Get stuck #ลุกให้ขึ้น
ผมรู้สึกตัวได้สักพักแล้ว แต่ยังไม่อยากลืมตาตื่นผมยังไม่อยากรับความจริงของวันว่านับแต่นี้ไปผมจะไม่มีเขาแล้ว...นอนนิ่งหลับตาอยู่บนเตียงสุดท้ายผมก็ใช้แรงทั้งหมดที่มีพลิกตัวไปหาโทรศัพท์มือถือที่โยนไว้ข้างๆ เตียงก่อนนอนคว้าหยิบมันมามองเวลาที่แสดงบนหน้าจอ
เก้าโมงกว่า ผมไม่มีงานต้องรีบไปทำ หรือถ้ามีวันนี้ก็คงไม่อยากออกไปไหน
ผมนอนจมอยู่ในทะเลน้ำตาคราบหยาดน้ำเปรอะเต็มแก้มอย่างห้ามไม่ได้ คิดใหม่อีกที หรือผมควรออกไปข้างนอกดีกว่านอนจมอยู่แบบนี้
แม้มีเวลาให้นอนทั้งวัน แต่ผมคิดว่าตัวเองควรลุกขึ้นนอนคิดแต่เรื่องแย่ๆ ที่เกิดไปแล้วไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
เป็นความคิดที่ดี
ผมหลับตา
เห็นตัวเองลุกขึ้นจากเตียงกำลังเดินไปล้างหน้าล้างตา แล้วก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาผมงัวเงียแต่ก็ไปเปิดประตูต้อนรับใครสักคนที่อยู่เบื้องหลังแผ่นไม้สีเข้ม
เป็นเขา...
ผมดีใจ แทบร้องไห้ ไม่สิ ผมร้องไห้ไปแล้ว สะอึกสะอื้นอยู่ตรงหน้าเขาผู้ชายตรงหน้าวาดรอยยิ้มมาให้ โอบกอดผมบอกว่าไม่เป็นไรแล้ว ผมอยากกอดเขาสองมือยกขึ้น
คว้าจับได้เพียงอากาศ
ผมลืมตา
เห็นเพดานห้องและความเงียบเมื่อครู่ไม่ใช่ความจริง เป็นฝันที่แสนโหดร้ายและหลอกลวงผมควรจะลุกขึ้นอีกครั้งเพื่อไปชำระล้างร่างกาย เผื่ออะไรจะได้ดีขึ้น
เดินตรงไปยังห้องน้ำ
ผมกลับมานอนอยู่ที่เดิม
ในหัวหนักอึ้ง เริ่มสับสนว่าอันไหนจริงอันไหนลวงยากล่อมประสาทที่กินเมื่อคืนดูท่าจะออกฤทธิ์หนักเกินไป
แต่ผมรู้...ไม่ใช่ผลของยาเสียทีเดียว ผมรู้ว่าตัวเองไม่พร้อมเริ่มวันใหม่ถึงอย่างนั้นก็ได้แต่บอกตัวเองว่านอนต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา สมองสั่งการร่างกายไม่ทำงาน ผมหลับตาลง...
