Introduction

Sentimental Cafe Application ผลงานนักศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อยกระดับประสบการณ์ใหม่ให้กับร้านกาแฟสุดฮิปอย่าง Sentimental Cafe ด้วยความสะดวกที่ใช้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ผู้ใช้สามารถรับข้อมูลข่าวสารใหม่ๆจากทางร้าน รวมไปถึงการติดตามเมนูใหม่ๆ ที่ทางร้านได้สร้างสรรค์ขึ้นมา โดยสมาชิกกลุ่ม Sentimental Cafe Application นักศึกษาวิทยาลัยนวัตกรรม จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เล็งเห็นถึงความต้องการของร้านคาเฟ่ที่อยากให้ลูกค้าประจำหรือผู้มาใช้บริการใหม่ได้มีช่องทางติดต่อสื่อสารกับทางร้านที่สะดวก และสามารถเข้าถึงได้ง่าย เสมือนลูกค้ามีเมนูและทุกช่องทางการติดต่อจากทางร้านรวมกันอยู่ในที่เดียวอย่างแอปพลิเคชันในมือถือสมาร์ทโฟน

ทางทีมเราได้นำแนวคิดดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในโครงงานประจำรายวิชา Service Management and Innovation Seminar ของ ผศ.ดร.อาษา ตั้งจิตสมคิด โดยสมาชิกกลุ่ม Sentimental Application นักศึกษาชั้นปีที่ 4 วิทยาลัยนวัตกรรม หลักสูตรนวัตกรรมการบริการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ได้จัดทำแอปพลิเคชัน Sentimental Cafe ขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ

คุณเอ๊ะ เจ้าของร้าน Sentimental Cafe
ขอบคุณรูปภาพจาก https://themomentum.co/sentimental-cafe/

Application concept

ในการออกแบบแอปพลิเคชัน Sentimental Cafe ทางสมาชิกกลุ่ม Sentimental ได้ทำการติดต่อประสานงานเพื่อขอความร่วมมือจากทางร้าน และเพื่อขออนุญาตนำข้อมูลและรูปภาพจาก Social Media ของทางร้านมาใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน ซึ่งทางร้านได้ให้ผลตอบรับที่ดีและอนุญาตให้ทางทีมเราสามารถสร้างแอปพลิเคชันเกี่ยวกับทางร้านได้ โดยในส่วนของแนวคิดของแอปพลิเคชันที่เราได้สร้างขึ้นมา จะเน้นความเรียบง่าย ใช้งานง่าย ทำให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบายและความรวดเร็วในการรับข้อมูลข่าวสารของร้านผ่านทางแอปพลิเคชัน 

ภายในแอปพลิเคชันประกอบไปด้วยข้อมูลทั่วไปของทางร้านที่ผู้ใช้งานควรรู้ เช่น วันเวลา เปิด-ปิด ตำแหน่งที่ตั้งร้าน โดยจะมีฟังก์ชันเชื่อมต่อกับ Google Maps ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเดินทางไปยังร้านได้สะดวกมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงเมนูของทางร้านซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญอีกด้วย 

การสร้างแอปพลิเคชัน Sentimental Cafe มีจุดเริ่มต้นมาจากการนำแนวคิดความรู้ที่ได้จากหลักสูตร  “นวัตกรรมการบริการ” มาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงและธุรกิจในตลาด การทำแอปพลิเคชันจึงเป็นการต่อยอดและพัฒนาองค์ความรู้ในห้องเรียนให้ตอบสนองกับความต้องการของผู้ใช้บริการ อีกทั้งยังเป็นการสร้างและเน้นให้เห็นถึงความแตกต่างและจุดขายของทางร้าน พร้อมทั้งสามารถโปรโมทร้านไปในตัวอีกด้วย

จากการสอบถามทางร้าน ร้าน Sentimantal Cafe ต้องการช่องทางที่มากขึ้นในการกระจายข่าวเกี่ยวกับกิจกรรมของทางร้าน เนื่องจากทางร้านจะมีการจัดกิจกรรมในแต่ละเดือนพร้อมกับเมนูหรือเมล็ดกาแฟจากแหล่งใหม่ๆ ผู้ใช้งานก็สามารถรับทราบข่าวสารและดูเมนูใหม่ๆของทางร้านได้จากแอปพลิเคชันของทีมเรา สิ่งนี้จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการของทางร้านได้เป็นอย่างดี

