เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Juveniliaผู้เฝ้ามอง
[Marvel] Across the Multiverse (Kang the Conqueror x OC)



  • เรื่องราวทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากความฝัน


    เมื่อไรก็ตามที่นาธานเนียล ริชาร์ด เข้าสู่ห้วงนิทรารมย์ เขาจะฝันถึงใครคนหนึ่งอยู่เสมอ


    ทุกความฝันไม่เคยเหมือนเดิมสักครั้ง สถานที่เปลี่ยนแปลงและสถานการณ์ก็แตกต่างกัน เป็นฝันร้ายบ้างดีบ้างสลับกันไป แต่เธอในความฝันของเขายังเป็นคนเดิมเสมอ


    บางครั้งหล่อนก็ยิ้มให้กับเขา มอบจุมพิตและกระซิบกระซาบบอกรักแสนหวาน—บางครั้งหล่อนก็ร้องไห้อ้อนวอนเขา ‘ได้โปรดอย่าทำอย่างนั้นเลยที่รัก’ หล่อนพูด และเขาก็ไม่มั่นใจว่ามันหมายความว่าเช่นไร—บางครั้งหล่อนก็กลัวเขา พยายามจะหนีผ่านประตูบานใหญ่ ในขณะที่เขาไล่ตามหล่อนสุดชีวิต ‘กลับมาเดี๋ยวนี้!’ ในฝันเขาตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด หล่อนไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง—บางครั้งหล่อนก็โกรธแค้นเขา สบถสาบานต่อหน้าเขาด้วยดวงตาวาวโรจน์ว่าจะต้องฆ่าเขาให้จงได้


    และไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นไปอย่างไร ทุกความฝันจะต้องจบลงด้วยการที่เธอคนนั้นหายไปจากเขาเสมอ


    และสิ่งที่หลงเหลือเมื่อยามตื่นนอนก็คือความเจ็บปวดร้าวรานอย่างยากจะอธิบายที่ติดตรึงอยู่ในดวงใจของเขา


    นับตั้งแต่นั้น นาธานเนียล ริชาร์ดก็หมกมุ่นกับความฝันเสมอมา


    ความฝันจัดเป็นเรื่องราวลึกลับทางวิทยาศาสตร์ คือปริศนาซึ่งยังไม่มีการค้นพบใด ๆ นอกจากทฤษฎีคาดเดาในสารพัดตำราเท่านั้น นั่นเป็นเพราะนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่(รวมถึงเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกับเขา)เชื่อว่าความฝันเป็นเพียงแค่จินตนาการจากจิตใต้สำนึกที่ก่อร่างสร้างขึ้นมาจากองค์ประกอบของความทรงจำเก่าเก็บ ไม่ได้มีสาระสำคัญที่ควรค่าแก่การศึกษาเพื่อโลกใบนี้เท่ากับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติหรือการประยุกต์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในอนาคตข้างหน้า


    แต่นาธานกลับคิดตรงข้ามกับทุกคนในชีวิตของเขา ชายหนุ่มเชื่อว่าความฝันทั้งหมดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง และที่แน่นอนกว่านั้น เขาเชื่อว่าเธอมีอยู่จริง อาจไม่ใช่ในโลกที่เขาอยู่ แต่อาจเป็นมิติ ดินแดนหรืออะไรก็ตามที่อยู่เหนือขอบเขตความเข้าใจของมนุษย์ในขณะนี้ และทางเดียวที่เขาจะล่วงรู้ความลับของฝัน รวมไปถึงตัวตนของเธอ เขาจำเป็นที่จะต้องศึกษาถึงมันให้ถ่องแท้


    ปีแล้วปีเล่าที่ผ่านพ้นไปอย่างยากลำบาก ความล้มเหลวและคำดูถูกนานัปการในแวดวงวิทยาศาสตร์ที่ต่างหัวเราะเยาะนาธานเนียล ริชาร์ดลับหลัง ขนานนามเขาว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องเพ้อฝันผู้หวังจะสร้างความยิ่งใหญ่จากสิ่งเหนือธรรมชาติเฉกเช่นวิกเตอร์ แฟรงเกนสไตน์[1] ไม่มีใครสักคนเชื่อว่าเขาจะทำมันได้สำเร็จ แต่นาธานก็ยังมุ่งมั่นตั้งใจอย่างไม่ย่อท้อ


    ในที่สุดความสำเร็จก็บังเกิดขึ้นได้ในอีกหลายสิบปีให้หลัง นาธานเนียล ริชาร์ดได้ค้นพบความลับของจักรวาลอันยิ่งใหญ่เหนือกว่าที่นักวิทยาศาสตร์คนใดในโลกนี้จะเคยค้นพบ นั่นก็คือการมีอยู่ของพหุจักรวาล โลกในคู่ขนานและตัวแปรอื่นซึ่งมีเรื่องราวชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ทว่าความทรงจำทั้งหมดได้เชื่อมโยงซึ่งกันและกันด้วยเชือกเส้นบางที่เรียกว่าความฝัน ความฝันจึงไม่ใช่เพียงแค่จินตนาการที่เกิดขึ้นมาในหัวอย่างที่หลายคนคิด  แต่คือหลักฐานสำคัญที่พิสูจน์ได้ถึงตัวตนอื่นซึ่งดำรงอยู่ในจักรวาลอื่นที่ห่างไกลออกไปนั่นเอง


    การค้นพบครั้งนี้นับได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของมนุษยชาติอย่างแท้จริง แต่นาธานกลับไม่ได้สนใจมนุษยชาติเลยสักนิด สิ่งเดียวที่ชายหนุ่มปรารถนาเสมอมาคือการได้พบกับเธออีกครั้ง ไม่ใช่ในความฝัน แต่คือโลกความจริง โลกที่เป็นของเขาเอง


    เขาตกหลุมรักผู้หญิงในความฝัน ทั้งที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนเลยด้วยซ้ำ


    นาธานใช้เวลาอีกหลายปีต่อมาในการสร้างสิ่งที่เรียกว่า 'โพรงกระต่าย’ ซึ่งเป็นช่องทางที่ใช้ในการเชื่อมโยงเส้นทางแต่ละพหุจักรวาลเข้าด้วยกัน มันอยู่ในช่วงการทดลองขั้นสุดท้าย โดยที่ชายหนุ่มก็ไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่ามันจะได้ผลหรือไม่ แต่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ประเมินค่าไม่ได้ และนาธานพร้อมจะเสี่ยงหากนั่นทำให้เขาได้พบสิ่งที่ตามหา—เธอ


