[สถานที่: ศูนย์นิทรรศการ]
(ชายไม่ทราบชื่อพาคุณมายังศูนย์นิทรรศการแห่งใหม่ คุณพบกับวินที่นั่น)
อรุณสวัสดิ์ครับ MC
คุณ:
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหมอริกเตอร์
???:
เขาคือคนที่ชวนพี่มาที่นี่เหรอ
(พอวินเห็นคนที่อยู่ด้านหลังคุณ รอยยิ้มของเขาก็ค่อย ๆ หายไป)
วิน:
นายก็มาด้วยเหรอ เมเรียส วอน ฮาเกน
อืม เพราะว่าเรียนอยู่ที่นี่ ก็ต้องมาดูงานอยู่แล้วสินะ
เมเรียส:
วิน…
คุณ:
เมเรียส วอน ฮาเกน!?
(ผู้บริหารเครือแพ็กซ์ และเป็นหุ้นส่วนสำนักงานกฎหมายของคุณ เมเรียส วอน ฮาเก็นคนนั้นอะนะ! นี่เป็นครั้งแรกที่คุณได้เห็นเขาแบบตัวเป็น ๆ ก่อนหน้านี้คุณเคยเห็นเขาแค่จากข่าวบันเทิงและข่าวธุรกิจ)
คุณ:
(เมเรียสคนนี้อะนะ ที่แจ้งเตือนข่าวไร้สาระพวกนั้นพูดถึง!?)
(สีหน้าตกใจของคุณคงเห็นได้ชัดเกินไป วินก็เลยล่วงรู้ความคิดคุณได้ทันที)
วิน:
ใช่ครับ เมเรียส วอน ฮาเกนตัวจริงเสียงจริงเลย
คุณ:
ทั้งสองคน…รู้จักกันเหรอคะ
(คุณสองทั้งสองคนสลับไปมา ดูเหมือนว่า…เมเรียสจะไม่ค่อยอยากเจอหน้าวินเท่าไหร่)
เมเรียส:
ก็นะ ใครจะไปดีใจที่เจอหน้าติวเตอร์ส่วนตัวในวันหยุดแบบนี้กัน
(ติวเตอร์ส่วนตัวเหรอ คุณจำได้ว่าวินอายุน้อยกว่าคุณวิงแค่สองสามปี ส่วนเมเรียสก็อายุอยู่ในช่วง 20 กว่าเหมือนกัน อายุไล่เลี่ยกันเลยไม่ใช่เหรอ)
วิน:
เขาเพิ่งกลับจากไปเรียนต่างประเทศมา พอเรียนจบก่อนคนอื่นตอนนี้ก็เลยเรียนป.โทอยู่ที่มหาวิทยาลัยสเตลลิสน่ะครับ คุณพ่อเขาเชื่อว่าการให้เขาเรียนจิตวิทยาไว้เป็นเรื่องสำคัญมาก ผมก็เลยถูกจ้างให้ไปเป็นติวเตอร์ส่วนตัว เพราะว่าถ้าจ้างคนแก่กว่านี้อาจจะมีปัญหาเรื่องช่องว่างระหว่างวัย เขาก็เลยเลือกผมครับ
คุณ:
(นี่ฉันอ่านง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ หรือสองคนนี้แค่ไหวพริบดีกันนะ พวกเขาตอบคำถามฉันได้หมดเลยทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้อ้าปากถามด้วยซ้ำ…)
เมเรียส:
พอมาคิดดูแล้ว ศาสตราจารย์แก่ ๆ อาจจะไม่ได้แย่นักก็ได้
วิน:
ขอบคุณที่พาคนรู้จักผมมาส่งนะครับ พวกเราจะไปดูนิทรรศการศิลปะกันแล้ว คงต้องขอตัวก่อน
เมเรียส:
ผมก็สนใจงานอยู่พอดีเลย ไปเดินดูด้วยกันสามคนดีมั้ยครับ
วิน:
…
เด็ก ๆ มักจะติดคนสินะ
(เมเรียสเลิกคิ้วขึ้นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ทว่า วินที่ยืนอยู่ตรงข้ามเมเรียสกลับมีสีหน้าเปลี่ยนไปจากเดิม)
คุณ:
คุณหมอริกเตอร์…?
