เหตุเกิดจากภาพนี้
WARNING
.
.
.
.
.
อย่าถามหาคู่--เพราะพี่ไม่ใช่กามเทพ
.
.
.
.
.
เรื่องราวมหัศจรรย์พันลึก
(ซึ่งจะอ่านก็ได้ ไม่อ่านก็ไม่เป็นไร
เพราะจะอ่านหรือไม่อ่าน คนเขียนก็ไม่ได้มีเงินเข้ากระเป๋า แค่เขียนไว้ให้สบายใจ)
ของเขา/เธอผู้มีนามว่า อลิซ
อลิซ.
ไม่สิ
อลิซ
เจนนิส
ตัวเอกในเรื่องที่ไม่ค่อยจะเทพแต่มีความเป็นนิยายมากโขเรื่องนี้ของเราชื่อ เจนนิส ฟังดูเหมือนชื่อผู้หญิงใช่มั้ยล่ะ แต่ดูกรอานนท์ อย่าเพิ่งตัดสินอะไรง่าย ๆ เพราะในโลกนี้ไม่มีใครเหมือนเจนนิส และเจนนิสก็ไม่เหมือนใคร หรือจะพูดให้ถูก--ไม่มีใครในโลกนี้ที่เหมือนใคร และทุกคนก็ไม่มีใครเหมือนกันสักคน--เจ้าแมวหน้าตาดีแต่นิสัยร้าย ๆ ตัวหนึ่งกล่าวเอาให้ไว้ให้วกวนเป็นทำนองนักปรัชญา
นั่นแหละ เรื่องราวแปลกประหลาดของเราเริ่มต้นจากคนคนหนึ่งที่ชื่อเจนนิส สมมติเสียว่าเธอเป็นผู้ชายก็แล้วกัน อายุเท่าไรก็แล้วแต่พวกเธอจะจินตนาการเอาก็ได้ เพราะพฤติการณ์ของเจนนิส จะว่าเด็กก็เด็ก จะว่าผู้ใหญ่ก็ผู้ใหญ่ พวกเธออาจจะเคยเจอคนแบบเจนนิสในชั้นประถมสี่ หรืออาจจะพบเห็นได้ในรัฐบาลเกือบเป็นประชาธิปไตยของบางประเทศ เอาเป็นว่าเจนนิสก็คือเจนนิสนั่นแหละ
ทีนี้น่ะนะ เจนนิสมีชื่อเต็ม ๆ ว่า อลิซ-เจน ซอนไฮม์ ชื่อต้นตั้งตามคุณย่าแสนสวยที่เคยเป็น บตบก. แห่งหมู่บ้านบงบง (เป็นภาษาต่างชาติชาติหนึ่งแปลว่า ขนมหวาน) ส่วนชื่อกลางเป็นชื่อของคุณแม่ที่มีความเห็นแสนจะเข้มแข็งเหนือคุณพ่อ และยืนยันว่าถ้าไม่ใช้ชื่อเธอเป็นชื่อกลาง ชาตินี้คุณพ่อก็อย่าหวังจะได้กินสตูว์ไก่รสเด็ดฝีมือเธออีก และสุดท้ายซอนไฮม์ก็คือนามสกุลของคุณพ่อผู้เสียงอ่อนเสียงหวานตามใจเมียเป็นที่หนึ่ง แต่พออลิซ-เจนเข้าโรงเรียน เพื่อนรักตาโตยิ้มกว้างของเธอก็เสนอความเห็นอย่างองอาจว่า แม่งยาวว่ะ และใช้อำนาจตามมาตราแห่งความเป็นสหายสนิท ประกาศหน้าชั้นว่าต่อไปนี้จงเรียกชายคนนี้ว่า เจนนิส, เฟิร์ส ออฝ ฮิส เนม, โพรเทกเท่อ ออฟ มาย เฟรนชิป
เอาละ ตามขนบเรื่องไม่ค่อยจะเทพแต่เป็นนิยายทั้งหลายทั้งปวง เราก็ต้องว่าถึงบุคลิกเจนนิสเสียก่อน และคงต้องบรรยายราวกับตาเห็น ไม่อย่างนั้นพวกเธอผู้อ่านผู้ฟังก็คงจะลุกหนี ไม่ฟังที่ฉันจะเล่าต่อ และถึงขั้นไม่หยอดเหรียญใส่ขันหรือโห่ร้องชื่นชมเอาเสียเลย ฉันก็ต้องบอกก่อนว่า ถึงแม้เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ฟังดูพิลึกพิลั่น แต่จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องที่จริงจังมาก จริงจังเสียยิ่งกว่าเรื่องจริงจังที่สุดที่เธอจะจริงจังได้เช่นการเล่ือกตั้งหัวหน้าหมู่บ้านของพวกเธอเป็นต้น ดังนั้นถ้าเธอเห็นอะไรลึกลับซับซ้อน เห็นหลุมบ่อในระหว่างเรื่อง ก็อย่าเพ่อติเตียนไป เพราะฉันจริงจังอย่างยิ่งที่จะให้มันเป็นเช่นนั้น
เจนนิสเองก็เป็นคนจริงจังอย่างยิ่ง เธอไม่เคยเชื่อเรื่องผีสาง แม้เมื่อเธอเห็นกระต่ายยักษ์ตัวนั้นแปลงร่างเป็นคนได้ แม้เมื่อกระต่ายนั้นพาเธอมุดลงรูไปยังแดนมหัศจรรย์ชื่อว่าอาณาจักรเอลซิธี่ แม้เมื่อเธอพบแมวเจ้าเล่ห์เจ้าร้ายชื่อเจฟฟรี่ย์ พระราชาเชอรี่ที่รักขนมหวานเป็นชีวิตจิตใจแต่ชอบตัดหัวคน และตาคนบวม ๆ บ๊อง ๆ ผมแดงซึ่งชอบเต้นรำไปมาบนโต๊ะอาหารที่ชื่อแมดซิตี้ เธอก็ยังไม่เชื่อเรื่องผี ๆ สาง ๆ สักนิด (เอาล่ะ เจ้าแมวเจฟฟรี่ย์นั่นหายตัวได้ เธอยอมรับว่ามันแปลกหน่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้เกินจริงเหมือนบัตรเลือกตั้งหัวหน้าหมู่บ้านที่หายไประหว่างขนส่งไปรษณีย์มังกรมาที่หมู่บ้านบงบงในกาลครั้งหนึ่ง)
และเจนนิสชอบผู้ชาย เธอรู้ตัวมาตั้งแต่เห็นเจ้าชายทรงเสน่ห์ในการ์ตูนทิสณีย์ (บริษัทการ์ตูนและภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่--ซึ่งยักษ์จริง ๆ เพราะซีอีโอเจ้าของบริษัทนี้อาศัยอยู่บนปราสาทเหนือเมฆและมีนกเป็ดน้ำขนทองคำ) รวมถึงสารพัดพระเอกนิยายรัก ความทรงจำวัยเด็กนี้แฝงฝังอยู่ในดีเอ็นเอและอาร์เอ็นเอของเจนนิสเสียจนเธอโปรดปรานการพูดคุยกับสัตว์ นก กิ้งก่า ปลา กบ และตัวพูดู (ที่มีใครสักคนในหมู่บ้านบงบงตั้งชื่อไว้น่ารักว่าแฮชาน) แน่ละว่าสัตว์มันไม่เคยตอบ อันที่จริง พวกมันตั้งหน้าวิ่งหนีตั้งแต่ได้ยินเสียงก้าวแรกของมนุษย์ตัวสูง 190 เซนติเมตรแต่มีอินเนอร์สูงเท่าตูดสุนัขคอร์กี้ นี้ทำให้เจนนิส "เส้าส้อย" นัก (อ้างอิงรูปเขียนแบบที่เธอชอบ) สุดท้ายเธอจึงลงเอยด้วยการแหกคอร้องเพลง "ครายยยยกานนนนน ที่มองงงงจ้องมาาาาาาาาาา สบสายตาาาาา ไม่คุ้นเคยยยยย เหตุใดมองดูม่ายรู้วเลยย ว่าคือตัวราวววววว อาวววว" เกือบทุกครั้งที่อาบน้ำจนวันหนึ่งแม่ของเธอต้องมาเคาะประตูถามด้วยรอยยิ้มอาทรแบบแม่ผู้ประเสริฐว่า ไม่ไหวก็บอกแม่ได้นะลูก
