เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แลกเปลี่ยนก(ล)างยุโรปshibajournal
ทำไมถึงมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน
  • คิดจะเขียนตั้งแต่สอบไดัแล้ว แต่เพิ่งมาทำ wwwwww
    disclaimer: เรื่องค่อนข้างยาว เยิ่นเย้อ และออกทะเล 

    ตอนป.2 เราเริ่มสนใจประเทศสวีเดนจากเกม Minecraft เพราะคนสร้างเกมเป็นชาวสวีเดน
    หลังจากนั้นไม่นานห้างสัญชาติสวีเดนก็มาเปิดในไทย
    เวลาไปจะชอบดู ชอบอ่านชื่อสินค้าที่เป็นภาษาเค้า และที่ชอบที่สุดคือการกินอาหาร กินขนมสวีเดนที่ห้างขาย ถึงมันจะเป็น frozen food ก็เถอะ โดยเฉพาะมันบด เลยเป็นห้างที่ตอนเด็กชอบไปมากกกกกกกกกกกกกกกกกก 
    (ปัจจุบัน คนเขียนไม่ชอบไปห้างแล้ว และราคามันบดแม่งแพงขึ้นจนไม่รู้สึกอร่อยแล้ว ทำเองดีกว่า)

    พอขึ้นป.5-6 ได้เรียนวิชา social studies กับครูชาวสวีเดน
    แกเป็นคนที่เปิดโลกให้เด็กประถมมาก ทำให้เรารู้จักการไม่มีศาสนา (ผู้ใหญ่ชอบบอกว่าเป็นคนไทยต้องนับถือศาสนา เอ่อ แต่คุณบังคับเราเชื่อตั้งแต่เกิด) 
    เป็นครูที่ friendly และ encourage นักเรียนมาก ๆ ตอนนั้นก็ได้เล่นเกม Minecraft กับครูด้วย lol
    ได้ซึมซัมความเป็น scandinavian จากครูเค้าเยอะ มีช่วงนึงครูเอาอักษรรูนมาให้ดู แทบจะไปหัดเขียน

    ม.1 ย้ายโรงเรียน
    เวลาเดินผ่านห้องพักครูภาษาต่างประเทศ จะเห็นบอร์ดเกี่ยวกับการไปแลกเปลี่ยนอยู่เสมอ (โรงเรียนเป็นศูนย์ประสานงานของโครงการแลกเปลี่ยน ส่วนบอร์ดติดไว้ตั้งนานแล้ว ไม่เคยเปลี่ยน)
    ไม่นานนักครูสอนภาษาอังกฤษก็มาประชาสัมพันธ์ให้ไปลอง pre-test ข้อสอบแลกเปลี่ยนดู
    ไปดิครับรอไร ตอนนั้นคิดว่าตัวเองเก๋าประมาณนึงนะ พอทำข้อสอบเลยถ่อมตัวลงมาก แต่ยังสมัครจริงไม่ได้ ต้องอายุเกิน 15 ก่อน 

    หลังจากนั้นก็คิดว่า ฉันนี่แหละจะไปแลกเปลี่ยน ฉันยังไม่เคยไปต่างประเทศเลยฉัน จะ ไป สวีเดน ให้ได้!!
    โหลดแอพมาเรียนภาษาสวีเดนด้วย แต่เรียนได้แปปเดียวก็ล้มเลิกไป (ถ้ามีเวลาอยากเรียนอีก) 
    หลังจากนั้นก็ไม่ทำไร เล่นเกม ซ้อมเปียโนไปวัน ๆ เรียนภูมิศาสตร์ก็สนใจยุโรปโซนนี้เป็นพิเศษ อยากไปที่ที่เป็นภูมิประเทศแบบ fjörd ให้ได้สักครั้ง
    พอ ม.3 เพื่อน ๆ ไปสอบแลกเปลี่ยนกัน ไอเราก็สอบได้แต่ pre-test เหมือนเดิมเพราะอายุไม่ถึง

    ก่อนหน้านี้ชิลเกินเลยสอบเข้าม.4 ไม่ติด พอประมาณเดือนเมษา พฤษภา เริ่มหาโจทย์ภาษาอังกฤษมาทำ หนังสือติวสอบดัง ๆ อะแหละ เขียนสรุปแกรมม่า เปิดเทอมมาก็รีบไปสมัคร ซื้อข้อสอบเก่ามาทำ ทำทุกชุดที่มี 5 ชุด ชุดละร้อยข้อ จับเวลา นับคะแนน จดว่าข้อนั้นผิดอะไร จดศัพท์ที่ไม่รู้ แถมเปิดเทอมแล้วมีการบ้านเยอะอีก (ตอนสอบเข้าม.1 ม.4 ไม่เคยจับเวลาทำข้อสอบเลย)

    ความจริงเราว่าการฝึกภาษา ควรฝึกสกิลฟังพูดอ่านเขียน ใช้จริง ๆ มากกว่าฝึกทำแต่ข้อสอบ แต่ตอนนั้นมันใกล้สอบเลยเลี่ยงไม่ได้ ต้องหัด manage ให้ทำทัน 100 ข้อ ในสองชั่วโมงด้วย เป็นปรนัย แต่ต้องฝนแถม passage ก็ยาวใช้ได้

    มาถึงสนามจริงแล้ว! เราทำทัน โชคดีที่ปีนั้นง่ายกว่าข้อสอบเก่าที่ทำมาทุกชุด section ที่หินสุดก็ error (มี 10 ข้อ) และแล้วเราก็สอบผ่านข้อเขียน

    หลังจากนั้นก็เป็นการสมัครสอบสัมภาษณ์ต่อ กรอกเอกสารเยอะประมาณนึง ทำในเว็บ+ขอเอกสารบางส่วนจากโรงเรียน มีให้ตอบคำถามที่แสดงทัศนคติด้วย (ไม่รู้ว่าเขาเอามาเป็นเกณฑ์ไหม) แต่นั่นเป็นแต่จุดเริ่มต้น 
    สิ่งที่น่าสนุกสุดคือ การเลือกประเทศ 3 อันดับ + เลือกภาคพื้นทวีป
    ใต้ = เดินทางต้นปี (ม.ค.-มี.ค.) และ เหนือ = เดินทางปลายปี (ส.ค.-ต.ค.) 