ได้ยินเสียงโทรทัศน์ดังลอดมากจากผนังข้างห้องได้ยินเสียงพูดคุยกัน ผมจับใจความไม่ได้ นอนฟังเสียงพวกนั้นอย่างเฉื่อยแฉะ
ผมลืมตา ไม่ได้มีเสียงอะไรทั้งนั้นเมื่อครู่ไม่ใช่ความจริงอีกครั้ง เกิดความรู้สึกขึ้นกับผม นี่มันบ้าอะไรกันตอนนี้ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังตื่นหรือหลับผมลืมตาแต่ไม่รู้ว่าภาพที่เห็นเป็นความจริงหรือลวงตา ผมเห็นร่างกายตัวเองขยับแต่ไม่รู้ว่ากำลังขยับจริงๆ หรือแค่เป็นจิตใต้สำนึกส่งภาพเหมือนออกมา
สำคัญยังไง...ในเมื่อผมกับเขาก็ไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิม
ต่อให้ผมไหลตายไปทั้งอย่างนี้ ก็คงไม่มีใครสนใจ
เขากับคนใหม่ของเขาคงไปกันได้สวยทิ้งขว้างความรู้สึกของผมไว้ข้างหลัง
อย่างนึกเสียใจ ผมเองก็เคยทำร้ายเขาเช่นกันเราต่างเคยขยี้ความรู้สึกกันจนเจ็บช้ำ แต่มันก็กลับมาสมานได้ใหม่ไม่รู้ว่าทำไมครั้งนี้ถึงไม่เหมือนที่ผ่านมา
อันที่จริงผมรู้ แค่ไม่อยากยอมรับมัน พยายามไม่คิดถึงเพื่อที่จะได้ไม่สร้างทะเลน้ำตา
เขาแค่หมดรัก
แต่ไม่ได้หมายความว่าความทรงจำที่เคยมีร่วมกันจะหายไปด้วยเหตุผลนี้กลับกัน ผมโดนความทรงจำที่เคยมีร่วมกับเขาทับโถมเข้าใส่จนหายใจไม่ออก
น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง
ครานี้ผมลืมตา คิดว่าเป็นการลืมตาจริงๆเมื่อได้ลองพลิกตัว ผมสัมผัสได้ถึงแขนและขาของตัวเองขณะขยับร่างกาย
เปลี่ยนจากท่านอนหงายเป็นนอนตะแคงจ้องไปในห้องที่ว่างเปล่าและเงียบสงัด
ควรลุกขึ้นได้แล้ว บอกตัวเองเช่นนั้นแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ผมปิดเปลือกตาและเห็นว่าตัวเองกำลังเดินไปนู่นมานี่รอบห้องนั่นไม่ใช่ความจริง ลืมตาได้แล้ว
ผมปวดหัวไปหมด สั่งการให้ตัวเองลืมตา พลันเห็นตัวเองกระดอนลุกจากเตียงวิ่งผุดเข้าไปในห้องน้ำ
ไม่ใช่ นั่นไม่ใช่ร่างกายผมภาพที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความจริง ผมยังสถิตอยู่บนเตียงนอนที่เดิม
หัวสมองเหนื่อยล้าเกินจะประมวลผล ผมอยากลุกอยากเริ่มต้นใหม่เสียที แต่ทำยังไงก็ทำได้เพียงหลับตาและลืมตา ใช้ร่างในจินตนาการสร้างเรื่องราวต่างๆวนไปมา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จริงหรือฝันล้วนลวงหลอกตัวเอง
ผมพยายามคิดว่าวันนี้มีอะไรต้องทำเพื่อที่จะได้มีแรงจูงใจในการตื่นมาใช้ชีวิตอย่างเช่นต้องรดน้ำต้นไม้ที่ริมระเบียง ต้นไม้ที่ผมไปเลือกกับเขามาปลูกที่ห้อง...ไม่น่าดึงดูดใจมากพอให้หลุดจากวังวนแห่งนี้
ต้องซักผ้า...เอาจริงหรือ สำคัญอะไรขนาดนั้นยังพอมีผ้าใส่นี่
ทำงานล่วงหน้าดีมั้ย อย่างน้อยจะได้ไม่ฟุ้งซ่านดูเข้าท่า
จนกระทั่งโทรศัพท์มือถือผมสั่นแจ้งเตือนข้อความเข้าชื่อแชทคุ้นตาทำให้ผมรีบเข้าไปอ่านโดยทันที เขาส่งข้อความมา เป็นอย่างไรบ้างไม่คิดมากนะ เดี๋ยวไปหา
ผมยิ้มทั้งน้ำตา เขายอมคุยกับผมแล้วไม่โกรธกันแล้วใช่ไหม ส่งข้อความตอบกลับเขาไป เขาตอบกลับมาทันที เราโต้ตอบข้อความที่มีแต่ความสุข
ผมสะดุ้งตื่น ไม่ใช่ความจริงอีกแล้วแถมเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้...
