(การปรากฏตัวของคุณทำให้เพโดรเกิดลังเลขึ้นมา เขาเลือกที่จะหยุดต่อปากต่อคำและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เพโดรออกไปแล้ว วินนี่ก็แข้งขาอ่อนลงไปกองกับพื้นทันที คุณจึงรีบติดต่อหาอาร์เท็มเพื่อพาเธอเข้าไปนั่งในสำนักงาน)
[สถานที่: ห้องพักพนักงาน]
คุณ:
รู้สึกดีขึ้นหรือยังคะ อยากไปโรงพยาบาลไหม
วินนี่ คูเปอร์:
ฉันไม่เป็นไรแล้วค่ะ แค่น้ำตาลในเลือดต่ำเฉย ๆ
(อาร์เท็มเดินกลับมาพร้อมแก้วหนึ่งใบ เขาวางมันลงตรงหน้าวินนี่)
อาร์เท็ม วิง:
ช็อกโกแลตร้อนน่ะ ดื่มแล้วจะได้รู้สึกดีขึ้น
วินนี่ คูเปอร์:
ขอบคุณนะคะ ฉันชื่อวินนี่ คูเปอร์ วันนี้มาเพราะอยากจะจ้างทนายไปว่าความให้ร้าน Penny’s Confort Foods น่ะค่ะ
คุณ:
Penny’s Comfort Foods งั้นเหรอ ใช่ร้านอาหารส่วนตัวระดับท็อปคลาสที่โดนวิพากษ์วิจารณ์อยู่เพราะเหตุการณ์ที่ลูกค้าอาหารเป็นพิษหรือเปล่าคะ
วินนี่ คูเปอร์:
ที่เขียนไว้บนเน็ตน่ะเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ! คุณปู่เวิร์นน่ะเปิดร้านนี้ขึ้นมาเพราะอยากระลึกถึงภรรยาที่เสียไป แล้วตลอด 25 ปีที่เปิดมาร้านไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยเลย เรื่องอาหารเป็นพิษครั้งนี้ต้องเป็นแค่อุบัติเหตุแน่ค่ะ…
อาร์เท็ม วิง:
คุณคูเปอร์ ‘คุณปู่เวิร์น’ที่คุณพูดถึงเป็นใคร แล้วคุณมีความสัมพันธ์แบบไหนกับเขางั้นเหรอครับ
วินนี่ คูเปอร์:
ชื่อจริงคุณปู่เวิร์นคือเวอร์นอน กรีนค่ะ เขาเป็นเจ้าของ Penny’s Comfort Foods แล้วก็เป็นคนสนับสนุนทุนการศึกษาของฉันด้วย
คุณ:
คนสนับสนุนทุนการศึกษาเหรอคะ
วินนี่ คูเปอร์:
ใช่ค่ะ คุณปู่เวิร์นเขาได้มอบทุนการศึกษาให้เหล่านักเรียนด้อยโอกาสมาหลายปีแล้ว ฉันก็เป็นหนึ่งในนักเรียนเหล่านั้นค่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปู่ฉันคงไม่ได้เรียนที่มหาวิทยาลัยสเตลลิสแน่ ๆ
อาร์เท็ม วิง:
ที่คุณมาที่นี่วันนี้เป็นเพราะคดีความถูกดำเนินการฟ้องร้องไปแล้วเหรอครับ
วินนี่ คูเปอร์:
ใช่แล้วค่ะ จริง ๆ แล้วคุณปู่เวิร์นอยากจะเจรจาเรื่องนี้ให้จบแบบเงียบ ๆ แต่ผู้เสียหายเรียกเงินเกินกว่าเหตุมาก เขาเลยปฏิเสธข้อเรียกร้องนั้นไป จากนั้นลูกค้ากลุ่มนั้นก็ไปจ้างสำนักงานกฎหมายบัลเดอร์ให้จัดการฟ้องร้องดำเนินคดีแบบกลุ่มขึ้นมา
[เพิ่มเติม: การดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) คือ การดำเนินคดีแพ่งที่บุคคลคนหนึ่งหรือหลายคนได้ดำเนินคดีแพ่งเพื่อตนเองและเพื่อกลุ่มบุคคลที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน
Source: https://www.sec.or.th/th/pages/lawandregulations/classaction.aspx]
คุณ:
บัลเดอร์อีกแล้วเหรอ…