    และในตอนนั้นเองที่เธอปรากฏตัวขึ้นมาจนได้


    เหมือนกับแอปเปิลที่หล่นใส่หัวของเซอร์ไอแซค นิวตัน และทำให้เขาได้ค้นพบทฤษฎีแรงโน้มถ่วง บางครั้งวิทยาศาสตร์ก็คือความบังเอิญที่เหมาะเจาะราวกับถูกจัดวางไว้ นาธานคิดเช่นนั้นในตอนที่ผู้หญิงในความฝันโผล่พรวดพราดจากโพรงกระต่าย และร่วงหล่นใส่อ้อมแขนของเขา


    ชายหนุ่มสูดลมหายใจแรง สั่นสะท้านอย่างตื่นเต้นยินดี มือข้างหนึ่งไล่สัมผัสใบหน้าของหญิงสาวที่ยังไม่ได้สติอย่างแผ่วเบาและระมัดระวัง ทั้งตา หู จมูก ปาก ทุก ๆ อย่างที่เหมือนกับที่เขาเห็นในฝัน ราวกับต้องการย้ำเตือนว่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในอ้อมแขนยามนี้ คือความจริงไม่ใช่ความฝันอย่างที่ผ่านมา


    แต่มันเป็นความจริง เธออยู่ตรงนี้จริง ๆ




    ═════════════════════════




    “ถอยออกไปเดี๋ยวนี้!”


    มีดทำครัวแวววาวสะท้อนแสงเป็นประกาย เธอจ่อมันมาตรงหน้าเขา ดวงตาเบิกกว้างระแวดระวัง


    นาธานยกมือทั้งสองข้างขึ้นทันที เขารีบถอยหลังห่างออกไปตามที่หญิงสาวออกคำสั่ง แต่ยังกะระยะให้ใกล้มากพอจะเข้าถึงตัวเธอได้หากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นมาอีก


    “เฮ้ ฉันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเธอนะ เธอโผล่มาที่นี่ทั้งที่ยังบาดเจ็บและหมดสติ ฉันแค่พยายามช่วยเธอ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างนุ่มนวล พยายามปลอบให้อีกฝ่ายใจเย็นลงมาบ้าง “เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่” นาธานยิงคำถามต่อ มันเป็นสิ่งที่เขาสงสัยนับตั้งแต่ที่เธอโผล่เข้ามาที่นี่อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย


    ผู้หญิงคนนี้มาด้วยสภาพหมดสติ และเขาค้นพบว่าเธอบาดเจ็บหนักตามหลายจุดของร่างกาย ราวกับว่าก่อนหน้านี้เธอกำลังตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง และเอาตัวรอดได้อย่างฉิวเฉียดในจังหวะเดียวกับที่เขาเปิดโพรงกระต่ายพอดี การที่เธอกระเด็นมาอยู่ที่นี่จึงไม่ใช่แค่เหตุบังเอิญทั่วไป แต่เธอกำลังพยายามหลบหนีจากอะไรบางอย่าง บางอย่างเหนือบานประตูของโพรงกระต่ายที่เขาเองก็ไม่อาจรับรู้ได


    เธอยังคงไม่ไว้ใจเขา แต่มีดในมือถูกลดต่ำลงมา หญิงสาวกะพริบตาช้า ๆ ก่อนจะไล่สายตาไปทั่วบริเวณรอบห้อง ประหนึ่งว่าเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในอีกโลกหนึ่งที่ต่างไปจากเดิม


    “ฉันจำเป็นต้องแน่ใจว่านายในโลกนี้ไม่ใช่คนชั่ว” เธอกล่าว และนั่นทำให้นาธานยิ่งสับสนหนักกว่าเดิม


    “เธอหมายความว่ายังไงนะ?”


    ความงุนงงฉายชัดอยู่บนใบหน้าของเธอและเขา และเมื่อการโต้เถียงสั้น ๆ ดูจะไม่ได้ช่วยไขความกระจ่างเท่าที่ควร ท้ายที่สุดทั้งสองจึงได้มาลงเอยด้วยการนั่งจับเจ่าข้างกันภายในห้องรับแขก เปลวไฟจากเตาผิงอบอุ่นกำลังดีเมื่อเทียบกับอากาศเย็นยะเยือกจากข้างนอกที่เริ่มมีหิมะตกโปรยปราย หญิงสาวตัวเล็กคลุมตัวเองด้วยผ้าห่มผืนบางของเขา ค่อย ๆ จิบโกโก้ร้อนอย่างกระตือรือร้น รอยยิ้มกระตุกมุมปากบอกให้รู้ว่าพึงพอใจกับรสชาติของมัน


    ต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าที่เธอจะรู้สึกไว้วางใจมากขึ้น หญิงสาวสบตานักวิทยาศาสตร์หนุ่มด้วยดวงตาที่อ่อนลงเล็กน้อย ราวกับแน่ใจแล้วว่าเขาไม่ใช่คนชั่วอย่างที่คิดในทีแรก ก่อนจะกล่าวแนะนำตัวกับเขาสั้น ๆ ด้วยชื่อของเธอว่า ‘จิรกาล’


    และเมื่อเครื่องดื่มหมดถ้วยแล้ว เธอก็พร้อมที่จะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้เขาฟัง


    “นายไม่ใช่คนเดียวที่ค้นพบเรื่องพหุจักรวาล ตัวแปรอื่นของนายก็ค้นพบมันเช่นกัน และพวกนายบางคนเกิดมีความคิดขึ้นมาว่า ‘มันดีกว่าหากว่าบางจักรวาลไม่ควรจะดำรงอยู่อีกต่อไป’ ดังนั้นนายคนอื่นจึงเริ่มลบล้างจักรวาลพวกนั้น ในขณะที่นายอีกคนก็เลือกที่จะปกป้องจักรวาลเอาไว้ พวกนายแต่ละคนกำลังไล่ล่าฆ่ากันเอง มันกลายเป็นสงครามระดับพหุจักรวาลไปแล้ว”


    หญิงสาวจับมือของนาธานแบออกกว้าง ก่อนที่นิ้วขาวซีดจะวาดภาพบนฝ่ามือเขาอย่างช้า ๆ ลากเป็นเส้นสายซับซ้อนที่ยึดโยงกันไปมา