กลับเข้าเรื่อง เจนนิสชอบผู้ชาย แต่เธอไม่ได้เป็นเกย์ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ "เกย์" ในแบบที่ปรากฏกลางน้ำเสียงเหยียดหยันของคุณครูประจำชั้นที่ชอบลงท้ายจดหมายถึงผู้ปกครองว่า ขอแสดงความนับถือคะ จริง ๆ เจนนิสก็ชอบผู้หญิง เธอชอบมองพวกหล่อน บางทีเจอคนหน้าตาน่ารักทักทายก็แอบคิดไปแล้วว่าจะทำของชำร่วยอะไรแจกในงานแต่งดี ทั้งเพื่อนผู้หญิงที่นั่งถักเปียในห้องเรียน รุ่นพี่สาวนักเล่นลิงชิงบอลประจำตำบลแสนเท่ และเธอถึงขั้นเพ้อพกโดะคิโดะคิถึงพี่สาวมหาวิทยาลัยที่ไปเรียนต่อในเมืองหลวงเอตู-เอมา ซึ่งกลายเป็นนักเรียกร้องสิทธิสัตว์วิเศษตัวยง หัวใจวัยรุ่นเรียกร้องเสรีภาพมันรุ่มร้อนนัก!!
แต่กระนั้นก็เป็นรอยยิ้มกว้างและดวงตากลมโตของเพื่อนสนิทคนนั้นที่ทำให้เจนนิสลืมหายใจเสมอ หมอนั่นชอบวิ่งเข้ามาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ร้อง ย่าห์!!! ให้เธอตกใจเล่นก่อนจะกระโดดขึ้นขี่หลัง เพื่อนสนิทอธิบายว่านี่เป็นพิธีกรรมพิเศษที่หวังผลให้เจนนิสกลายเป็นมังกร เจนนิสไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไร (เพราะเธอเป็นคนจริงจัง) แต่นอกจากความรู้สึกผ่าว ๆ บนแก้มและเสียววูบในท้องน้อยเบา ๆ เวลาหมอนั่นขี่หลังแล้ว เจนนิสก็เผลอแอบมองมือของเธอแวบ ๆ กลัวว่านิ้วนั้นจะกลายเป็นเล็บแข็งคมไปเสีย
ความชื่นชอบชื่นชมต่อเพื่อนสนิทเติบโตขึ้นทุกวันเหมือนตะบองเพชรอาบแดด คุณเพื่อนสนิทผู้แสนดีแต่มีท่าทีก๋ากั๋นก็ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ว่าเพื่อนคนหนึ่งมันแอบไปคิดอะไรไปไกลไปมากกว่านั้น นับวันเจนนิสก็จึงยิ่งหวั่นไหวและสับสนว่าจริง ๆ แล้วเธอชอบผู้ชาย ชอบคนยิ้มกว้าง ชอบคนกวนตีน หรือแค่ชอบหมอนี่กันแน่ ความสับสนนี่แหละเธอ ๆ ผู้อ่านเอ๋ย เป็นสารประกอบชั้นดีที่ทำละลายให้ความรู้สึกวูบวาบในใจมันเกิดปฏิกริยา จากชานมไข่มุกก็กลายเป็นชาเย็นหวานน้อยแบบโคตรหวานไปได้ในทันใด ไม่นานนักความละเมอเพ้อพกของเจนนิสก็พอกพูนกลายเป็นหนอนตัวอ้วน กัดกินใบไม้ในใจ "เร้ก ๆ" ของเธอ (เขียนตามแบบที่เจนนิสใช้บรรยายตุ๊กตาในห้องนอนตัวเอง)