ผมไม่รู้ว่าเรียกมันว่าหลับได้มั้ย ในเมื่อสมองผมยังไม่ดับสนิทรับรู้ทุกเรื่องราวแม้ว่าจะไม่รู้ว่ามันเป็นความจริงหรือลวง
ผมไม่อยากสูญเสียเขาไป ผมไม่พร้อมจะอยู่ตามลำพังโดยไม่มีเขา
สมองสร้างเรื่องราวหลอกลวงให้ผมจมอยู่ในห้วงแห่งความฝันเหมือนคนตายทั้งเป็น มีลมหายใจแต่ไร้ชีวิตสัญชาตญาณการเอาตัวรอดบอกให้ผมลุกมาใช้ชีวิต หาอะไรอร่อยกินหรือหาอะไรสนุกๆ ทำแต่ผมกลับนอนแน่นิ่ง
สุดท้ายผมก็หลับไปอีกครั้งมีภาพตัวเองเดินไปหยิบหนังสือที่ซื้อมาตั้งแต่ปีที่แล้วออกมาอ่าน
แต่แล้วการนอนผิดท่าทำให้ผมต้องสะดุ้งตื่นปวดขาที่พาดทับหน้าแข้งอีกข้างอย่างรุนแรง ผมใช้เรี่ยวแรงอย่างมากเพื่อเปลี่ยนท่านอนให้สบายจ้องห้องนอนในสภาพเดิม หมดแล้วซึ่งความคิด
ผมจะนอนจนถึงเมื่อไหร่ก็ได้ ใครจะสน
หลับตาอีกครั้ง ความคิดหม่นหมองเข้าจู่โจมอีกครั้งเช่นกันผมทำร้ายความรู้สึกเขา แต่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยทำร้ายความรู้สึกผมเพียงแต่ผมไม่อยากให้เขารู้สึกแย่กับตัวเอง แล้วมันยังสำคัญอยู่หรือในเมื่อสุดท้ายเขาเลือกจากไป
ทิ้งให้ผมรับมือกับความคิดและทรงจำของตัวเองตามลำพัง
แต่เขาคงทนกับผมมามากพอแล้ว เขาคงเหนื่อยที่ต้องรับมือกับอารมณ์งี่เง่าของผมเต็มทน
สมควรแล้วที่จะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว
ผมรู้ว่ามันงี่เง่า แต่ให้ทำไงได้ ผมรักเขาและไม่สามารถเลิกคิดถึงเขาได้เพียงแค่ชั่วข้ามคืน
ในหัวหมุนเคว้งและหนักอึ้งฤทธิ์ของยากล่อมประสาทชักชวนให้ผมหลับนานกว่านี้ ผมอยากหลับโดยที่ไม่มีความคิดใดในหัวให้มันเป็นภาพสีดำ แต่สุดท้ายแล้วผมก็เลิกคิดถึงเขาไม่ได้
มันกลายเป็นแย่ลง ผมลุกขึ้นไม่ไหวติดอยู่บนเตียงนอน ในหัวคิดแต่เรื่องของเขาวนเวียน จิตใจถูกกัดกินมากขึ้นทุกที
มีแต่คำว่าถ้าในหัวถ้าผมไม่ทะเลาะกับเขาในวันนั้น ถ้าผมไม่ตัดสินใจบังคับเขาให้ไปด้วยกันในวันนั้นถ้าผมไม่พูดถึงเรื่องนั้น ถ้าผมใส่ใจความคิดเขามากกว่านี้ ถ้าผม...และถ้าผม...
