เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แปลเกม Tear of ThemisCynthia-T
TOT: เนื่อเรื่องหลัก 1-16
  • TOT: มือที่คอยอุ้มชู 1-16




    [สถานที่: ศาลแพ่ง]



    (วันพุธ วันนัดพิจารณาคดี) 

    (คุณนั่งอยู่ในห้องรับรอง มองไปที่เมมโมรีการ์ดที่วินนี่ให้คุณมาด้วยความรู้สึกทุกข์ใจอย่างยิ่ง)


    [เริ่มการย้อนความ]



    วินนี่ คูเปอร์:

    คุณปู่เวิร์นบอกว่าจริง ๆ แล้วมันมีกล้องอีกตัวที่ซ่อนอยู่ในครัวค่ะ แถมยังเป็นกล้องที่เพโดรเป็นคนแนะนำให้ติดด้วย เดิมทีกล้องนี้เอาไว้สอดส่องพนักงาน แต่ว่าตอนนี้…

    คุณปู่เขาหวังว่าหลักฐานนี้จะไม่ถูกนำไปใช้ในศาลน่ะค่ะ เว้นแต่ว่าจำเป็นต้องทำจริง ๆ เพราะการเอาหลักฐานชิ้นนี้มาใช้ทำให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นคนส่งเพโดรเข้าคุกด้วยมือของตัวเอง…


    [จบการย้อนความ]


    (ภาพวงจรปิดแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเพโดรถอดเครื่องปั๊มน้ำดื่มออกมาและเอายาฆ่าแมลงสูตร 330 ใส่ลงไปในถังน้ำ ณ เวลา 07:32 ของวันที่เกิดเหตุ ในวีดิโอนั้น เพโดรดูกังวลว่าตนนั้นใส่ยาฆ่าแมลงเยอะเกินไป เขาจึงเทน้ำในถังออกมาส่วนหนึงและเติมน้ำจากก๊อกลงไปเพื่อเจือจางมัน หลังจากนั้นเขาก็หายไปอีกสองสามนาที คุณเดาว่าเพโดรน่าจะรู้สึกว่าน้ำโดนเจือจางเกินไปจึงเพิ่มยาฆ่าแมลงสูตร 330 ลงไปอีก แต่เพราะช่วงที่เพโดรหายไปไม่มีใครรู้เห็นเหตุการณ์ นี่คงเป็นสาเหตุว่าทำไมเวอร์นอนถึงไม่ได้ทำความสะอาดเครื่องปั๊มน้ำดื่ม แม้จะรู้แล้วว่าเพโดรเป็นคนร้ายก็ตาม)


    คุณ:

    เพโดรคงรู้สึกขัดแย้งในใจต่อสิ่งที่ตัวเองทำอยู่เหมือนกัน แต่เม็ดเงินมันคงมีอำนาจในใจเขามากกว่าล่ะนะ…


    (คุณได้หลักฐานชิ้นสำคัญที่จะทำให้ชนะคดีมาแล้ว แต่คุณไม่ได้ยินดีเลยสักนิด…จู่ ๆ โทรศัพท์ฉันก็สั่น เพราะลุคส่งข้อความมา)


    คุณ:

    ทำคดีพิเศษอยู่เลยมาไม่ได้งั้นเหรอ เฮ้อ ฉันอยากให้เขาเห็นฉันว่าความชนะด้วยตาของเขาเองจังเลยนะ…


    [สถานที่: ห้องทำงานของอาร์เท็ม]



    (อาร์เท็มยืนอยู่ริมหน้าต่างห้องทำงานของเขา มีทีท่าลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจต่อสายหาคนคนหนึ่ง)



    อาร์เท็ม วิง:

    วิน นี่ฉันเองนะ ฉันเจอคนที่เหมาะสมแล้ว ต้องพาไปดำเนินการตามขั้นตอน รบกวนช่วยจัดการเรื่องประเมินสภาพจิตให้ทีนะ

    (วินน่าจะพูดอะไรกลับมาสักอย่างค่ะ แต่บทพูดไม่ได้ปรากฏในเนื้อเรื่อง)

    ตอนนี้เราคุยเรื่องงานอยู่ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของฉัน

    เข้าใจแล้ว ฉันจะหาเวลาให้เธอไปเจอนายให้ไวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


