เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แปลเกม Tear of ThemisCynthia-T
TOT: เนื้อเรื่องหลัก 1-12
  • TOT: มือที่คอยอุ้มชู 1-12




    [สถานที่: Penny's Comfort Foods]



    คุณ:

    คุณกรีน นี่คุณ…


    (ทั้งคุณและลุคต่างก็ตกใจกับคำสารภาพที่โผล่มาโดยไม่คาดคิดของเวอร์นอน คำสารภาพที่ว่าเขาเป็นคนพังกล้องวงจรปิดตัวนั้นเอง)


    ลุค เพียร์ซ:

    คุณกรีน คุณรู้มาตั้งแต่ต้นว่าเหตุการณ์อาหารเป็นพิษนี่มีคนจงใจก่อเหตุขึ้นสินะครับ และคน ๆ นั้นก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเพโดร


    (เวอร์นอนเดินไปที่โต๊ะ และนั่งลงโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ)


    วินนี่ คูเปอร์:

    คุณปู่เวิร์น ทำไมยังพยายามจะปกป้องคนอกตัญญูพรรค์นั้นอยู่อีกคะ! ปู่ใจดีกับเขาเกินไปแล้ว หมอนั่นมันได้คืบจะเอาศอกชัด ๆ 


    ลุค เพียร์ซ:

    วินนี่ คุณเวิร์นเล่าอะไรให้เธอฟังเหรอ


    (วินนี่หันไปมองเวอร์นอนเงียบ ๆ พร้อมสีหน้าโกรธขึ้ง จากนั้นก็หันหน้าออกมาอีกทาง เธอกัดริมฝีปากของเธอไว้แน่น)


    (นอกจากลมหายใจที่ถูกพ่นออกมายาวเหยียด เวอร์นอนก็ไม่มีทีท่าที่จะบอกความจริงแก่คุณแต่อย่างใด พฤติกรรมแปลก ๆ ของเขาทำให้คุณนึกถึงรูปครอบครัวของเขากับรูปเพโดรที่อยู่บนชั้นวางหนังสือขึ้นมา)


    คุณ:

    (หรือว่า! เพโดรน่ะหน้าเหมือนเด็กผู้ชายที่อยู่ในรูปครอบครัวเลยนี่! เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณกรีนปกปิดความจริงหรือเปล่า…)

    คุณกรีน ขอโทษด้วยนะคะถ้าฉันสิ่งที่ฉันจะพูดต่อไปนี้มันดูยุ่มย่ามเรื่องส่วนตัวคุณเกินไป คือเราเจอรูปครอบครัวคุณกับรูปเพโดรที่ชั้นวางหนังสือ…ที่คุณปกป้องเขาเป็นเพราะเขาดูคล้ายลูกชายคุณเองหรือเปล่าคะ



    (เวอร์นอนมองมาที่คุณด้วยความตกใจ ก่อนจะพ่นลมหายใจยาวเหยียดออกมาอีกครั้ง)


    เวอร์นอน กรีน:

    เธอรู้ได้ยังไง…

    (คุณยื่นรูปที่คุณเจอบนชั้นวางหนังสื่อไปให้เวอร์นอน)


    คุณ:

    เด็กผู้ชายคนนี้…เป็นลูกคุณสินะคะ


    เวอร์นอน กรีน:

    ใช่…เขาเป็นลูกคนเดียวของเรา ชื่อปีเตอร์น่ะ


    คุณ:

    มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหรอคะ…


    เวอร์นอน กรีน:

    27 ปีก่อน ตอนที่ปีเตอร์อายุ 18 เขาติดมหาวิทยาลัยสเตลลิสที่เป็นม.ในฝัน เขาก็เลยอยากไปเที่ยวฉลอง ซึ่งนั่นก็ควรจะเป็นช่วงเวลาดี ๆ แต่…ดันเกิดเหตุรถชนขึ้น…แล้วปีเตอร์ก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย เพนนีกับฉันเลยเริ่มให้เงินช่วยเหลือนักเรียนยากจนเพื่อรับมือกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น…มันรู้สึกเหมือนกับความฝันเรื่องมหาวิทยาลัยของปีเตอร์นั้นคงอยู่ท่ามกลางเด็ก ๆ และความพากเพียรของเด็ก ๆ เหล่านั้น แต่ว่า เพนนีไม่เคยทำใจเรื่องการตายของลูกได้เลย ผ่านไปอีกสองปีเธอก็จากไป…


