Title: The Birthday Party
Artist: Th 1975
Album: Notes On A Conditional Form (2020)
โอ้ย โอ้ย มาแล้วหลุดออกมาจาก Mindshower เพื่อมาเขียนสิ่งนี้ ก่อนอื่นเลยขอแนะนำเพลงนี้ The Birthday Party ผลงานเพลงที่ 5 จากอัลบั้ม Notes On A Conditional Form ของ The 1975 บทเพลงนี้ถูกปล่อยออกมาให้ได้ฟังกันเมื่อคืนวานที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่วันทางแอควงได้ลงทีเซอร์ของเพลง โดยในทีเซอร์ก็แนบลิงค์เว็บไซต์นึงมา นั่นก็คือเว็บ Mindshower.ai ในเว็บไซต์เป็นเหมือนสถานบำบัดที่จำลองในระบบดิจิตัล มีเสียงและข้อความให้กำลังใจ ข้อความในเชิงบวกให้ผู้เข้าชมได้อ่านและฟังเสียง โดยเป็นเสียงในระบบ AI เลย ถ้าใครเคยดู The 100 อาจจะแอบนึกถึง City of Light เลย55555
พูดถึงมิวสิควิดีโอเพลง The Birthday Party ก่อนเลย งานนี้ได้ผู้กำกับอย่าง Ben Ditto และศิลปินดิจิตัล Jon Emmony มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย โดยในมิวสิควิดีโอเพลงนี้มาในแบบดิจิตัลทั้งหมด ตั้งแต่โลกที่เนรมิตรขึ้นมา สรรพสัตว์ ตลอดจนตัวละครทุกตัว หรือแม้กระทั่งสมาชิกทุกคนใน The 1975 ถูกสร้างขึ้นมาเป็นตัวละคร 3D งานนี้แมตตี้บอกว่าต้องเข้าสตูสร้างเจ้าพวกนี้ 3-4 วันเต็ม ๆ เลย โดยคอนเซปของวิดีโอนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากจุดอ่อนหนึ่งของวัฒนธรรมในโลกอินเตอร์เน็ต ขอพูดโดยรวมก่อนว่าในมิวสิควิดีโอเพลงนี้จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอาการติดยาเสพติดที่แมตตี้เคยเป็นจนตัดสินใจเข้ารับการบำบัด ภาพความเป็นไปได้ที่จะเกิดระหว่างการบำบัดที่อาจจะทำให้รู้สึกอะไรบางอย่าง ตลอดจนจะได้เห็นความโดดเดี่ยวที่เกิดในโลกดิจิตัล และความสัมพันธ์กับทั้งคนอื่นและตัวเองผ่านวิดีโอสุดล้ำนี้
โดยตัวมิวสิควิดีโอ สามารถแบ่งเป็น 3 พาร์ทได้ ดังนี้
1. แมตตี้เข้ารับการบำบัด/ดีท็อกซ์ มีหุ่นยนต์ AI พูดต้อนรับ โดยตรงนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับตัวแมตตี้เองที่เคยเข้ารับการบำบัดอาการติดยาเสพติดที่ผ่านมา และอีกหนึ่งไอเดียก็คือ Digital Detox เป็นโลกจำลองแบบดิจิตัลแสดงภาพและความเป็นไปได้ว่าถ้าหากเราที่ต้องการจะดีท็อกซ์ตัวเองเนี่ยมันจะเป็นไปได้ในรูปแบบไหนถ้าเทคโนโลยีทำได้
2. ช่วงที่เข้ารับการบำบัด/ดีท็อกซ์ โดยจะเริ่มตั้งแต่เข้าไปใน Digital Detox ระหว่างทางที่พบเจอกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว โดยส่วนใหญ่ใน MV เราจะได้เห็นมีมหลาย ๆ มีมที่ทุกคนน่าจะเคยเห็นมาก่อน โดยตรงนี้นี่แหละที่บอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมบนอินเตอร์เน็ตอันนึงที่ชื่อว่า Incel Culture โดยวัฒนธรรมนี้ก็คือรวมกลุ่มคนพวกที่เป็น involuntary celibate หรือพวกคนที่ถือพรหมจรรย์โดยไม่สมัครใจ กล่าวง่าย ๆ คือพวกที่คิดว่าตัวเองไม่มีใครเอาเลยเป็นพวกที่จะไม่มีเพศสัมพันธ์ พฤติกรรมส่วนใหญ่คือโทษคนอื่นเพียงเพราะคิดว่าตัวเองเอื้อมไม่ถึงและไม่สามารถเทียบเคียงได้จนก่อเหตุรุนแรง โดยแมตตี้ให้เหตุผลว่าที่สนใจยกประเด็นนี้มา เพราะว่าโดยส่วนใหญ่มีมพวกนี้ก็มาจากเว็บไซต์ 4chan เว็บฝากรูปที่ใครก็ได้ที่จะเข้าไปวางรูปไว้แบบไม่เปิดเผยตัวตนกันได้ โดยแมตตี้เรียกมันว่าเป็น Dark Place เป็นที่ที่ไม่ดีเท่าไหร่ และมีโอกาสที่จะมาจากคนประเภทแบบที่ว่าก็ได้ แต่คนก็นิยมนำมาใช้กันในปัจจุบันอย่างแพร่หลาย สร้างความบันเทิงและเสียงหัวเราะ รวมถึงตัวเขาเองด้วยที่สนใจมีมมากจริง ๆ มีมที่เลือกมาใช้ใน MV ก็เลยเป็นตัวแสดงถึงหลาย ๆ อย่างทั้งเบื้องหลังที่มาจากแหล่งมืด และเบื้องหน้าที่คนกลับชอบ และมีมยังเชื่อมคนเข้าหากันได้ด้วย
3. ช่วงท้ายที่เป็นตัวแมตตี้จูบกับร่างโคลนของตัวเอง และเต้นรำปิด MV อย่างสวยงาม ตรงนี้อาจจะสื่อถึงการดีท็อกซ์ที่สมบูรณ์ แมตตี้ให้สัมภาษณ์ว่าอยากจะทิ้งปมเปิดไว้ให้กับฉากที่จูบตัวเอง เพราะอาจจะเป็นไปได้หลายแบบ แต่สุดท้ายก็บอกว่าฉากนี้เป็นเสมือน Self-reflection หรือการสะท้อนตัวตนของตัวเอง อย่างเช่นเวลาที่เราใช้โซเชียลมีเดีย เราก็เลือกได้ว่าจะเป็นตัวตนแบบไหน เหมือนกับว่าเรายอมรับตัวเองที่จะเป็นแบบนั้นได้ ฉากนี้ก็เป็นแบบนั้น และตัวอย่างในอีกมุมมองนึงจากคนสัมภาษณ์ก็บอกว่าอาจจะสื่อว่าเป็นพวกหลงตัวเองที่เอาแต่โพสต์รูปตัวเองลงโซเชียล หลงรักตัวเองมากอะไรแบบนั้น แมตตี้ก็เลยบอกว่าอยากเปิดให้คนคิดได้เลย55555555
** สรุปจากบทสัมภาษณ์ของแมตตี้จาก Dazed อ่านเอง คลิก
ขอพูดถึงเนื้อเพลงบ้าง อ๊าก พยายามเป็นอย่างมากที่จะเข้าใจแต่ว่าขอเขียนแค่ที่คิดว่ามั่นใจเอาไว้ก่อนนะคะ บางอันเกินความสามารถจริง ๆ เลย T___T เนื้อเพลงก็จะดำเนินไปเรื่อย ๆ เหมือนกับในเอ็มวีเลย มีบทบรรยายสลับกับมีบทสนทนากับคนอื่นไปจนจบเพลง เพลงนี้จะพูดถึงเรื่องต่าง ๆ ที่ตัวแมตตี้ไปเจอหลังจากที่รักษาเสร็จ แล้วได้กลับมาเจอเหตุการณ์แบบเดิมที่เคยเผชิญก่อนจะเข้ารับการบำบัด แต่จะเป็นอีกมุมมองแบบใหม่ที่เขาจะคิด (แต่ว่ามันดูสุ่มมาก ๆ อาจจะไม่ใช่ตามนี้ขออภัยไว้ตรงนี้เลยนะคะ)
LYRICS & TRANSLATION
Hello, there's a place I've been going
There's a place I've been going
Now I'm clean, it would seem
Let's go somewhere I'll be seen
As sad as it seems
I seen Greg and he was like
"I seen your friends at the birthday party
They were kinda fucked up before it even started
They were gonna go to the Pinegrove show
They didn't know about all the weird stuff
So they just left it" (So they just left it)
I was wasted (I was wasted)
And cold, minding my business