(สำนักงานกฎหมายบัลเดอร์เป็นสำนักงานกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในเมืองสเตลลิส ตั้งแต่ทนายตัวท็อปสองคนของที่นั่นว่าความแพ้อาร์เท็ม บัลเดอร์ก็ถือว่าเธมิสเป็นศัตรูตัวฉกาจและหาโอกาสที่จะได้ปะทะกับฝั่งเราตลอดเวลา แต่คนในเธมิสไม่มีใครเก็บเรื่องบัลเดอร์มาคิดเป็นจริงเป็นจังแม้แต่คนเดียว ซึ่งการที่ฝั่งเธมิสเลือกที่จะเมินเฉยความขุ่นข้องหมองใจของทางนั้นดูเหมือนจะกระทบศักศรีของอีกฝั่งอยู่ไม่น้อย…)
วินนี่ คูเปอร์:
คุณปู่เวิร์นโกรธจนหัวใจแทบวาย ทนายจากบัลเดอร์ทำให้ปู่เวิร์นรู้สึกแย่กับพวกทนายมาก ดังนั้นเขาเลยจะไม่จ้างทนายคนไหนไปว่าความให้ตัวเองแม้แต่คนเดียว
แต่ว่าคุณปู่จะต้องขึ้นศาลในวันพุธหน้าแล้ว ถ้าร้านเราไม่หาทนาย ไม่มีทางที่เราจะแก้ต่างให้ตัวเองได้เลย...พวกเราน่ะ...ฉ-ฉันไม่รู้ว่าฉันควรอะไร....
คุณ:
คุณวินนี่ หายใจเข้าลึก ๆ นะคะ ฉันจะขอให้คุณตอบคำถามของฉันสักเล็กน้อย ทางเราจะได้เรียบเรียงได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างนะคะ
วินนี่ คูเปอร์:
โอเคค่ะ
[เริ่มถามคำถาม]
[คำถาม: คนที่ทะเลาะกับคุณตรงทางเข้าสำนักงาน]
คุณ:
ผู้ชายที่คุณมีปากเสียงด้วยตรงทางเข้าเป็นใครคะ
วินนี่ คูเปอร์:
หมอนั่นชื่อเพโดร บรูกส์ เป็นผู้จัดการฝ่ายขายของ DeliCart ค่ะ
คุณ:
DeliCart ที่เป็นแอปรีวิวร้านอาหารเหรอคะ
วินนี่ คูเปอร์:
ใช่แล้วค่ะ
คุณ:
เหตุการณ์นี้เกี่ยวกับทาง Delicart ด้วยเหรอคะ
วินนี่ คูเปอร์:
ตอนแรกก็ไม่เกี่ยวหรอกค่ะ แต่พอเพโดรรู้เรื่อง เขาก็พยายามมาขายฟีเจอร์พรีเมียมของแอปให้ปู่เวิร์นน่ะค่ะ
[ตัดเข้าภาพเหตุการณ์ในอตีต]
เพโดร บรูกส์:
ฟังนะตาแก่ ลูกค้าอาหารเป็นพิษเพราะอาหารในร้านมันมีปัญหาจริง ๆ นี่ ดื้อแพ่งสู้คดีไปยังไงก็แพ้ ถ้าเรื่องไปถึงขั้นต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเนี่ย จะเสียทั้งเงินก้อนทั้งชื่อเสียงเลยนา เชื่อผมสิ ถ้าปู่ยอมซื้อบริการโฆษณาระดับพรีเมียมของบริษัทเรา รีวิวแย่ ๆ เนี่ยจะหายวับไปกับตาเลย ชื่อเสียงร้านปู่ก็จะกลับมาด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเชียวนะ
[จบการย้อนความ]
คุณ:
เขามั่นใจได้ยังไงว่ารีวิวแย่ ๆ มันจะหายไปหมดเลย? แถมตัว DeliCart เองก็...ฉันได้ยินมาว่าบริษัทพวกเขากำลังจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ แสดงว่าบริษัทก็น่าจะต้องระแวดระวังกับเรื่องเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากเลยสิ
อาร์เท็ม วิง:
การที่ DeliCart มามีเอี่ยวกับเหตุการณ์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้แบบนี้ไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่ฉลาดเลย การที่คุณบรูกส์มาขายของกับคุณกรีนแบบนี้นี่เขาตัดสินใจทำด้วยตัวเอง หรือทาง DeliCart แนะนำมางั้นเหรอครับ
วินนี่ คูเปอร์:
ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ ตัว DeliCart เองก็เป็นบริษัทน่าสงสัยเช่นกัน แถมไม่ใช่ครั้งแรกด้วยที่เพโดรมาคุกคามคุณปู่เวิร์นแบบนี้
คุณ:
ไม่ใช่ครั้งแรก…?