(คุณหันไปตามทิศที่วินมองอยู่ และพบกับตำรวจที่กำลังเข้าหาพวกคุณจากทางด้านหลังของเมเรียส คุณรู้ว่าเป็นตำรวจจริง ๆ เพราะว่าปืนที่เหน็บอยู่ตรงสะโพกของเขา)
วิน:
ผมว่าวันนี้เราคงไม่ได้ชมนิทรรศการศิลปะแล้วละครับ
คุณ:
เมเรียส ข้างหลังนาย…
(เมเรียสเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของคุณจึงสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาหันหลังไปดูด้วยคิ้วที่ขมวดยุ่ง พบว่าตนกำลังประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่กำลังยกตราตำรวจขึ้นมา)
เดเรียส มอร์แกน:
ผมเดเรียส มอร์แกนจากกรมตำรวจสเตลลิส คุณคือเมเรียส วอน ฮาเกนหรือเปล่าครับ
เมเรียส:
ใช่ครับ
เดเรียส มอร์แกน:
เมื่อคืนวันเสาร์ช่วง 9:00 PM ถึง 2:00 AM คุณอยู่ที่ไหนครับ
เมเรียส:
เมื่อคืนผมอยู่ในงานเลี้ยงที่โรงแรมแมนนิงพาเลซ พอถึง 7:00 PM ผมก็กลับบ้าน แล้วก็อยู่ในสตูดิโอตัวเองทั้งคืนเลยครับ
เดเรียส มอร์แกน:
งานเลี้ยงที่แมนนิงนั่นจัดโดย Mode De Vénus ใช่ไหม
เมเรียส:
ครับ เจ้าของงานคือคุณเอสเทลล์ มาริโน เจ้าของ Mode De Vénus
เดเรียส มอร์แกน:
ได้คุยกับคุณมาริโนที่งานเลี้ยงไหมครับ
เมเรียส:
แน่นอนครับ ก็งานเลี้ยงเมื่อคืนจัดขึ้นเพื่อฉลองที่ Mode De Vénus ได้รับชัยชนะในงานสเตลลิสแฟชันวีค ผมก็ต้องไปแสดงความยินดีกับเธออยู่แล้ว อ้อ แล้วผมก็ให้ช็อกโกแลตไส้เหล้าเธอไปกล่องนึงด้วย
เดเรียส มอร์แกน:
คุณยอมรับว่าคุณให้ช็อกโกแลตไส้เหล้าเธอไปงั้นเหรอครับ
เมเรียส:
แล้วผมจะปฏิเสธไปทำไมกัน คุณเจ้าหน้าที่มอร์แกน คุณคงไม่ได้แอบทำงานปาปารัสซี่อยู่ใช่มั้ย
เดเรียส มอร์แกน:
เมื่อเช้าทางเราได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนถูกฆาตกรรมในห้อง 1818 โรงแรมแมนนิงพาเลซ
เดเรียส มอร์แกน:
ผู้ตายคือเอสเทลล์ มาริโน อายุ 26 ปี รายงานชันสูตรเบื้องต้นระบุว่าเวลาเสียชีวิตของเธออยู่ในช่วงสามทุ่มเมื่อคืนถึงตีสองของวันนี้ สาเหตุการตายเกิดจากการบริโภคช็อกโกแลตไส้เหล้าที่มีพิษเทโทรโดท็อกซินอยู่ ในเมื่อคุณรับสารภาพแล้วว่าคุณให้ช็อกโกแลตคุณมาริโน โปรดตามเรามาด้วยครับ
เมเรียส:
เธอถูกฆาตกรรมงั้นเหรอ เรื่องจริงเหรอเนี่ย
(หลังจากพ้นสภาวะตกใจ เมเรียสก็ส่งยิ้มเชิงเสียดสีให้ทางเดเรียส)
เมเรียส:
งั้นตอนนี้ คุณกำลังขอความร่วมมือผมอยู่ หรือว่าจะจับกุมตัวผมกันแน่นะ
เดเรียส มอร์แกน:
ทางเราแค่ทำตามขั้นตอนมาตรฐาน คุณวอน ฮาเกน หรือคุณคาดหวังว่าจะได้การดูแลที่มันพิเศษกว่าคนอื่นเหรอ
เมเรียส:
เจ้าหน้าที่มอร์แกน ผมไม่ทีทางขอให้คุณทำอะไรแบบนั้นหรอก ผมไปกับคุณแน่นอนอยู่แล้ว แต่ผมยังมีสิทธ์ที่จะว่าจ้างทนายให้ตัวเองใช่มั้ยล่ะครับ
เดเรียส มอร์แกน:
ถ้าคุณต้องการก็สามารถทำได้
(เมเรียสพยักหน้าเหมือนพอใจในคำตอบของเดเรียส เขาหันมาทางคุณพร้อมรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนหน้า)
คุณ:
(หรือเขาคิดจะ…)
เมเรียส:
MC คุณจะมาเป็นทนายให้ผมได้มั้ย
คุณ:
(กะแล้วเชียว!)