มันจะช่วยให้อะไรดีขึ้นมา เรื่องมันเกิดไปแล้วผมย้อนเวลาไม่ได้ ถ้าไม่ทำแบบนั้นเรื่องอาจจะดีขึ้น แล้วยังไง สุดท้ายผมเลือกที่จะทำอีกอย่างโดยที่ไม่รู้ว่ามันสร้างบาดแผลในใจให้กับเขา มีแต่ทำให้เรื่องของเราแย่ลงทุกวันแย่ลงจนถึงวันแตกหัก ต่อให้มีคำว่าถ้าก็ไม่ช่วยให้เขาย้อนกลับมาหามีแต่ทำร้ายความคิดตัวเองซ้ำๆ
ความคิดตีกันในหัวจนผมเหนื่อย ร่างกายหนักอึ้งไร้เรี่ยวแรงจะลุกขึ้นจากเตียงและหยุดคิดเรื่องแบบนี้
หลับไป หลับไปตลอดกาลเลยได้ไหม
ไม่มีคำว่าถ้า...ไม่ ไม่มีเขา ไม่มีเรา ไม่มีผมมีเพียงความมืดสีดำปกคลุม ไร้ความคิด ไร้ความทุกข์ ไร้ความรู้สึกกลายเป็นเพียงเถ้าธุลีลอยไปในอากาศ
สุดท้ายผมก็ไม่สามารถเป็นเถ้าฝุ่นได้ในทันทีเมื่อเปิดเปลือกตา มือถือที่ผมถือค้างไว้บอกเวลาเที่ยงเวลาเดินผ่านไปเร็วจนน่ากลัวผมไม่อยากโทษว่าเป็นฤทธิ์ของยาที่ทำให้ผมก้าวข้ามเวลาเช่นนี้ ผมโทษตัวเองและมันควรเป็นเช่นนั้น
ถ้าจะมีใครหรืออะไรที่ผิดพลาด ก็คงเป็นผมเอง
จมดิ่ง ดำลึกลงไปเรื่อยๆในวังวงแห่งความรู้สึกผิดและเสียใจอย่างล้นท้น
เสียใจแล้วได้อะไรขึ้นมาผมบอกกับเขาแล้วว่าเสียใจ สุดท้ายเขาก็ไม่ใยดีความเสียใจของผมเลือกเดินจากไปในทางใหม่ที่ดีกว่า
สมควรแล้ว ใครๆ ก็ย่อมเลือกทางที่ดีกว่าอยู่แล้ว
ผมคงเป็นเรื่องราวแย่ๆ ในชีวิตเขา
แล้วถ้าอย่างนั้น...ทำไมผมถึงไม่เลือกทำสิ่งที่ดีกว่าการนอนคิดถึงเขาแบบนี้มันไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น ผมบอกตัวเองรอบที่ล้าน ในใจสั่งการให้ลุกขึ้นรอบที่หมื่นสุดท้ายผมเห็นแต่ภาพลวงของตัวเองที่ลุกขึ้น ทั้งๆที่ตัวเองยังคงนอนอย่างสิ้นเรี่ยวแรงเหมือนเดิม
หลับตา ลืมตา หลับตาและลืมตาใหม่อีกครั้ง
พลิกตัวนอนหงาย หลิกตัวนอนตะแคงแค่ขยับตัวผมยังเหนื่อยขนาดนี้ จะเอาแรงที่ไหนมาลุก
ไม่ไหวหรอก ผมทำใจกับการสูญเสียครั้งนี้ไม่ได้
แต่จะให้นอนต่อไปแบบนี้ก็ไม่ได้เหมือนกัน
ผมไม่รู้จะอยู่ไปเพื่ออะไรเมื่อเขาจากไปแล้วครอบครัวงั้นหรือ? พวกเขาอยู่ได้โดยไม่มีผม สัตว์เลี้ยงงั้นหรือผมไม่เลี้ยงตัวอะไร กินของอร่อยงั้นหรือตอนนี้คอผมแห้งผากแต่ไม่มีความรู้สึกอยากดื่มน้ำแม้แต่นิด ไปเที่ยวให้สนุกงั้นหรือผมไม่มีเงินขนาดนั้น
เขาผู้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวในชีวิตผมได้ตัดขาดเส้นใยเชื่อมโยงซึ่งกันไปแล้ว
แล้วผมจะทำอะไรได้อีก ไร้ที่พึ่งไร้ซึ่งที่ยึดเหนี่ยว จิตใจลอยเคว้งคิดถึงแต่เขาความเศร้าถาโถมเข้ามาใส่ซ้ำแล้วซ้ำแล้วนอนสำลักน้ำตาตัวเองไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งทั้งหมดเกิดขึ้นเพียงคืนเดียวและเช้าวันเดียว
