ผบ.ตร.นำ ปส.บุกรวบนักค้ายาเสพติดชาวไต้หวัน ฉายา “ลูแปง” คาคอนโดหรูย่านอโศก ยึดยานรกหลายชนิดแฉเบื้องหลังจับกุม เริ่มจาก ปส.3 พบ “เคนมผง” ถูกบรรจุพัสดุส่งนอกปลายทางยูเออี ตรวจพิสูจน์มีส่วนผสมคล้ายที่ตรวจพบในท้องที่ สน.วัดพระยาไกร บิ๊กปั๊ดสั่งไล่กล้องพบผู้ต้องหาเป็นคนส่ง ขยายผล หาความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับคดีที่ตายเกลื่อนกรุงเมื่อช่วงต้นเดือนหรือไม่ เผยผู้ต้องหาประวัติแสบ หนีคดีค้ายาจากไต้หวันมากบดานเมืองไทยตั้งแต่ปี 56 เช่าที่พักหรูหลายแห่งทั่วกรุงไว้ผลิต “ยาเคนมผง” ส่งขายลูกค้าต่างประเทศ

จากเหตุพบผู้เสียชีวิตหลายศพในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร เมื่อวันที่ 10 ม.ค.64 สาเหตุจากการเสพยาเคนมผง และยังมีผู้เสียชีวิตจากการเสพยาเสพติดชนิดดังกล่าวอีกรวมทั้งสิ้น 11 ราย สร้างความตื่นตระหนกให้กับสังคมเป็นอย่างมาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ต้องลงมาดูคดีด้วยตัวเอง พร้อมมอบหมาย พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านยาเสพติด บูรณาการทำงานร่วมกันระหว่าง บช.ปส. กับ บช.น. จับกุมผู้ค้ายาเคนมผงให้กับผู้ตายและขยายผลให้ถึงนายทุนผู้ผลิตที่อยู่เบื้องหลัง

ล่าสุด ผบ.ตร.นำทีม ปส.บุกรวบ “ลูแปง” นักค้ายาเสพติดไต้หวันเช่าคอนโดหรูกลางกรุงผลิตยาเคนมผง โดยเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 ม.ค. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 และ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ร่วมกันสอบปากคำนายโช วาย เชิน หรือ
นายหลิว ชุน เชน ชาวไต้หวัน อายุ 38 ปี ที่อยู่ตามหนังสือเดินทาง เลขที่ 8 ชั้น 5 ซอย 200 ถนนตงฮั้ว เมืองไทเป หลังจับกุมได้ที่ห้องโถงชั้นล่างคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่ง ย่านถนนอโศกมนตรี แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. เมื่อบ่ายวันที่ 21 ม.ค.64

พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า ข้อมูล บช.ปส.พบว่าประมาณ ต.ค.63 ได้ตรวจยึดยาเคนมผงเป็นครั้งแรก ถูกซุกซ่อนอยู่ในกล่องขนมเตรียมส่งพัสดุปลายทางประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากการตรวจพิสูจน์พบส่วนผสมของยาเคตามี และยาไอซ์ หรือที่เรียกว่า เคนมผง คนร้ายใช้ชื่อและนามสกุลปลอมในการส่งพัสดุ ได้สั่งทีมสืบสวน บช.ปส.ไล่กล้องวงจรปิด กระทั่งพบภาพคนร้ายลักษณะเป็นชาวจีน ได้ขอศาลอาญาออกหมายจับลงวันที่ 19 ม.ค. 64 จากนั้นได้สืบหาชายจีนตามภาพวงจรปิดจนทราบชื่อคนร้ายคือนายโช วาย เชิน หรือนายหลิว ชุน เชน ชาวไต้หวัน มีห้องพักอยู่ตามคอนโดหรูระดับ 5 ดาวหลายแห่งใน กทม. อาทิ ย่านลุมพินี พระราม 9 ทาวน์อินทาวน์ รามคำแหง และสุขุมวิท บช.ปส.ได้สะกดรอยก่อนเข้าจับกุมได้ที่ชั้นล่างของคอนโดหรูย่านถนนอโศกมนตรี

ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า นายโช วาย ยอมรับเป็นบุคคลตามภาพวงจรปิด ก่อนขยายผลนำตรวจค้นห้องพักชั้น 8 ของคอนโดดังกล่าวที่ผู้ต้องหาเช่าไว้ และไปอีก 3 แห่ง คือคอนโด ย่านรัชดา-พระราม 9 แขวงและเขตห้วยขวาง คอนโดย่านทาวน์อินทาวน์ แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง และคอนโดย่านสุขุมวิท 50 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย ทุกแห่งผู้ต้องหาใช้ชื่อปลอมเช่าไว้ พบยาเสพติดจำนวนมาก อาทิ เคตามีน 4 กก. ยาอี 376 เม็ด ยาไอซ์ 4 กก. เฮโรอีน 8 กก. โคเคน 11.6 กรัม LSD หรือแสตมป์มรณะ 48 แผ่น โดมิคุ่มหรือยานอนหลับ 2 ขวด ยานอนหลับชนิดเม็ด ไฟว์ไฟว์ 265 เม็ด เครื่องซีลพลาสติก 2 เครื่อง เครื่องปั่น 2 เครื่อง (มีคราบยาเสพติด) เครื่องชั่งดิจิทัล 2 เครื่อง แก้วบีกเกอร์พลาสติก 2 ใบ มีคราบยาเสพติด ปืน 9 มม.พร้อมกระสุน 8 นัด

พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบสูตรการผสมยาเสพติดบันทึกอยู่ในโทรศัพท์มือถือผู้ต้องหา ส่วนเครื่องปั่นที่ตรวจยึดได้ มีคราบสารเสพติด 3 ชนิด คือ ยาเค ยาอี และยานอนหลับ ลักษณะเดียวกับยาเคนมผงที่ตำรวจจับกุมได้ในหลายพื้นที่ จากการสอบปากคำผู้ต้องหารับว่า เป็นนักผสมยาเสพติดและค้ายาเสพติดที่ผสมแล้วให้กับกลุ่มชาวต่างชาติ เมื่อปี 55 ได้สั่งโคเคน 280 กรัม กัญชา 80 กรัม จากประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งมายังไต้หวัน จนถูกทางการไต้หวันออกหมายจับข้อหาครอบครองยาเสพติดและส่งออก ได้หลบหนีมาประเทศไทยตั้งแต่ปี 56 โดยใช้หนังสือเดินทางปลอมและยังคงค้ายาเสพติดส่งออกต่างชาติเรื่อยมา

ผบ.ตร.กล่าวต่อด้วยว่า ผู้ต้องหาให้การว่าค้ายาเสพติดเพียงคนเดียว ผ่านดาร์กเว็บไซต์และทำธุรกรรมด้วยบิตคอยน์เพื่อให้ยากแก่การติดตามตัวจนเป็นที่มาของฉายาว่าลูแปง เป็นตัวละครจอมโจรที่เขาชื่นชอบและมีพฤติกรรมคล้ายกัน อีกทั้งยังมีพาสปอร์ตปลอม 7-8 เล่ม นอกจากนี้ยังไม่ยินยอมเปิดเผยต้นตอที่มาของสารตั้งต้นว่าสั่งซื้อมาจากที่ใด รวมถึงต้องหาความเชื่อมโยงการแพร่ระบาดเคนมผง ที่มีผู้เสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกันเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ต้นตอมาจากนายโชหรือไม่ ได้มอบหมายให้ บช.ปส. หาความเชื่อมโยงในการสืบสวนแล้ว

พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะคุมตัวนายโชไปยัง บช.ปส. เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียดพร้อมขยายผลหาเพิ่มเติมต่อไป เบื้องต้นแจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน, ยาอี, ยาไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน, แอลเอสดี) ไว้ในครอบครองโดยเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน, ไฟว์ไฟว์, โดมิคุม) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่า เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต”

Source:

https://sellfy.com/ngentot-cau/p/policies-and-developments-in-the-biden-presidency/