    'แคง’ เป็นหนึ่งในชื่อของตัวแปรที่ร้ายกาจของเขาจากจักรวาลคู่ขนาน หญิงสาวว่าไว้เช่นนั้น “พวกนายมักเรียกตัวเองว่าแคง และยังมีอีกมากในอีกหลายชื่อ ทั้งร้ายและดี แต่ส่วนมากจะร้ายนะ” เธอกล่าวอย่างจริงจัง “พหุจักรวาลคือความไม่สิ้นสุด นั่นหมายถึงจะมีตัวตนแบบนายมากกว่าเป็นล้าน และพวกเขาทุกคนล้วนมีแผนการของตัวเอง”


    ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก นี่มันแย่มากกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก และแย่ไปกว่านั้น คือการเห็นเธอที่บาดเจ็บและหวาดกลัวอยู่ตรงหน้าเขาในขณะนี้ ความฝันมากมายจากที่ผ่านมาเริ่มร้อยเรียงปะติดปะต่อกันในความคิดอีกครั้งหนึ่ง นาธานตัดสินใจเอ่ยปากถามในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้มาโดยตลอด “ทำไมเธอถึงปรากฏตัวอยู่ในความฝันของฉันตลอด ตัวแปรอื่นของเธอเป็นอย่างไรบ้าง”


    เกิดความเงียบขึ้นมาชั่วครู่หนึ่ง ชายหนุ่มเห็นจิรกาลเม้มปากอย่างลังเลใจ แต่ก็ยอมพูดออกมาจนได้ “ไม่มีฉันคนอื่นอีกแล้ว ฉันมีอยู่คนเดียวเท่านั้น ฉันไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรเหมือนกัน แต่ฉันกับนายเชื่อมโยงกัน ฉันสามารถเดินทางข้ามพหุจักรวาลไปยังจุดที่มีนายอยู่ได้ ไม่ว่าในจักรวาลไหนก็ตาม และมันทำให้พวกนายสนใจฉัน นายบางคนมองว่าฉันมีค่า แต่นายบางคนมองว่าฉันเป็นภัย”


    “ฉันทำร้ายเธอหรือเปล่า?” คราวนี้น้ำเสียงของเขาฟังดูสั่นเครือมากกกว่าปกติ


    หญิงสาวเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะพยักหน้าแทนคำตอบ


    นาธานเนียล ริชาร์ด เป็นนักวิทยาศาสตร์หนุ่มที่สุภาพ มีมารยาท และนอบน้อมต่อคนอื่นเสมอ อย่างเช่นปัญญาชนทั่วไปที่ได้รับการศึกษาสูง แต่นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ชายหนุ่มสบถคำหยาบคายออกมา เขากำหมัดแน่น นึกโมโหต่อตัวเองเหลือเกิน โกรธที่ตัวเขาในจักรวาลอื่นทำอย่างนั้นกับเธอที่เขารัก และโกรธที่ตัวเขาเองในจักรวาลนี้ไม่อาจช่วยปกป้องเธอไว้ได้แต่แรก นอกจากเฝ้ามองสิ่งแย่ ๆ ดำเนินไปผ่านความฝันเท่านั้น


    ความโกรธที่พลุ่งพล่านบางเบาลงฉับพลันในตอนที่จิรกาลประคองมือของเขาเอาไว้ นาธานรู้สึกได้ถึงนิ้วโป้งจากมือเล็กที่ถูวนข้างในฝ่ามือเขา มันอบอุ่นและอ่อนโยน


    “การที่นายบางคนทำเรื่องแย่ ๆ ขึ้นมา ไม่ได้หมายความว่านายทุกคนจะเป็นคนชั่วนะ” เธอพูด “พวกนายมีปัญหาอย่างหนึ่งเหมือนกันหมด นั่นคือชอบโทษตัวเอง และฉันก็ไม่อยากให้นายโทษตัวเองกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่ความผิดของนายเลย”


    นาธานสบตาคนตรงหน้า เห็นถึงความสับสน ห่วงใย และว้าวุ่นแฝงอยู่ข้างในนั้น และบางทีเธอก็คงจะสังเกตเห็นมันจากเขาเช่นเดียวกัน


    ชั่ววูบหนึ่งชายหนุ่มคิดว่าเขาสามารถจูบเธอได้ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ—เหมือนอย่างในฝัน


    และคำถามที่งี่เง่าที่สุดก็หลุดออกมาจากปากของเขา


    "เธอรักฉันหรือเปล่า?”


    หญิงสาวส่งยิ้มบางเบาให้กับเขา


    “นั่นแหละคือความผิดพลาดของฉัน ฉันตกหลุมรักนายเสมอ แม้ว่านายบางคนจะงี่เง่าเป็นบ้า”


    ในที่สุดนาธานก็ทำไปจนได้ เขาจูบเธอ


    ทุกอย่างที่เป็นเธอให้ความรู้สึกเหมือนกับความฝันของเขาทุกประการ ริมฝีปากที่แสนอบอุ่นคุ้นเคย รสชาติอ่อนหวานจากปลายลิ้น สัมผัสของผิวเรียบเนียนภายใต้ฝ่ามือของเขา มันจริง ทั้งหมดนี้คือความจริง นาธานย้ำกับตัวเองอีกครั้ง และโอบรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเธอไว้ภายใต้อ้อมกอด สาบานกับตัวเองอย่างหนักแน่นว่าเขาจะปกป้องเธอจากความเลวร้ายทั้งมวล แม้นั่นอาจจะหมายถึงตัวเขาเองก็ตาม




    ═════════════════════════




    ขณะที่นาธานร่วมรักกับเธอ เขาเห็นทั้งชีวิตของเธอแวบผ่านไปต่อหน้าต่อตา เหมือนกับวิดิโอที่ถูกกรออย่างรวดเร็ว


    ริมฝีปากของเขาไล่ลงมาที่คอของเธอ สัมผัสจังหวะชีพจรถี่รัวจากซอกคอจนถึงทรวงอก ในขณะที่มือหญิงสาวลากไปตามร่างกายของเขา คลื่นความรู้สึกเสน่หาอาทรท่วมท้นยามที่เขาค่อย ๆ สอดใส่เข้าไปข้างในกายเธอ โหยหาเหลือล้นสู่การได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง จังหวะขับเคลื่อนของความปรารถนาที่พัวพันยุ่งเหยิงไม่น้อยกว่าความซับซ้อนของเส้นเวลา เขารู้ว่าเธอต้องการอะไร เธอรู้ว่าเขาต้องการอะไร ทั้งเธอและเขาต่างก็รู้จักกันและกันมาทั้งชีวิต แม้ว่าเพิ่งพบหน้ากันได้ไม่นานเท่านั้น