[คำถาม: การเผชิญหน้ากันก่อนหน้านี้] (เป็นคำถามต่อจากอันก่อนหน้า)
คุณ:
ที่คุณบอกว่าเหตุการณ์ที่ DeliCart หรือตัวคุณบรูกส์มาคุกคามคุณกรีนไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกนี่ ช่วยอธิบายเพิ่มได้ไหมคะ
วินนี่ คูเปอร์:
เพโดรเป็นคนรับหน้าที่เรื่องยอดขายในพื้นที่ที่ร้านอาหารของคุณปู่เวิร์นตั้งอยู่ค่ะ เมื่อก่อนเพโดรเคยคุกคามคุณปู่ให้คุณปู่สมัครสมาชิกระดับพรีเมียม เพื่อที่ว่าเขาจะได้ทำยอดได้ตามเป้าค่ะ แต่เพราะราคามันแพงเกินไป คุณปู่ก็เลยปฏิเสธเพราะว่าจะเก็บเงินไว้ช่วยเหล่านักเรียนที่ด้อยโอกาสแทน
จากนั้นเพโดรก็โดนลงโทษจากทางบริษัทเพราะว่ายอดไม่ได้ตามเป้า เขาก็เลยเกลียดคุณปู่เวิร์นมาตั้งแต่ตอนนั้น เขาเคยแม้กระทั่งจ้างพวกนักเขียนผีมาถล่มรีวิวแย่ ๆ ใส่ร้านคุณปู่ด้วยซ้ำ เขาต้องกำลังดีใจอยู่แน่ ๆ ที่เหตุการณ์อาหารเป็นพิษรอบนี้เกิดขึ้นมา!
อาร์เท็ม วิง:
หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ระหว่างคุณบรูกส์และคุณกรีนนั้นมีผลประโยชน์ทับซ้อนกันอยู่ เหตุการณ์นี้ทำให้ฝ่ายคุณบรูกส์เกิดช่องทางการทำธุรกิจขึ้น
คุณ:
คุณสงสัยว่าคุณบรูกส์มีส่วนเกี่ยวข้องบางอย่างกับเหตุการณ์ในครั้งนี้เหรอคะ?
อาร์เท็ม วิง:
เราก็ต้องคำนึงถึงทุกความเป็นไปได้ล่ะนะ
[คำถาม: ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น]
คุณ:
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่เหรอคะ
วินนี่ คูเปอร์:
เที่ยงวันศุกร์เมื่อสองอาทิตย์ก่อนน่ะค่ะ
ญาติของลูกค้า:
ภรรยาผมมาทานมื้อเที่ยงกับเพื่อนร่วมงานของเธอที่นี่ หลังจากมื้อนั้นเธอก็ทั้งอ้วกทั้งท้องเสียตลอดทั้งบ่ายเลย! อาหารคุณมันต้องมีอะไรผิดปกติแน่!
ญาติของลูกค้า:
ลูกชายกับลูกสะใภ้ฉันก็มีอาการแบบนั้นเหมือนกันค่ะ! คุณภาพดีอะไรกัน คุณคงจะใช้วัตถุดิบห่วย ๆ มีสารปนเปื้อนเพื่อโกยกำไรล่ะสิ!
ญาติของลูกค้า:
ผมเก็บใบเสร็จกับใบรับรองแพทย์ไว้แล้ว FSB ก็คงจะมาที่นี่ในอีกไม่นาน มาดูกันว่าคุณจะรอดจากตรงนี้ไปได้ยังไง!
[เพิ่มเติม: Food Safety Bureau (FSB) = สำนักงานรับรองความปลอดภัยด้านอาหาร (คล้าย ๆ อย.ของไทย)]
ญาติของลูกค้า:
อย่าปล่อยให้พวกเขาเทซุปทิ้งนะ...ไม่สิ ต้องเรียกว่าหลักฐานต่างหาก!