    คุณ:

    ฉันเสียใจด้วยนะคะคุณกรีน…


    เวอร์นอน กรีน:

    เพนนีน่ะชอบทำอาหาร เลยมีสูตรอาหารของเธอหลงเหลืออยู่ ฉันก็เลยออกจากงานแล้วก็มาเปิดร้านอาหารนี่ เพื่อที่ผู้คนจะสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารของเธอได้ เพโดรเขาเคยเป็นพนักงานพาร์ตไทม์ที่นี่ เขาอยากทำงานพิเศษไปด้วยเรียนไปด้วย เขาทำให้ฉันนึกถึงปีเตอร์จริง ๆ ทุกคืน ๆ ฉันจะเห็นเขาทบทวนบทเรียนอยู่ในครัวหลังจากเลิกงาน ฉันเลยอดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเขา สำหรับฉันแล้ว เขาแตกต่างจากนักเรียนคนอื่น ๆ ที่ฉันสนับสนุนเลย


    ลุค เพียร์ซ:

    ฟังแล้วเหมือนเพโดรเมื่อก่อนนี่จะเป็นคนที่ดีแล้วก็ซื่อสัตย์เลยนะ


    เวอร์นอน กรีน:

    แน่นอนสิ! ที่เขาวางยาในน้ำดื่มไม่ใช่ความผิดเขาแม้แต่น้อย DeliCart เป็นคนบังคับต่างหาก!


    คุณ:

    DeliCart บังคับเขาเหรอคะ คุณรู้ได้ยังไง


    เวอร์นอน กรีน:

    เรื่องมันเริ่มจากปีที่แล้ว ตอนที่เขาเข้าไปทำงานกับบริษัทนั่น…


    [ตัดเข้าภาพเหตุการณ์ในอตีต]



    เพโดร บรูกส์:

    ปู่เวิร์น ปู่ต้องช่วยผมนะครับ…เขาจะไล่ผมออกจากกงาน!


    เวอร์นอน กรีน:

    เพโดร เกิดอะไรขึ้นกับเธอกัน


    (เพโดรคุกเข่าลงตรงหน้าเวอร์นอน สะอื้นไห้ออกมาด้วยความขมขื่นใจ แก้มทั้งสองข้าวบวมออกมา รอยมือสีม่วงช้ำปรากฏเด่นชัดอยู่บนผิวของเขา เห็นได้ชัดเลยว่าเขาถูกทำร้ายมา


    เวอร์นอน กรีน:

    ใครมันทำกับเธอได้ขนาดนี้! ฉันจะโทรแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้แหละ!


    เพโดร บรูกส์:

    ไม่ อย่าโทรหาตำรวจนะครับ รอยพวกนี้ผมเป็นคนทำเอง…


    เวอร์นอน กรีน:

    ทำเอง!? ทำไมล่ะ…


    เพโดร บรูกส์:

    ผมทำยอดขายประจำเดือนห่างจากเป้าหมายไป 70,000 ดอลลาร์ เพราะงั้นผมเลยต้องตบหน้าตัวเอง 50 ครั้งต่อหน้าคนในทีม…


    *70,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 2,489,340 บาทไทยโดยประมาณ

    เพโดร บรูกส์:

    ที่บริษัทเรียกการทำแบบนี้ว่า “สิ่งเสริมสร้างแรงจูงใจ” ถ้าผมตบหน้าตัวเองไม่แรงพอ เขาจะหักเงินเดือนเพราะว่าผมไม่ตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเองได้ดีพอ


    เวอร์นอน กรีน:

    บ้าบอสิ้นดี! การที่บริษัททำกับเธอแบบนี้มันผิดกฎหมายนะ! เพโดร ลาออกจากงานมาเดี๋ยวนี้ เราจะฟ้องบริษัทนั่นซะ!


    เพโดร บรูกส์:

    ปู่เวิร์น ผมลาออกไม่ได้หรอกนะ! ปู่ไม่รู้หรอกว่างานตอนนี้มันหายากขนาดไหน ผมจบจากมหาวิทยาลัยแล้ว…ผมกลับไปทำงานใช้แรงงานไม่ได้หรอกนะ…งานก่อนหน้านี้ผมก็ทำได้ไม่นาน ถ้าผมลาออกอีก คงไม่มีบริษัทไหนจ้างผมแล้ว! ผมไม่อยากกลับไปบ้านเกิดด้วย ที่ล้าหลังพรรค์นั้น…ผมอยากอยู่ในเมืองต่อครับ…


    [จบการย้อนความ]


    คุณ:

    ที่ DeliCart ทำนั่นผิดกฎหมายร้ายแรงมาก! เขาควรจะฟังคุณ ลาออกมา แล้วก็ฟ้องบริษัทซะ!