หน้าตาแอปพลิเคชัน Sentimental Cafe และฟังก์ชันโดยรวม


Member

หากถามถึงสาเหตุที่เลือกร้าน Sentimental Cafe เป็นเป้าหมายหลักของการนำนวัตกรรมแอปพลิเคชันมาพัฒนาร่วมกันกับร้านค้า จุดเริ่มต้นเริ่มจากสมาชิกในทีมของเราคนหนึ่งรู้จักร้านกาแฟร้านหนึ่งในย่านเยาวราชที่มักจะเปิดเพลงแจ๊สเพราะๆ แถมยังบังเอิญรู้จักกับเจ้าของร้านดังกล่าวอย่าง พี่เอ๊ะ (ชนุดม พึ่งน้อย) พบว่าปัจจัยหลักของคาเฟ่ๆนึงที่จะประสบความสำเร็จมากขึ้นคือการมีลูกค้าประจำ ทำให้โปรเจ็คของเรา ถูกพัฒนาขึ้นผ่านความเข้าใจของเจ้าของร้านคาเฟ่ในมุมมองของคนรักคาเฟ่ ว่าจริงๆแล้วในมุมของลูกค้าประจำ(หรือขาจรก็ตาม)ต่างก็ต้องการประสบการณ์ใหม่ๆของร้านกาแฟ หรือแม้กระทั่งอยากทราบข่าวสารของร้านกาแฟร้านโปรด ในมุมของร้านคาเฟ่เองก็อยากให้มีลูกค้าประจำเยอะๆ และอะไรล่ะที่จะเป็นตัวเชื่อมลูกค้าและเจ้าของร้านให้สื่อสารกันง่ายขึ้น แอปพลิเคชันสำหรับให้ลูกค้าโหลดติดมือถือไว้จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่ลูกค้าจะได้ใกล้ชิดกับร้านมากขึ้นผ่านการแจ้งข้อมูลข่าวสารของทางร้าน ดังนั้นนอกจากเราจะเลือก Sentimental Cafe เป็นร้านที่อยากทำโปรเจ็คด้วยแล้ว ร้าน Sentimental Cafe เองก็เลือกเราให้เป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับการบริการในแง่มุมใหม่ๆแบบนี้เช่นกัน

ก่อนโปรเจ็คนี้จะสำเร็จไปได้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่พูดถึงสมาชิกในทีมที่ทำหน้าที่ต่างๆในแต่ละส่วน ตั้งแต่ขั้นตอนแรกอย่างการร่างรูปแบบโครงการ, การพัฒนาตัวแอปพลิเคชัน และการพูดคุยตกลงกับทางร้านเพื่อให้ได้แอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์ที่สุด

เราแบ่งหน้าที่กันเป็น 3 ทีม เพื่อให้การทำงานของเราชัดเจน ไม่ทับซ้อนกันและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยทั้ง 3 ทีมของเราประกอบไปด้วย ฝ่ายโปรดักชัน(Production), ฝ่ายเดเวลอปเปอร์(Developer) และฝ่ายประสานงาน(Co-ordinator) โดยทีมฝ่ายโปรดักชันของเรา 4 คนได้แก่ 1.ภัทรินทร์ รัตนอาสนรมย์ (เจน) 2.พิชญาภา สุวิยานนท์ (ฟาง) 3.ภูมิรพี ฐิติธนาวนิช (ปริ๊นซ์) 4.จิรนันท์ สีตะเสถียร (จูน)​

สมาชิกทีม Production

หลักๆแล้วฝ่ายโปรดักชันจะดูแลเกี่ยวกับงานเอกสารเป็นหลักโดยเริ่มนำไอเดียการประชุมมาร่างเป็นเอกสารเกี่ยวกับภาพรวมและจุดประสงค์โปรเจ็ค รวมถึงพัฒนาเอกสารสำคัญต่างๆอย่างเอกสารสัญญาชี้แจ้งข้อกำหนดต่างๆกับทางร้าน และเอกสารอื่นๆตั้งแต่เริ่มโปรเจ็คจนจบโปรเจ็ค

ส่วนอีกทีมอย่างฝ่ายเดเวลอปเปอร์ก็เป็นส่วนสำคัญหลักในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีฟังก์ชันในการพัฒนาและยกระดับการบริการให้กับร้านค้าเช่นกัน โดยสมาชิกในฝ่ายโปรดักชันนั้นได้ทำทั้งการวางเลย์เอาท์แอปพลิเคชัน การใช้ซอฟต์แว์เพื่อพัฒนาตัวแอปฯและยังเป็นผู้ทดสอบการใช้งานแอปพลิเคชันก่อนปล่อยให้ใช้งานจริงด้วยเช่นกัน ทั้งหมดนี้ฟังดูจะเยอะขั้นตอนมากๆ แต่สมาชิกในฝ่าย 2 คนได้แก่ 1.ธีรวิชญ์ พลวิชัย (คราม) 2.ธนิตา โชคเอี่ยมวิเชียร (แอน) ก็สามารถทำทุกขั้นตอนทั้งหมด จนแอปพลิเคชันออกมาสำเร็จในที่สุด

สมาชิกทีม Developer(ซ้ายและขวา) และ Co-ordinator(กลาง)

ในฝ่ายการทำงานสุดท้าย แม้ว่าการทำงานหลักของเรานั้นจะเป็นโปรเจ็คที่ต้องติดต่อและทำความเข้าใจกับแค่เพียงร้านค้า แต่การประสานงานในหลายๆส่วนก็มีรายละเอียดเฉพาะตัวมากๆ ไม่ว่าจะเป็นศัพท์ทางเทคนิคของการพัฒนาแอปพลิเคชัน หรือการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกับร้านค้าและหาข้อตกลงร่วมกันนั้นก็ยังคงต้องใช้ผู้ประสานงานที่ดี กลุ่มของเราเองได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในจุดนี้และไม่อาจละเลยไปได้ ณัฐชานันท์ พรบุญบานเย็น (รัช) สมาชิกเพียงคนเดียวของกลุ่มจึงได้ทำการประสานงานโปรเจกต์ตั้งแต่เริ่มจนจบ จนได้ผลลัพธ์ที่เป็นที่พอใจออกมาให้กับร้านในท้ายที่สุด