    มันอาจจะเป็นครั้งแรกของเขา แต่ไม่ใช่สำหรับเธอ และกับตัวเขาในอีกหลาย ๆ จักรวาลที่ผ่านมา


    นาธานรู้ว่าเขากับเธอเกิดมาเพื่อคู่กัน ทุกตัวแปรของเขาตกหลุมรักจิรกาล ไม่ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร แตกต่างกันหรือคล้ายกันแค่ไหนก็ตาม การมีอยู่ของเธอคือปริศนาเพียงหนึ่งเดียวของพหุจักรวาลที่ทุกตัวแปรของนาธานไม่สามารถไขกระจ่างได้ แต่เขามั่นใจว่านี่สิ่งเป็นที่ได้ถูกลิขิตเอาไว้อยู่แล้ว


    ชายหนุ่มปัดปอยผมสีเข้มที่ปรกลงบนใบหน้าของเธอ จูบขมับชื้นเหงื่อยามเร่งจังหวะสะโพกดันไปข้างหน้า การเคลื่อนไหวที่แรงขึ้น แรงขึ้น เช่นเดียวกับจังหวะหอบหายใจที่แรงขึ้น แรงขึ้น เขาสวมกอดจิรกาลแนบชิดด้วยแขนทั้งสองข้าง สายตาไล่สำรวจดูเรือนร่างเปลือยเปล่าของเธอ ทุกความสมบูรณ์ไปจนถึงทุกร่องรอยตำหนิ เปิดเผยชัดเจนและปราศจากความลับหรือการปกปิดใด นาธานค้นพบว่าไม่มีอะไรเลยในตัวเธอที่แตกต่างไปจากเขา นอกเสียจากว่าเรามาจากคนละซีกจักรวาลกันเท่านั้น


    สำหรับนาธานเนียล ริชาร์ด โลกใบนี้ จักรวาลนี้ หรือแม้แต่ทั้งพหุจักรวาลก็ตาม ไม่มีอะไรจะสำคัญมากไปกว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาอีกแล้ว


    และเขาปรารถนาเหลือเกินที่จะให้ช่วงเวลาเหล่านี้กับเธอคงอยู่ไปชั่วนิรันดร์


    “หมายความว่ายังไงที่เธอบอกว่าเธออยู่ที่นี่ไม่ได้”


    น้ำเสียงของนาธานยามนี้เต็มไปด้วยความสับสนอย่างยิ่ง หลังจากที่จิรกาลบอกกับเขาในเช้าวันหนึ่งว่าเธอตั้งใจจะไปจากจักรวาลนี้—และไปจากเขา ในอีกไม่นานนัก


    “มันไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากอยู่กับนายนะ แต่ฉันอยู่ในจักรวาลใดนานเกินไปไม่ได้ เพราะถ้านายคนอื่นรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ พวกเขาจะมาตามหาฉัน และจักรวาลของนายจะตกอยู่ในอันตราย”


    จิรกาลชี้แจงกับเขาด้วยสีหน้าที่ปราศจากอารมณ์ใด ๆ ราวกับเคยชินแล้วต่อการจากลาที่กลายเป็นปกติ เรื่องราวเลวร้ายจะตามมาเสมอในทุกจักรวาลที่เธอไปเยือน นั่นคือสิ่งที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เธอต้องหนีหายไปในทุกความฝันของเขา


    แม้เธอจะไม่ยอมแสดงความรู้สึกที่แท้จริงให้เขาเห็น แต่นาธานรับรู้ได้จากดวงตาคู่นั้นของเธอ ความเจ็บปวดจากการต้องมีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวในพหุจักรวาลอันไร้ที่สิ้นสุด และความรักที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ไม่ว่าจะโลกไหนก็ตาม มันกลายมาเป็นความปรารถนาอันโศกเศร้าที่นำไปสู่ความสิ้นหวังอย่างที่สุด


    เขาเคยคิดว่ามันคือโชคชะตา แต่ในความจริงแล้วเรื่องทั้งหมดนี้มันไม่ต่างอะไรกับคำสาปเลยสักนิด


    “แต่...มันไม่มีวิธีอื่นแล้วจริง ๆ เหรอ?”


    “เน็ต ฉันเห็นนายตายเพราะฉันมามากแล้ว ฉันทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยนาย และมันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มันไม่เคยเปลี่ยนแปลง”


    ไหล่ของหญิงสาวสั่นไหวด้วยความโกรธและความกลัว


    กว่าเธอจะมายืนอยู่ตรงหน้าเขาได้อย่างในวันนี้ เธอต้องผ่านเรื่องราวย่ำแย่มากมายเกินกว่าที่นาธานจะจินตนาการออกมาได้


    มันไม่เคยเปลี่ยนแปลง จิรกาลว่าไว้อย่างนั้น แต่เขาไม่เชื่อ


    หากการมีอยู่ของเขา และการมีอยู่ของพหุจักรวาล ทำให้เธอต้องเจ็บปวด


    เขาตัดสินใจแล้วว่ามันไม่ควรต้องมีอยู่อีกต่อไป




    ═════════════════════════




    เส้นแบ่งของเวลาเป็นเรื่องน่าฉงน บางครั้งอดีตกับอนาคตก็เชื่อมต่อกันอย่างน่าประหลาด


    ชายหนุ่มนึกถึงการพบเจอกันครั้งแรกของเธอกับเขา หญิงสาวบอบบางที่ยืนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ดวงตามองเขาอย่างไม่ไว้วางใจ มีดทำครัวชูขึ้นใส่หน้าของเขา ราวกับว่าไม่ลังเลใจเลยสักนิดที่จะฆ่าเขาให้ตาย หากเขาเผลอขยับเข้าไปใกล้อีกแค่นิดเดียว


    มันเกิดขึ้นเหมือนกับครั้งก่อน แค่เปลี่ยนจากมีดทำครัวเป็นมีดจากดาวแอสการ์ด อาวุธชิ้นสุดท้ายของโลกิ เทพเจ้าจอมฉ้อฉลที่เพิ่งถูกเขากำจัดไปก่อนหน้านี้


    นาธานคนเก่าเคยหวาดวิตกแทบตายกับการถูกขู่ด้วยมีดเล่มเล็ก ๆ จากเธอ แต่ไม่ใช่อีกแล้วสำหรับเขาในตอนนี้ ชายหนุ่มรู้แจ้งแก่ใจว่าจิรกาลจะไม่มีวันฆ่าเขาได้ลงแน่ นั่นเพราะเขาสามารถมองเห็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นไปแล้วมามากกว่าล้านครั้งด้วยกัน และไม่มีครั้งไหนเลยที่เธอตัดใจลงมือฆ่าเขา ต่อให้ตัวแปรของนาธานเนียล ริชาร์ด จะชั่วร้ายมากเพียงใดก็ตาม