    [ศาลแพ่ง เวลา 10:00]

    [เริ่มการพิจารณาคดี]



    ผู้พิพากษา:

    ขณะนี้ศาลกำลังพิจารณาคดีอาหารปนเปื้อนสารพิษของ Penny's Comfort Foods โดยฝ่ายโจทก์จะเป็นฝ่ายเริ่มกล่าวคำแถลงเปิดคดีก่อน



    ฮาร์วาร์ด ไซเทอร์:

    ท่านผู้พิพากษา ผมฮาร์วาร์ด ไซเทอร์จากสำนักงานกฎหมายบัลเดอร์ เป็นตัวแทนฝ่ายโจทก์ จอห์น โด และเหยื่ออีกห้าคน ในการยื่นดำเนินคดีแบบกลุมเพื่อฟ้องร้องต่อ Penny's Comfort Foods 

    ในวันศุกร์ที่สามของเดือนนี้ นายจอห์น โด และเหยื่ออีกห้าคนได้ไปทานอาหารกลางวันที่ Penny's Comfort Foods เนื่องจากการจัดการที่ผิดพลาดของทางร้านทำให้มียาฆ่าแมลงปนเปื้อนลงไปในซุปเต้าหู้ทะเล เป็นเหตุให้ลูกความของผมต้องเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลด้วยอาการปวดท้องและท้องเสีย เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลต่อเหล่าลูกความผมแค่ทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อจิตใจอย่างร้ายแรงด้วย จนถึงวันนี้ พวกเขาไม่สามารถทานอาหารโดยสลัดความกังวลออกไปจากใจได้เลย ดังนั้น ในฐานะตัวแทนของลูกความ ผมเรียกร้องเงินค่าเสียหายจำนวน 30,000 ดอลลาร์ต่อลูกความหนึ่งคนจากทาง Penny's Comfort Foods ครับ


    *30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ = ประมาณ 1,099,575 บาทไทย


    ผู้พิพากษา:

    ต่อไป ฝ่ายจำเลยจะเป็นฝ่ายกล่าวคำแถลงเปิดคดี



    คุณ:

    ท่านผู้พิพากษา ฉันเป็นตัวแทนทนายฝ่ายจำเลย เจ้าของกิจการ Penny's Comfort Foods คุณเวอร์นอน กรีนนั้นได้มอบสิทธิ์ในการจัดการเรื่องทังหมดกับฉันเนื่องจากปัญหาทางด้านสุขภาพของเขา เมื่อสักครู่ที่ทางฝ่ายโจทก์ได้เรียกร้องค่าเสียหาย จาก Penny's Comfort Foods โดยอ้างอิงจากคำสันนิษฐานว่าคดีนี้เป็นคดีอาหารปนเปื้อนพิษโดยเกิดจากความประมาทเลินเล่อ แต่ว่า การสันนิษฐานนั้นผิดโดยสิ้นเชิงค่ะ ที่จริงแล้วคดีนี้เป็นคดีอาญาที่ผ่านการไตร่ตรองและวางแผนมาอย่างถี่ถ้วน คุณกรีนไม่ใช่ผู้กระทำผิดในคดีนี้ และไม่ควรเป็นผู้ที่รับผิดชอบเรื่องค่าเสียหายค่ะ

     

    ฮาร์วาร์ด ไซเทอร์:

    ที่คุณยกข้ออ้างไร้เหตุผลมาแบบนี้เป็นเพราะลูกความคุณไม่สามารถจ่ายค่าเสียหายได้หรือเปล่า รายละเอียดของคดีนี้ถูกยืนยันแล้วผ่านรายงานอุบัติการณ์ของสำนักงานรับรองความปลอดภัยด้านอาหารนะครับ


    คุณ:

    ขอค้านค่ะ! รายงานอุบัติการณ์นั้นยืนยันแค่เรื่องที่ว่าในอาหารมีสารพิษปนเปื้อน แต่ไม่ได้พิสูจน์เรื่องเจตนาของคดีค่ะ คนก่อเหตุตัวจริงของคดีนี้คือคุณเพโดร บรูกส์ ผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัท DeliCart ค่ะ!


