หลังจากเขียนเรื่อง Europe First Time เสร็จแล้ว ก็รู้สึกว่าชีวิตอยากจะเล่าอะไรอีกหลายอย่างเป็นอย่างมากหรือผมเสพติดการเขียนเล่าเรื่องราวอันนี้ก็ไม่แน่ใจนัก แต่คิดว่าอยากจะเปิดมุมมองใหม่ๆให้กับคนอื่น เพราะทุกครั้งที่ผมมีโอกาสได้อ่านฟังเรื่องราวของผู้เขียนหรือประสบการณ์จากคนอื่นก็มีความรู้สึกว่า เออ...ถ้าไม่ได้มาอ่านเจอก็คงไม่มีวันรู้ ทั้งๆที่เรื่องบางเรื่องแม่งก็รู้สึกว่าไร้สาระอะนะ แต่สุดท้ายก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่า บางอย่างมันมีอิทธิพลต่อจิตใจ ความคิดเราอยู่ประมาณหนึ่ง
มีอยู่เรื่องนึงที่ผู้อ่านไปอ่านเจอมารู้สึกจะอธิบายว่า อะไรที่ควรล้างก่อนกินหรือไม่ควรล้างก่อนกิน พอกดอ่านเข้าไปเหมือนตัวเองโดนมอมยา หลงกลเชื่อไปซะงั้น ณ ตอนนั้นคือมันก้ำกึ่งระหว่าง “จริงหรอวะ
แต่เรื่องที่ผมจะมาเล่ามันไม่เกี่ยวกับอะไรที่ควรล้าง ไม่ควรล้างก่อนกินแน่นอน แต่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่มันอาจจะชวนคนขำหรืออาจจะสมน้ำหน้าก็มิอาจทราบได้ ถ้าเป็นเรื่องที่ทำให้ใครเข้าใจอะไรกระจ่างขึ้นก็ขอยินดีด้วยจริงๆ แต่เอาจริงนะ ดูท่าแล้วเรื่องของผมมันออกแนวจะบ้าๆ ซักหน่อย เพราะมันคือห้วงความคิดของคนธรรมดาคนนึง หรือคนบ้าดีๆ ก็อาจจะเป็นไปได้
ก่อนที่จะเล่าต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าผู้เขียนเป็นเด็กที่เกิดมาในยุค 90
หรือบางทีอันนี้อยากจะเล่ามากเลยนะเพื่อนบางคนกว่าแม่งจะมาเป็นตุ๊ด ใครว่าการเป็นตุ๊ดคือเรื่องง่ายสมัยนี้มันอาจจะใช่นะ แต่เมื่อก่อนนี้ การเป็นตุ๊ด มันคือไม่ง่ายเลยต้องโดนเพื่อนแกล้ง โดนเพื่อนล้อสารพัด แต่อย่างว่าแหละเป็นตุ๊ดนะ ไม่ได้เป็นหวัดจะได้กินยาแล้วหาย นับถือตุ๊ดรุ่นก่อนมากๆ กว่าจะโตมาได้ คือต้องสตรองสุดๆ ตอนนั้นผมเห็นแล้วก็อดใจไม่ได้จริงๆที่จะสงสาร กลายเป็นตราบาปไปอีกว่าตุ๊ดแม่งคือสิ่งไม่ดี
นอกจากนี้แล้วก็คงจะอยากเล่าเรื่องประมาณว่ากว่าจะสอบติดมหาลัย, กว่าจะเรียนจบ, กว่าจะได้ไปต่างประเทศ, กว่าจะพูดภาษาอังกฤษได้ ฯลฯ ให้ตายเถอะโรบินชีวิตมนุษย์นี่ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบจริงๆ บทความของซีรีย์นี้จะนำเสนอแบบไม่เรียงไทม์ไลน์นะ อย่างง สับสน งงงวยละ แบบเมื่อวานยังเป็นเด็กวันนี้มึงบินไปญี่ปุ่นแล้วอะไรของมึงเนี่ย มันไม่ใช่อย่างงั้นนะเหวย มาๆเอาเป็นว่าคนเขียนนึกอะไรออกก็จะค่อยๆเขียนลงทีละเรื่องๆนะ จบในตอนถ้าไม่จบจะเขียนบอกเองว่าไม่จบ โอเคนะ ไม่ต้องงง มาอ่านเถอะ ผมขอ ฮ่าๆ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in