    ความรักคือจุดอ่อนเสมอ ความรักไม่ใช่แค่จุดอ่อนของเขาเท่านั้น แต่เป็นจุดอ่อนของเธอด้วยเหมือนกัน


    “ได้โปรดอย่าทำอย่างนั้นเลยที่รัก” เธอสะอื้นไห้ น้ำตานองหน้า “เน็ต มันไม่จำเป็นที่จะต้องจบลงแบบนี้”


    เขาสบตากับหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจ เธอยังคงเป็นคนเดียวในพหุจักรวาลนี้ที่กล้าหาญพอจะเรียกขานเขาด้วยชื่อเดิมเสมอมา


    แต่ไม่มีนาธานเนียล ริชาร์ด อีกต่อไปแล้ว นับตั้งแต่ที่เขาเลือกเส้นทางของการทำลายล้างเต็มรูปแบบ ก้าวสู่การเป็นหนึ่งเหนือทุกตัวแปรในพหุจักรวาล ในฐานะของ ‘แคง ผู้พิชิต’


    และแคงทำมันได้มากกว่าครึ่งทางแล้ว บัดนี้เขาได้ยืนหยัดอยู่บนบัลลังก์กว้างใหญ่ สวมผ้าคลุมสีม่วงเปล่งประกายในฐานะเจ้าแห่งกาลเวลา ได้รับการศิโรราบจากจักรวาลอื่น ๆ มากมาย และอยู่เหนือขึ้นไปจากบรรดาซากศพของตัวเขาเองในอีกหลายจักรวาล ที่ต้องตกตายลงไปด้วยเจตนารมณ์แรงกล้าของเขา


    และเจตนารมณ์เพียงหนึ่งเดียวของแคงผู้พิชิต ก็กำลังยืนอยู่เบื้องหน้าเขาแล้วในตอนนี้


    “ฉันทำทุกอย่างเพื่อเธอ” น้ำเสียงของชายหนุ่มทุ้มและเชื่องช้า ดวงตาแวววาวด้วยความมืดไร้สิ้นสุด “เธอบอกว่าเธอเห็นฉันตายเพื่อเธอมากมาย แต่ฉันต้องมองเห็นเธอตายเพราะฉันเป็นล้านครั้ง ล้านครั้งที่ต้องเห็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยที่ฉันทำอะไรไม่ได้เลย”


    สำหรับนาธาน การสร้างโพรงกระต่ายนั้นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่นำไปสู่การค้นพบอย่างอื่นอีกมากมายในพหุจักรวาลกว้างใหญ่ไพศาล ชายหนุ่มใช้เวลาศึกษามันอย่างหมกมุ่นหลังจากที่จิรกาลได้จากไปแล้ว จนในที่สุดก็สามารถเข้าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกเส้นเวลาได้ ทว่านั่นคือการล่วงรู้ในสิ่งที่ไม่สมควรมีมนุษย์ผู้ใดได้รู้ ซึ่งตามมาผลลัพธ์เลวร้ายอย่างมหันต์ เหมือนกับอีฟที่ได้กัดกินผลไม้ต้องห้ามเพื่อให้ได้รับความรู้แจ้งอันประเสริฐ ก่อนจะถูกพระเป็นเจ้าสาปแช่งต่อความอยากรู้อยากเห็นให้ต้องทุกข์ทรมานนานนับอสงไขย


    และพระเจ้าก็ได้กล่าวสาปแช่งเขาไปแล้วเช่นกัน ในตอนที่นาธานค้นพบว่าจุดจบของผู้หญิงที่เขารักมีแค่ความตายเท่านั้น


    เพราะตัวตนจิรกาลมีเพียงหนึ่งเดียว และการมีอยู่ของเธอได้สร้างผลกระทบมหาศาลต่อทุกตัวแปรของนาธาน ไปจนถึงทั้งพหุจักรวาล การตายของเธอจึงกลายเป็นจุดจบของกาลเวลา และจุดจบของทุกสิ่งอย่าง มันคือทางออกเดียวเท่านั้น และเป็นสิ่งที่นาธานเนียล ริชาร์ดในทุก ๆ จักรวาลต่างก็รู้ดี


    ทุกตัวแปรของนาธานต่างก็มุ่งมั่นต่อการพยายามหาวิธีที่จะเปลี่ยนแปลงจุดจบของเรื่องนี้ให้ได้ แม้ว่าบางทีจะหมายถึงการจำเป็นต้องทำลายล้างจักรวาลอื่น หรือแม้แต่ตัวแปรอื่นของตัวเองด้วยก็ตาม


    นั่นเป็นเหตุผลที่สงครามพหุจักรวาลเกิดขึ้นมาได้ และเป็นเหตุผลที่ทำให้แคงผู้พิชิตได้มายืนอยู่ในจุดนี้เช่นกัน


    ชายหนุ่มเลือกที่จะกำจัดทุกความน่าจะเป็นของเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเธอ ด้วยการกำจัดเส้นเวลาของทุกจักรวาลให้เหลือเพียงแค่หนึ่งเท่านั้น และเขาก็เข้าใกล้ความสำเร็จมากแล้ว จนกระทั่งจิรกาลได้มาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีกครั้ง เหมือนอย่างเช่นในวันวาน


    “เธอไม่เห็นเหรอว่าฉันสามารถทำอะไรได้บ้าง” เขาพูดตามความเป็นจริง ยังคงเยือกเย็นแม้ว่าเธอจะพยายามร้องขออ้อนวอนแค่ไหนก็ตาม “ฉันกำลังจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เราจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง เธอจะไม่ต้องเจ็บปวดอีกแล้ว”


    แคงยื่นมือเข้าไปหาหญิงสาวตรงหน้า หวังอย่างยิ่งให้เธอยอมรับเขา ยอมรับต่อความรักยิ่งใหญ่ที่เขามีให้เธอ ยอมรับต่อทุกสิ่งที่เขาบากบั่นทำเพื่อเธอ ยอมรับต่อการอยู่เคียงคู่กับเขาไปชั่วอสงไขย


    ทว่าจิรกาลกลับถอยหนีห่างออกจากเขา กำมีดในมือไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เธอมองชายหนุ่มผู้เคยเป็นคนรักอย่างไม่เชื่อสายตา ราวกับว่าเขาเป็นใครคนอื่นที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน


    หรือบางที...เธออาจรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องลงเอยเช่นนี้เสมอ


    “ไม่เลย มันไม่เคยเปลี่ยนแปลง” ท่ามกลางความเจ็บปวดในสีหน้าและแววตาคู่นั้น หญิงสาวพลันแย้มรอยยิ้มขมขื่นออกมาช้า ๆ “สุดท้ายพวกนายทุกคนก็เหมือนกันหมด สุดท้ายฉันก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อยู่ดี”


    'แคง ผู้พิชิต’ คือชายผู้ค้นพบพหุจักรวาล ชายผู้พิฆาตจักรวาลคู่ขนาน ชายผู้เป็นใหญ่เหนือกาลเวลา


    เขาครองอำนาจยิ่งใหญ่ในแบบที่ไม่มีใครเคยทำได้มาก่อน ทว่าชายผู้ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในพหุจักรวาลกว้างไกล กลับไม่สามารถทำอะไรได้เลยในตอนที่เห็นคนที่เขารักใช้มีดเล่มนั้นปาดคอตัวเอง


    ดวงตาของเขาแดงก่ำดั่งเลือด และเสียงกรีดร้องของเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาลอย่างที่สุด ชายหนุ่มทรุดลงสะอื้นไห้ยามประคองร่างไร้ชีวิตของเธอขึ้นมาแนบอก มองดูดวงตาไร้ชีวิตชีวาที่จ้องมองเขาเป็นครั้งสุดท้าย พร่ำเรียกขานชื่อของเธอซ้ำไปมาราวกับมีความหวังว่าอีกฝ่ายจะตอบกลับมา แต่สิ่งที่เขาได้รับมีเพียงความเงียบงัน เปล่าเปลี่ยว และทรมานอย่างไร้สิ้นสุด


    และนั่นก็เป็นจุดจบที่แท้จริง


    เพราะความตายของจิรกาลคือจุดจบของกาลเวลา นั่นหมายถึงจุดจบของพหุจักรวาล และจุดจบของเขาเช่นเดียวกัน


    เส้นเวลาของทุกจักรวาลเริ่มบางเบาลงอย่างรวดเร็ว ผืนแผ่นดินสั่นสะเทือนรุนแรง ในขณะที่ผืนฟ้าสีดำถูกฉีกขาดเหมือนกระดาษ มิติแห่งเวลากำลังบิดเบี้ยวเป็นเศษเสี้ยวและค่อย ๆ พังทลายรอบตัวเขา ก่อนจะทยอยถูกกลืนกินหายไปสู่ความมืดมิดทีละเล็กทีละน้อย


    ทุกอย่างกำลังจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า ถึงกระนั้นแคงก็ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน เขายังคงกอดเธอเอาไว้ด้วยสองแขนของเขา อยู่เคียงคู่กันแม้ในช่วงเวลาสุดท้ายของกันและกัน


    ทั้งหมดนี้คือโชคชะตาของเธอกับเขา โชคชะตาที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง




    ═════════════════════════




    หญิงสาวหอบหายใจถี่รัว ไหล่บางสั่นสะท้าน หวาดหวั่นกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งได้ประสบพบเห็น


    มือของเธอสลัดออกจากโลหะกลมทรงประหลาดทันที เสมือนว่าตัวเองเผลอสัมผัสของร้อนจัดโดยไม่ตั้งตัว ฉับพลันภาพตรงหน้ากลับมาในรูปแบบปกติอีกครั้ง หญิงสาวอยู่ในห้องกว้างของสถานที่แสนประหลาดซึ่งตัวเองไม่คุ้นเคย และเบื้องหน้าของเธอยามนี้คือชายผู้หนึ่ง ชายคนเดียวกับที่พาตัวเธอมาที่นี่อย่างไม่เต็มใจ ชายคนเดียวกับที่เธอได้เห็นไปในนิมิตเมื่อสักครู่นี้


    “เข้าใจหรือยังจิรกาล ว่าทำไมฉันถึงต้องพาเธอมาที่นี่” แคงกล่าว เสียงของเขานุ่มนวลทว่าหนักแน่น “เธอคือจุดอ่อนเดียวของฉัน”


    มือใหญ่ที่สวมถุงมือสีม่วงเข้มวางทาบบนแก้มคนตัวเล็กกว่าแผ่วเบา ชายหนุ่มไล้นิ้วไปตามแนวกรามของเธออย่างเชื่องช้าคล้ายครุ่นคำนึงถึงอะไรบางอย่าง


    “จุดจบของกาลเวลาคือการพบกันของเราในครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ฉันปล่อยให้มันเกิดขึ้นไม่ได้” สายตาของชายในชุดผ้าคลุมหุ้มเกราะเฉดสีอเมทิสต์ดุจดั่งนักล่าเหยื่อก็ไม่ปาน เขาตรวจสอบทุกตารางนิ้วของหญิงสาวอย่างถี่ถ้วน ราวกับปรารถนาที่จะมองให้ทะลุปรุโปร่งไปถึงกระดูก ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้มากเสียจนจิรกาลสามารถเห็นได้ว่ารอยแผลเป็นร่องสองรอยใหญ่บนโหนกแก้มเขานั้นลึกและน่ากลัวมากแค่ไหน


    รอยแผลที่เกิดจากการสังหารและทำลายล้าง


    “มันยังไม่ได้เกิดขึ้น” จิรกาลส่ายหัว พยายามถอยห่างจากคนตรงหน้า “ฉันไม่รู้จักคุณด้วยซ้ำจนกระทั่งเมื่อกี้นี้”


    “ยังไม่เกิดก็จริง แต่ยังไงมันก็ต้องเกิด ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง” รอยยิ้มบางเบาที่ดูเหมือนเย้ยหยันปรากฏบนหน้าคมเข้มของเขา “มันไม่เคยเปลี่ยนแปลง”


    นาธานเนียล ริชาร์ด มีหลายตัวแปรในหลายจักรวาล พวกเขาทุกคนล้วนรู้จักพหุจักรวาลและเส้นเวลาอย่างถ่องแท้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะล่วงรู้ถึงตอนจบของมัน


