เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My lie in Apriljanctuarish
Telepathy
  • telepathy (n.) โทรจิต, กระแสจิต, การติดต่อกันทางจิต

    เป็นเรื่องประหลาดแต่ไม่น่าแปลกใจ


    ผมมีเพื่อน แต่อันที่จริงไม่ค่อยอยากเรียกเขาว่าเพื่อนสักเท่าไหร่ ในความคิดของผม สถานะของเขาไม่ใกล้เคียงคำนั้นเลยสักนิด


    การปรากฏตัวของเขาเป็นปริศนา และตัวตนของเขาก็เป็นปริศนาอีกเช่นกัน เสียงของเขาโผล่ขึ้นมาในหัวผมเฉยๆ เหมือนอาร์เคดเกมที่คุณต้องเอาค้อนตีตัวอะไรสักอย่างที่โผล่ออกมาจากรูเพื่อเก็บแต้ม เพียงแต่ว่าผมไม่มีค้อน และเขาอยู่ในหัวของผม


    สวัสดี มีใครได้ยินฉันไหม ตอบฉันที


    ประโยคห่วยแตกชะมัด


    ผมหัวเราะในลำคอ เสียงคลื่นวิทยุดังซ่าแข่งกับเสียงฟ้าคำรามภายนอก และกว่าผมจะรับรู้ได้ว่านั่นคือสุรเสียงทั้งหมดที่ผมได้ยินในตอนนั้น เขาก็ตะโกนโหวกเหวกน่ารำคาญซะก่อน


    ไม่นานก็รู้ว่าคุยกับเขาน่ะ ไม่จำเป็นต้องใช้เสียงหรอก


    แค่คิดออกไปก็พอ






    เขาไม่บอกชื่อผม ไม่ใช่ว่าเขาลืม เขาแค่ไม่บอก


    ผมค่อนข้างจะรู้สึกเฉยๆ ค่อนไปทางดีใจด้วยซ้ำ เพราะการรู้ชื่อกันและกันมันก็เหมือนกับการเติมน้ำหยดเล็กๆลงในแก้วที่มีตะกอนความสัมพันธ์นอนอยู่ที่ก้น แต่ถึงจะเป็นหยดเล็กๆมันก็อันตราย ผมยอมรับจากใจจริงว่าการเป็นเพื่อนกับเสียงอะไรไม่รู้ในหัวของตัวเองค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวและแปลกประหลาดในระดับนึงอยู่


    ถึงแม้เราจะคิดโต้ตอบกันและกันในหัวแบบนี้มาสัปดาห์นึงแล้วก็เถอะ


    นายไม่มีเพื่อนเลยเหรอ


    เขาถามขึ้นมาในบ่ายวันพฤหัสสุดท้ายของเดือนกันยายน ผมเอนตัวพิงพนักเก้าอี้เก่าๆในห้องดนตรี มือที่ดีดกีต้าร์อยู่เปลี่ยนไปหรี่เสียงเอ็มพีสามรุ่นเก่ากึกในกระเป๋ากางเกงของตัวเองแทน นาฬิกาบอกเวลาบ่ายโมงสามสิบเจ็ด อันเป็นเวลาที่ผมจะต้องเสนอหน้าเข้าไปอยู่ในคลาสเรียนวิชาสังคมศึกษาอันแสนน่าเบื่อ และผมก็ไม่มีความคิดที่จะแลกความน่าเบื่อนั้นกับเวลาที่มีค่าในช่วงบ่ายเลยสักนิด


    ผมส่ายหน้าตอบเขา ก่อนจะรู้ตัวขึ้นมาได้ว่าเขาไม่เห็น ไม่


    ทำไมล่ะ นายก็ไม่ได้นิสัยแย่อะไรหนิ


    ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ หัวเราะแบบที่เขาจะไม่มีวันได้ยิน


    ไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนกับลูกของฆาตกรหรอก






    นายควรจะออกจากหัวของฉันไปได้แล้ว


    ผมบอกเขา อาการปวดหัวเหมือนมีพายุลูกใหญ่หมุนวนในหัวยิ่งทวีความเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ยักรู้ว่าอารมณ์ของเขาจะรุนแรงถึงเพียงนี้ ผมต้องพยุงตัวเองไว้กับขอบโต๊ะเพื่อไม่ให้ล้มลง ถึงจะชินแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะรับมือกับมันได้ดีสักเท่าไหร่นัก


    แก! ไอ้สารเลว! ขอให้ไม่ตายดี!!!


    ผมคุดคู้ไปกับพื้น โต๊ะไม้ที่ใช้พยุงตัวเองไว้ล้มกะเทเร่ สัมผัสได้ถึงอาการปวดหูอย่างรุนแรงเหมือนดำดิ่งอยู่ในทะเลลึกสุดขอบแผ่นดินโลก ผมยันตัวลุกขึ้นมานั่งบนเตียงนอน สองมือประคองหูทั้งสองข้างของตัวเอง อดหงุดหงิดไม่ได้เมื่อมันเปรอะเปื้อนไปด้วยของเหลวสีแดง


    ไอ้เวรเอ้ย 


    ขอบคุณที่อวยพร ไปลงนรกก็ขอให้อยู่ดีกินดีแล้วกัน


    นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ผมคุยกับเขา อาจเป็นเพราะแก้วหูผมทะลุไปแล้วก็ได้จึงไม่ได้ยินแม้แต่เสียงโหยหวนของเขาอีก ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง เปลวไฟสีแดงเพลิงลุกโชติช่วงพอดีในคืนวันผลัดเปลี่ยนฤดูกาล พรุ่งนี้หน้าหนาวจะมาเยือน


    ผมยิ้ม











Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in