นี่แหละ เมื่อใดที่ความสับสนสงสัยก่อเกิด มันก็กลับบ่มเพาะจนกลายเป็นความหึงหวง ความอิจฉา ความน้อยเนื้อต่ำใจ มีบ้างไหมเล่าที่พวกเธอเห็นใครบางคนที่พวกเธอแอบชอบไปทำดีกับคนอื่น ก็รู้สึกตาร้อนวาบ ๆ เหมือนหลอด LED พวกเธอมนุษย์สามัญเป็นฉันใด เจนนิสผู้เป็นเปราะบางก็เป็นไปได้ฉันนั้น อนิจจา! ชีวิตมนุษย์ตัวน้อย ๆ ผู้มีฟิลเตอร์ภาพยนตร์ทิสณีย์เป็นกมลสันดาน กลับกลายเป็นฉากโศกบรรเลงเพลงเศร้าซูมเข้าซูมออกแบบหนังอินเดียไปแล้ว
วันหนึ่งเจนนิสทนไม่ได้กับภาพตำตาที่เพื่อนสนิทคนนั้นเอาลูกอมดับกลิ่นปากที่เธอให้สองเม็ด ไปแบ่งให้เพื่อนสาวอีกคนหนึ่ง นั่นลูกอมดับกลิ่นปากของฉัน! แกกล้าดีอมเข้าไปได้อย่างไร! เจนนิสคิดในใจดัง ๆ แต่ไม่ได้พูด ก่อนวิ่งหนีไปยังสวนสาธารณะที่เธอชอบไปพูดคุยกับนกแก้วนกขุนทองอยู่เป็นนิจ
เจนนิสไปนั่งทรุดอยู่ใต้ต้นแอปเพิ่ลสูงสง่า คุกเข่าซบหน้าสะอื้นกับแขนหนา ๆ ของตัว สักครู่ก็เงยหน้าขึ้นมองฟ้า ราวกับว่าสักพักจะมีนางฟ้าแม่ทูนหัวลงมาถามเป็นอะไรจ๊ะหนู กินช็อกโกแล็ตหน่อยไหม แต่นอกจากคุณลุงวัยเอจจิ้งที่ชาวหมู่บ้านบงบงจ้างไว้ กำลังตัดหญ้าอยู่ไกล ๆ ก็ไม่มีใครอีก เจนนิสจึงทอดถอนใจ เอนหลังทิ้งตัวพิงต้นแอปเพิ่ล ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงร้อง
"โอ๊ย ๆ ฟ้าถล่มทับแล้ว ฟ้าถล่มทับแล้ว"
เจนนิสสะดุ้งสุดตัว รู้สึกว่ามีอะไรนุ่ม ๆ ที่ก้น เธอผุดลุกขึ้นหันไปมองที่โคนต้นแอปเพิ่ล เธอเพิ่งสังเกตว่ามีโพรงขนาดใหญ่อยู่ที่แง่งราก และตรงปากโพรงที่เธอนั่งทับไปเมื่อกี้นั้นมีตัวอะไรบางอย่างขนขาวปุยอุดอยู่ เธอมองมันพลิกตัวกลับมา ที่แท้ก็...เอ่อ...หมู?
"ทำไมนายไม่ดูตาม้าตาเรือแบบนี้เจ้าทึ่ม!? ฉันเกือบขาดอากาศหายใจแล้วรู้ไหม"
"เอ่อ ขอโทษครับ ตะ...แต่...ทำไมหมูพูดได้ล่ะ"
"หมูพ่อง กูเป็นกระต่าย"
อา...จริงด้วย พอมันบริภาษมาอย่างนั้น ทั้งเจนนิสและคนเล่าเองก็เพิ่งเห็นหูยาว ๆ ตาสีแดงทับทิม และฟันสองซี่ที่ยืนออกมาเป็นเครื่องหมายการค้า และตระหนักได้ว่านั่นเป็นกระต่ายตัวยักษ์ ไม่ใช่หมูเผือกหรือคาพิบาร่า
"อะ ขอโทษครับ...แต่คุณแม่ไม่ให้พูดคำหยาบนะ"
"อย่ามัวพูดมาก นอกจากนายจะสายแล้วนายยังทำฉันเจ็บอีก รีบตามมาได้แล้ว"
เจนนิสงุนงง เธอดีใจที่มีสัตว์พูดกับเธอได้เหมือนเจ้าหญิงเจ้าชายในการ์ตูน แต่ไม่คาดคิดว่าจะต้องมาเจรจากับกระต่ายนักเลงแบบนี้ แล้วนั่น...ขนพองหรือกล้ามไบเซบน่ะ...
"ปะ..ไปไหนครับ?"