    เวอร์นอน กรีน:

    เพโดรน่ะกลัวความจน เขาก็เลยอยากก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ฉันเข้าใจดีเลยล่ะ ตอนนั้นฉันตกใจมากบวกกับอยากช่วยเขา เขาขอให้ฉันสมัครสมาชิก DeliCart เดือนละ 300 ดอลลาร์ ฉันก็ตอบตกลง ถือซะว่าช่วยเขาไป


    *300 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 10,669 บาทไทยโดยประมาณ

    ลุค เพียร์ซ:

    แต่นั่นกลับเป็นแค่จุดเริ่มต้นสินะครับ เพโดรเริ่มบีบบังคับให้คุณจ่ายเงินมากขึ้น เช่นการสมัครเป็นสมาชิกระดับพรีเมียม


    เวอร์นอน กรีน:

    ใช่แล้วล่ะ…ค่าสมาชิกพรีเมียมน่ะเดือนละ 4500 ดอลลาร์ ยิ่งค่าโฆษณานี่ยิ่งแพงเข้าไปใหญ่เลย…ฉันจ่ายไม่ไหวจริง ๆ คำปฏิเสธของฉันเลยไปสร้างความกดดันให้เขามากขึ้นเรื่องยอดขาย เรื่องนี้ก็เลยบีบเขาให้เลือกเดินทางผิด ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของ DeliCart ทั้งนั้น พึ่งพากลยุทธ์ขายของจากการถล่มรีวิวแง่ลบกับจ้างคนมาก่อปัญหาในร้าน ร้านอาหารข้าง ๆ กันนี่ก็ตกเป็นเหยื่อไปแล้วล่ะ


    *4500 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 160,029 บาทไทยโดยประมาณ

    คุณ:

    แล้วทำไมเจ้าของร้านอาหารถึงไม่รวมกลุ่มกันเพื่อฟ้องศาลเหรอคะ


    เวอร์นอน กรีน:

    เราไม่มีหลักฐานน่ะสิ…ว่ากันว่า DeliCart มีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังอยู่ด้วย คนในอินเตอร์เน็ตก็อยู่ข้างพวกเขา ส่วนฉันก็ทำได้แค่มองเพโดรเรียนรู้วิธีการแย่ ๆ พวกนั้นมา…พูดตรง ๆ เลยนะ ตอนที่สำนักงานรับรองความปลอดภัยด้านอาหารกลับไปแล้ว ฉันรู้อยู่แก่ใจดีว่าเพโดรเป็นคนก่อเรื่อง แต่ว่า…


    ลุค เพียร์ซ:

    เพราะงั้นคุณก็เลยล้างถังน้ำ ทำความสะอาดยาฆ่าแมลงจากร้าน แล้วก็ยังทำลายกล้องวงจรปิดด้วย…คุณทำทั้งหมดนี่เพื่อปกป้องเขา แล้วคุณมั่นใจได้ยังไงว่าเพโดรเป็นคนทำเหรอครับ


    เวอร์นอน กรีน:

    ฉัน…


    วินนี่ คูเปอร์:

    ปู่เวิร์นคะ! ถ้าปู่ปล่อยให้เพโดรลอยนวลอยู่แบบนี้ ร้านปู่จะถูกบังคับให้ปิดกิจการลงเพราะเหตุการณ์นี้นะคะ! แล้วก็จะไม่มีใครได้ทานอาหารอร่อย ๆ ของคุณย่าอีกนะคะ…


    เวอร์นอน กรีน:

    ฉันก็เคยคิดที่จะเปิดเผยเรื่องนี้สู่สาธารณะเหมือนกัน แต่ว่าฉันน่ะไม่อยากให้เพโดรติดคุก เขาน่ะยังเด็กและไร้เดียงสานัก ถ้าเขาเข้าคุก ชีวิตเขาจะพังทันที!


