แจจินเดินเข้าข้างในตัวอาคารฝากของไว้ เขาไม่ปล่อยให้เธอรอนาน วิ่งออกมาด้วยความกระตือรือร้น ทั้งสองเดินคู่กันบนเส้นทางที่ยังไม่ได้ตกลงกันถึงจุดหมายปลายทาง
"เธอไม่ลองอ่านข้อความข้างในใบปลิวนั้นหน่อยเหรอ ดูใจร้ายยังไงๆ ที่ขยำแบบนั้น" เขาพูด
"ฉันเคยอ่านมาเป็นรอบที่เท่าไรจำไม่ได้ มันเป็นข้อความบรรยายเดิมที่รีไซเคิลตามสถานการณ์บ้านเมือง ทำไมกันคุณสนใจหรือไง?"
"ฉันเคยอ่านมันอยู่ เธอนับถืออะไรยึดเหนี่ยวในจิตใจไหม?"
"ไม่มี คุณล่ะ?"
"บ้านฉันนับถือคริสต์ ฉันก็เป็นไปตามนั้น"
"แล้วทุกวันนี้คุณยังเชื่อไหม?"
"เชื่อสิ มันไม่ได้อยู่ที่ว่ามันจริงหรือไม่จริง สำหรับฉันอย่างน้อยก็มีที่ยึดเหนี่ยวแล้วน่าจะบวกกับความเคยชินที่ปฏิบัติมาแต่เกิด"
"บ้านฉันก็เป็นคริสต์"
"แล้วทำไมเธอไม่เป็น?"
"มีหลายๆอย่างน่ะ หลายอย่างจริงๆ ที่ทำให้ออกมาจากจุดนั้น คุณอย่าถามอะไรเยอะเลย ฉันจะทำให้เราตีกันมากกว่า" เธอพูดจบประโยค ทิ้งท้ายด้วยการหยักไหล่
เขาไม่แน่ใจว่าจะถามต่อไหม แต่สนใจกับประเด็นใดกันที่สามารถทำให้ถึงขัันตีกันได้เชียว แจจินหันหลัง หน้าหันไปทางเธอเขาเดินถอยหลัง
"ขัันมีเรื่องขนาดนั้นเลย?" แจจินถามอย่างติดตลก
"ช่ายยยยย~" เธอตอบเสียงรากยาว
จองยอนรีบดึงเขาให้พ้นจากการชนคน
"อ่า เกือบได้เรื่องแล้วล่ะ" เธอพูด
แจจินกับมาเดินปกติ เพราะเรื่องงี่เง่าๆที่เพิ่งเกิดทำให้เรียกเสียงหัวเราะจากทั้งสองออกมา
ร้านปิ้งย่างร้านประจำของจองยอนอยู่ตรงหน้า ไม่มีการตกลงกันล่วงหน้าระหว่างเธอและเขาว่าจะเข้าร้านไหน แต่ทั้งสองเดินตรงไปหน้าร้านปิ้งย่างอย่างกับว่าเตรียมกันไว้แล้ว
"เดี๋ยวก่อน...เรายังไม่ได้ทันได้ตกลงกันเลยว่าจะกินอะไร" เธอพูด
"ฉันว่าเราได้คำตอบแล้วล่ะ" เขาพูด
"เราต้องรออีก3คิว คุณรอได้ใช่ไหม?"
"ได้อยู่แล้ว"
ท้องไส้เรียกร้องอาหารให้ตกถึงท้อง มันเป็นไอเดียที่พลาดไม่น้อยกับการเข้าร้านปิ้งย่างนี้ คงต้องรอนานทีเดียวกว่าจะถึงคิว
"จะว่าอะไรไหม ฉันมีความอยากรู้เกี่ยวกับงานที่คุณกำลังทำตอนนี้ โปรเจคงานน่าสนใจแค่ไหน" เธอถาม
"คนรู้จักฉันรอบตัวต่างถามเรื่องนี้กับฉัน ขอโทษด้วยที่ฉันบอกไม่ได้แม้แต่นิดเดียวมันเป็นความต้องการที่บริษัทขอ อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรปิดอะไร มันยิ่งดีเสียกว่าที่มีคนพูดถึง"
"โอเค"
ผิดไหม เขาเองยังต้องการให้เธอเซ้าซี้ถามเขาต่อ ถึงมันเป็นความลับอย่างไรแต่เขาเองก็อยากเล่าให้เธอได้ฟังสักนิด ทว่าเธอนั้นกลับยุติความอยากรู้ได้ง่ายๆ
เวลาไม่ปล่อยให้พวกเขารอนานนัก ทั้งสองได้เข้าร้านนั่งโต๊ะใกล้หน้าต่าง ครั้งนี้มีความสามัคคีเป็นทีมในการสั่งอาหาร