วินนี่ คูเปอร์:
ลูกค้าทั้งหกคนที่ทานซุปเต้าหู้ทะเล (Seafood Tofu Soup) ในวันนั้นมีอาการอาหารเป็นพิษกันทุกคนเลยค่ะ สำนักงานรับรองความปลอดภัยด้านอาหารก็ตรวจเจอว่ามียาฆ่าแมลงปนเปื้อนอยู่ในน้ำแร่ที่ใช้ทำซุปขึ้นมา ทางสำนักงานจึงสรุปว่าคดีนี้เกิดจากความประมาทเลินเล่อของทางร้านเอง เอกสารนี่คือรายงานอุบัติการณ์จากทาง FSB ค่ะ
[ได้รับหลักฐาน ‘รายงานอุบัติการณ์ของ FSB’]
อาร์เท็ม วิง:
ยาฆ่าแมลงงั้นเหรอ…
[คำถาม: ยาฆ่าแมลงที่ใช้]
อาร์เท็ม วิง:
เรื่องการกำจัดแมลงในร้านนี่จ้างบริษัทที่เชี่ยวชาญมาทำให้หรือว่าให้ลูกจ้างในร้านทำกันเองเหรอครับ
วินนี่ คูเปอร์:
คุณปู่เวิร์นบอกว่าเขาจะวานให้ผู้ดูแลร้านซื้อยาฆ่าแมลงเข้ามาทุกวันจันทร์ค่ะ
อาร์เท็ม วิง:
แต่ยาฆ่าแมลงที่ซื้อขายกันได้ทั่วไปนี่ ส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตรายกับคนนะครับ ยากมากที่จะหาซื้ออันที่เป็นพิษกับคนมาได้ แต่ไม่ว่าเขาจะตั้งใจหรือไม่ การซื้อยาฆ่าแมลงผิดประเภทแล้วทำให้น้ำปนเปื้อนได้ย่อมเกิดจากความไม่ระมัดระวังของเขาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
คุณ:
ถ้าเป็นแบบนั้น คุณกรีนจะสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากคุณผู้ดูแลได้ตามจำนวนเงินที่เขาเสียไปค่ะ
วินนี่ คูเปอร์:
แต่คุณปู่เวิร์นเขาพูดว่าตัวเองเป็นคนใช้ยาฆ่าแมลงเองน่ะค่ะ แถมยังบอกอีกว่าคงเพราะแก่แล้วก็เลยมือสั่นจนอาจจะเผลอทำให้ยามันกระเด็นลงน้ำไป…
อาร์เท็ม วิง:
ตอนที่ทำไม่รู้ตัว...แต่ตอนสารภาพกลับมั่นใจว่าตัวเองเป็นคนทำ มันย้อนแย้งอยู่นะ
[คำถาม: เกี่ยวกับพนักงาน]
คุณ:
แค่สามารถซื้อยาฆ่าแมลงที่เป็นพิษต่อคนได้ก็น่าสงสัยมากพออยู่แล้ว...มีลูกจ้างคนไหนที่มีพฤติกรรมแปลกไปหลังจากที่เหตุการณ์เกิดขึ้นไหมคะ
วินนี่ คูเปอร์:
คนที่ดูแปลกไปงั้นเหรอคะ
อาร์เท็ม วิง:
อย่างเช่น จู่ ๆ ก็ซื้อของราคาแพง ๆ ขึ้นมาได้น่ะครับ
วินนี่ คูเปอร์:
อืมม...ฉันคิดว่าไม่มีนะคะ ร้านคุณปู่ก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากอยู่แล้ว นอกจากตัวเขาเองที่เป็นพ่อครัว ตำแหน่งที่เขาจ้างก็มีแค่เด็กเสิร์ฟกับผู้ดูแลค่ะ หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น สองคนนั้นก็กลัวว่าตัวเองจะโดนหางเลขไปด้วยเลยหาเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ขึ้นมาเพื่อลาออกไปทำงานที่อื่นแล่วล่ะค่ะ
[คำถาม: ความคิดเห็นของเด็กที่ได้รับการอุปถัมภ์คนอื่น ๆ]
คุณ:
คุณบอกว่าคุณกรีนสนันสนุนทุนการศึกษาให้เด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาส เขาทำแบบนี้มานานขนาดไหนแล้วคะ
วินนี่ คูเปอร์:
ตั้งแต่ภรรยาของเขายังมีชีวิตอยู่เลยค่ะ น่าจะทำแบบนี้มาเกินยี่สิบปีได้แล้ว
คุณ:
ถ้าอย่างนั้นเด็กหลาย ๆ คนก็คงจะมีงานมีครอบครัวกันแล้วสินะคะ
วินนี่ คูเปอร์:
ใช่แล้วล่ะค่ะ มีหลายคนเลยที่มีชีวิตการเป็นอยู่ที่ดีในเมืองสเตลลิสนี่ อย่างตัวฉันเองนี่ก็อาจจะนับได้ว่าเริ่มยืนอยู่ได้ด้วยลำแข้งตัวเองแล้วเหมือนกันค่ะ เดือนที่แล้วฉันได้จดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัยสเตลลิสพร้อมทุนการศึกษาเต็มจำนวน เพราะแบบนั้นฉันก็เลยเข้าเมืองมาก่อนเพื่อทำงานหาเงินน่ะค่ะ จะให้พึ่งคุณปู่เวิร์นไปตลอดก็คงไม่ได้ จริงมั้ยล่ะคะ
คุณ:
ฉันชื่นชมคุณจากใจเลยวินนี่ ถึงแม้ว่างานกุศลที่คุณกรีนทำอยู่นี้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีนัก แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เรารู้ว่าเขาเป็นคนดี ไม่ใช่พวกคนที่คิดคดหาแต่กำไรจากคนอื่น ถ้าหากศาลตัดสินว่าเขาผิด ข้อมูลส่วนนี้สามารถลดหย่อนค่าเสียหายที่คุณกรีนต้องจ่ายได้ รวมถึงยังสามารถรักษาชื่อเสียงของร้านไว้ได้อีกด้วย วินนี่ คุณสามารถตามคนที่คุณกรีนอุปถัมภ์ไว้มาแสดงตัวที่ศาลให้หน่อยได้ไหมคะ
วินนี่ คูเปอร์:
จริง ๆ แล้ว...ฉันติดต่อพวกเขาไปตั้งแต่หลังเหตุการณ์เกิดเลยค่ะ บางคนที่ใจดี ๆ หน่อยก็เลือกที่จะช่วยจ่ายค่าเสียหายให้เป็นการตอบแทนบุญคุณ แต่บางคนนี่กลับไหลตามคนในเน็ตแล้วต่อว่าคุณปู่เสียยกใหญ่เลยค่ะ! พวกเขาบอกว่าปู่เวิร์นแก่แล้วก็เป็นธรรมดาที่จะทำพลาดไป แถมยังมาว่าฉันว่ามาทวงบุญคุณแทนคุณปู่ไปอีก ฉันไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นซักหน่อย...
อาร์เท็ม วิง:
การที่คนมักหลีกเลี่ยงการเอาตัวเองมาเอี่ยวกับคดีความก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ล่ะนะ
[คำถาม: อาการของลูกค้า]
คุณ:
ผู้เสียหายเป็นอย่างไรบ้างคะ
วินนี่ คูเปอร์:
ทุกคนหายดีหมดแล้วค่ะ นี่คือใบรายงานผู้ป่วยจากทางโรงพยาบาลค่ะ
[ได้รับหลักฐาน ‘รายงานผู้ป่วยของกลุ่มลูกค้า’]
วินนี่ คูเปอร์:
ทั้งหกคนทานอาหารที่ร้านแล้วก็มีอาการท้องร่วงอย่างหนัก อาการมีแค่เท่านั้นค่ะ ไม่มีใครอาการหนักจนถึงขึ้นต้องนอนโรงพยาบาล รวมถึงไม่มีใครโดนเรื่องขาดงานด้วยเพราะมันเป็นวันหยุดพอดี แต่พวกเขาเรียกค่าเสียหายกับคุณปู่ตั้งคนละ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ (~ 1 ล้านบาท) บ้ากันไปใหญ่แล้ว!