    ผู้พิพากษา:

    ทนายฝ่ายจำเลย คุณบรูกส์ในตอนนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ คุณมีหลักฐานพิสูจน์คำกล่าวอ้างของคุณหรือไม่


    คุณ:

    ฉันจะแสดงหลักฐานต่อศาลค่ะ และร้องขอให้มีการเบิกตัวคุณบรูกส์มายืนที่คอกพยานค่ะ


    ผู้พิพากษา:

    ศาลขอให้คุณเพโดร บรูกส์มาแสดงตัวบนคอกพยานด้วยครับ



    เพโดร บรูกส์:

    ตาแก่นั่นมันบ้าไปแล้ว! เขาแค่พยายามที่จะลากฉันให้ตกต่ำลงไปด้วย!


    ฮาร์วาร์ด ไซเทอร์:

    นอกเหนือจากการปะทุอารมณ์ของคุณบรูกส์ ผมมีข้อสงสัยว่าการที่เรื่องที่ฝ่ายจำเลยกุขึ้น เป็นการพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของเราครับ


    คุณ:

    รายงานอุบัติการณ์ของสำนักงานรับรองความปลอดภัยด้านอาหารระบุว่า ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบได้บริโภคสารเคมีของยาฆ่าแมลงที่เป็นพิษต่อคนเข้าไป ก่อให้เกิดอาการปวดท้องและท้องเสีย แต่ว่า คุณกรีนได้มีการกำชับลูกจ้างไว้อยู่แล้วว่าให้ซื้อยาฆ่าแมลงยี่ห้อ BugOut ที่ไม่เป็นอันตรายกับคนมาใช้ค่ะ


    ฮาร์วาร์ด ไซเทอร์:

    คำพูดจากปากคุณกรีนเองนั้นเป็นหลักฐานที่ไม่มีน้ำหนักครับ ต่อให้เขาซื้อยาฆ่าแมลงที่เป็นพิษต่อคนมาเขาก็คงไม่กล้าบอกคุณหรอก


    คุณ:

    ขอค้านค่ะ! คำพูดของเขาสามารถเป็นหลักฐานที่มีน้ำหนักได้ค่ะ


    {ยาฆ่าแมลงถูกซื้อมาโดยคุณบรูกส์ หลักฐานก็คือ…’ใบเสร็จยาฆ่าแมลงสูตร 330’}


    คุณ:

    มีใบเสร็จของยาฆ่าแมลงสูตร 330 ที่เป็นยาฆ่าแมลงสำหรับผู้เชี่ยวชาญถูกพบอยู่ในร้านอาหารค่ะ ซึ่งยาฆ่าแมลงสูตร 330 นั้นเป็นอันตรายต่อคน แม้ว่าจะไม่อันตรายจนถึงแก่ชีวิต แต่ก็ก่อให้เกิดอาการปวดท้องและท้องเสีย ซึ่งอาการที่ว่ามานี้ตรงกับที่ทาง FSB ระบุไว้ในรายงาน ซึ่งเลขบัญชีของผู้ซื้อสินค้าที่อยู่บนใบเสร็จนั้นตรงกับเลขบัญชีส่วนตัวของคุณบรูกส์ค่ะ


    เพโดร บรูกส์:

    จะเดาสุ่มเกินไปหน่อยแล้ว! ใบเสร็จมันแสดงเลขบัญชีแค่ส่วนเดียวเอง เธอไม่สามารถตีความไปเองได้ว่านั่นคือบัญชีฉันนะ!


    {โชว์ข้อมูลลายนิ้วมือที่ปรากฏบนใบเสร็จ}


    คุณ:

    การเจือปนสารพิษโดยเจตนาถือว่าเป็นคดีอาญา ตราบใดที่หลักฐานถูกนำมาใช้ในขั้นตอนการฟ้องร้อง โดยปกติแล้วก็จะมีการสืบหาตัวเจ้าของบัญชีอยู่แล้วค่ะ อีกอย่าง ลายนิ้วมือของคุณถูกพบอยู่บนใบเสร็จ คุณจะอธิบายเรื่องนี้ว่ายังไงล่ะคะคุณบรูกส์


    เพโดร บรูกส์:

    นั่นมันก็…ต่อให้ฉันซื้อมันมา ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะเป็นคนเอามันไปใส่ในน้ำนี่! ฉันซื้อมาใช้เองต่างหาก เพราะที่บ้านฉันมีปัญหาเรื่องแมลงรบกวน ฉันน่าจะเผลอทำใบเสร็จตกไว้ตอนที่ไปที่ร้านตาแก่เท่านั้นเอง


    คุณ:

    คุณไปหาคุณกรีนมาเมื่อไหร่คะ


    เพโดร บรูกส์:

    ก็หลังเกิดเหตุน่ะสิ บริษัท DeliCart ของเราต้องเสนอบริการ PR ทางเลือกให้ลูกค้าอยู่แล้ว ฉันไปหาตาแก่เพราะอยากช่วยเขา แต่ใครจะไปคิดว่าคนขี้เหนียวพรรค์นั้นจะหวงเงินมากกว่าชื่อเสียงร้านอาหารตัวเอง


    ฮาร์วาร์ด ไซเทอร์:

    เรื่องนี้ผมเป็นพยานได้ครับท่านผู้พิพากษา ลูกความผมพยายามจะไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหายกับคุณกรีนนอกศาล แต่เขาปฎิเสธ เราก็เลยมาอยู่ที่นี่กันยังไงล่ะครับ


    คุณ:

    ขอค้านค่ะ! คุณไซเทอร์ ลูกความคุณพยายามจะรีดไถคุณกรีนด้วยจำนวนค่าเสียหายที่เกินกฎหมายกำหนดไปมาก มันก็แน่อยู่แล้วที่ลูกความฉันจะปฏิเสธที่จะจ่ายค่าเสียหายค่ะ! 

    คุณบรูกส์ คุณไปหาคุณกรีนที่ร้านอาหารจริง แต่ไม่ใช่แค่ตอนหลังเกิดเหตุค่ะ


    {เพโดรไปที่ร้านอาหารก่อนเกิดคดี และมีโอกาสที่จะวางยาในน้ำ หลักฐานก็คือ…’ภาพวงจรปิดของประตูหน้าร้าน’}


    คุณ:

    ภาพวงจรปิดแสดงให้เห็นว่าเช้าในวันเกิดเหตุ คุณได้เข้าไปใน Penny's Comfort Foods ในเวลา 07:28 และออกมาตอน 07:43 แถมวีดิโอดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าน้ำดื่มถูกนำมาส่งเมื่อ 06:00 คุณกรีนและผู้ดูแลร้านออกไปซื้อวัตถุดิบตั้งแต่ 06:30 ถึง 08:00 ส่วนพนักงานเสิร์ฟเริ่มงานตอน 09:00 ตอนที่คุณอยู่ในร้าน ไม่มีใครอยู่ที่ร้านเลยสักคน แถมน้ำดื่มก็ถูกจัดส่งเรียบร้อยแล้วด้วย คุณสามารถอธิบายให้ฟังได้ไหมคะว่าทำไมคุณเข้าไปอยู่ในร้านอาหารตอนที่ไม่มีใครอยู่ที่ร้านสักคนตั้ง 15 นาที


    เพโดร บรูกส์:

    ฉ-ฉันแค่อยากเสนอขายบริการพรีเมียมของบริษัทเราให้เวอร์นอนเท่านั้นเอง แต่เพราะเขาไม่อยู่ ฉันก็เลยรออยู่ในร้านพักหนึ่ง แต่พอผ่านมาสักพักเขาก็ยังไม่มา ฉันก็เลยกลับ


    ฮาร์วาร์ด ไซเทอร์:

    ท่านผู้พิพากษา คำอธิบายของคุณบรูกส์สมเหตุสมผลมาก เนื่องจากตัวเขานั้นเป็นผู้จัดการฝ่ายขายที่ทำงานอย่างหนักเพื่อบริษัทของเขาครับ 


    คุณ:

    ขอค้านค่ะ! เขาทำงานหนักก็จริง แต่ไม่สุจริตค่ะ


    {หลักฐานที่พิสูจน์ว่าคุณบรูกส์วางยาในน้ำก็คือ…’เครื่องปั๊มน้ำดื่ม’}


    คุณ:

    คุณบรูกส์ คุณไม่ได้แค่นั่งรออยู่เฉย ๆ ในร้านอาหารเป็นเวลา 15 นาทีหรอกนะคะ สารตกค้างของยาฆ่าแมลงสูตร 330 ปริมาณมากถูกพบอยู่ในเครื่องปั๊มน้ำดื่ม โดยที่ลายนิ้วมือของคุณก็ปรากฎอยู่บนนั้นด้วยค่ะ คุณจะอธิบายเรื่องนี้ยังไงคะ


    เพโดร บรูกส์:

    ฉ-ฉัน…ฉันก็แค่หิวน้ำเลยไปกดน้ำออกมากินน่ะสิ…


    คุณ:

    ถ้างั้นทำไมถึงพบลายนิ้วมือของคุณใกล้ตัวกรองด้านในเหรอคะ


    เพโดร บรูกส์:

    นั่นก็…


    คุณ:

    ไม่มีอะไรจะแก้ตัวแล้วสินะคะ! ยาฆ่าแมลงสูตร 330 ไม่ได้ปนเปื้อนในน้ำโดยอุบัติเหตุอย่างที่ถูกระบุไว้ในรายงานอุบัติการณ์ของ FSB คดีนี้คือการวางยาโดยเจตนาค่ะ!


    เพโดร บรูกส์:

    ก็ตอนที่ฉันกดน้ำ น้ำมันไหลออกมาช้ามาก ฉันเลยแกะตัวกรองออกมาดูยังไงเล่า!


    คุณ:

    อย่าโกหกเลยค่ะ เครื่องปั๊มน้ำดื่มนี่ใช้งานได้ปกติไร้ปัญหาใด ๆ ฉันสามารถใช้งานมันให้คุณดูที่นี่ตอนนี้ได้เลยค่ะ


    เพโดร บรูกส์:

    ฉ-ฉัน…ฉันไม่มีเหตุผลที่จะก่อเหตุซะหน่อย! ทำไมฉันต้องพยายามทำลายชื่อเสียงร้านอาหารด้วยเล่า! ตอนที่ฉันมาที่สเตลลิสแรก ๆ ฉันเป็นเด็กที่ออกจากรร.มากลางคันเพื่อมาหางานด้วยซ้ำ ปู่เวอร์นอนเนี่ยแหละที่เป็นคนสนับสนุนฉันให้สอบเข้าวิทยาลัย ฉันจะได้เปลี่ยนชีวิตตัวเองได้ ฉันรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณเขามาตลอด หลังจากได้มาทำงานที่ DeliCart ฉันก็พยายามจะช่วยเขาขยับขยายธุรกิจ ฉันไม่มีเหตุผลที่จะก่อปัญหาให้เขาเลยแม้แต่น้อย!


    คุณ:

    โกหกหน้าด้าน ๆ เลยนะคะคุณบรูกส์ คุณจะทำตัวหน้าไม่อายไปถึงไหนกัน!


    ผู้พิพากษา:

    ระวังคำพูดด้วยทนายฝ่ายจำเลย คุณมีหลักฐานแย้งสิ่งที่คุณบรูกส์พูดหรือเปล่า


    ฮาร์วาร์ด ไซเทอร์:

    ท่านผูพิพากษา ผมคิดว่าทนายฝ่ายจำเลยเขาได้แสดงหลักฐานออกมาหมดแล้วล่ะครับ


    {คุณบรูกส์มีแรงจูงใจในการก่อเหตุ หลักฐานก็คือ…’บันทึกเสียงคำสารภาพของเพโดร’}


    คุณ:

    คุณบรูกส์ คุณมาที่ร้านอาหารเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตอนที่ฉันกำลังเก็บรวบรวมหลักฐานอยู่ คุณสารภาพออกมาโต้ง ๆ เลยว่าคุณรู้สึกกดดันอย่างหนักเรื่องที่ต้องทำยอดขายให้ถึงเป้า และคุณต้องการให้คุณกรีนซื้อบริการ PR ระดับพรีเมียมของ DeliCart ถ้าเหตุการณ์อาหารเป็นพิษไม่เกิดขึ้น คุณจะไม่มีเหตุผลในการโน้มน้าวให้คุณกรีนมาสมัครบริการพรีเมียมของคุณใช่มั้ยล่ะคะ เพราะคุณกรีนนั้นไม่ได้สนใจพวกคอมเมนต์เชิงลบบนแอปที่ถูกเขียนโดยนักรีวิวรับจ้างพวกนั้น รีวิวเชิงบวกที่ถูกเขียนไว้ในสมุดรีวิวแบบเขียนมือที่ร้านมีค่าในใจเขาเยอะกว่าเห็น ๆ ใครจะได้ประโยชน์มากสุดจากเหตุการณ์นี้น่ะเหรอคะ ทุกอย่างที่คุณพูดในวันนั้นถูกบันทึกเสียงเอาไว้หมดแล้ว คาดไม่ถึงหรือเปล่า คงไม่หรอกเนอะ ในบันทึกเสียงอันนี้ น้ำเสียงของคุณไม่ได้สื่อถึงความรู้สึกซาบซึ้งบุญคุณออกมาแม้แต่เสี้ยวเดียวค่ะ!


    เพโดร บรูกส์:

    ต่อให้ฉันจะได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันเป็นคนทำนี่!


    ผู้พิพากษา:

    บันทึกเสียงชี้ให้เห็นว่าคุณบรูกส์และคุณกรีนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีต่อกันนัก แต่ไม่สามารถเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าคุณบรูกส์เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ


    ฮาร์วาร์ด ไซเทอร์:

    คุณ MC เมื่อสักครู่คุณพูดว่าลายนิ้วมือของคุณบรูกส์ปรากฏอยู่บนเครื่องปั๊มน้ำดื่ม แล้วลายนิ้วมือคุณบรูกส์เป็นลายนิ้วมือลายเดียวที่ปรากฏอยู่บนนั้นหรือเปล่าครับ


    คุณ:

    ลายนิ้วมือของคุณกรีนและลูกจ้างอีกสองคนของร้านก็ถูกพบอยู่ที่ตัวเครื่องด้านนอกเหมือนกันค่ะ แต่ว่าพวกเขามีหน้าที่จัดการงานในร้านอาหารเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว ไม่แปลกที่จะพบลายนิ้วมืออยู่บนเครื่องปั๊มน้ำดื่มค่ะ


    ฮาร์วาร์ด ไซเทอร์:

    ขอค้าน! เราไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ที่ว่าหนึ่งในลูกจ้างเป็นคนที่ถอดเครื่องปั๊มน้ำออกมาและเป็นคนวางยาลงไปได้ครับ การทำให้สารพิษไปติดอยู่ที่ตัวกรองด้านในของเครื่องโดยไม่ทิ้งรอยนิ้วมือนั้นสามารถทำได้โดยมีเครื่องมือช่วยนะครับ ซึ่งถ้าลูกจ้างของร้านเป็นผู้กระทำจริง ๆ ฝ่ายคุณก็ตกที่นั่งลำบากแล้วล่ะนะ


    ผู้พิพากษา:

    คุณ MC คุณบรูกส์อาจจะเป็นผู้ต้องสงสัยหลักก็จริง แต่ไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าเขาเป็นผู้กระทำผิดนะครับ


    คุณ:

    (ฉันควรโชว์ภาพวงจรปิดจากห้องครัวให้พวกเขาดูดีไหมนะ)


    (คุณมองไปทางที่นั่งสำหรับผู้มาฟังการพิจารณาคดีและเห็นวินนี่กับอาร์เท็มนั่งอยู่ตรงนั้น อาร์เท็มมองมาที่คุณอย่างนิ่ง ๆ ราวกับเขากำลังบอกคุณว่าทนายไม่ควรถูกอารมณ์ชักจูงเมื่ออยู่ในศาล แต่คุณก็ไม่สามารถละเลยดวงตาแดงก่ำของวินนี่ไปได้เช่นกัน) 


    (ในหลักฐานชิ้นนี้ มีความรู้สึกลำบากใจของชายแก่คนหนึ่งอยู่ แต่ไม่ว่าเพโดรจะทำอะไร คุณกรีนก็จะยังมองเขาเหมือนลูกอยู่ดี ถ้าเพโดรถูกจับกุม คุณกรีนต้องใจสลายมากแน่…)