"ถามได้ ก็ไปช่วยเจ้าบื้อแมดซิตี้น่ะสิ?"
"แมด--อะไรนะครับ?"
"แมดซิตี้! ให้ตายเถอะ นายเรียนได้เกรดสี่จริงหรือเปล่าเนี่ย ทำไมโง่แบบนี้ ขืนชักช้า หมอนั่นโดนพระราชาเชอรี่ตัดหัวแล้วใครจะเลี้ยงน้ำชาฉันอีก!"
"ดะ...เดี๋ยวนะครับ" เจนนิสยิ่งฟังยิ่งงง งงจนลืมไปว่ากำลังเป็นตัวละครในเรื่องเล่าสมมติอยู่ "แมดไหน? แล้วพระราชาเชอรี่อะไร แล้วคุณกระต่าย ทำไมถึง..."
"โอ๊ย เรื่องมากอย่างที่เจ้าเจฟฟรี่ย์เตือนไว้จริง ๆ..." พูดขาดคำ คาพิบา---กระต่ายยักษ์ขาวฟูตัวนั้นก็สูดลมเข้าปากแรง ๆ แล้วพองตัวจนระเบิดขนกระจุยกระจาย กระจุกขาวเหมือนนุ่นฟูฟ่องบดบังสายตาเจนนิส เธอปัดละอองปุยนั่นออก ก็เห็นเบื้องหน้าเป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง อ่า...โอเค เรื่องที่เล่ามามันก็แปลก ๆ นิด ๆ ล่ะนะ ทว่าเจนนิสไม่คาดคิดว่ากระต่ายตัวนั้นจะหายไป กลายเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังยืนเท้าสะเอวชี้หน้าเธอ...ทั้ง ๆ ที่ตัวกำลังเปลือยเปล่า แล้วยังดันรูปร่างหน้าตาน้ำเสียงบุคลิกเหมือนกับเพื่อนสนิทของเจนนิสไม่มีผิด
มาถึงตรงนี้ ฉันผู้เล่าเองก็บอกไม่ถูกว่าอะไรแดงกว่ากัน หน้าเจนนิส เปลือกแอปเพิ่ลบนต้น หรือสองแก้มก้นของกระต่ายแปลงคนนั้น
"ฉันชื่อโดยอง เพื่อนของฉันชื่อยูตะ--แต่ทุกคนเรียกเขาว่าแมดซิตี้--กำลังจะถูกพระราชาเชอรี่แห่งอาณาจักรเอลซิธี่ประหารเพราะไปขโมยเค้กมาก้อนนึง เจ้าแมวเจฟฟรี่ย์ผู้หยั่งรู้บอกว่ามีแต่นาย--อลิซ เจน ซอนไฮม์--เท่านั้นที่จะช่วยเขาได้ ดังนั้น ตอนนี้ฉันขอร้องนายล่ะ ช่วยหุบปากแล้วตามฉันมาได้แล้ว"
ไม่ทันที่เจนนิสจะเลื่อนสายตาลงต่ำ เพื่อดูว่าเจ้ากระต่ายที่ชื่อโดยองนั่นจะทำอะไร เธอก็รู้สึกว่าพื้นใต้เท้าหายไป ปากโพรงขนาดใหญ่นั่นเหมือนจะอ้าออกกว้าง และดูดกลืนเธอเข้าไปเหมือนแรงดึงดูดนักการหมู่บ้านจากพรรคพลังประชาบงบงแล้ว
สิ่งสุดท้ายที่เจนนิสเห็นคือกระจุกปุยขาว ๆ ตรงก้นที่แล่นนำหน้าเธอไปในโพรงนั้นเอง
ปร๊ะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ
TBC
โอ๊ย พี่คะ 5555555555555555555555 สัมผัสได้ว่าตอนเขียนพี่มันมือมาก ใส่ไม่ยั้งเลย ตลกมาก แง 55555555555555555555555 ชอบสำนวนมากเลยค่ะ อยากเห็นแมวเจฟฟรี่ย์ออกมาแล้ว ฮือ ๆๆๆ ส่วนยัยเจนนิส เธอนี่มัน...ช่างจินตนาการเหลือเกิน นางเอกดิสนีย์จริง ๆ
รอตอนต่อไปเสมอนะคะ <3