    ฉัน จะ ไป สวีเดน gogo เลือกอันดับ 1 แน่นอน
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ไม่มีสวีเดนให้เลือก เอ้า ทำไมวะ (มีคนบอกว่าเป็นปัญหาภายในโครงการ)
    งั้นเลือกญี่ปุ่นละกัน เรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ด้วย
    ชอบ jpop โดยเฉพาะ 46/48 group มากกกกกกกกก I want you I need you I love you 日本
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ไม่มีให้เลือกอีกแล้วจ้าสหาย ไปที่ไหนดีละเนี่ย แต่ละประเทศมีเกณฑ์ที่ต่างกัน เราอายุไม่ถึงหลายประเทศด้วย ตอนแรกจะเลือกฟินแลนด์ที่อยู่โซนเดียวกัน แต่แม่ไม่ให้เลือกกลัวเราอยู่ที่หนาวไม่ได้ (?)
    สุดท้ายเราก็เลือก เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ตามด้วย USA

    จากนั้นอ่านกระทู้ ดูคลิปรีวิวการสอบสัมภาษณ์แทบจะทั้งหมดที่หาได้ ส่วนมากบอกว่าสอบเป็นภาษาอังกฤษ เราก็เตรียมว่าจะพูดอะไรไป เขามีให้แสดงความสามารถพิเศษถ้าทำได้ เรายกเปียโนไปไม่ได้เลยเตรียมวิดีโอเล่นเปียโนไปเปิดให้กรรมการดู

    วันสอบสัมภาษณ์ก็มาถึง (เราสอบปี 2562 ก่อนโควิด สัมเต็มวัน)
    เข้าแถวรวมสันทนาการสักครึ่งชั่วโมง แล้วก็แบ่งกลุ่มขึ้นห้องสัมภาษณ์ กลุ่มละ 12 คน
    ภาคเช้าจะเป็นการทำกิจกรรมกลุ่ม แต่ก่อนเริ่มจะมีคำถามจิตวิทยาให้ตอบภายใน 5 หรือ 10 นาทีนี่แหละ ตามด้วย ice breaking และแสดงบทบาทสมมติกลุ่ม ภาษาอังกฤษจากสถานการณ์ที่กำหนดให้ เป็นพวกวัฒนธรรม

    **กรรมการมี 3 คน อาจารย์รร.เรา 1 คน อาจารย์จากที่อื่น 1 คน พี่ returnee อีก 1+1 คน
    จากนั้นก็กินข้าว ต่อสัมภาษณ์เดี่ยวภาคบ่าย
    เขาจะสุ่มว่าใครได้ก่อนได้หลัง เราได้เกือบท้ายสุด

    เข้าห้องสัมภาษณ์ไป ได้ introduce myself เป็นภาษาอังกฤษ เราบอกเขาไปว่าเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่
    ครูพูดต่อประมาณว่า 自己紹介 อะไรสักอย่าง ลืม
    (อ่าว ซวยกุละตอนนั้นไม่รู้แปลว่าอะไร ครูเขาสอนญี่ปุ่นนี่หว่า)
    แต่เราถามเขาและเขาก็บอกให้แนะนำตัวเป็นภาษาญี่ปุ่นให้ฟังหน่อย ก็พูดไป w
    และก็เปิดวิดีโอที่เตรียมมาให้กรรมการดู (เล่นเปียโน für elise -_-) แต่เค้าดูไม่จบหรอกเพราะมันยาว เดี๋ยวเสียเวลา

    จากนั้นโดนถามภาษาไทยล้วน ๆ เลย เป็นคำถามเชิงตัดสินใจ คิดว่าข้อดีข้อเสียคืออะไร การเป็นผู้นำ ความภาคภูมิใจ สนใจวัฒนธรรมอะไรที่ตะวันตก จำได้ประมาณนี้แหละ อยากจะเอนเกจอะไรกับสังคมเค้า เราตอบเรื่องเทศกาล Christmas ไป

    และแล้วก็กลับบ้านได้! รอผล ออกวันสอบกลางภาควันที่ 2 ได้ตัวจริง ไปโปแลนด์จ้า
    แต่ตั้งแต่เลือกไป เราอยากได้อันดับ 2 ที่สุดอยู่แล้ว w

    เจอกันใหม่ในตอนหน้า ขอลาไปเตรียมเอกสารละ เอ้ย ไปนอนก่อน
    ไว้ก่อนบินจะมาเขียนขั้นตอนหลังสอบได้และตัดสินใจว่าจะไป (สอบได้ตอนปี 62 เจอโควิดเลยเดินทาง 64) ถ้าใครมีคำถาม ทักไปถามใน IG: benkyoushiba ได้เสมอฮะ!

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in