นายล้อฉันเล่นแล้ว…
เมเรียส:
สถานการณ์ตอนนี้จะเล่นมุกได้ยังไงกัน
(คุณเกือบตอบรับสายตาคาดหวังของเขาแล้ว ยังดีที่หลักเหตุผลดึงสติคุณไว้ได้)
คุณ:
ฉันไม่ค่อยมีประสบการณ์ด้านคดีอาญาค่ะ แต่คุณอาร์เท็มจากสำนักงานของเราอาจจะ-
เมเรียส:
อาร์เท็ม วิง ผมรู้จักเขา เขาดังมากเลยนี่ เสียดายที่ค่าตัวเขาแพงเกินกว่าผมจะจ่ายไหว แล้วอย่าลืมเรื่องเมื่อเช้าสิ พี่ยังไม่ได้ชดเชยความผิดส่วน 50 ของพี่เลยนะ
คุณ:
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาล้อเล่นนะ นายรับรู้ถึงน้ำหนักของข้อกล่าวหาที่นายโดนอยู่มั้ย! คุณวิงน่ะ-
เมเรียส:
พี่คิดว่าผมเป็นฆาตกรเหรอครับ ไม่เชื่อในตัวผมเหรอ
คุณ:
แน่นอนว่าฉันเชื่-
(คุณเกือบจะพูดว่าเชื่อในตัวเมเรียสออกไปโดยสัญชาติญาณ คุณเชื่อว่าเขาไม่ได้ฆ่าใคร แต่คุณไม่มีหลักฐานที่จะมารองรับความเชื่อดัวกล่าว คุณจึงใช้หลักการของทนายตอบออกไป)
คุณ:
ฉันเชื่อในหลักฐานค่ะ
เมเรียส:
ตอบได้ดีนี่ ฟังดูเหมือนคำสัญญาเลยนะ
คุณ:
เดี๋ยว! ฉันไม่ได้สัญญาอะไรเลยนะ!
เมเรียส:
พี่เชื่อในหลักฐานไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่ไปสืบดูก็ไม่ได้หลักฐานมาหรอกนะ ที่ผมเข้าใจจากคำพูดของพี่คือ พี่จะช่วยผมสืบหาหลักฐานไง
คุณ:
ไม่ได้หมายความแบบนั้นเลยเหอะ!
เมเรียส:
ไม่สนละ ก็ผมเข้าใจแบบนั้นอะ
(เมเรียสพยักหน้าเรียกเดเรียสและย้ำเรื่องของเขาอีกครั้ง)
เมเรียส:
คุณเจ้าหน้าที่ เธอคนนี้คือทนายของผมครับ จะดีมากถ้าคุณสามารถพาผมและทนายไปที่สถานที่เกิดเหตุได้ ผมอยากเห็นกล่องช็อกโกแลตแพนโดรานั่นด้วยตาตัวเอง
คุณ:
บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้สัญญาอะไรกับนายนะ!
(เดเรียสไม่ได้ขัดบทสนทนาระหว่างคุณกับเขา แค่พาตัวเมเรียสไปเท่านั้น เขาไม่ได้ใส่กุญแจมือเมเรียสด้วย ราวกับไม่เชื่อว่าคนอย่างเมเรียสจะหนียังไงอย่างงั้น)
ในทางจิตวิทยา เราเรียกสถานการณ์แบบนี้ว่า halo effect เป็นการลำเอียงทางความคิดโดยเกิดจากความประทับใจในตัวคน ๆ หนึ่งสามารถทำให้คนเรามองข้ามด้านที่ไม่ดี หรือจุดอ่อนในตัวคน ๆ นั้นไปได้
ตัวเมเรียสนั้นเป็นผู้สืบทอดเครือแพ็กซ์ที่เป็นธุรกิจของตระกูลวอน ฮาเกน แถมยังเป็นหนึ่งในคนที่รวยที่สุด และไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน
หึ ขนาดตัวคุณเจ้าหน้าที่มอร์แกนเองยังไม่เชื่อเลยว่าเขาจะเป็นฆาตกรได้
คุณ:
เดาว่าตอนนี้ฉันคงทำอะไรไม่ได้นอกจากตามเขาไปสินะคะ…
วิน:
ไปดูหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร เราไปกันเลยไหมครับ
คุณ:
เรา?
วิน:
ครับ ผมจะไปกับคุณด้วย ความเชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาอาชญากรรมของผมคงช่วยคุณได้บ้าง
คุณ:
ฉันคงรู้สึกแย่ถ้าคุณพลาดชมงานศิลปะที่คุณตั้งใจมาดู คงจะดีกว่าถ้าฉัน-
วิน:
การวิเคราะห์คดีอาญานั้นมีความหมายกับงานของผมมากกว่าผลงานศิลปะครับ
(วินพูดออกมาอย่างจริงใจ นัยน์ตาสีทองของเขาเหมือนจะส่งยิ้มอบอุ่นมายังคุณ คุณไม่อยากปฎิเสธน้ำใจเขาด้วย เนื่องจากเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในสายงานนี้ และรู้สึกว่าโดนเขาโน้มน้าวใจได้แบบบอกไม่ถูก)
คุณ:
ขอบคุณที่สละเวลาให้นะคะ คุณหมอริกเตอร์
วิน:
เราไปกันเถอะครับ เมเรียสรออยู่
(ไม่ไกลจากคุณนัก เมเรียสดูไม่มีความสุขเท่าไหร่ เขาพองแก้มเหมือนเด็ก ๆ เวลาโดนแย่งของเล่น ดูไปก็น่ารักดี)
(จู่ ๆ เรื่องที่เมเรียสพูดก่อนหน้านี้ก็วาบเข้ามาในหัวคุณ)
คุณ:
(เดี๋ยวนะ เมเรียสบอกว่าตัวเองจ่ายค่าตัวคุณวิงไม่ไหว ถามจริงเหอะ!)
Note:
Talk:
ตอนต่อไปก็เป็นช่วงสืบสวนสอบสวนอีกแล้ว...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in