"Hello, there's a place I've been going, there's a place I've been going." หมายถึง Digital Detox ใน MV หรือจะเป็นสถานบำบัดอาการติดยาเสพติดที่แมตตี้เคยเข้าไปรักษาอยู่นานหลายอาทิตย์กว่าจะหายดี
"Now I'm clean, it would seem." คำว่า clean หมายถึง สภาวะนึงของคนเราที่รู้สึกบริสุทธิ์ สะอาด สุขภาพดีไร้มลทิน ตรงนี้พูดถึงหลังจากเข้ารับการบำบัด/ระหว่างการบำบัด
"They were gonna go to the Pinegrove show. They didn't know about all the weird stuff." นักร้องนำวง Pinegrove เคยถูกฟ้องเรื่องคุกคามทางเพศ (แนะนำให้หาอ่านเพิ่ม พิมพ์ไม่ไหวว)
Then I seen the girls and they were all like
"Do you wanna come and get fucked up?"
Listen, I got myself a missus, so there can't be any kissing
"No, don't be a fridge, you better wise up, kid
It's all Adderall now, it doesn't make you wanna do it"
"This ain't going well", I thought that I was stuck in Hell
In a boring conversation with a girl called Mel
About her friend in Cincinnati called Matty as well
You pulled away when I went in for the kiss
No, it wasn't a diss
You put the tap on to cover up the sound of your piss
After four years, don't you think I'm over all this?
"That's rich from a man who can't shit in a hotel room
He's gotta share for a bit"
You make a little hobby out of going to the lobby
To get things that they don't have
"แบบนี้ท่าจะไม่ดีเลย" ผมคิดว่าผมติดอยู่ในนรก
อยู่ในบทสนทนาน่าเบื่อหน่ายกับผู้หญิงที่ชื่อเมล
พูดเรื่องเพื่อนเธอในเมืองซินซินแนติที่ชื่อว่าแมตตี้เหมือนกับผม
เธอถอยออกตอนที่ผมจะเข้าไปจูบ
ไม่หรอก มันไม่ใช่การปฏิเสธ
คุณเปิดให้น้ำไหลเพื่อกลบเสียงฉี่ตัวเอง
หลังจากสี่ปีที่ผ่านมา คุณไม่คิดว่าผมอยากพอแล้วหรอ
"ความร่ำรวยจากผู้ชายที่อึในห้องที่โรงแรมไม่เป็น
เขาควรแบ่งคนอื่นซักหน่อยนะ" (?)
กิจกรรมยามว่างของคุณแค่ออกไปที่ล็อบบี้
แล้วขอในสิ่งที่พวกเขาไม่มีให้
Does it go through ya when I'm talking to ya?
You know that I could sue ya if we're married
And you fuck up again
Impress myself with stealth and bad health
And my wealth and progressive causes
Drink your kombucha and buy an Ed Ruscha
Surely, it's a print 'cause I'm not made of it
Look, the fucking state of it
I came pretty late to it
We can still be mates 'cause it's only a picture
All your friends in one place
Oh, we're a scene, whatever that means
I depend on my friends to stay clean
As sad as it seems
As sad as it seems
As sad as it seems
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in