    และแคงคือหนึ่งในนั้นที่มีโอกาสได้รู้


    นี่คือความแตกต่างของเขากับตัวแปรอื่นของนาธาน คนพวกนั้นศึกษาเพื่อตอบสนองความอยากรู้หรือเพื่อคนอื่นเป็นหลัก แต่เขาตั้งใจศึกษาเพื่อตัวเองเท่านั้น ในจักรวาลที่เป็นของเขาเอง นาธานคนนี้ได้ริเริ่มสร้างโพรงกระต่ายขึ้น เพื่อส่องดูเหตุการณ์ต่าง ๆ จากในจักรวาลคู่ขนานอื่นที่เกี่ยวกับเขา แน่นอนว่าเหตุการณ์ที่เขาเพิ่งแสดงให้จิรกาลเห็นไปในนิมิต คือส่วนหนึ่งของเส้นเวลาที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตกับอีกหนึ่งนาธาน—และอีกหนึ่งแคง ซึ่งต่อมาจะกลายมาเป็นจุดจบของนาธานทุกคนในทุกจักรวาล


    สำหรับนาธานเนียล ริชาร์ด ในฐานะของแคงคนแรก เขามีเป้าหมายอย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือการเป็นใหญ่ในทุกจักรวาล และชายหนุ่มไม่อาจเสี่ยงให้จุดจบที่ว่านั่นมาถึงได้


    อดีตนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกจึงตัดสินใจใช้การย้อนเวลาผ่านไทม์แมชชีนเพื่อตามหาเธอผู้นั้น เธอที่มีตัวตนเดียวและนามเดียว ‘จิรกาล’ ในตอนที่เจ้าหล่อนยังเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ก่อนหน้าที่จะได้ค้นพบพลังท่องพหุจักรวาล และก่อนหน้าที่จะได้พบรักกับนาธานคนไหนก็ตาม


    ดวงตาของชายหนุ่มเปล่งประกายราวกับดวงดาวเมื่อจับจ้องไปยังบุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้า จุดอ่อนหนึ่งเดียวจากความเป็นไปได้ทั้งหมดในพหุจักรวาลของนาธานเนียล ริชาร์ด


    เพราะความรักคือจุดอ่อน และจุดอ่อนคือภัยคุกคาม นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้แคงไม่สามารถปล่อยให้จิรกาลเป็นอิสระในพหุจักรวาลใด ๆ ได้อย่างเด็ดขาด


    “ฉันไม่มีทางเลือกนอกจากต้องฆ่าเธอก่อน...ก่อนที่ฉันจะรักเธอ” เขาพึมพำ เหมือนกับตั้งใจจะย้ำเตือนต่อตัวเองมากกว่าบอกกล่าวกับอีกฝ่าย


    เขาควรจะฆ่าเธอ ใช่ มันควรเป็นอย่างนั้น


    แคงควรต้องจบชีวิตจิรกาลไปแล้วตั้งแต่ที่เขาได้เห็นเธอครั้งแรกบนโลกมนุษย์นั่น ทว่าสิ่งที่ชายหนุ่มทำกลับตรงกันข้าม เขาเลือกที่จะฉุดเธอมาไว้ที่นี่ กักขังเธอไว้เหนือเส้นเวลาของพหุจักรวาลอื่นใด และหลบเร้นจากสายตาตัวแปรของเขาทุกคน


    จนกระทั่งถึงตอนนี้ ความคิดต่อการฆ่าจิรกาลก็ไม่แม้แต่จะโผล่ขึ้นมาในหัวของเขาเลยสักครั้งเดียว แต่กลับเป็นความรู้สึกบางอย่างที่มีแต่จะเข้มข้นรุนแรงขึ้นทุกขณะเมื่อเข้าใกล้เธอ


    มันเกิดอะไรขึ้น? แคงตั้งคำถามกับตัวเอง แม้ว่าจะทราบคำตอบดีอยู่แล้วก็ตาม


    ทั้งหมดนี้คือโชคชะตาของเธอกับเขา


    ไม่ว่าจะพยายามหลีกเลี่ยงแค่ไหน สุดท้ายแล้วนาธานก็ต้องตกหลุมรักเธอเหมือนเดิม เหมือนกับทุกครั้งที่เกิดขึ้นในทุกเส้นเวลา


    ด้วยแรงดึงดูดอันแรงกล้าที่เป็นปริศนา ชายหนุ่มตัดสินใจดึงร่างของหญิงสาวเข้ามาจูบ ในขณะที่จิรกาลเบิกตากว้าง อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ ซึ่งทำให้ริมฝีปากของเธอเปิดกว้างพอให้ลิ้นของเขาสอดเข้าไปในปากได้ ครู่หนึ่งเธออยากจะผลักเขาออกไป ทว่าความรู้สึกคุ้นเคยที่พลุ่งพล่านในอกกลับทำให้หญิงสาวตอบรับสัมผัสคนตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว


    ขณะที่เขาจูบกับเธอ จิรกาลเห็นทั้งชีวิตของชายคนนี้แวบผ่านไปต่อหน้าต่อตา เหมือนกับวิดิโอที่ถูกกรออย่างรวดเร็ว


    "ฉันไม่มีความรัก ฉันไม่ควรมีมัน”


    น้ำเสียงของชายหนุ่มเกรี้ยวกราด แต่กลับบางเบาเหมือนกระซิบ หญิงสาวลิ้มรสความเค็มจาง ๆ ของน้ำตาที่ไหลบ่าบนหน้าเขาอย่างชัดเจน เช่นเดียวจังหวะรุนแรงของจุมพิตที่รวมเอาทุกความรู้สึกอันซับซ้อนไว้ข้างในนั้น ทั้งโหยหา ครุ่นคิด ลังเล และเจ็บปวด


    เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นแต่กลับรู้สึกเหมือนชั่วนิรันดร์ เป็นอีกครั้งที่จิรกาลต้องหอบหายใจแรง พลางประสานสายตากับชายหนุ่มที่ค่อย ๆ จรดหน้าผากเข้าแนบชิด ในขณะที่ปากของเขายังคงค้างอยู่บนริมฝีปากช้ำ ๆ ของเธอ และสองมือซึ่งประคองแก้มหญิงสาวเอาไว้อย่างอ่อนโยน


    ริมฝีปากที่แสนอบอุ่นคุ้นเคย รสชาติอ่อนหวานจากปลายลิ้น สัมผัสของผิวเรียบเนียนภายใต้ฝ่ามือของเขา


    ชั่วขณะนั้นจิตวิญญาณของนาธานเนียล ริชาร์ด ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ได้สอดประสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียว


    เขาตกหลุมรักเธออีกแล้ว มันเป็นเช่นนั้นเสมอ


    “ที่รักของฉัน เธอมีแค่สองทางเลือกเท่านั้น” แคงประทับจูบบางเบาซ้ำอีกครั้ง ความโศกเศร้าบนใบหน้าของเขาชัดเจนเกินกว่าจะปกปิดได้ “อยู่กับฉันไปตลอดกาล หรือจะตายด้วยน้ำมือฉัน”


    จิรกาลสบตากับคนตรงหน้าอย่างนิ่งงัน มันเป็นทางเลือกที่ไม่ใช่ทางเลือกเลยสำหรับเธอ เพราะเธอรู้ดีว่าอย่างไรเสียผลลัพธ์ก็ออกมาได้เพียงแค่รูปแบบเดียวเท่านั้น


    แคงจะไม่มีทางฆ่าเธอ เช่นเดียวกับการที่เขาจะไม่มีทางปล่อยเธอไปเด็ดขาด


    และนั่นคือความผิดพลาดทั้งหมดของแคง ความผิดพลาดของการไม่ยอมฆ่าคนที่รัก ความผิดพลาดของการพาเธอมาที่นี่ ความผิดพลาดทำให้เธอรู้ว่าเธอสามารถทำอะไรได้บ้าง


    “ฉันขอเลือกทางที่สาม” หญิงสาวกระซิบตอบ น้ำเสียงอ่อนหวานไม่ต่างจากเมื่อครั้งที่เธอกล่าวบอกรักเขา


    และในช่วงเวลาที่แคงไม่ทันตั้งตัว จิรกาลรวบรวมแรงทั้งหมดผลักร่างสูงใหญ่ออกไป ชายหนุ่มเผลอชะงักไปชั่วครู่ ก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เขาสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของสนามพลังงานที่ก่อตัวขึ้น ในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับโพรงกระต่ายที่เขาสร้างขึ้นมาเอง


    และนั่นคือการใช้พลังครั้งแรกของเธอ พลังแห่งการก้าวผ่านพหุจักรวาล


    “ไม่! กลับมาเดี๋ยวนี้!”


    แคงตะโกนลั่นอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาที่เบิกกว้างและแข็งกร้าวจ้องมองไปยังหญิงคนรักที่กำลังถูกกลืนเข้าสู่ประตูมิติสีฟ้าสว่างที่เธอสร้างขึ้นเอง เขาก้าววิ่งไปด้วยความเร็วทั้งหมดที่มีเพื่อให้ไปถึงตัวเธอ แต่มันก็ยังช้าไปอยู่ดี สิ่งที่ชายหนุ่มคว้ากลับมาได้มีเพียงแค่อากาศที่ว่างเปล่า ภาพของเธอที่หันหลังจากไปโดยไม่คิดกลับมามองเขา รวมไปถึงคำพูดสุดท้ายของเธอ


    "เจอกันครั้งหน้า ฉันจะฆ่านาย”


    เธอสาบานเอาไว้อย่างนั้น


    ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะทรุดนั่งลงบนบัลลังก์กว้างที่ทั้งว่างเปล่าและเงียบงัน มือใหญ่ยกขึ้นปิดใบหน้า เขาเริ่มจากร้องไห้แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นหัวเราะอย่างขมขื่น ท้อแท้และโศกเศร้าต่อการถูกทอดทิ้งโดยคนรัก และต่อชะตากรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงของเธอกับเขา


    “ฉันก็หวังว่าเธอจะทำได้นะที่รัก” เขาพึมพำตอบกับตัวเอง นั่นเพราะแคงรู้จักตัวตนของจิรกาลอย่างลึกซึ้ง มากพอ ๆ กับที่เธอเองก็รู้จักตัวตนเขาเช่นกัน


    เขาและเธอไม่อาจลงมือฆ่ากันเองได้ แม้ต่างก็รู้แจ้งแก่ใจว่าความตายของใครคนหนึ่งเท่านั้นที่เป็นทางออก เราทั้งคู่ล้วนแต่เป็นจุดอ่อนของกันและกัน จุดอ่อนที่เกิดขึ้นมาจากความรัก


    แคงเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะสะบัดฝ่ามือตัวเองหนึ่งที พลันปรากฏเส้นของเวลาสีขาวที่แตกแขนงกระจัดกระจายยุ่งเหยิงอยู่เบื้องหน้า มีประกายระยิบระยับเหนือดวงตาสีเข้มของเขายามที่จ้องมองเส้นเส้นหนึ่งที่กำลังเปลี่ยนเข้าสู่สีฟ้าสว่างอย่างช้า ๆ


    เธอกำลังพยายามหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่เขายังมีเวลา เวลาที่มากมายล้นเหลือในการยึดครองทุกอย่าง เวลาในการไล่ล่าตามหาเธอ


    จนกว่าที่จุดจบของกาลเวลา จุดจบของเขาและเธอจะมาถึง




    ═════════════════════════



    Talk : ไม่เคยคิดว่าจะมาติ่งมาเวลอีกรอบเพราะตัวร้าย TT ออกจากโรง Ant-Man and the Wasp: Quantumania มาต้องเขียนฟิคเลย เพราะ Kang the Conqueror เท่สัดๆ

    ตอนแรกตั้งใจว่าจะให้เป็นฟิค y/n แต่รู้สึกว่าเขียนแนวนี้บ่อยแล้ว เลยเปลี่ยนมาเขียน OC บ้าง OC คนนี้เป็นคนไทยแท้ฮะ ตั้งใจให้ใช้ชื่อว่าจิรกาลเพราะมันมีความหมายที่เกี่ยวกับเวลาโดยตรง (จิรกาล—long time in the past : ครั้งหนึ่งในอดีต,กาลครั้งหนึ่ง,กาลนาน, เวลาช้านาน.) และชื่อนี้ก็ตรงกับสตอรี่ในเรื่องแบบเป๊ะ ๆ

    ยอมรับว่าผลงานเรื่องนี้ยังมีความแปลก ๆ อยู่บ้าง เขียนออกมาได้ไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ก็หวังว่าจะชอบกันนะ




    [1] วิกเตอร์ แฟรงเกนสไตน์ คือตัวละครหลักในนิยายแฟรงเกนสไตน์ผู้ให้กำเนิดอสูรกายแฟรงเกนสไตน์ โดยทำการประดิษฐ์จากซากศพมนุษย์ชิ้นส่วนต่าง ๆมาประกอบเข้าด้วยกันในทางวิทยาการทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์จนทำให้มันฟื้นคืนชีพขึ้นมา และไม่สามารถควบคุมมันได้ 




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in