แม่ผมเคยบอกว่าหมอนเน่าสามารถปกป้องไม่ให้ปีศาจร้ายมาเข้าฝันหรือทำร้ายเราระหว่างที่นอนหลับได้ ผมจึงกอดที (หมอนถ้วยชาอันใหญ่ยักษ์) ไว้ข้างกายแน่นตลอดทั้งคืน เมื่อตื่นเช้าผมจะขอบคุณหมอนเน่าที่ปกป้องผมทุกครั้ง เวลาเก็บที่นอนผมจะเอาผ้าห่มคลุมทีให้มิด ผมกลัวว่าทีจะพักผ่อนไม่เพียงพอเพราะมัวแต่คอยเฝ้าผมจากปีศาจร้ายทุกคืน ผมจึงบอกราตรีสวัสดิ์ทีในตอนเช้าและอรุณสวัสดิ์ทีในตอนกลางคืนเป็นการตอบแทน แต่ในตอนนี้ผมกลับรู้สึกว่าทีกำลังหละหลวมในหน้าที่ของตัวเอง เมื่อผมหลับตาและซุกตัวอยู่ในผ้าห่มก็พบเห็นลิงยักษ์ มันไม่ได้น่ารักเหมือนในภาพวาดของแม่เลย ไม่ได้มีขนที่ดูนุ่มนิ่มเหมือนตุ๊กตาของฮันจิ ลิงยักษ์ในฝันน่าหวาดกลัวมากกว่าลุงเคนนี่ มันก้าวสองเท้ามาหาผม ทักทายราวกับว่าผมเป็นพวกเดียวกับมัน
“ดูซิว่าคราวนี้ฉันมาโผล่ในฝันของใคร”
“ทีปล่อยให้คุณเข้ามาได้ยังไง?”
“ฉันจะไปไหนก็ได้ถ้าฉันอยากจะไป”
“ออกไปเดี๋ยวนี้”
“หนูน้อย ที่ฉันยังอยู่ที่นี่ได้ก็เพราะว่านายกำลังกลัวฉันต่างหาก”
“ผมไม่ชอบลิง”
“เธอกลัวลิง”
สิ่งมีชีวิตประหลาดนั่นยกยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ไม่ชอบใจเลยสักนิด ผมขมวดคิ้ว เบะปากและร้องไห้จนกระทั่งผมสะดุ้งตื่นเพราะลิงตัวนั้นดีดนิ้วดังเป๊าะข้างๆ หู ผมวิ่งไปกอดแม่โดยที่ยังใส่ชุดนอนอยู่ เล่าความฝันให้แม่ฟัง เธอบอกว่าให้กอดทีแน่นกว่านี้ ที่ลิงนั่นเข้ามาในความฝันของผมได้เป็นเพราะผมชอบนอนเตะทีตกเตียงอยู่เรื่อย ก่อนนอนผมจึงกอดทีให้แน่นกว่าปกติ บอกกับตัวเองว่าคืนนี้จะไม่นอนดิ้นและทำให้ทีต้องตกเตียงอีก ภาวนาขอให้ทีปัดเป่าเจ้าลิงนั่นใม่ให้มายุ่งกับตัวผมด้วยเถิด แต่เมื่อผมหลับตาลงก็ยังคงเห็นลิงขนน้ำตาลตัวเดิมกำลังนั่งดื่มชาอยู่ และผมโกรธมันมากกว่าคืนแรกที่เจอกันเพราะมันกำลังดื่มชาของผมโดยไม่ได้รับอนุญาต
“นั่นชาของผม!”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจดื่มสักหน่อย”
“แต่คุณกำลังทำ!”