ภายในร้านสว่างกว่าด้านนอก อีกครั้งกับใบหน้าไร้เครื่องสำอาง สิวตรงคาง และกระจางๆบนใบหน้า ขอบตาคล้ำใต้ตาโชคดีที่มันคล้ำลงมามากแล้วจากแต่ก่อน เธอมากินข้าวกับคนที่เธอชอบในสภาพแบบนี้อีกครั้ง เขานั้นยังดูดีเช่นเคย เขานั่งอยู่ตรงหน้าเธอ ปิ้งเนื้อย่าง พูดถึงโชว์ตลกชื่อดังที่เขาซื้อตั๋วเข้าดูเมื่อไม่กี่วันก่อนในโซล เล่ามุกตลกชื่อดังที่เป็นกระแสในหมู่คนชม เขาว่ามันไม่ได้ตลกสำหรับเขา มันเหมือนมุกที่เด็กๆเล่น และมันไม่เคยทำให้เขาหัวเราะ แปลกดีเพราะในสายตาเธอเขาเป็นคนที่หัวเราะง่ายเหลือเกิน
"คุณจำที่ฉันเล่าเรื่องว่าฉันลงผิดป้ายมาตลอด3ปีได้ไหม?" เธอพูด
เขาหัวเราะออกมาทันที นัันแหละคือสิ่งที่เธอเห็นว่าเขาเป็นพวกเส้นตื้น เขาคงไม่รู้ตัวขณะดูโชว์ตลกว่าหัวเราะไปกี่รอบ เรื่องที่เธอเล่าก็แทบจะไม่ใช่เรื่องตลกด้วยซ้ำแต่เขากลับขำได้
"แล้ววันนี้ลงผิดป้ายใช่ไหมเลยมาโผล่ให้เห็นหน้าได้" เขาพูด
"ใช่"
แจจินหัวเราะอย่างกับว่าเป็นเรื่องตลกโปรด จองยอนมองนิ่งดูเขาที่หัวเราะชอบใจ เขากล้าพูดได้ไงว่าโชว์ตลกนั้นมันไม่ขำ แค่เห็นป้ายโฆษณาเขาก็น่าจะหลุดขำออกมาด้วยซ้ำ
"วันนี้ไม่ต้องทำหน้าที่ย่างให้ฉันล่ะ" เธอพูด
"เธอเองอย่าทำมันไหม้ล่ะ" เขาพูด
"ฉันคิดถึงหนังไซไฟเรื่อง Interstellar ฉันอยากรู้ในความคิดของคนที่ทำงานด้านเทคโนโลยี คุณชอบหนังไซไฟไหม?"
"ก็ดูได้ทุกเรื่องที่เขาว่าดี เรื่องนี้ฉันก็ได้ดู"
"ฉันถามแบบเด็กๆเลยนะ คุณเคยเจอคนที่ดูฉลาดแบบในหนังบ้างไหม? คนที่ทัังเก่งในเรื่องวิชาการ การตัวรอด และความรู้รอบตัว คนที่ดูต้องเป็นตัวหลักพึ่งพาได้ในเหตุฉุกเฉิน"
"ขอคิดก่อน เคยเจอ...ไหมนะ - มีสัก 3 คนได้"
"นับตัวเองเข้าไปด้วยรึเปล่า?" จองยอนส่งสายตาสงสัย จับผิด
"ก็..." เขาทำหน้าครุ่นคิดมองไปยั่งปลาหมึกบนจานข้างๆเขา "ฉันว่าตัวเองก็เป็นได้นะ ฮีโร่น่ะ"
"ฮะฮ้า นับตัวเองเข้าไปจริงด้วย"
จองยอนขำออกมาชอบใจกับประโยคนั้นจากเขา แจจินต้องยิ้มไปตามเธอ เขาพอมีความสามารถทำให้เธอหัวเราะได้บ้าง
"ปีนี้เป็นปี2025คุณพอบรรยายขอบเขตความยิ่งใหญ่ชิ้นงานที่คุณทำได้ไหมว่ามันสมกับเป็นปี2025รึเปล่า?" เธอพูด
"มันจะกลายเป็นสิ่งที่ทั้งโลกพูดถึงเลยล่ะ แต่แน่นอนว่าประเทศเราจะได้หน้าตาใหญ่โตจากสิ่งนี้ สิ้นเดือนพฤศจิกายนปีนี้เป็นวันเปิดตัว"
"พฤศจินี้เอง ใกล้แล้วนะสิ ทำให้ฉันตื่นเต้นเลยล่ะ" เธอวางมือบนอกตัวเอง "คุณคงทำงานอย่างหนักตลอดมา กดดันและเหนื่อยน่าดู คุณทำได้ดีจริงๆเลย"
ในครั้งนี้มันไม่ได้ยากอีกต่อไปที่จะยืนข้างเธอ พูดคุยกับเธอ และไม่ได้มีความคิดใดๆมากวนใจให้กังวลถึงเรื่องเว้นระยะความสัมพันธ์
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in