    {เพราะงั้น ฉันก็ควรที่จะ…}


    *ตรงนี้มีสองทางเลือกให้เลือก ฉันลองกดเลือกดูทั้งสองทางก็พบว่าบทพูดไม่เหมือนกัน ดังนั้นจะแยกออกเป็นสองเวอร์ชันนะคะ แล้วก็จะทำสีให้ต่างกันค่ะ เผื่อคนอยากอ่านแค่คำตอบที่ตัวเองเลือกจะได้ข้ามได้เลย*


    {เลือกที่จะแสดงภาพวงจรปิดจากห้องครัวต่อศาล}


    คุณ:

    ฉ…ฉันมีหลักฐานอีกหนึ่งชิ้นที่จะแสดงต่อศาลค่ะ คุณบรูกส์ คุณจำเรื่องที่คุณติดตั้งกล้องวงจรปิดในครัวให้คุณกรีนเพื่อที่เขาจะได้สอดส่องพนักงานได้ไหมคะ


    เพโดร บรูกส์:

    ธ-เธอ…เธอคงไม่…


    คุณ:

    ตัวคุณในตอนนั้นพยายามเล่าเรียนอย่างหนักเพื่อเข้าวิทยาลัย และรู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งที่คุณกรีนทำให้คุณอย่างใจจริง โปรดจำไว้ว่า ไม่ใช่ทั้งฉันและคุณกรีนที่เป็นคนพิสูจน์ว่าคุณมีความผิด แต่เป็นเพโดรคนเก่าที่ยังมีจิตสำนึกผิดชอบชั่วดีอยู่ต่างหากค่ะ!


    (คุณส่งวีดิโอดังกล่าวให้ผู้พิพากษา วิดิโอนั้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเพโดรเป็นคนนำยาฆ่าแมลงใส่ลงไปในน้ำ ไม่เหลือช่องให้เพโดรสามารถแก้ตัวได้เลย)


    (ตรงที่นั่งสำหรับผู้มาฟังการพิจารณาคดี เวอร์นอนถอนหายใจออกมา คุณไม่รู้เลยว่าเขามาถึงศาลตั้งแต่เมื่อไหร่)


    {เลือกที่จะไม่แสดงภาพวงจรปิดจากห้องครัวต่อศาล…}


    คุณ:

    เอ่อ…ท่านผู้พิพากษาคะ ฉันอยากจะขอให้ท่านหยุดการไต่สวนชั่วคราวเพื่อคุยกับพยานคนสำคัญ…


    เวอร์นอน กรีน:

    ไม่จำเป็นหรอกคุณ MC ส่งวิดิโอนั้นให้ศาลได้เลย


    (เหล่าผู้เข้าร่วมฟังการพิจารณาคดีต่างตกใจที่เห็นว่าเวอร์นอนนั่งอยู่กับพวกเขาด้วย)


    คุณ:

    คุณกรีน…คุณ…


    เวอร์นอน กรีน:

    อย่าสนใจความใจอ่อนของฉันที่มีต่อเด็กคนนั้นเลย เพโดร…ไม่ใช่เด็กนิสัยดีและมีความอุตสาหะคนนั้นที่ฉันเคยรู้จักอีกต่อไปแล้ว…เขาถูกชักจูงไปในทางที่ผิดจากบริษัทชั่วร้ายนั่น เขาไม่เหมือนลูกชายของฉัน ปีเตอรฺ์ อีกต่อไปแล้ว…


    ฮาร์วาร์ด ไซเทอร์:

    ท่านผู้พิพากษา คุณกรีนกำลังรบกวนการไต่สวนของศาลอยู่นะครับ! 


    ผู้พิพากษา:

    โปรดอยู่ในความสงบด้วย! บุคคลที่อยู่ในส่วนของที่นั่งสำหรับผู้มาฟังการพิจารณาคดี ไม่สามารถสอดมือเข้ามายุ่งกับการพิจารณาคดีได้นะครับ! 


    คุณ:

    (คุณกรีน…)

    ท่านผู้พิพากษา ฉันมีหลักฐานอีกหนึ่งชิ้นที่จะยื่นต่อศาลค่ะ วิดีโอนี้มาจากกล้องที่ถูกซ่อนไว้ในห้องครัวของ Penny's Comfort Foods เป็นวิดีโอที่จับภาพคุณบรูกส์นำยาฆ่าแมลงใส่ลงไปในน้ำดื้มไว้ได้อย่างชัดเจน!