มันแย่เอามากๆ แต่ผมไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไงให้ดีขึ้น
หัวผมหนักอึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ ที่คิดถึงเขาปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อหาทางออกไม่เจอในใจคิดสั่งการให้กินยากล่อมประสาทอีกสักเม็ดสองเม็ด เอาให้หนีพ้นจากความจริง
มันไม่ใช่ทางออก ผมรู้ จึงไม่คิดจะหยิบมันมากินเป็นเพียงความคิดชั่ววูบเท่านั้น
ตายงั้นหรือ อาจจะดีกว่า แต่ดีจริงหรือผมยังมีอะไรอีกมากมายให้ค้นหาและเรียนรู้ มีอะไรตั้งมากมายให้ทำแม้ปราศจากเขาแล้วก็ตาม
สุดท้ายก็หลับตาอีกครั้งครานี้ไมมีภาพตัวเองลุกขึ้นจากเตียงเดินไปมาเหมือนเมื่อครู่ดูเหมือนว่าผมจะเหนื่อยเกินไปที่จะสร้างภาพในจินตนาการหลอกตัวเอง
ไม่มีใครบอก ไม่มีสัญญาณอะไรเตือน
จู่ๆส่วนลึกในสมองก็สั่งการแค่เพียงว่าให้ลุกขึ้น
ไม่ต้องอยู่เพื่อใครหรืออะไรก็ได้อยู่เพื่อตัวเองก็พอ
ความโดดเดี่ยวที่ได้รับตอนนี้มันยิ่งใหญ่เกินรับไหวก็จริงไม่มีประโยชน์ที่จะนอนแช่อยู่อย่างนี้ อย่างน้อยก็แค่ลุกขึ้น
ลุกขึ้นเฉยๆ ก็ได้ลุกขึ้นแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
สมองส่วนมองโลกในแง่ดีของผมกล่าวเช่นนั้น
ผมลืมตา มองภาพเบื้องหน้าที่ยังคงเหมือนเดิมว่างเปล่าไร้แรงผลักดันให้ใช้ชีวิต
แต่สุดท้ายผมก็รวบรวมแรงทั้งหมดที่มี ชันตัวลุก ไม่รีรอโอ้เอ้อยู่บนเตียงเพราะกลัวว่าจะล้มตัวเองไปนอนใหม่อีกครั้งแล้ววังวนเดิมๆ ก็จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ผมรีบดีดตัว สองขาหยัดยืนอยู่บนพื้นห้องเย็นเฉียบ
ก็แค่นี้เอง แค่ลุกขึ้นมา
ตอนนี้อาจจะไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกแต่ก็ยังดีกว่านอนแช่อยู่อย่างนั้น
ดีแล้ว เริ่มต้นได้แล้ว ไปอาบน้ำเสียนะจากนั้นก็ไปหาอะไรกิน เริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่เหมือนปกติ แม้หัวใจจะขาดแหว่งแต่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้
ผมทำตามความคิด อาบน้ำเสร็จ ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นยังคงคิดถึงเขา แต่ก็ดีแล้วที่ได้ทำอะไร
ผมชงกาแฟร้อนๆ เป็นอาหารเช้าตอนกลางวันเปิดประตูระเบียงออกไปรับแสงแดด จ้องมองท้องฟ้าและหมู่เมฆที่ลอยตัวอย่างสดใสแสงอาทิตย์เจิดจ้าจนแสบตา
ตอนนี้อาจจะหาทางออกไม่เจอติดอยู่กับความทรงจำแห่งวันวาน แต่เมื่อถึงเวลาเราคงจะผ่านมันไปได้
ขอแค่ลุกขึ้นมาเท่านั้นเอง
END
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in