อาร์เท็ม วิง:
ค่าเสียหายที่ผู้เสียหายสามารถเรียกได้นั้นมีกฎหมายกำหนดอยู่ ผู้พิพากษาไม่มีทางปล่อยให้โจทก์ขูดรีดเงินจากฝ่ายจำเลยแน่
วินนี่ คูเปอร์:
โล่งอกไปทีค่ะ
[สิ้นสุดการถามคำถาม]
วินนี่ คูเปอร์:
ฉันเพิ่งมาอยู่ที่เมืองสเตลลิสได้ประมาณเดือนเดียว วันไหนที่ฉันไม่ได้ทำงานก็จะแวะไปดูแลคุณปู่เวิร์น เพราะงั้น ข้อมูลทั้งหมดทีฉันรู้เกี่ยวกับคดีก็มีเท่านี้ค่ะ
อาร์เท็ม วิง:
ตอนนี้เราพอจะเข้าใจสถานการณ์โดยรวมแล้ว แต่ก็ยังคงต้องไปตรวจสอบสถานที่จริงอยู่ ทว่าก่อนที่จะดำเนินการขั้นต่อไปได้นั้น สัญญาตัวแทนจำเป็นต้องมีการร่างและลงนามให้เรียบร้อยเสียก่อนครับ ปัญหาตอนนี้คือคุณนั้นไม่ใช่ทั้งเจ้าของและผู้จัดการร้าน คุณก็เลยไม่สามารถจ้างทนายความได้
วินนี่ คูเปอร์:
งั้นเหรอคะ…
คุณ:
คุณกรีนตอนนนี้น่าจะอารม์เย็นลงแล้ว ให้ฉันลองไปพบเขาแล้วเกลี้ยกล่อมให้เขายอมรับการช่วยเหลือจากทนายความไหมคะ
อาร์เท็ม วิง:
เธออยากเป็นคนรับทำคดีนี้เหรอ
คุณ:
ใช่ค่ะ คุณกรีนให้ทุนการศึกษาเด็ก ๆ ด้อยโอกาสมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เหมือนการส่งมอบความหวังไปให้ผู้ที่ต้องการมัน ตอนนี้เขากลายเป็นคนที่กำลังตกที่นั่งลำบากเสียเอง เขาก็ควรจะมีคนที่ยืนเคียงข้างเขาเหมือนกับคุณวินนี่ตอนนี้ยังไงล่ะคะ อีกอย่าง กฎหมายพาณิชย์และธุรกิจยังเป็นด้านที่ฉันเชี่ยวชาญด้วยค่ะ
อาร์เท็ม วิง:
โอเค งั้นคดีนี้เป็นของเธอนะ ถ้าเธอขาดเหลืออะไรฉันจะช่วยเอง
คุณ:
ขอบคุณนะคะคุณอาร์เท็ม!
วินนี่ คูเปอร์:
คือว่า…
คุณ:
คุณวินนี่รู้สึกกังวลเหรอคะ ถึงฉันจะไม่ใช่ทนายขั้นสูงแบบคุณอาร์เท็ม แต่ว่า...
วินนี่ คูเปอร์:
ไม่...ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ อย่าเข้าใจฉันผิดนะคะ
(วินนี่หยิบซองอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าผ้าแคนวาสของเธอและส่งมันให้คุณกับอาร์เทม)
(คุณเปิดซองซองนั้นออกมาและพบเงินปึกใหญ่หนึ่งปึกในนั้น ทั้ง ๆ ที่สมัยนี้คนนิยมทำธุรกรรมการเงินออนไลน์กันมากกว่าใช้เงินสดแบบนี้ แต่วินนี่กลับ...)