    เพโดร บรูกส์:

    ไม่นะ กล้องนั่นมัน…


    คุณ:

    ก่อนหน้านี้ คุณติดตั้งมันไว้ให้คุณกรีนใช่ไหมล่ะ ฟ้ามีตานะคะคุณบรูกส์  


    ผู้พิพากษา:

    คุณบรูกส์ มีข้อแก้ตัวอะไรไหมครับ



    เพโดร บรูกส์:

    ผม…ผมเปล่า…ท่านผู้พิพากษา! ผมไม่ได้ตั้งใจ! DeliCart บังคับผม! เขาบังคับให้เราทำเรื่องแบบนี้เพื่อทำยอด! ถ้าคุณจะตัดสินว่าผมมีความผิด งั้นคุณก็ควรจะตัดสินคนอื่นว่าผิดด้วย!


    ผู้พิพากษา:

    คุณบรูกส์ คุณรับสารภาพว่าตนได้ก่อเหตุวางยาพิษในน้ำดื่มใช่หรือไม่


    เพโดร บรูกส์:

    !!!


    ผู้พิพากษา:

    เช่นนั้น ศาลได้ตัดสินแล้ว! ฝ่ายโจทก์ที่ฟ้องร้องคุณกรีนว่าอาหารปนเปื้อนสารพิษด้วยความประมาท การพิจารณาคดีในครั้งนี้ได้เปลี่ยนรูปคดีไปอย่างมาก ศาลตัดสินให้ข้อเรียกร้องของฝ่ายโจทก์นั้นเป็นโมฆะ เรื่องที่คุณกรีนจะต้องเป็นผู้ชำระค่าเสียหายหรือไม่จะถูกตัดสินหลังจากที่คดีอาญานี้ถูกปิดแล้ว เจ้าพนักงานศาล ควบคุมตัวคุณบรูกส์ไว้ เพื่อนำไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


    เพโดร บรูกส์:

    ตาแก่ แกทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไงวะ! ทำได้ยังไงวะ!


    (เพโดรพยายามจะสลัดตัวเองให้หลุดจากการจับกุมของเจ้าพนักงานศาลและพุ่งไปหาเวอร์นอน แต่เจ้าพนักงานศาลต้านแรงเขาไว้ได้ ทั้งวินนี่และอาร์เท็มลุกขึ้นมาเอาตัวบังเวอร์นอนไว้ พอเห็นเพโดรเป็นแบบนี้ เวอร์นอนก็ร้องไห้ออกมา)


    เวอร์นอน กรีน:

    เธอนี่ไร้ทางเยียวยาแล้วจริง ๆ ! บางทีเรื่องคงไม่มาถึงขั้นนี้ถ้าฉันให้เธออยู่แค่ที่บ้าน ไม่ปล่อยให้ออกไปหางานทำ…


    (เวอร์นอนหันหลังให้เพโดร และออกจากห้องพิจารณาคดีไปโดยมีวินนี่คอยพยุง)


    ฮาร์วาร์ด ไซเทอร์:

    อ-อะไรกัน…ฉันไม่ได้ว่าความแพ้อาร์เทมอย่างเดียว แต่ยังแพ้ทนายรุ่นน้องของเขาด้วยเหรอ! ไม่อยากจะเชื่อ!


    ผู้พิพากษา:

    ขอยุติการพิจารณาคดีแต่เพียงเท่านี้!




    Talk:


    เป็นยังไงกันบ้างคะกับการพิจารณาคดี น่าจะเป็นพาร์ตที่ตึงเครียดที่สุดในตอนแล้วล่ะค่ะ

    เหลือแปลอีกหนึ่งตอนฉันก็จะปิดตอนที่ 1 นี้ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่คิดเหมือนกันค่ะว่าจะมีวันนี้…


    ไม่รู้ว่าทุกคนจะอ่านแล้วงง ๆ ไหม ฉันแปลไปงงไปนิดหน่อยเหมือนกันค่ะ…


    ขอบคุณเพื่อนที่มาช่วยเช็กคำผิด เพราะตัวคนแปลสิ้นชีพตั้งแต่พิมพ์จบแล้วค่ะ


    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ 


    รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ช่วงนี้ฝนตกบ่อยมาก ๆ เลย


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in