“จิตใต้สำนึกเธอต่างหาก” ลิงยักษ์ไหวไหล่ ยกชาขึ้นจิบต่อ
“ทั้งๆ ที่ผมไม่อยากฝันถึงลิงแท้ๆ แต่ทำไมคุณถึงยังอยู่อีกนะ”
“เพราะเธอยังกลัวฉันอยู่”
ลิงยักษ์บอกว่าการที่จะให้มันหายไปได้มีวิธีเดียวเท่านั้นคือการเลิกกลัวมัน ต่อให้ผมไม่อยากฝันถึงมันมากแค่ไหนแต่ถ้าจิตใต้สำนึกยังคงหวาดกลัวอยู่ตัวตนของลิงยักษ์ก็จะชัดขึ้นเรื่อยๆ และอาจเพิ่มปริมาณลิงให้เยอะขึ้น เมื่อผมได้ยินดังนั้นจึงสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยน้ำตาที่นองหน้า ผมตีทีแน่นที่ยังยอมปล่อยให้ไอ้ลิงบ้านั่นเข้ามาในความฝันผมอยู่ได้
เมื่อผมเข้านอนกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็จะเห็นลิงตัวเดิมทุกครั้ง ทั้งเห็นภาพมันนอนอ่านหนังสือ กินขนม วิ่งเล่น หรือกำลังนั่งเฉยๆ ช่วงแรกๆ ที่ผมเกลียดขี้หน้าเจ้าลิงตัวนี้ผมเลือกที่จะนั่งคนเดียวในฝันแล้วรอให้ตัวเองตื่น หลายคืนเข้าผมก็เริ่มชาชินกันมัน ค่อยๆ ขยับๆ ตัวเองให้เข้าใกล้ลิงยักษ์มากขึ้น ความรู้สึกคุ้นเคยและผูกพันค่อยๆ ก่อตัวขึ้นระหว่างผมกับลิงยักษ์ เป็นความสัมพันธ์ที่เริ่มถักทอขึ้นจากความกลัว บางคืนพวกเราก็เล่นวิ่งไล่จับ บางคืนพวกเราก็นอนอ่านหนังสือด้วยกัน บางคืนผมก็กินขนมโดยที่เขาเพียงนั่งดูเฉยๆ บางคืนผมจะช่วยบี้เห็บ (เหมือนที่ผมเคยช่วยลุงเคนนี่กำจัดมันในขนของลูคัสจอมอ้วน) ในขนสีน้ำตาลหยาบกร้านแต่เขาปฏิเสธผมโดยเร็วและให้เหตุผลว่าตัวเขาสะอาดอยู่แล้ว ผมจึงเสนอให้เขาหาเห็บบนหัวผมบ้าง ลิงยักษ์หัวเราะยกใหญ่ ผมที่เห็นเขาหัวเราะจึงหัวเราะตาม
“ดูเหมือนเธอจะคุ้นชินกับฉันแล้วนะ”
“อ่าห๊ะ”
“ฉันคงไม่ต้องโผล่มาให้เธอเห็นแล้วมั้ง”
“ทำไมล่ะ?”
“ก็เธอไม่กลัวฉันแล้วนี่”
“ใช่ พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้ว”
เด็กชายนิ่งเงียบสักพักนึง
“คืนหน้าผมจะได้เล่นกับคุณอีกไหม?”
“แน่นอนสิ แต่ ใช้เวลาหน่อยนะ”
“ว่าแต่คุณเป็นใคร?”
“เป็นฝันร้ายที่กลายเป็นดีของเด็กทุกคน”
หลังจากคืนนั้นลิงยักษ์ก็หายตัวไปไม่โผล่มาในความฝันอีกเลย มันหายไปเหมือนไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้น ผมยังคงกอดทีเพื่อให้ทีปกป้องปีศาจร้ายที่จะเข้าฝันผมเหมือนเดิม แต่ผมกระซิบกับทีหมอนเน่าที่เปรียบเหมือนนางฟ้าของผมไว้แล้วว่าอนุญาตให้แค่ลิงยักษ์สีน้ำตาลมาเข้าฝันได้แค่ตัวเดียวเท่านั้น ผมเฝ้าใฝ่ฝันถึงลิงตัวนั้นจนกระทั่งกาลเวลาล่วงเลยไป ผมเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน ผมสามารถนอนตัวคนเดียวได้โดยไม่ต้องกอดหมอนเน่าอีกต่อไปแล้ว จึงเก็บทีไว้ในกล่องเก็บของและค่อยๆ ลืมเรื่องความปรารถนาที่จะพานพบลิงตัวนั้นเสียสนิท
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in