เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I call you "Happiness"Fairyyyyy
ทาสแมว 101

  • ทุกคนวางแผนอนาคตกันไว้อย่างไรในอีก 10 ปีข้างหน้า?



    เป็นคำถามที่ตอบได้ง่ายดายสำหรับใครหลายๆ คน และก็ตอบได้ยากมากสำหรับคนอีกหลายกลุ่ม
    แต่สำหรับเรา คำตอบที่ชัดเจนที่สุดขณะนี้คือ "อยู่กับแมวที่ชื่อโบ๊ะบ๊ะไปอีก 10 ปี"



    โบ๊ะบ๊ะ เป็นเด็กผู้หญิงเชื้อชาติ(น่าจะ)ไทยร้อยเปอร์เซ็น เดินทางมาจากจังหวัดระยองสู่เขตปริมณฑลอันวุ่นวาย การพบกันระหว่างเราและน้องคงเรียกว่าโชคชะตาหรือพรหมลิขิตไม่ได้ เพราะเราเป็นคนเลือกน้องเอง

    เราชอบแมวส้มและอยากได้น้องตัวเมีย เพราะคิด(ไปเอง)ว่าหลังทำหมันแล้วน้องจะไม่ดุ และฟ้าก็เป็นใจให้ในบรรดาพี่น้องที่เกิดมาพร้อมกัน โบ๊ะบ๊ะเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนเพียงหนึ่งเดียว

    ชื่อ โบ๊ะบ๊ะ มีที่มายังไง?

    ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ พี่สาวแค่อยากได้ชื่อภาษาไทยที่สะดุดหู ซึ่งในรอบตัดสินมีผู้เข้าแข่งขันด้วยกัน 2 ชื่อคือ โบ๊ะบ๊ะ และ ตุ้งแช่ โดยการตัดสินรอบสุดท้ายวัดจากการเรียกชื่อพยางค์เดียวแล้วเข้าปากมากที่สุด ทำให้ อีโบ๊ะ เอาชนะ อีตุ้ง ไปได้แบบฉิวเฉียด

    ตลอดชีวิตการเป็นทาสแมว ประสบการณ์การเลี้ยงแมวแบบปิดเท่ากับศูนย์ เพราะที่ผ่านมาเราเลี้ยงแบบปล่อยมาตลอดเนื่องจากบ้านอยู่ต่างจังหวัดที่ค่อนข้างสงบกว่าเมืองโรงงานแห่งนี้

    ช่วงเดือนแรกคงสาหัสที่สุด พ่อแม่ (พี่สาว+แฟน) แทบไม่ได้หลับได้นอน ให้คิดภาพของเด็กอ่อนเพิ่งคลอด เราคิดว่าไม่ต่างกัน น้องยังเล็กและโดนแยกจากแม่แมวก่อนจะหย่านม ทำให้ทุกอย่างต่อจากนี้เจ้าลูกแมวตัวจ้อยจะกลายเป็นลูกคนอย่างสมบูรณ์

    ดื่มนมจากขวด เข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำ กินอาหารเปียก กินอาหารเม็ด
    ทักษะในการดำรงชีวิตทุกอย่างของแมวถูกฝึกโดยคนทั้งหมด ความรู้สึกตอนนั้นคือเหนื่อย เราไม่เคยเลี้ยงแมวทุกขั้นตอนแบบนี้มาก่อน แล้วด้วยความที่น้องเป็นเด็ก ความดื้อ ความยากในการดูแล เรียกว่าทะลุปรอท

    มีหลายแวบที่คิดว่าตัดสินใจผิดหรือเปล่าที่เอาน้องมาเลี้ยง เหมือนเพิ่มภาระให้ตัวเอง แค่ทำงานก็เหนื่อยจะแย่แล้ว ยังต้องมารบกับแมวเด็กที่บ้านทุกวันอีก ทำไมถึงหาเรื่องให้ตัวเองขนาดนี้นะ

    แต่มันก็เป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ เหล่าทาสแมวทุกคนคงเข้าใจความรู้สึกนั้นดี ต่อให้น้องจะดื้อ โวยวาย จนหัวคนเป็นทาสแทบลุกเป็นไฟ แค่น้องเดินมาทิ้งตัวโชว์พุงอ้วนๆ ให้เกา

    Game over

    อืม...จุดจบทาสแมว

    ปัจจุบันโบ๊ะบ๊ะอายุ 1 ขวบกับอีก 3 เดือน
    เวลาหนึ่งปีนิดๆ ที่ผ่านมามีหลายอย่างเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ทางการเมืองภายในประเทศที่ร้อนระอุ สถานการณ์โรคระบาดทั่วโลก ที่ทำให้หลายๆ คนแทบหมดกำลังใจในการใช้ชีิวิต

