วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 - วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2565
ฉันเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยการส่งชิ้นงานที่พี่มดสั่งเมื่อสัปดาห์ก่อน นั่นคือการหารายชื่อเพจ กลุ่ม หรือ Influencer ที่เกี่ยวข้องกับหนังสือเด็ก ฉันก็พยายามตามล่าหารายชื่อมา ตอนแรกอ่านโจทย์ผิดด้วยซ้ำเพราะนึกว่าเอาที่เกี่ยวกับแม่และเด็กด้วย สุดท้ายก็ต้องมาแก้ไขรายชื่อเอาที่เกี่ยวข้องน้อยที่สุดออกไป
แต่การตามหารายชื่อครั้งนี้ก็ทำให้ฉันได้รู้จักบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเด็กมากมาย รวมถึงแหล่งซื้อหนังสือนิทานในราคาที่น่าสนใจ ถึงจะเป็นมือสองบ้างก็ยังอยู่ในสภาพที่ดี
หลังจากนั้นฉันก็ต้องทำการบ้านเกี่ยวกับการทำ Read-Aloud เพื่อนำไปเสนอพี่เมษ์และพี่มดในวันพฤหัส แต่ก็ไม่คิดว่าจะต้องนำเสนอในที่ประชุมด้วยนี่สิ!
ในวันนั้นก่อนเริ่มประชุมพี่มดก็ได้มอบหมายให้ฉันดูหนังสือของ Eric Carle เล่มหนึ่งเพราะเพื่อนของพี่มดแนะนำมาถ้าทุกคนไม่รู้จักหรือไม่คุ้นชื่อคุณนักเขียนและนักวาดคนนี้ ถ้าบอกว่าเป็นคนเขียนหนังสือเรื่อง “หนอนจอมหิว” ทุกคนจะรู้จักกันไหมนะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะแปะรูปไว้ด้านล่างให้ก็แล้วกัน
น่าเสียดายที่คุณ Eric Carle ได้เสียชีวิตไปแล้ว (เมื่อปีที่แล้วนี้เอง) แต่นี่ก็ทำให้ฉันได้รู้อีกอย่างหนึ่งว่า นอกจากเรื่อง“หนอนจอมหิว” แล้ว ประเทศไทยก็ไม่ได้นำนิทานเรื่องอื่นของเขามาแปลเลย ทำไมล่ะ!? ฉันว่าเขาออกจะดังมากเลยนะ! แต่ก็อาจจะเป็นเพราะหนังสือเล่มอื่นอาจจะมีพล็อตที่มีเยอะแล้วในตลาดก็เป็นได้…
เอาล่ะมาพูดเรื่องประชุมกันดีกว่า (ฮึบ ๆ หายใจเข้าออก) ตอนแรกฉันก็นึกว่าวันนั้นจะไม่ได้พูดเรื่อง Read-Aloud กับพี่เมษ์และพี่มดแล้วเพราะหาจังหวะไม่ได้เลย อีกทั้งวันนี้ทุกคนก็มีประชุมด้วย (และแน่นอนว่าฉันขอเข้าไปนั่งฟังเหมือนเดิม) วันนี้ได้เจอพี่เป็ดที่ครั้งที่แล้วไม่ได้เจอกันตรง ๆ ด้วย แอบกดดันนิด ๆ แต่เพราะบรรยากาศคนในออฟฟิศไม่ได้ตึงเครียดกันขนาดนั้นก็เลยผ่อนคลายได้บ้าง
ประชุมแรก ๆ ฉันยังคงมีสติอยู่ อาจเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับภาพ/กราฟิกด้วยส่วนหนึ่ง แต่พอเริ่มเข้าชั่วโมงที่ 2-3 สมองของฉันก็เริ่มเข้าสู่ภาวะสมองไหล หรือเข้าหูซ้ายทะลุหูขวานั่นแหละ สมองไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว เพราะทุกคนคุยกันไม่ค่อยได้พักเลย แอบคิดถึงตอนเรียนที่อาจารย์บางท่านยังให้พักเบรก 10-15 นาที
แต่ฉันก็ไม่คิดว่าจะโดนเรียกถามความเห็นจากพี่มดเรื่องหนังสือเกี่ยวกับการเดิน ซึ่งจะนำมาจัดกิจกรรมด้วย (ละมั้ง?) จำได้ว่าตอนนั้นตอบไม่ค่อยได้ความ ยังคงรู้สึกอายจนถึงตอนนี้ อยากดีดนิ้วทุกคนในห้องให้ลืมที่ฉันพูดไปให้หมด ไม่ก็ให้ตัวฉันเองนี่แหละสลายเป็นผุยผงไปเลย พอรู้ว่าตัวเองทำตัวน่าอายไปแล้ว จิตใจฉันก็เริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ฟุ้งซ่านกว่าเก่า แต่ก็ต้องเสนอเรื่อง Read-Aloud อีก อ่า…จบสิ้นแล้วตัวฉัน
แต่ว่าทุกคนก็รับฟังฉันดีมากเลย พี่เป็ดก็ชมว่าเอกวรรณกรรมสำหรับเด็ดผลิตบก. หนังสือเด็กมากมาย อยากฝากฝังฉันด้วย อยากขอบคุณมากค่ะที่ยังมองหนูที่เหมือนตัวแทนเอกในแง่ดีอยู่ TT
อันที่จริงเรื่อง Read-Aloud ฉันแอบไปลองทำแบบเปิดหน้ากระดาษใน AE จากไฟล์หนังสือที่พี่ ๆ เคยส่งให้ฉันด้วย แต่ก็ไม่กล้าพูดออกไปเพราะคิดว่าแค่ทดลองทำเฉย ๆ
ฉันนับถือทุกคนที่นี่มากเลย โดยเฉพาะเวลาประชุมกัน มันทำให้ฉันรู้ว่า นี่สินะ ‘ผู้ใหญ่’ ฉันจะเติบโตแล้วเก่งแบบนี้มั้ยนะ นึกภาพตัวฉันแบบนั้นไม่ออกเลยจริง ๆ
:O
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in