    ลุค เพียร์ซ:

    คุณกรีน แต่ทางเดียวที่จะทำให้เพโดรกลับมาเดินในเส้นทางที่ถูกต้องได้ ก็มีแต่ต้องนำ DeliCart เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมนะครับ คุณไม่คิดแบบนั้นเหรอ คดีอาหารเป็นพิษในครั้งนี้สามารถเป็นก้าวแรกให้เราไปเปิดโปงอาชญากรรมที่ DeliCart ก่อได้ ตราบใดที่เพโดรสามารถพิสูจน์เรื่องราวต่อศาลได้…


    เวอร์นอน กรีน:

    พ่อหนุ่ม เธอไม่เข้าใจ! ฉันไม่เคยคิดแบบที่เธอว่าเลย บริษัทนั่นไม่ใช่สิ่งที่เราจะเข้าไปยุ่งด้วยได้หรอกนะ 


    คุณ:

    แต่คุณก็ไม่ได้ห้ามให้เราทำการสืบสวนนี่คะ จริง ๆ แล้วส่วนหนึ่งในใจคุณก็ต้องการให้ความจริงถูกเปิดเผนออกมาไม่ใช่เหรอคะ ถ้าเพโดรตกลงให้ความร่วมมือ ฉันสามารถสู้คดีให้เขาในชั้นศาล-


    เวอร์นอน กรีน:

    เธอเป็นทนายความสินะ ฉันรู้มาตั้งนานแล้วล่ะ ที่ปกปิดตัวตนคงเพราะวินนี่บอกว่าฉันไม่ชอบทนายความสินะ…


    (คุณไม่รู้ตัวเลยว่าก่อนหน้านี้คุณเผลอหลุดปากพูดอะไรออกไปบ้าง)


    คุณ:

    ขอโทษค่ะคุณกรีน…


    เวอร์นอน กรีน:

    จริง ๆ แล้วฉันก็ไม่ได้ไม่เห็นด้วยเรื่องหาทนายหรอกนะ แต่ฉันกลัวว่าเพโดรจะโดนทนายเล่นงาน ฉันน่ะเคยคิดว่าการตรวจสอบของพวกเธอจะไม่พบอะไรเพราะว่าทำความสะอาดทุกอย่างไปหมดแล้ว ถ้าฉันสามารถวินนี่ล้มเลิกแผนการได้ แล้วหากได้ลดเงินที่ต้องจ่ายชดเชยนิด ๆ หน่อย ๆ ก็คงเป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว แต่ฉันประเมินความสามารถของพวกเธอและความดื้อรั้นของวินนี่ต่ำเกินไป ฉันเล่าทุกอย่างให้วินนี่ฟังไปหมดแล้วตอนที่อยู่ชั้นบน เธอก็พยายามจะเปลี่ยนใจฉัน แต่ก็นะ…ฉันรู้ว่าพวกเธอทุกคนทำเพื่อฉัน แต่ฉันทนเห็นเพโดรไปอยู่ในคุกไม่ได้จริง ๆ …ฉันขอโทษ พวกเธอกลับไปเถอะ


    (เวอร์นอนหมุนตัวเตรียมกลับขึ้นไปบนชั้นสองร้าน คุณกำลังอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่างออกมา เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูร้านอาหารถูกเปิดขึ้นอย่างกะทันหัน) 


    (ใครกันที่มาที่นี่ในเวลาแบบนี้ คุณหันไปมองประตูหน้าร้านและพบกับ…)



    (เพโดร)



    Talk:

    ฉันคิดงานไม่ออกจนเครียดก็เลยมานั่งแปลเกมนี้ สุดท้ายความเครียดฉันเลยย้ายมาอยู่กับเกมนี้แทนค่ะ

    Orz

    สักพักอ่านเวอร์ชันอังกฤษแล้วรู้สึกแปลก ๆ นิดหน่อย เลยลากเพื่อนที่อ่านจีนออกมาแปลเวอร์ชันภาษาจีนให้ฟังหน่อย แล้วก็ตู้ม! กลายเป็นคนเครียดสองคนล่ะค่ะ Orz Orz


    ใกล้ถึงตอนขึ้นศาลแล้ว ศัพท์ทางธุรกิจกับกฎหมายที่โผล่มานิด ๆ หน่อย ๆ นี่ยากจริง ๆ ไม่อยากจะคิดถึงตอนที่นางเอกขึ้นว่าความเลยค่ะ…


    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ


    ขอให้พบเจอวันที่ดีค่ะ


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in