    เราก็เป็นคนหนึ่งที่หยุดฝัน หลังจากขายวิญญาณให้กับระบบทุนนิยมอย่างเต็มตัว ก็ใช้ชีวิตให้หมดไปวันๆ อย่างไร้จุดหมาย ชีวิตหลังความตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัวสำหรับเรา หากพรุ่งนี้ต้องหายไปเราก็คงไม่เสียใจ

    การมีอยู่ของโบ๊ะบ๊ะทำให้เรารู้ว่า มีใครรอเรากลับบ้านเสมอ

    ก่อนที่น้องจะมาอยู่ด้วยเรามักบอกคนอื่นว่าภาพในอนาคตที่เราเห็นชัดที่สุดของตัวเองคือ มีเราและแมว ซึ่งดูเหมือนว่านี่จะเป็นเป้าหมายเดียวของชีวิตเราที่เหลืออยู่ มันดูน่าหดหู่และน่าสิ้นหวังอย่างบอกไม่ถูก ไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?

    แต่ปัจจุบัน ในวันที่เหนื่อย ท้อ หรือหมดกำลังใจ แค่กอดเจ้าหมูตัวส้มก็เหมือนได้รับพลังงานในการใช้ชีวิตต่อแล้ว จากแมวตัวจิ๋วที่มีแต่ความวุ่นวายในวันนั้น กลายเป็นขุมพลังอันมหาศาลที่คอยเติมพลังชีวิตให้มนุษย์คนหนึ่งมีแรงที่จะออกไปใช้ชีวิต มีแรงที่จะกลับมาฝันให้ใหญ่ขึ้น ขอบคุณนะโบ๊ะบ๊ะ

    แมวที่เคยเลี้ยงในช่วงเวลาที่ผ่านมามีอายุเฉลี่ยสูงที่สุดอยู่ที่ประมาณ 14-15 ปี เราจึงหวังว่าโบ๊ะบ๊ะเองก็คงจะอยู่จนถึงตอนนั้น ในอีก 14 ปีข้างหน้าจะยังมีแมวแก่วัย 14 ปี อยู่เคียงข้างเราที่ขณะนั้นคงจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัวแล้วจริงๆ

    เราไม่ชอบสัญญา เพราะการสัญญาสำหรับเราเหมือนเป็นการผูกติดกับอนาคตที่ไม่มีอะไรแน่นอน แต่การมีอยู่ของโบ๊ะบ๊ะ ทำให้เราอยากลองสัญญาดูสักครั้ง

    สัญญาว่าจะดูแลโบ๊ะบ๊ะให้ดี
    จะอยู่ด้วยกันไปจนกว่าโบ๊ะบ๊ะจะกลับไปดาวแมวเหมียว



    .



    ถึงเหล่าทาสแมวทั้งหลาย

    คุณเป็นทาสที่เก่งมาก การดูแลเจ้านายในแต่ละวันไม่ใช่เรื่องง่าย และการดูแลตัวเองให้สามารถมาดูแลเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน หากวันใดที่เหนื่อยและท้อ ให้คิดถึงค่าอาหารเม็ด ค่าทรายแมว และขนมแมวเลียเข้าไว้ เมื่อนั้นคุณจะพบเป้าหมายของการมีชีวิตอยู่มากขึ้น

    คุณจะฝันได้ใหญ่ขึ้นเมื่อได้รับพลังงานจากเจ้านาย
    หากวันใดที่คิดว่าคุณนั้นห่วยแตก แม้วันที่ทุกคนบนโลกหันหลังให้คุณ แต่จะมีเจ้านายที่บ้านรอคุณกลับไปให้อาหารและป้อนขนมเสมอ คุณจะกลายเป็นคนที่เก่งและสำคัญที่สุดในโลกของเจ้านายตัวนี้

    แต่ ... แมวเป็นสิ่งมีชีวิต มีความรู้สึก

    การรับน้องเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณไม่แตกต่างจากการให้กำเนิดเด็กคนหนึ่ง
    อาจกล่าวขำๆ ได้ว่าหากคุณสามารถเลี้ยงแมวได้จนตลอดรอดฝั่ง คุณก็พอจะมีคุณสมบัติในการเลี้ยงเด็กมนุษย์สักคนได้ เพราะไม่ว่าจะสิ่งมีชีิวิตชนิดใดก็ล้วนแต่ต้องการความรัก ความใส่ใจ รวมถึงความรับผิดชอบต่อชีวิตของเขาจากเราทั้งสิ้น

    ขอให้ตอบแทนพลังงานบวกที่ได้รับจากเขา ด้วยความรักและความใส่ใจของเรา
    เราอาจจะมีสังคมภายนอกอีกมากมาย แต่พวกเขามีแค่เราเท่านั้น



    ขอให้คุณเจ้านายมีความสุข
    เท่านั้นทาสก็สุขใจ






    cover photo by Dimitris Vetsikas from Pixabay
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in