วินนี่ คูเปอร์:
เงินก้อนนี้เป็นเงินที่พ่อแม่ฉันให้มาใช้จ่ายรวมกับเงินเดือนเดือนนี้ของฉันค่ะ...เงินเก็บของคุณปู่เวิร์นส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับทุนการศึกษาเด็ก ๆ แล้ว แถมตอนนี้ยังต้องเตรียมเงินจ่ายค่าเสียหายอีก บวกกับที่เขาแก่แล้วแถมหัวใจยังไม่ค่อยดี ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากจะเป็นคนจ่ายค่าดำเนินการในส่วนนี้แทนเขาเองค่ะ
(ซองเงินในมือคุณพลันหนักอึ้งขึ้นมา พลันอาร์เทมเอื้อมมาหยิบมันออกไปจากมือคุณและส่งคืนให้วินนี่ด้วยรอยยิ้มแสนอ่อนโยนที่คุณเห็นมันได้ไม่บ่อยนัก)
อาร์เท็ม วิง:
ไม่ต้องกังวลครับ ถ้าคุณมีเงื่อนไขตรงกับการช่วยเหลือทางกฎหมายของเธมิส เงินค่าจ้างวานนั้นสามารถลดลงได้ครึ่งหนึ่ง ไปจนถึงขั้นไม่เสียค่าใช้จ่ายสักบาทได้เลยครับ
วินนี่ คูเปอร์:
จริงเหรอคะ
คุณ:
คุณอาร์เท็มเป็นผู้ถือหุ้นในเธมิสด้วย ถือว่าเขาเป็นบอสคนหนึ่งของที่นี่ได้เลยค่ะ ดังนั้นสิ่งที่เขาพูดออกมานั้นเป็นความจริงแน่นอน
วินนี่ คูเปอร์:
ขอบคุณมากเลยค่ะ! จริง ๆ ก่อนหน้านี้ฉันแอบคุณปู่เวิร์นไปจ้างนักสืบเอกชนคนหนึ่ง เขาก็บอกฉันเหมือนพวกคุณเลยค่ะว่าไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน เมืองสเตลลิสนี่ดูเหมือนจะมีคนใจดีอยู่เยอะมากเลยค่ะ
(จู่ ๆ โทรศัพท์ของอาร์เท็มก็ดังขึ้นมา หลังจากที่เห็นว่าใครโทรมาหน้าเขาก็บึ้งตึงขึ้นเล็กน้อย แถมยังมีสีหน้าเป็นกังวลอยู่หน่อย ๆ ด้วย)
อาร์เท็ม วิง:
ผมคงต้องขอตัวก่อน ขอโทษด้วยนะครับ
(หลังจากขอโทษวินนี่ อาร์เท็มก็รีบรุดออกไปจากห้องทันที)
(เนื่องจากเหลือเวลาอยู่ไม่มากแล้ว คุณจึงตัดสินใจลงมือทันทีเพราะไม่อยากให้สายเกินการณ์)
คุณ:
เราควรเริ่มเคลื่อนไหวตั้งแต่ตอนนี้ เพราะว่าวันพุธหน้าก็เป็นวันขึ้นศาลแล้ว ไปพบคุณกรีนที่ร้านกันเลยดีกว่าค่ะ
วินนี่ คูเปอร์:
เข้าใจแล้วค่ะ ร้านอาหารคุณปู่ตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจไม่ไกลจากที่นี่มากค่ะ
(อาร์เท็มยังคงอยู่ในห้องทำงานของเขาตอนที่คุณกับวินนี่ออกจากสำนักงานมา คุณเลยส่งข้อความทิ้งไว้ให้เขาว่าคุณไปไหน)
คุณ:
(คุณอาร์เท็มเจอปัญหาอะไรหรือเปล่านะ หวังว่าเขาจะผ่านมันไปได้ด้วยดี)
[สถานที่: ห้องทำงานของอาร์เท็ม]
(ในห้องทำงานของอาร์เท็ม เขากำลังสนทนากับปลายสายด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว)
อาร์เท็ม วิง:
ผมไม่มีทางเชื่อว่าอาจารย์จะทรยศ NXX ได้จากเนื้อหาในอีเมลแค่ฉบับเดียวหรอกนะ!
'…'
เราสามคนต่างก็มีความเห็นที่แตกต่างกัน และไม่มีทางที่เราจะลงความเห็นกันอย่างเป็นกลางได้ ดังนั้นผมจะดึงสมาชิกคนใหม่เข้าไปช่วยในการสืบสวนด้วย
'…'
อืม ถ้าเจอคนที่เหมาะสม ผมจะส่งตัวให้วินทำการประเมินทางจิตวิทยาต่อไป
หลักฐานที่ได้รับในตอนนี้
[รายงานอุบัติการณ์ของ FSB]
รายงานอุบัติการณ์จากสำนักงานรับรองความปลอดภัยด้านอาหาร เอกสารระบุว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากการปนเปื้อนสารพิษของน้ำแร่ที่ใช้สำหรับประกอบอาหาร
[รายงานผู้ป่วยของกลุ่มลูกค้า]
รายงานผู้ป่วยที่ระบุไว้ว่าลูกค้าทั้งหกคนที่อาหารเป็นพิษนั้นมีอาการปวดท้องและท้องร่วง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in