“ของขวัญ” คำคำนี้แค่ได้ยินก็ตื่นเต้นสำหรับผู้ที่จะได้รับในวันเทศกาล
เพราะมันกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นว่าอะไรจะอยู่ข้างใน
แต่ของขวัญ ของล้ำค่านั้น แต่ละคนให้ค่าไม่เหมือนกัน
ไม่ว่าจะเป็น
ของแบรนด์เนม
ของแฮนคราฟ
มื้ออาหารสักมื้อ
หรือแม้กระทั้ง “คนดี ๆ สักคน”
กับบางคนทำให้เรารู้สึกว่า เขาเหมือนเป็นของขวัญที่โชคชะตาได้ส่งมา
เพราะเขามาทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เมื่อเราได้รับของขวัญ เรามักจะแกะมันด้วยความอยากรู้อยากเห็น เร่งรีบ และตื่นเต้นที่อยากจะรู้ว่าอะไรอยู่ข้างใน
หลายครั้งเมื่อเราแกะของขวัญชิ้นนั้นแล้ว ความน่าสนใจของมันลดน้อยลง
ถ้าของขวัญพูดได้คงพูดว่า “เธอดูรักฉันมากกว่าตอนที่ยังไม่รู้ว่าอะไรอยู่ข้างใน”
หลังจากได้หลายครั้งเราทิ้งขว้าง ละเลย หรือแม้กระทั้งแสวงหาของขวัญชิ้นใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ
และลืมความรู้สึกตอนกำลังจะได้ของขวัญชิ้นนั้น ว่าเรารู้สึกดีเพียงไหน
กาลเวลาอาจทำให้เรารู้สึกผูกพันธ์กับของขวัญชิ้นนั้น
แต่ก็อาจจะตามมาด้วยความเบื่อหน่ายเช่นกัน
กว่าจะรู้ว่าเรารัก
ของขวัญชิ้นนั้นมากแค่ไหนก็ตอนที่เสียมันไปเสียแล้ว
ถ้าเปรียบเทียบ ของขวัญ กับ คน
คนบางคน ใช้เวลามาก ในการที่จะยอมให้ใครสักคนเข้ามาเปิดหัวใจของตัวเอง
เพราะกลัวว่าหากใครรู้จักเรามาก ๆ แล้วจะหมดความสนใจไปในที่สุด
หรืออีกนัยหนึ่งคือ กลัวที่จะถูกทำร้ายเหมือนของไม่มีค่า
การยอมให้ใครเข้ามาในชีวิตมันจึงไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย
เคยมีคนพูดกับผมว่า “คงจะดีเนอะ ถ้ามีใครสักคนรู้สึกเหมือนว่าเราเป็นของขวัญในชีวิตเขา”
ในใจผมตอบกลับไปว่า “เธอเป็น”
แต่เธอกลับรู้สึกว่าเธอ “เคยเป็น”
อย่าปล่อยให้ใครรู้สึกแบบนี้มันไม่ดีเลย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in