชอีกเหรอ, ดาเนียล
"แต่แฟนก็ยังไม่ใช่ครอบครัวหรือเรา—"
"หยุดก่อนดาเนียล ฉันว่าไม่ใช่แล้ว"
"งั้นเหรอ"
ดาเนียลหัวเราะชอบใจใหญ่ ขณะที่แสนดีกำลังอึ้งกิมกี่ นี่มันอะไรกันวะเนี่ย อย่ามาเล่นกับใจคนแบบนี้นะไอ้พ่อมดตัวร้าย แสนดีจะสาปแช่ง แสนดีคว้าหมอนใกล้มือหมายจะฟาดหัวดาเนียลให้สุดแรง
.
และ
.
"ฉันว่าฉันชอบนาย, แซนดี้"
"หมายถึงแสนดี"
"ฉันว่าฉันชอบนายว่ะ"
แสนดีเหมือนโดนคาถาสะกดนิ่ง
อยู่ดีก็มาบอกชอบกันแบบนี้เลยเหรอ แสนดีรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เหมือนหัวใจของเขากำลังเต้นหนุบหนับหนึบหนุบแปลกๆ ดาเนียลก็เอาแต่จ้องจนเขาทำตัวไม่ถูก หมอนที่เตรียมจะฟาดอีกฝ่ายในตอนแรกถูกยกขึ้นมาบังหน้าของเขาแทน หยุดจ้องสักทีสิวะ ไอ้หน้าหมา แสนดีจะระเบิดอยู่แล้ว
.
"สรุปว่าไง"
"เป็นแฟนกันมั้ย"
"หรือฉันต้องจีบนายก่อน"
.
.
แม่ครับ, ถ้าแม่มองอยู่บนฟ้า แสนดีกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝาแล้วนะครับ พูดแล้วน้ำตาจะไหล เขาไม่เคยคิดว่าชีวิตจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ แล้วไอ้พ่อมดนี่ก็จะเอาคำตอบวันนี้ให้ได้เลยใช่ไหม
อย่าเพิ่งดึงหมอนสิวะ
ร้ายกาจนักเหรอ
แสนดีจะเอาคืนแน่
.
.
.
.
.
ดาเนียลขอเปลี่ยนความคิด เขาว่าพ่อมดกับมนุษย์ประหลาดน่าจะเข้ากันได้ดีเลยแหละ
.
.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in